อยู่ที่ตัวเราvsอยู่โรงเรียนดีๆ
ตั้งกระทู้ใหม่
อยู่ที่ตัวเรา
อยู่ที่โรงเรียนดีๆ
จริงอยู่ที่เราเก่งได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเรามีพื้นฐานความรู้ที่ไม่ดีเนื่องจากการสอนที่โรงเรียนไม่เเน่นแล้วเราจะเก่งได้จริงหรือ???? แล้วหากโรงเรียนดีเราดีมันจะไม่ดีกว่าหรอ¿¿¿■●□■●□ อ้าววว ยังไงๆ
โรงเรียนดีๆพร้อมกับสังคมดีๆ ทำให้เรามีความรู้มีโอกาสที่จะสอบแพทย์ ทันตะแพทย์~~บลาา■●○•▪☆ได้ มีเพื่อนดีๆคอยติวให้ พาไปในทางที่ถูกจริงหรอ¿¿ อ้าววววว เอาแล้วคร้าางานเข้าแล้วว☆☆☆☆☆ แล้ววเพื่อนนๆล่ะคิดว่ายังไง
15 ความคิดเห็น
สังคมและการทำตัว การเลือกเพื่อนและการใช้ชีวิต มุมมองของบุคคลค่ะ ^^!
จริงๆมันสำคัญทั้งคู่นั่นละ แต่...ยังไงตัวเราก็สำคัญที่สุด ต่อให้อยู่โรงเรียนดี แต่ถ้าเราไม่เรียนไม่เอาอะไรเลย มันก็เน่าอยู่ดี ในทางกลับกัน ถ้าอยู่โรงเรียนไม่ดี แต่เราขวนขวาย อาจจะต้องหนักหน่อย แต่มันก็ยังสามารถแซงพวกที่อยู่โรงเรียนดีๆแต่ไม่ขวนขวายได้ ดังนั้น...มันจึงจะดีที่สุดถ้าตัวเราอยู่ในโรงเรียนที่ดีด้วยและตัวเราก็ขวนขวายด้วย
โรงเรียนสอนไม่ดี เด็กก็หนีไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมกันหมด ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้เด็ก ลดเวลาที่เด็กๆจะได้เอาเวลาหลังเลิกเรียนไป ทำงานอดิเรก,เล่นกีฬา,ออกกำลังกาย ฯลฯ แต่ถ้าโรงเรียนมีคุณภาพ เรียนแค่ที่โรงเรียนก็ได้เนื้อหาครบถ้วน กลับบ้านมาก็ทบทวนเนื้อหาที่เรียนไปในแต่ละวัน งานอดิเรกต่างๆก็ได้ทำ แล้วล่ะก็ เด็กจะมีคุณภาพกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เยอะเลย
เรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า "อยู่ที่ตัวเราเอง" ตอนเราอยู่ม.1 เราสอบได้โรงเรียนที่มีชื่อเสียง
ซึ่งอยู่ไกลจากบ้านเรามาก เราเลยได้ไปเรียนที่นั่น แต่พอเราได้เข้าไปเรียนจริงๆ
กลับเรียนไม่ไหว การบ้านโหมเข้ามาเยอะมาก วิชาไร้สาระเต็มไปหมด
โรงเรียนยัดให้นักเรียนเรียนเยอะมาก กิจกรรมก็เยอะ
ตอนเราอยู่ที่นั่น เราเรียนวิชาคณิตศาสตร์ไม่รู้เรื่องเลย เพราะเรียนเยอะจนไม่มีเวลาทวน
ไม่มีเวลาเรียนพิเศษด้วย เกรดคณิตเราก็แย่ แต่ก็ยังมีวิชาอื่นประคองอยู่
เลยคว้าเกรด 3.31 มาได้ จากนั้นเราเลยตัดสินใจทำเรื่องย้ายโรงเรียนมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอธรรมดาๆ ได้เจอเพื่อนที่เคยเรียนตอนประถมด้วยกัน
เค้าเป็นคนตั้งใจเรียนมาก ไม่เคยเรียนพิเศษเลย แต่เค้ากลับมีพื้นฐานวิชาคณิตวิทย์ที่เราเรียนตอนม.1 ไม่เข้าใจ แน่น เวลาสอบเค้าก็สอบได้ท็อปๆ ตลอด เราเคยถามเค้าว่าเรียนพิเศษที่ไหนมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่ได้เรียนเพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เค้าอ่านหนังสือเองทั้งหมด ในขณะที่เราสอบแต่ละทีก็ได้ไม่สู้เค้าเลย ทั้งๆที่เราเรียนพิเศษ
