พบจิตแพทย์ จะเสียประวัติไหมคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนี้17ปี(1998) กำลังขึ้นม.6
ช่วง3-4วันที่ผ่านมา เรามีอาการปวดหัว ปวดหลังเล็กน้อย ท้องเสียหนักมากอยู่2วัน อีก2วันต่อมาท้องอืด แล้วตอนนี้กลับมาท้องเสียอีกครั้ง อ่อนเพลียง่ายด้วยค่ะ
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเพราะกินปลาหมึกกรอบที่ปรุงไม่สุกเมื่อวันก่อนเกิดอาการ ถ้าไม่ติดว่าเรา'คิด'ว่าตัวเองมีอาการทางจิเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามาเป็นปีๆแล้ว...
เคยกรีดข้อมือตัวเองตอนป.6 แต่พอขึ้นม.ต้นก็อาการเบาลงมาก แต่พอขึ้นม.ปลายเราก็กลับมาเป็นอีกค่ะ โดยเฉพาะเมื่อตอนสอบปลายภาค(กพ.)มานี้เรารู้สึกแย่มากค่ะ:( เคยโทรหาสายด่วน1323ด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่..
พอมีอาการออกมาทางร่างกายแบบนี้เราเลยกูเกิ้ลดู มันค่อนข้างตรงกับ physical symptoms ขอโรคซึมเศร้าเลยค่ะ
ตอนนี้ก็ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม): เลยอยากไปพบจิตแพทย์มากกว่าหมอทั่วไปน่ะค่ะ
เลยอยากถามว่า
1. เราอยากสอบเข้าแพทย์ค่ะ ถ้าไปพบจิตแพทย์งี้จะเสียประวัติ จะปิดคุณสมบัติไหมคะ? (หรือคณะอื่นๆนอกเหนือจากแพทย์ด้วยค่ะ)
2. อายุไม่ถึง18 ไปพบเองได้ไหมคะ ไม่อยากให้พ่อแม่รู้..
Evil within
5 เม.ย. 59 เวลา 19:27 น.
8,608
views
6 ความคิดเห็น
ไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องไม่ดีไปเถอะครับ บอกทางครอบครัวด้วยก็ดี ส่วนเรื่องสอบแพทย์ผมไม่รู้แหะ
รายการโรคที่ขัดกับวิชาชีพหากรักษาหาย หรือได้รับการวินิฉัยว่าไม่ไม่ร้ายแรงจนขัดกับวิชาพีพก็เรียนได้ครับ เช่นสายตาสั้นแค่ 200 ใส่แว่นแล้วอ่านหนังสือได้ก็ผ่านครับ แต่ถ้าใส่แว่นแล้วอ่านไม่ได้ก็ไม่ผ่านครับ (มีข้อกำหนดชัดเจนครับแต่จำไม่ได้)
การพบจิตเพทย์ก็เหมือนกับการรักษาโรคอื่น ๆ ในทางการเพทย์ครับ หากรักษาหายหรือระดับที่ไม่ขัดกับการทำหน้าที่หรือวิชาชีพก็ไม่มีปัณหาครับ
ไม่ค่ะ ต่างชาติเค้ามองว่าเป็นเรื่องปกติ บางคนฝันร้ายบ่อยๆก็ถึงกับมีจิตแพทย์ประจำตัวเลย บางทีเวลาคนเราเครียดมากๆก็ต้องมีที่ระบายค่ะ ยิ่งถ้าเก็บไว้มากๆมันจะยิ่งแย่
ถ้าน้องมีโอกาสก็ไปพบเลยค่ะ พี่เบาๆ อาจมาจากเรียดเรื่องส่วนตัว ก็พยายามไม่เครียด หาอะไรที่ชอบมาทำ
พี่เองก็อยากไปพบเหมือนกันติดอยู่อย่างเดียว คือเงิน บางทีพี่ก็โมโหร้าย เคยบีบคอคนรอบข้างมาก็บ่อยตอนโมโหจัด ข้าวของนี่กระจัดกระจายตัวสั่นไปหมด
ขอบคุณที่มาตอบนะคะ
