กระทู้เตือนใจ ! สำหรับน้องที่ไม่ค่อยสนใจเรียน
ตั้งกระทู้ใหม่
วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเราตอน ขึ้นม .ปลายให้ฟัง ไว้เพื่อเตือนใจน้องคนที่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน
ตอนเราขึ้น ม.ปลายมาใหม่ๆเราก็เป็นคนเรียนพอใช้ได้นะ เเต่เรา เป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเรียนเท่าไรนะ เราไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ สนใจเเต่เล่นโทรศัพท์ ติดเเต่เเฟน โรงเรียนก็ไม่ค่อยได้ไป ถึงไปก็ไม่ค่อยสนใจเรียนหรอก พอถึงช่วงสอบปลายภาคก็ไม่อานหนังสือ ไม่ติว ไมสนใจอะไรเลย เอาเเต่คุยโทรศัพท์ เราก็ได้เเต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยอ่าน ไว้วันหลัง จนมีอยู่ช่วงนึง ที่เกรดเราลดลงเหลือ 2.25 เราตกใจมาก เกรดเราไม่เคยลดลงถึงขนาดนี้ ปกติเกรดเราจะ เเตะ 3 กว่าๆตลอด ตอนนั้นเราเสียใจหนักมาก เเต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เราขึ้น ม.6เราก็หันกลับมาตั้งใจเรียน สนใจอ่านหนังสือ พอถึงช่วงสอบก็ติว ก็อ่านหนังสือกับเพื่อนๆ พอคะเเนน Gat Pat ออก ยิ่งชอคเข้าไปใหญ่เลย คะเเนนรวมกันไม่ถึง 100 ยิ่งเฟลเข้าไปใหญ่ เราก็อ่านหนังสือนะ อ่านเหมือนกับเพื่อน เเต่ทำไมตัวเองถึงได้น้อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ เราตั้งใจนะว่าเราจะใช้คะเเนน Gat Pat กับ 9วิชาสามัญ ยื่น มหาลัยที่เราฝันว่าเราอยากเรียนมากทีสุด คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ เเต่ความฝันก็ดับลงทันทีเลยนะ คะเเนนเราเเทบไม่ถึงเกณฑ์ ของทางมหาลัยด้วยซ้ำ เราเลยไม่ได้สมัครไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง เราจะรอยื่นแอดมิชชัน เเต่ดูท่าเเล้วคงจะไม่ได้เรียนที่นี่ซ่ะเเล้ว เพราะคะเเนนคงออกมาได้ไม่ดี
#กระทู้นี้เป็นกระทู้เตือนใจนะอยากให้น้องๆใช้เวลาอยู่กับหนังสือมากกว่าโทรศัพท์น่ะ
10 ความคิดเห็น
สู้ๆ จ้าได้ ยื่น แอดปีนี้ไหม
อยากยื่นเหมือนกันนะค่ะ เเต่คะเเนน โอเน็ตไม่เปนใจเลย ปีนี้อาจจะดรอปปีหน้าค่อนเริ่มใหม่ค่ะ
อันที่จริงมันอยู่ที่ความตั้งใจในห้องเป็นหลักนะพี่ว่า สมมุตินะครับ น้องไม่ตั้งใจในห้อง แต่น้องลดการเล่นโทรศัพ ลดความติดแฟน แล้วมานั่งอ่าน น้องจะเข้าใจเหรอ? น้องสามารถถึงขนาดทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องมีใครสอนเลยเหรอ? ทุกอย่างมันมีคุณมีโทษครับ แฟน...ถ้าติดแล้วพากันแย่มันก็แย่ ติดแล้วพากันดีมันก็ดี เชื่อเถอะครับพี่เคยมาแล้วทั้ง2แบบ ตอนม.6แฟนช่วยเติมกำลังใจให้จนฮึดและแอดมิดติดวิศวะได้ ตอนปี3ติดแฟนจนลงเรียน5ตัวFไป4แถมตัวสุดท้ายก้ยังแค่D+ (แฟนคนละคนนะ) โทรศัพก็เช่นกัน นอกจากใช้เล่นเรื่อยเปื่อยแล้วเราเอามาช่วยในการเรียนก็ได้ โซเชียลไม่ได้จำเป็นว่าต้องคุยเล่นเรื่อยเปื่อย ติวให้คนที่รู้จักกันทางเน็ทผ่านแชทเฟสหรือไลน์พี่ก็เคยทำ เวลาเรียนแล้วเกิดงงจะไปถามคนอื่นก็ไม่ทันใจก้ใช้โทรศัพท์เข้าเน็ทถามGoogleก็ได้
ผมว่าตั้งใจเรียนในห้อวไปก็เท่านั้นแหละ ข้อสอบจริงยากกว่าที่สอนในห้องเยอะ ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลย ผมมีที่เรียนดีๆ คณะดีๆได้ 90% ผมอ่านเอง ขวนขวายเอง ทำโจทย์เอง ไปโรงเรียนไปหาเพื่อน ไปเอาเกรดแค่นั้นแหละ
