Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิธีแก้ขัด 5 สถานการณ์ เมื่อถูกสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

“น้องๆเคยคิดบ้างรึเปล่าคะ 

บางทีเราอาจจะโดนเซอร์ไพรส์

โดยการถูกสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ?”

           พี่ไอซ์เชื่อเลยว่า มีน้องๆหลายคนกังวล ว่าถ้าเราสอบติดแล้ว เราจะโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษไหม? จะเจอบ่อยมากโดยเฉพาะคนที่จะเข้าคณะอักษรศาสตร์ 555 ทั่วๆไปแล้ว ไม่เจอหรอกค่ะ แต่ว่ากันไว้ดีกว่าแก้ถูกไหม? พี่ว่าต่อให้ไม่โดน เราก็ควรจะพูดได้อยู่ดีค่ะ วันนี้เลยสมมติสถานการณ์ 5 แบบ จะได้รับมือกันถูกว่าจะตอบยังไงให้โดนใจอาจารย์กันค่ะ
 
 



1. แนะนำตัว… Please introduce yourself…

           อันนี้คือเบสิคเลย น้องๆจะต้องพูดถึงเกี่ยวกับตัวน้องเอง ไม่มีใครรู้จักตัวเราดีได้เท่าเราอีกแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องที่เข้าปากน้องแน่นอน ข้อมูลคร่าวๆ ก็ตามนี้เลยค่ะ


- Good Morning/Good Afternoon teacher. My name is  ….ชื่อจริง…. . 

- I graduated from …ชื่อโรงเรียน…school. 

- I’m …อายุ…years old. 

- I live in ……จังหวัดที่เราอยู่……(with …กับใคร..)

- I’m interested in …เรื่องที่เราสนใจ…… 

        - My hobbies are ….กิจกรรมที่ชอบทำ…. หรือ When I have free time, I like to..กิจกรรมที่ชอบทำ…

- I can …อวดความสามารถพิเศษเราไปถ้ามี…… .

- I’m …ลักษณะนิสัยเรา…. .  

ตัวอย่างนะคะ

           Good Morning, teacher. My name is Petchphassorn Aonkwanmueng. Or you can call me “Ice” for short. I’m 20 years old. I graduated from Satriwithaya School. I live in Nonthaburi with my parents. I’m interested in languages and music. I can speak French and play the piano. When I have free time, I like to sing and to read. And I’m generous and talkative.

           สวัสดีค่ะอาจารย์ หนูชื่อ เพชรภัสสร อ้นขวัญเมือง หรือจะเรียกหนูสั้นๆว่า ไอซ์ ก็ได้ค่ะ หนูอายุ 20 ปี จบจากโรงเรียนสตรีวิทยา หนูอยู่นนทบุรีกับพ่อแม่ค่ะ หนูมีความสนใจเรื่องภาษาและดนตรี หนูสามารถพูดภาษาฝรั่งเศส และเล่นเปียโนได้ เมื่อมีเวลาว่าง หนูชอบร้องเพลงและอ่านหนังสือค่ะ และหนูก็เป็นคนใจกว้างและช่างพูดช่างคุยค่ะ

           สิ่งที่ควรทำ : ถ้าเกิดน้องๆ เตรียมมาดี น้องเอาไปพูดที่ไหนก็ได้เลยนะ ไม่ใช่แค่การสัมภาษณ์ แอบบอกเพิ่มเติม ความสาม ารถอ่ะ ถ้ามีอ่ะ โชว์ไปเลยนะ แล้วลักษณะนิสัยอ่ะ บอกข้อดีไปน้า อย่าบอกข้อเสียละ ฮาฮา

2. ทำไมถึงอยากเข้าคณะนี้?
Why do you want to study here? / Why are you interested in this faculty?

           อันนี้ต้องเจอแน่นอน คำถามประจำการสอบสัมภาษณ์นั่นเอง 55 เราก็พูดไปได้เลยค่ะ ว่าทำไมเราอยากเข้าคณะนี้ มีความสนใจอะไร โตขึ้นอยากทำอะไร อวยเข้าไว้ค่ะ 55 สมมติว่าพี่อยากเข้าคณะอักษรนะคะ


ตัวอย่าง

           There’re many reasons why I want to study here. First of all, I’m interested in languages and culture. I always enjoy studying them. Secondly, I think nowadays languages are very important so I want to improve my language skills. Most importantly, I want to be a journalist. I’m sure that studying in this faculty will help me with my future job. 