และเค้าก็ได้เกรดเฉลี่ย 4.00 สอบติดโรงเรียนดังได้ แต่เค้าไม่เรียน กลับเลือกเรียนห้องกิ๊ฟ ซึ่งเค้าสอบเข้าได้ลำดับที่ 3 รับ 30 คน
เราอยู่โรงเรียนใกล้บ้านนะ ซึ่งเอาตรงๆ ถ้าย้อนเวลาได้เราจะไปสอบที่โรงเรียนที่ดีกว่านี้ หรือไม่ก็ตั้งใจเรียนให้เก่งแบบหัวกะทิเพื่อสอบเตรียม คือแบบโรงเรียนเรานี่ ไม่ดังอะไรเลยอ่ะ แต่ยังดีที่เรายังพอมีเพื่อนที่พากันเรียนอยู่บ้าง คือเราอยากเข้าทันตะนะ ยอมรับว่ามันอยู่ที่ตัวเราด้วย แต่เห็นเด็กที่อยู่โรงเรียนไม่ดังติดพวกแพทย์ ทันตะ อะไรแบบนี้น้อยมากเลย สังคมมีผลจริงๆ คือถ้าน้องจะสอบเข้า ม.4 (ขออนุญาตเรียกน้องพี่อยู่ ม.5 ขึ้น ม.6) พี่สนับสนุนให้สอบ ร.ร.ที่น้องกล่าวมาจริงๆ คืออยู่ที่ตัวด้วยจริงๆแต่อย่างพวกพี่กับเด็กโรงเรียนไม่ดัง ต้องพยายามแบบมากกว่าเด็กโรงเรียนดังมากอ่ะ ยังไงก็สู้ๆนะน้อง
เพราะว่าระบบของโรงเรียนแต่ละแห่งต่างกัน ดังนั้นกระบวนการเรียนรู้จึงแตกต่างกัน
บางโรงเรียนมีวิชาที่กระตุ้นให้เด็กตั้งใจเรียน แต่อีกโรงเรียนไม่มี จึงทำให้ความสนใจในการเรียนค่อนข้างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนก็ช่วยพัฒนาคนได้เหมือนกันค่ะ
ครูและเพื่อนก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เด็กตั้งใจเรียนเหมือนกัน
และอีกอย่างโรงเรียนที่มีฝ่ายแนะแนวดี ๆ จะช่วยนักเรียนได้มากด้วย ทั้งหาโควต้า หาทุน แนะนำให้เตรียมตัวตั้งแต่ขึ้น ม.4 ค่ะ
ดังนั้นเราจึงคิดว่าอยู่ที่โรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ที่ตัวเรารองลงมา
ขอโหวตอยู่ที่ตัวเราล่ะกัน เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่รร.ที่ดีเท่าไหร่
ที่จริงส่วนใหญ่ ทั้งหมดทั้งมวล มาก็ต้องมาจากที่ ตัวเราและ
แต่ว่า โรงเรียนดีๆ ที่สภาพสังคมอะไรมันดีหน่อย มันก็จะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น
ได้พบสิ่งใหม่ๆ ได้เรียนรู้ ได้โตขึ้น กว่าการที่จะอยู่สภาพสังคมเดิมๆ ที่ตัวเองสบายใจไปตลอด
อีกอย่าง นี้พูดกรณีหลังเรียนจบด้วยนะ การสร้าง Connection เส้นสาย การทำงาน ธุรกิจหรือจะไปต่อยอดอะไรต่างๆ นี้ ถ้าสภาพสังคมที่เราอยู่มันดี มีคนหลากหลายให้เลือกคบก็ สบาย แต่ถ้าอยู่ที่สภาพสังคมบีบคัง ไม่มีทางเลือกในการเลือกคบใครมาก ถ้าอยู่ใน โรงเรียนที่ดี ถ้าอยู่นะ สังคมมันมีหลากหลายแบบให้เลือก จะคบเพื่อนเรียน เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนกินเหล้า สบายๆ ถ้าเรื่องสอบมหาลัย ช่วงเตรียมตัวสอบ นี้พากันไปเรียน ไปติวโน้นนี้นั้น มีชีท มีข้อสอบอะไรก็แนะนำกัน เพื่อนช่วยกันเรียน เพราะอยากช่วยให้เพื่อนสอบติดเหมือนกัน เรื่องการสอนในห้องเรียน นี้ก็คงถ้าเจอครูดีก็โชคดีไปล่ะ แต่ที่สำคัญ อยากให้โฟกัส ก็คือ กลุ่มเพื่อนที่ดี ที่เข้ากับเรา เหมือนที่เขาบอก ว่า คบบัณทิต บัณทิต พาไปหาผล
