5เทคนิคเปลี่ยนจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง พิชิตข้อสอบอังกฤษให้อยู่หมัด

[MinkBH]

ปิดจุดอ่อน อุดรอยรั่ว วิชาภาษาอังกฤษ !
5เทคนิคเปลี่ยนจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง พิชิตอังกฤษให้อยู่หมัด
.
วิชาอังกฤษน้ำหนักโคดดดเยอะ ถ้าเรารู้โคดน้อย
ไปสอบยังไงก็ตายลูกเดียว ! 5555
.
พี่เชื่อว่าวิชาภาษาอังกฤษ
เป็นหนึ่งในสุดยอดตัวปัญหาสำหรับใครหลายคน
บางทีแค่เห็น a b c ก็อาจทำให้ลงไปนอนชักกับพื้นได้
(อันนั้นก็เว่อไปๆ 555)
.
ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับที่เราจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษ
เพราะมันไม่ใช่ภาษาแม่ของเรานี่ 555
แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้าง
ที่เราจะไม่พัฒนาตัวเองให้เก่งภาษาอังกฤษ !
.
เพราะน้ำหนักวิชานี้เยอะมากในทุกๆการสอบ
การที่น้องห่วยวิชานี้จะทำให้เสียเปรียบคนอื่นแบบสุดๆ
(อย่างเช่น ผิดอังกฤษข้อนึง = ผิดวิชาสังคมตั้ง2ข้อ!)
.
และยิ่งยุคนี้การที่เราเก่งอังกฤษ ไม่ใช่ได้เปรียบแค่ในห้องสอบ
แต่ในชีวิตการทำงานจริงก็ได้เปรียบกว่ามากๆ
ชนิดที่เรียกว่าฟ้ากับเหวเลยทีเดียว !
.
เพราะงั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
กับ5เทคนิคการเตรียมตัวสอบพิชิตอังกฤษให้อยู่หมัด
ถ้าพร้อมแล้ว จัดไป !
.
1-รู้แนวข้อสอบก่อน
เทคนิครู้เขารู้เรา สอบ100ครั้งชนะ100ครั้งยังคงสำคัญเสมอ
เพราะข้อสอบแต่ละแบบ แต่ละสนาม
ก็มีความยากและแนวที่ต่างกันคนละขั้ว !
.
ถ้าน้องอ่านอังกฤษไปเรื่อยๆชิวๆเพราะแค่อยากเก่งเฉยๆ
น้องจะอ่านแบบไหนก็ได้ ตามสบายเลย
แต่ถ้าจะอ่านเพื่อสอบละก็
น้องต้องรู้แนวที่ชัดเจนครับ
.
อย่างความยากของข้อสอบแต่ละที่ก็จะแตกต่างกัน
เช่น วิชาสามัญ > GAT > O-NET
หรือถ้าจะสอบ TOEFL, IELTS, SAT
แนวข้อสอบก็จะคนละเรื่องกับข้อสอบเอนท์เลย
เพราะมีสอบฟัง สอบเขียนเรียงความด้วย โอ้ คุณพระ 555
ดังนั้นน้องต้องทำการบ้านมาก่อนให้ดี
.
[how to 1]
ชำแหละออกมาเลยว่าแต่ละพาร์ทของข้อสอบ
มีอะไรและเป็นยังไงบ้าง ?
ตัวอย่างเช่น
เป็นConversation/Reading/Error/
Cloze test/Writing paragraph
เราจะได้รู้ว่าต้องอ่านไปทำอะไร และดูโจทย์แบบไหน
.
.
2-ฟิตGrammar
ขึ้นชื่อว่าอังกฤษ ยังไงก็เลี่ยงแกรมม่าไม่ได้แน่ๆ 555
ซึ่งความจริงแล้วประเทศไทยเรา
ก็นั่งเรียนนั่งท่องกันมาตั้งแต่ป.2ละ
แต่ยังไม่เก่งซักที ! (กรรมมม)
เพราะเราไม่ได้เอามาใช้จริง
ท่องๆไปสอบก็ลืม เอามาใช้ไม่เป็น
ดังนั้นถ้าเราจะเก่งแกรมม่า ต้องทำตามนี้เลยฮะ
.
[how to 2]
>list หัวข้อแกรมม่าทั้งหมดออกมาก่อน
เราจะได้เห็นภาพรวมทั้งหมดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
การแบ่งที่ชัดเจนจะทำให้เราไม่หลง ไม่งงกับมัน
>อ่านเนื้อหาและทำสรุป
เอามาทวนบ่อยๆจนท่องได้
จำให้แม่นแบบนึกได้ทันทีเลย จะได้ไม่ลืมโครงสร้าง
>ทำโจทย์แกรมม่าเยอะๆ
(ควรทำให้จบอย่างน้อย2-3เล่มในขั้นเบสิก
โดยโจทย์ต้องเป็นแนวเดียวกับข้อสอบที่เราชำแหละในข้อ1)
เพื่อให้เรารู้วิธีใช้แกรมม่าในแต่ละหัวข้อ
ยิ่งเจอโจทย์เยอะเราก็จะยิ่งเข้าใจมากขึ้น สู้ !