           มีหลายเหตุผลว่าทำไมหนูถึงอยากเรียนที่นี่ อันดับแรก หนูสนใจเรื่องภาษาและวัฒนธรรม หนูรู้สึกสนุกตลอดเวลาเรียนเรื่องพวกนี้ค่ะ อย่างที่สองเลยคือ หนูคิดว่า ทุกวันนี้ภาษาสำคัญมาก ดังนั้นหนูจึงอยากพัฒนาทักษะภาษาค่ะ และที่สำคัญที่สุดเลยคือ หนูอยากเป็นนักข่าวค่ะ หนูมั่นใจว่าการเรียนในคณะนี้จะช่วยให้หนูได้ทำงานที่อยากทำในอนาคตแน่นอนค่ะ


3. คิดว่าตัวเองมีข้อดีและข้อด้อยอะไรบ้าง?
What are your strengths and weaknesses?


           คำถามนี้ ก็จะดูยากสักนิดนึง ข้อดีเราตอบได้อยู่แล้วแหละค่ะ แต่ข้อด้อยเนี่ยสิ ถ้าบอกไปจะเท่ากับว่า เราบล็อกตัวเองหรือเปล่า? ถ้าไม่ตอบ จะดูหลงตัวเองไปไหม? แนะนำนะคะ ตอบได้ค่ะ แต่พยายามตอบสิ่งที่สามารถพลิกดินสู่ดาวได้ 555  เดี๋ยวมาดูตัวอย่างกันนะ

ตัวอย่าง

            I think my strength is that I’m hard-working. I never give up though I study hard. Moreover, I’m friendly and sociable. I like to join activities and to make new friends. But my weakness is that I’m hot-tempered because I prefer to finish my work well ahead of deadline.

            หนูคิดว่าข้อดีของหนูคือเป็นคนขยัน หนูไม่เคยยอมแพ้แม้หนูจะเรียนหนัก นอกจากนี้ หนูก็เป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ดีและชอบเข้าสังคม หนูชอบร่วมกิจกรรมต่างๆและสร้างเพื่อนใหม่ แต่ว่าจุดอ่อนของหนูคือ เป็นคนใจร้อนค่ะ ก็เพราะว่าหนูอยากจะทำงานให้เสร็จก่อนกำหนดค่ะ

4. ถ้าเข้ามาเรียนแล้ว คิดว่าจะทำอะไรบ้างให้กับมหาวิทยาลัย?
When you study here, what will you do for this university?
 

        ข้อนี้น้องบางคนอาจตกใจ แบบว่า เอ๊ะ ฉันเข้ามาต้องเป็นนักกิจกรรมตัวยงเลยหรือเปล่า? ไม่จำเป็นน้า แต่ถ้าใครชอบทำกิจกรรมอะไร ก็จัดไปเลย แต่ที่มั่นใจว่า ทุกๆคนทำได้คือ ตั้งใจเรียนค่ะ พี่เคยโดนคำถามนี้ค่ะ ช็อตไปเล็กๆ แต่รอดมาได้ค่ะ 555


ตัวอย่าง

            If I study here, I will focus on my studies, conduct myself properly and join activities because I want to get new experiences from this university.

           ถ้าได้เข้ามาเรียนที่นี่แล้ว หนูก็จะตั้งใจเรียน ประพฤติตัวอย่างเหมาะสมค่ะ และก็จะร่วมกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัยด้วย เพราะว่าหนูอยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆจากรั้วมหาวิทยาลัยนี้ค่ะ


5. ถ้าไม่ได้ที่นี่ จะทำยังไงต่อไป?
If you fail this interview, what will you do next?

            เจอคำถามแบบนี้ วัดใจเบาๆเลยนะ แค่คุมสติให้ดีๆ 555 ลองนึกนะ ถ้าน้องตกจริงๆละ เราก็ต้องทำตามแผนสำรองใช่ไหม นั่นละ! อันนั้น ! ลองดูตัวอย่างเลย

ตัวอย่าง
           If I fail this interview, I think I will consult  my parents about what I should do next. I will try other choices because I really want to study about languages.


           ถ้าหนูตกสัมภาษณ์ คงจะปรึกษาพ่อแม่ค่ะ ว่าควรจะทำยังไงต่อไป หนูก็คงจะไปลองทางเลือกอื่นๆดู เพราะหนูอยากเรียนเกี่ยวกับภาษาจริงๆค่ะ


สิ่งที่น้องๆทุกคนต้องทำเวลาสอบสัมภาษณ์ทุกกรณี!