ของหนูมาจากเรื่องเรียนนี่ล่ะค่ะ
แล้วเวลาเครียดพี่ทำยังไงหรอคะ;_;
พี่หาหนังมาดูค่ะพี่ชอบแนวจิตนาการลำเลิศ แนวที่ชอบ ดูแล้วลืมทุกอย่าง อ่ะ
มีอีกวิธีนึงที่ทางผู้เชี่ยวชาญแนะคำคือพวกคลิปสัตว์น่ารักๆ อย่างแมว น้องหมา พวกนี้ช่วยคลายเคลียดได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่จะหาคลิปหลุดตลกจากรายการ ฝรั่งเขามาออกเป็นคลิปฮาๆ แต่มันดูให้เมืองไทยไม่ได้เค้าบล็อกพื้นที่ พี่ไม่ชอบรายการตลกไทยบางอันมันไม่เหมาะที่จะให้เด็กดู
ขอตอบในฐานะคนที่เคยพบจิตแพทย์ แล้วพึ่งเข้าคณะแพทย์ปีนี้นะครับ
ที่น้องถามมาว่าจะเสียประวัติหรือเป่า อืมมม ตอบยากอะ พี่ก็ไม่รู้นะ ขอยกกรณีพี่แล้วกัน
พี่เป็นเด็กซิ่วครับ ช่วงที่ทั้งเตรียมซิ่วและเรียนปี1ไปด้วย เครียดมาก เครียดจนนอนไม่หลับ นอนตั้งแต่4ทุ่ม จนตี4ก็ยังไม่หลับ พอหลับแล้วตื่นเช้ามาก ก่อน07.00น.อะ ทุกวันจนพี่เพลีย เวลาไปเรียนก็ง่วงตลอดเวลา พอสะสมมากๆพี่เริ่มเปลี่ยนไป พูดจาแรงขึ้น ไม่พอใจอะไรก็ทำลายข้าวของ ชอบเอามือชกกระจกให้เลือดมันออก(เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่อะครับ) จนพี่ทนตัวเองไม่ไหว พี่ไปพบแพทย์เองเลย
ตอนแรกพี่สงสัยว่าตัวเองเป็นไบโพลาหรือเป่า พอได้คุยกะหมอ หมอกลับบอกว่าไม่ใช่ แล้วหมอก็นัดใหม่ให้พาคนที่ใกล้ชิดเรามาด้วย อันนี้สำคัญครับ จิตแพทย์จะรักษาให้ก็ต่อเมื่อเราพาคนใกล้ชิดมาด้วยเท่านั้น พี่ก็พาแม่มาเลย หมอก็ขอคุยกะแม่2คนให้พี่รอข้างนอก จนเส็จ หมอเรียกพี่เข้าไปพบและสั่งยาและพูดคุยนิดหน่อย ส่วนมากก็เรื่องวิธีการคิดของเราอะครับ ให้เราคิดแบบนี้ๆนะจะดีขึ้น สรุป หมอบอก พี่มีภาวะซึมเศร้า ถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและอาจฆ่าตัวตายได้ โหวววว ขนาดนั้น พี่ยังไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย พี่ได้ยามา3ตัว หลังอาหารเช้า1เม็ด ก่อนนอน2เม็ด และหมอนัดทุกๆ14วัน เพื่อปรับยาและติดตามอาการ หลังจากได้รับยาสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่คือ พี่กลายเป็นคนนิ่งมากกกกกกกก นิ่งชนิดที่ว่าใครด่าอะไร ใครพูดเรื่องตลกแค่ไหน หรือเห็นอะไร พี่ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ นิ่งแบบกลายเป็นคนไร้ความรู้สึกอะ ก่อนนอนหลังกินยาพี่หลับเลย คิดว่าต้องเป็นยานอนหลับแน่ๆ พอครบวันนัดหมอก็จะถามว่าเป็นไงบ้างรู้สึกยังไงยาที่ให้ไปกินแล้วเป็นยังไง ถ้าไม่เห็นผล หมอจะเพิ่มยาที่แรงขึ้นอีกครับ พี่กินยาติดต่อกัน5เดือนครับ และไปตามนัดทุกๆ14วัน พออาการดีขึ้นหมอก็ให้หยุดยา แล้วหมอก็บอกว่า พี่หายแล้ว