ขอให้น้องโชคดีนะ ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ^^
อยู่ที่ตัวเราค่ะ เราเชื่อมั่นในความสามารถของมนุษย์
เพชรยังไงก็คือเพชรวันยังค่ำ แต่ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่เพชร อย่างน้อยก็ควรจะเรียนรู้ที่จะเป็นเพชรอย่างถูกต้อง
#งงมั้ย55555
ผมว่ามันทั้ง 2 อย่างเลยนะครับ
อยากโหวต 2 อย่างเลย
แต่คิดไปคิดมา กระบวนการเรียนของเราสำคัญกว่านะ
แต่ก็ยังอยากโหวตทั้ง 2 ข้ออยู่ดี
ถ้าคนที่มีพรสวรรค์ด้าน sci math แต่มาอยู่ในรร.กันดาร
ไม่มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ก็แย่เหมือนกัน
บางคนยากจน ก็แย่เหมือนกัน
เราว่าจริงๆก็มีผลทั้งคู่แหละนะ
แต่เราว่าอยู่ รร ดังๆละไม่ขยันก็ไม่มีประโยชน์อ่ะ
เราอยู่ รร เอกชนไม่ติด top 50 ด้วยซ้ำมั้งเราก็ติดหมอทันตะ กสพท นะ
//เอามาเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ จขกท ค่ะ
คือถ้าขยันหาความรู้เรียนพิเศษ รร ก็มีผลไม่มากหรอก
เปลี่ยนจาก รร ที่ดี มาเป็น สังคม กลุ่มเพื่อนและครูที่ดี น่าจะดีกว่านะ
หนังสือก็ซื้อได้ทุกคน กวดวิชาเราก็เรียนเหมือนพวกเด็ก รร ดังๆได้ แค่จ่ายตัง ...
แต่ถ้าเข้า รร ดังได้ก็ดีนะ แล้วแต่จะเลือกเลย
ที่มาเม้นเพราะอยากบอกจริงๆว่าม้ามืดจาก รร ที่ไม่ดังก็มีเยอะค่ะ
เพื่อนเราบางคนโคตรซุ่มเลยได้คะแนนติดหมอสบายๆ แต่มันไม่เอา =[]=
แถมมีเวลาไปเล่นกีฬาทำงานอดิเรกเยอะค่ะ
ชีวิตเราอยู ่รร ไม่ดังก็ดีนะ ไม่มีใครคาดหวังกับเราเลย ฮาาา
เราได้ครูที่ดี เพือนเก่ง สังคมดี ทำกิจกรรมเยอะแยะ ติดหมอ โดยที่ไม่ต้องอยู่ รร ดังค่ะ
ฝากไว้เพียงเท่านี้ หากน้องติด รร ที่ดีพี่ก็ดีใจด้วยนะ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องนะคะ
อยู่ รร ไหนเพชรก็คือเพชรค่ะ
คิดว่าเป็นที่ตัวเรานะ โอเคเข้าใจว่าสภาพแวดล้อมก็มีส่วน แต่ถ้าเราไม่ชอบเราไม่ไหวก็มีแต่เสียเพราะงั้นตั้งใจนะสู้ๆ
น่าจะเป็นที่ตัวเราเองอ่ะ ถ้าเลือกโรงเรียนไม่ดีแต่พยายามซื้อหนังสือคู่มือหรือหาติวเตอร์ดีๆ ก็จะโอเค เรื่องโรงเรียนก็คงจะเป็นบางโรงเรียนเขาใช้เส้นสายให้นร.ต่อถึงมหาลัยได้ค่ะ แต่ถ้าไม่เสี่ยงอ่ะเอาที่ตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่า 5555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?