- ยิ้มเจ้าค่ะ ยิ้มไป อย่า panic ไม่งั้นอาจารย์จะเห็นชัดมากว่าเราประหม่า ไม่มั่นใจในตัวเอง

- พูดความจริงทุกอย่างค่ะ เพราะว่าถ้าเราเมคเรื่องไป อาจดักตัวเองได้นะ และตอบไม่ได้นะ 

- รู้เท่าทันเหตุการณ์ปัจจุบันไว้บ้าง .. พี่เคยเกือบโป๊ะค่ะ ไปสัมภาษณ์คณะๆนึง ภาคอินเตอร์ อาจารย์ถามว่า คุณสนใจการเมืองใช่ไหม ละเข้าเรื่องเลยค่ะ โชคดีรู้ข่าวสาร เลยแสดงความคิดเห็นไปได้ค่ะ 555

- มีของดี ก็โชว์ไปเลย บางทีไม่เคร่งเรื่อง Portfolio ค่ะ แต่ถ้าเรามีดีอะไร ก็โชว์ไปเลยค่ะ อย่าปล่อยให้มันเฉาตายไปๆ ใช้ให้คุ้มค่ะ




- ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ อย่ากลัวพูดผิด ! พูดไปเลย ฝอยเข้าไป เพราะตอนจริง The show must go on. ค่ะ แกรมม่าไม่ต้องเป๊ะ ขอให้ได้ใจความพอค่ะ

- ไม่ควรท่องจำสคริปต์ทั้งหมดเลย มันดูไม่เป็นธรรมชาติค่ะ แค่พยายามหาศัพท์คร่าวๆไว้ว่าควรใช้คำไหนบ้าง แล้วพูดออกไปเลย จะดีกว่าน้า

        เย่ๆ เรียบร้อยแล้ว สำหรับ 5 คำถาม 5 สถานการณ์สอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษนะคะ ลองปรับใช้กันตามสะดวกเลยนะคะ สิ่งสำคัญที่สุด คือ พูดให้เป็นตัวเอง พูดความจริง ความจริงใจเนี่ยแหละ ชนะหมดทุกสิ่งค่ะ ขอให้น้องๆโชคดีทุกสนามสอบสัมภาษณ์ล่วงหน้าเลยนะคะ ตั้งใจเข้าๆ แล้วไว้เจอกันใหม่กระทู้ต่อไปนะคะ สวัสดีค่า




“ไม่ว่าน้องจะสอบสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหรือไม่
อย่าหยุดฝึกค่ะ สักวันหนึ่ง
น้องจะเห็นคุณค่าของมันค่ะ”

 


ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้

"อ่าน 1 หน้า = เข้าใกล้คณะในฝันไปอีก 1 ก้าว"  แนะนำเทคนิคสอบติด คณะอักษรฯ ใน 3 เดือน

5 Facts ถามใจตัวเอง “คุณเหมาะจะเรียนคณะอักษรศาสตร์หรือไม่?

เม้าท์ 5 วิชาสุดเด็ดของคณะอักษรศาสตร์ เข้ามาเจอแน่ๆ !

4 วิชาที่มีค่ามหาศาล! เพื่อสอบติดรับตรงคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ (พร้อมวิธีฟิต)
 
2 เดือนที่มีค่า “แจกไทม์ไลน์ เตรียมตัวสอบเข้า มหา’ลัยช่วงปิดเทอม” ม.5 ขึ้น ม.6
http://www.dek-d.com/board/view/3624090/

แจกสูตรเด็ด ! ปรับพื้น GAT ENG (สำหรับคนที่เริ่มจาก 0 หรือไม่รู้อะไรเลย)
http://www.dek-d.com/board/view/3626387
 

น้องๆสามารถติดตามพี่ไอซ์ได้ตามช่องทางนี้เลย!

Facebook : Icepphassorn Aonkwanmueng 

Facebook Fanpage : กัปตันไอซ์ BAR5 http://www.facebook.com/Iicebar5

Instagram : @icepphassorn  
Twitter : @iiceiizz

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

Bypass 9 เม.ย. 59 เวลา 09:32 น. 3

I'm graduated -> I graduated
The most importantly -> Most importantly
Hot-tempered ในบริบทนี้มันไม่เข้ากัน
I like to join.... (ช่วงที่อธิบาย strength) มันแปลได้ว่าอยากจะเข้ามร่วมมากกว่าที่แปลไว้
น่าจะให้คนเช็คก่อนโพสต์นะคะ ใครมาอ่านก็จำผิดๆไป เยี่ยม

1
icepphassorn 9 เม.ย. 59 เวลา 17:17 น. 3-1

ทำการแก้ไขแล้วนะคะ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ

0
icepphassorn 11 เม.ย. 59 เวลา 18:33 น. 4-1

ขอบคุณมากค่าา รอติดตามอันอื่นด้วยน้า
บอกเลยเดี๋ยวมี กระทู้พากินบ้างๆ ฮาฮา เยี่ยม

0
aunter2 28 เม.ย. 59 เวลา 18:38 น. 5

ดีมากๆเลยประสบการณ์ตรงจากพี่ไอซ์ดีมากๆเลยผมจะได้เอาไปใช้บ้างในรอบรับตรงเพราะผมก้สนใจสายภาษามากๆติดตามพี่ไอซ์มาตลอด