.
.
3-อัดVocab
อีกกำลังรบที่สำคัญของวิชาอังกฤษ
ก็คือเหล่าคำศัพท์เป็นร้อยเป็นพันคำ
ที่พร้อมจู่โจมเราด้วยความงุนงง 555
.
ซึ่งวิธีรับมือก็คือต้องท่องมันเข้าไปนั่นแหละ
และแหล่งคำศัพท์ที่ควรใช้หาคำศัพท์มาท่องก็คือ
.
1)หนังสือศัพท์ : ไม่ว่าจะเป็นชีทครูสมศรีในตำนาน
หนังสือตามท้องตลาด, คลังศัพท์ในเว็บ อะไรก็ตาม
ซึ่งความเจ๋งของแหล่งคำศัพท์สำเร็จรูปเหล่านี้คือ
เค้ามักจะแพ็กศัพท์กลุ่มความหมายเดียวกันมาให้
(ที่เรียกว่าsynonymนั่นแหละ)
ทำให้เราจำศัพท์ได้เป็นก้อนเป็นแก๊ง 555
.
2)จากหนังสือโจทย์ : ก็คือทำพวกโจทย์reading, cloze test
แล้วคำไหนที่น้องไม่รู้ก็จดมาท่อง
โดยการที่น้องท่องศัพท์จากการทำโจทย์
จะเก๋ากว่าท่องแบบเพียวๆจากหนังสือศัพท์
ตรงที่น้องจะได้ "ฝึกอ่านและแปลแบบจริงๆ" !
.
คือถ้าน้องท่องศัพท์แบบเพียวๆเลย (ไม่ฝึกอ่านบทความจริงๆ)
บางทีนี่จำศัพท์ได้อย่างแม่นเลยนะ
แต่พอไปทำข้อสอบจริง กลับทำไม่ได้ซะงั้น !
คือรู้ความหมายศัพท์แต่ดันแปลไม่ออก
ไม่เข้าใจว่าบทความ/ประโยคนี้มันจะสื่ออะไร
เพราะน้องไม่เคยฝึกอ่านจริงๆเลยไง
.
นั่นทำให้การท่องศัพท์จากข้อ2) ได้เปรียบในจุดนี้ไปเต็มๆ
หรือน้องจะเลือกอ่านจาก1) แล้วฝึกทำโจทย์เพิ่มเติมเอาก็ได้
.
[how to 3]
สำหรับเทคนิคในการท่องศัพท์ให้จำแม่นๆคือ
>จดศัพท์วันละ10คำใส่สมุดที่พกง่ายๆ
(อาจมากหรือน้อยกว่านี้ แล้วแต่ความรีบของน้อง)
>เอาออกมาอ่านวันละ3ครั้งหลังอาหาร ทุกวัน
(จริงๆคือตอนไหนก็ได้ 555
แต่วันนึงต้องถี่ๆๆๆ ยิ่งถี่ยิ่งจำแม่น
และย้ำว่า"ทุกวัน"เพราะความสม่ำเสมอสำคัญที่สุด)
>อาจตัดคำศัพท์ออกมาร้อยเป็นแผ่นป้าย
ที่มีคำแปลเขียนด้านหลัง
แล้วสุ่มออกมาถามตัวเองเรื่อยๆแบบเกมเปิดแผ่นป้าย
(วิธีนี้สุดยอดจำแม่นเลย แต่ต้องลงทุนหน่อยนะ 55)
.
.
4-ขโมยสมองคนอื่น
เราสามารถเร่งความเร็วให้เราเก่งได้อีก
โดยการตักตวงสมองของคนระดับเทพ
ซึ่งก็คือการอ่านแก่นที่คนเหล่านั้นตกผลึกออกมา
ไม่ว่าจะเป็น สรุป ทริคต่างๆ ชุดคำศัพท์
หรือหลักการชำแหละองค์ประกอบในโจทย์
.
ซึ่งของพวกนี้ ถ้าเราจะพัฒนาจนสมองเราคิดได้เอง
ต้องผ่านการอ่านและทำโจทย์มาแบบเยอะมากกก
ทางที่ดีกว่า เร็วกว่า ก็คือไปหาของเค้ามาอ่านซะ 555
(จะย่นระยะเวลาได้ไวแบบสุดๆ)
.
แล้วจะหาได้จากไหนหรอ?
ง่ายมาก ก็อินเตอร์เน็ตไงน้อง 555
ลองตั้งใจsearchหานิดๆหน่อยๆก็เจอได้แล้ว
เดี๋ยวนี้คนเก่งๆออกมาแจกของดีกันเยอะแยะ
.