เวลาผ่านมาจนสอบติดคณะแพทย์ครับ หลังจากพึ่งสำภาษไปเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรที่บอกว่า พี่มีประวัติไม่ดีไม่รับเข้าเรียนเลยนะครับ อาจจะเพราะ พี่รักษาที่คลินิกด้วยมั้ง จึงไม่มีประวัติในโรงบาล
แต่เท่าที่ถามหมอประจำของพี่อะ เค้าบอกว่า โรคซึมเศร้ารักษาง่ายกว่าไบโพล่า และไม่ร้ายเเรงถึงขนาดไบโพล่า รักษาให้หายขาดได้ครับ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเราด้วยครับว่าเปลี่ยนตัวเองได้มากแค่ไหน ในกรณีที่มีประวัติรักษาโรคซึมเศร้า แล้วสอบติดคณะแพทย์ ไม่ต้องห่วงครับ ถ้ากรรมการถามถึงเรื่องนี้ให้เราไปขอใบรับรองแพทย์จากแพทย์ที่รักษาเราว่าเราได้รักษาหายเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างก็จบครับ วันที่สำภาษตรวจร่างกายก็ได้ตรวจกับจิตแพทย์เหมือนกันนะครับ
ในกรณีของน้องยิ่งต้องไปพบเลยครับ ถ้าน้องถึงขนาดกรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง คิดมาก อ่อนเพลีย ปวดหัว รับรองน้องได้ยามากินแน่ๆ ไม่ต้องอายครับ รักษาตั้งแต่ตอนนี้ให้หาย ดีกว่าตอนที่สอบติดหมอแล้วหมอที่ตรวจร่างกายน้องมารู้ตอนนั้น ตอนนั้นน้องอาจจะโดนตัดสิทธิเข้าเรียนเลยนะครับ ถ้ามีประวัติก็ทำอย่างที่พี่บอกไปข้างต้น รักษาจนหายแล้วขอใบรับรองแพทย์ว่าหายแล้วมาเผื่อไว้ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ ไปพบจิตแพทย์หรือไปโรงพยาบาลจิตเวชน้องไม่ต้องกลัวเลยครับ ถ้าน้องไปน้องจะรู้ว่า น้องปกติมากๆๆๆคนนึง มีคนดูปกติเหมือนเราแต่เค้าอาการหนักกว่าเราอีกเยอะครับ
ไม่รู้ว่าพี่จะเห็นคอมเม้นนี้ไหมแต่ ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ ข้อมูลพี่เป็นประโยชน์มากๆเลย ตอนนี้ยิ่งอยากไปมากขึ้นเพราะมันเริ่มส่งผลกระทบกับการเรียนด้วย
จะพยายามรวบรวมความกล้าบอกแม่ค่ะ... ยากที่สุดก็ตรงนี่แหละ
พี่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโรคนี้เท่าไหร่ คงให้คำปรึกษาหรือเเนะนำอะไรไม่ได้ เเต่ขอให้น้องสู้ๆนะครับ ^_^
น้องปรึกษาพ่อแม่ดีที่สุดนะคะ พี่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มาก แต่เมืองไทยค่ะ ไม่ใช่เมืองนอก พยายามควบคุมตัวเองค่ะจะได้ผลดีที่สุด โรคนี้คนที่หายแล้วมีโอกาสเป็นได้เรื่อยๆนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ใจเย็นๆด้วยค่ะ ความเครียดมีแต่ทำให้แย่นะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?