3
aunter2 5 พ.ค. 59 เวลา 23:19 น. 5-2

ค้าบพี่ไอซ์ค้าบแล้วสมมุติว่าเราสนใจคณะภาษาอื่นนี่แต่เราไม่เคยเรียนจีนมาเลยถ้าติดนี่เราจะพอเรียนไหวมั้ยค้าบ

0
Sandrine_SKN 28 พ.ค. 60 เวลา 01:02 น. 5-3

พี่ขอตอบแทนนะคะ ถ้าทางม.รับแบบมีพื้นฐานจีน ต่อให้เราเรียนไหวก็เข้าไม่ได้อะ แต่ถ้ารับคนไม่มีพื้นฐานเราก็ได้นะ อย่างเอกจีนศิลปากร จะเข้าเอกจีนปี2เทอม2 ระหว่างนั้นตั้งแต่ปี1เทอม1-ปี2เทอม1 จะเรียนภาษาจีนเทอมละ1-2ตัว ต้องสอบก่อนลงเรียนปี1เทอม1 ข้อสอบแบ่งเป็นสำหรับนักศึกษาไม่มีพื้นฐานจีน(วัดเซ้นส์ทางภาษา) กับข้อสอบจีนสำหรับนักศึกษามีพื้นฐาน สอบผ่านแล้วเข้าประชุมตามวันเวลาที่อาจารย์นัดเพื่อยืนยันสิทธิ์เรียนและจัดตารางเวลาเรียน ที่นี้ทั้งนักศึกษามีพื้นฐานจีนและไม่มีพื้นฐานจีนจะเริ่มต้นเรียนจาก0ที่นี่ทุกคนจ้า (พูดง่ายๆคือคนเคยเรียนจีนม.ปลาย ก็เริ่มปูพื้นจีนใหม่ที่นี่เลย)

0
Sandrine_SKN 28 พ.ค. 60 เวลา 00:52 น. 8

พี่ขอเสริมพี่ไอซ์หน่อยนะคะ คือถ้าน้องเข้าสอบสัมภาษณ์สาขาวิชาภาษาที่สาม ในกรณีที่รับแค่ผู้มีพื้นฐานภาษานั้น หรืออาจารย์เห็นว่าเรามีพื้นฐาน เช่นเรียนศิลป์ภาษานั้นมา ไปแลกเปลี่ยนมา มีโอกาสที่เค้าจะสัมภาษณ์เป็นภาษานั้นหรือทดสอบภาษานั้นด้วย พี่เคยสัมภาษณ์มศว ภาษาฝรั่งเศส อาจารย์คุยภาษาไทยนิดเดียว ที่เหลือคุยฝรั่งเศสจัดเต็มและมีให้อ่านบทความฝรั่งเศสด้วย ยังไงก็เตรียมตัวดีๆจ้า

0
kancharachan 25 ก.พ. 62 เวลา 13:18 น. 9

ขอบคุณมากค่ะพี่ไอซ์ตอนนี้หนูกำลังเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์EPม.4ร.รรัฐแห่งหนึ่งอยู่ค่ะ อันนี้เท่าที่รู้มาสัมภาษณ์ของมัธยมน่าจะคล้ายๆของมหาลัย พอมาดูแล้วช่วยได้เยอะเลยค่ะ หนูจะเอาไปใช้จนกว่าจะถึงมหาวิทยาลัยเลยค่ะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-big-01.png

0
Inkiisj 5 มี.ค. 62 เวลา 08:08 น. 10

พี่ไอซ์ตอบบหนูหน่อยย หนุ ป.6 จะเข้า ม.1คะที่บดิน2แล้ว ทำไมถึงอยากเข้า ep หนูควรตอบว่าอะไรดีคะเพราะพี่พิมมา หมายถึงคณะ แต่ของหนูเป็นรร. ควรตอบอะไรดีคะ แล้วทำไมถึงชอบ ภาษาอังกฤษ เพราะอะไร

0
namkbb 12 ม.ค. 64 เวลา 11:22 น. 14

สอบถามหน่อยค่า เราไม่เก่งภาษาเลยแต่อยากเรียนเลยสมัครไปแล้วรอสัมภาษณ์ไม่รู้จะมีหวังมั้ย มีวิธีที่ทำให้ไม่ประหม่ามั้ยคะ

1
Areeamint39 28 ม.ค. 64 เวลา 19:17 น. 15

พี่ไอซ์คะขอคำตอบแบบภาษาอังกฤษค่ะทำไมเราถึงชอบภาษาอังกฤษ และ คำตอบเราจะพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างไรได้บ้างค่ะ

0