[how to 4]
>ใช้social networkที่น้องเล่น
ตามหาขุมทรพย์ที่ซ่อนอยู่โดยการ "search"
**ตัวอย่างความรู้ดีๆที่มีแจกฟรี (แค่น้องลองตั้งใจหาจริงๆจังๆ)
Webboard -> http://www.dek-d.com/board/view/3626387/
Youtube -> http://youtu.be/UU_X5VU6ET4
Application -> Clear notebook
.
และจุดที่พี่อยากแนะนำคือ
สรุปที่ตกผลึกมาพวกนี้
ไม่ได้สำเร็จรูปขนาดอ่านปุ๊บแล้วน้องเก่งปั๊บเลยนะ
เพราะประสบการณ์ของน้องยังไม่คู่ควรกับมัน 555
น้องควรจะมีพื้นฐานที่อ่านเองมาก่อน
และใช้สรุปไป ทำโจทย์ไปเพื่อทำความเข้าใจคอนเซป
น้องถึงจะบรรลุวิชาในคัมภีร์นั้นได้ !
.
.
5-สร้างบรรยากาศ
ปรับโหมดตัวเองให้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ
โดยการเปลี่ยนเพลงที่ฟัง เปลี่ยนหนังที่ดู
ให้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
(ถ้าดูหนังก็อาจจะอ่านซับไทยช่วยก็ได้ 555)
.
ของพวกนี้จะทำให้เราค่อยๆซึมซับความอินเตอร์
เข้ามาในกระแสเลือดอย่างช้าๆ 555
(อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือนๆ)
ฟังๆเพลงไป คำศัพท์ก็คุ้นหู
ดูๆซีรี่ย์ไป ประโยคก็คุ้นตา
เจอแบบนี้แล้ว ยังไงๆสกิลภาษาอังกฤษในตัวเรา
ก็ต้องงอกเงยขึ้นมาได้แน่นอนครับ smile emoticon
.
.
เทคนิคที่พี่ให้ไปในวันนี้ทั้งหมด
ไม่ใช่ความรู้(knowledge)เลยซักอย่าง
ไม่มีแกรมม่าซักประโยค ไม่มีคำศัพท์ซักคำ
เพราะพี่คิดว่าเดี๋ยวนี้ความรู้มันมีแจกเยอะยิ่งกว่าทะเล
(อย่างในตัวอย่างlinkที่พี่ให้ดูในข้อ4)
.
แต่สิ่งที่พี่ให้มาเสมอคือ "know how"
หรือวิธีการในการใช้ความรู้พวกนั้น
มาพัฒนาให้ตัวน้องเก่งขึ้นมาได้จริงๆ
.
ในยุคที่ความรู้มีเยอะแยะมากมายก่ายกอง
ถ้าใครที่ไม่รู้วิธีหา ไม่รู้วิธีเอามาใช้
ต่อให้มีความรู้อยู่รอบตัวมากแค่ไหน
ก็ตักตวงมาทำให้ตัวเองเก่งไม่ได้ ! (น่าเสียดายเนอะ 55)
.
อยากให้ลองเอา5เทคนิคที่พี่ให้ไปใช้กันดูนะครับ
[how to]ทุกข้อพี่ตั้งใจเขียนให้ง่ายและชัดเจนที่สุด
ชนิดที่ว่าใครอยากทำก็สามารถทำได้เลยทันที 555
ขอแค่2อย่างเท่านั้นคือ
1เริ่มลงมือทำจริงๆ
2อดทนทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์
.
ใครที่เริ่มต้นทำ และทำไม่หยุด
รับรองว่าภาษาอังกฤษจะไม่ใช่จุดอ่อนของน้องอีกต่อไป
ไม่ต้องเกรงใจเจ้าของภาษานะครับ
ฟันคะแนนกันให้เละไปเลย !
.
พี่มิ้ง brain hacking
-เรียนสไตล์พี่ สอบกี่ที่ก็ติดได้-
.
ชอบกดlike ใช่กดshare ^^
.
>>ติดตามEp6-2: ปิดจุดอ่อน อุดรอยรั่ว วิชาเลข !
ได้ที่เพจBRAIN HACKING by P'Mink
https://www.facebook.com/MinkBrainHacking/
ถ้าใครlikeเพจแต่ไม่ตั้ง *see first* บอกเลยว่าพลาดมาก!
เพราะมีโอกาสไม่เห็นcontentที่พี่เขียนถึง90%
(และความรู้คืออาวุธ ยิ่งรู้น้อยยิ่งเสียเปรียบ!)
.
>>ใครยังไม่รู้จักพี่ อ่านประวัติได้ที่นี่เลย
[linkลัด] https://goo.gl/wY0fnD<<
.
>>กลับไปอ่านบทความย้อนหลังของพี่ทั้งหมดได้ที่นี่
[linkลัด] https://goo.gl/bkCVVQ <<