คุณนั่งอ่านอยู่กับบ้านเองทั้งหมดโดยไม่เรียนในห้องเลยรึป่าวล่ะ ผมไม่เชื่อว่าคุณไม่รับอะไรมาจากในห้องเลย เริ่มจาก0แล้วก็รู้ทุกอย่างได้จากการเรียนตัวคนเดียว ถ้าทำแบบนั้นได้มันก็ไม่จำเป้นต้องมีโรงเรียนละครับ จิงๆคุณก็เอาทั้งในห้องและนอกห้องนั่นละ - -
จริง ๆ เข้ากระทู้นี้ น้าไม่ได้ มาว่ากล่าวอะไรหรอก
เพราะหนู ก็พยายามแล้ว
แต่จะมาแนะ วิธี เพิ่มคะแนน
น้ากล้าบอกนะ ว่าคนเรา "เรียนด้วยตัวเอง" ได้
ทำความเข้าใจด้วยตัวเองน่ะ
มันขึ้นกับ ความพยายามเป็นหลัก
น้าบอกเด็ก ๆ ไปหลายคนแล้ว
ว่าน้าอะ มาเรียนคณิตมัธยมปลาย
ตอนอายุ 38 ย่าง 39 นี่เอง
อ่านด้วยตัวเองเลย แรก ๆ งง
ทำแบบฝึกหัด ได้บ้าง แต่ไม่ถึง 30%
แต่ ถ้าไม่หมดความพยายาม ยังไงมันต้องได้
น้าใช้สูตรนี้ ข้อไหน ทำได้เท่าไหร่ ทำไปเลย
ถูกแค่ 40% หรือน้อยกว่า ที่เฉลย
ให้คิดซะว่า ดีกว่าไม่ถูกเลย
น้าทำแบบนี้ล่ะ จนน้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง มากขึ้นเรื่อย ๆ
และที่สำคัญ อย่าได้กลัว สิ่งที่เห็นครั้งแรก แล้วบอกว่า
ทำไม่ได้หรอก
น้าเรียนเขียนโปรแกรม (เรียนเองเลย ไม่มีครู) ตอนแรก
หัวหน้าน้า (น้าทำงานเสมียนบัญชี จบแค่ ปวส)
ยังไม่เชื่อว่า น้าจะเรียนเองได้ ของแบบนี้ต้องมีครู
เค้าว่า
แต่ มานะ ของคนอะ (ไม่ใช่ พี่มานี นะ)
มันทำได้ทุกอย่าง น้าเรียน java basic
อ่านอย่างเดียว 4-5 เดือน อ่าน sample code
มากกว่า 700 class
น้ากลัวอ่านเที่ยวเดียวไม่พอ อ่านอีก รวมเป็น 2 รอบ
ของ oracle อะ ดาวน์โหลด มาอ่านเลย
ภาษาอังกฤษ ล้วน ๆ ตอนแรก น้าไม่กระดิกเลย
เปิด dictionary เกือบทุกคำ
แต่คนเรา รักจะทำ มันต้องกล้า ต้องสู้
เอาล่ะ ผ่านขั้นตอนศึกษาแล้ว
มาขั้นตอน ลงมือเขียนจริง
น้าเขียนโปรแกรมแรก ไม่ยากเลย ถ้าเป็นตอนนี้
แต่น้าใช้เวลา กับ code ไม่ถึง 50 บรรทัด
ถ้าปัจจุบัน น้าใช้เวลาแค่ ไม่ถึง 40 นาทีมั้ง อย่างช้านะ
แต่ตอนนั้น ครั้งแรก 8 ชั่วโมง ติดต่อไม่พักเลย
นั่ง debug code เกือบร้องไห้ หลายรอบ
เพราะระหว่างทำ ก็ท้อว่า เรามาได้แค่นี้เอง
เราคงเป็น โปรแกรมเมอร์จริง ๆ ไม่ได้
แต่ถ้าน้าหยุดแค่นั้น หัวหน้าน้า คงพูดไม่ผิด
แล้ว ลูกผู้ชายอย่างน้า จะยอมแพ้แค่นี้ได้ไง
น้าแก้ code กว่า 90 รอบได้มั้ง ทั้งที่ ณ ปัจจุบัน
code แบบนี้ แก้ไม่เกิน 3 รอบก็เสร็จ
เอาจริง ๆ ตั้งใจมั่น ๆ รอบเดียวก็ผ่านได้
แต่คนเรามันต้องมีหนแรก ทุกคน
ถ้ากล้า ๆ สู้ ๆ ไม่ท้อ
เรียนเองไม่มีครู มันทำได้ แหง ๆ
ไม่มีอะไรสู้ มานะคน ท่องไว้เลย
น้าเดี๋ยวนี้ อ่านหนังสือ ภาษาอังกฤษ
โดยเกือบไม่ต้องใช้ dictionary แล้ว
อันนั้นของแถม ของการพยายามเรียนรู้
ด้วยตัวเอง จงเชื่อมั่น อย่ายอมแพ้ แค่นี้ล่ะ
เก่งจังค่ะ
เรื่องเขียน โปรแกรม พวก codeนี่ยอมเลยค่ะ น้าสุดยอดมาก หนุ่นั่งทำตั้งนาน ให้ครูสอนทีละนิดทีละน้อย กว่าจะทำได้เกือบร้องไห้หลายรอบแล้ว
สู้ๆนะค่ะ
สู้ๆค่ะ
เราก็เหมือนกันยืนเอาเกษตรไมได้แต่เราสอบจรงติดศิลปกรกะพระนครเหนือแล้วเลยไม่กังวลเท่าไร
จขกท.สู้นะคะ มหาลัยในฝันเราเลยอ่ะเเต่คะเเนนเราก็ไม่ได้ดีอะไร เเถมคณะที่เราอยากเข้าคะเเนนมันสูงมากเลย รอเเอดเเล้วล่ะสู้ไปด้วยกันนะคะ!!!
ขอบคุณพี่มากนะครับที่เตือนใจ ยังไงก็สู้ๆนะครับพี่ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ติด ผมก็ขอให้พี่ติดที่อื่นที่พี่ต้องการนะครับ สู้ๆ
ทำข้อสอบเยอะๆ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?