Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อ่านเถอะ! Narcolepsy Awareness โรคประหลาดที่อยากบอกทุกคนว่า "เราไม่ได้อยากหลับตลอดเวลา"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่






มีโอกาสได้เห็นคนใกล้ตัวแชร์โรคประหลาดโรคนี้มา

ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา

และพวกเขามักหลับได้ในสถานการณ์ที่ไม่ควรหลับ

ในขณะที่พวกเขา ขำ/เสียใจ/โกรธ มากๆ

พวกเขาจะหลับฟุ่บหลับอย่างที่ไม่มีสาเหตุ

คนรอบข้างไม่ได้เข้าใจโรคนี้เท่าไร อาจจะคิดว่าเป็นการง่วงนอนธรรมดา

แต่โรคนี้สร้างปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับคนๆหนึ่งมาก

มาอ่านเรื่องราวของเธอกันดีกว่า





_____________




Par Caridi Pongthanavaranon




เราเป็นโรคประหลาด...

.

.

.

ในฐานะคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์

ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บของเราค่อนข้างน้อย และแบน

.

เช่น

เบาหวาน - เกิดจากกินหวานมาก, วิธีรักษา - งั้นก็ต้องไม่กินหวานมาก

มะเร็ง - ก้อนเนื้อร้าย, วิธีรักษา - คีโม

.

.

.

มันก็ตามสเต็ปคนทั่วไป(มั้ง) 

ที่สมาชิกในบ้าน ไม่ได้เป็นโรคอะไร

อยากรู้อะไรมากกว่านี้ เสิจgoogle

.

google นี่ละมั้ง 

ที่มาของเรื่องโรคประหลาด

.

.

.

.

วันหนึ่ง ตอนเรียนปี 5 (สถาปัตย์เรียน 5 ปีหน่ะ)

เป็นช่วงที่หมกมุ่นธีสิส

เสิจข้อมูล เอาเป็นเอาตาย

.

เราเสิจอิท่าไหนไม่รู้ 

ไปเจอคำว่า "ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงฉับพลัน"

... กดเข้าไปดู ...



.

.

เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหมดแรงกะทันหันจากการหัวเราะ เป็นหนึ่งในอาการของโรค Narcolespy

.

ชิหาย.. ศัพท์แพทย์ กดดูหน่อยละกัน

.

.

.

wikipedia นี่ดีเนอะ

กดลิ้งค์ ต่อเนื่องได้

.

.

.

Narcolepsy หรือ โรคลมหลับ

อาการหลักๆ คือ

- นอนมากตอนกลางวัน

- ผีอำ (ตอนนอนเห็นภาพหลอน ขยับตัวไม่ได้ ทั้งๆที่มีสติ)

- ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน เมื่อ ขำ/เสียใจ/โกรธ

.

.

.

เคยมีจังหวะในชีวิตป้ะ

ที่ไปอ่านคอลัมน์ดูดวง แล้วแบบ เฮ้ย! นี่มันชีวิตฉันชัดๆ

.

อารมณ์เดียวกันเลยค่ะ

.

.

.

.

.

ต้องเล่าย้อนก่อนว่า

สมัย ม.ต้น เป็นคนเป๊ะมาก

เรียกได้ว่า ถ้านัด พี่นี่ไปก่อนเวลาอย่างน้อย 15 นาที

.

พักกลางวัน จะคิดแผนการล่วงหน้าว่าจะใช้ quarter ไหนไปทำอะไรบ้าง

เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 5555

โรคจิต perfectionist แต่เด็กมากๆ

.

พอ ม.3 อ่ะ

แผนชีวิตเริ่มพัง

เพราะง่วงนอน

.

นั่งเรียนแถวหน้าสุด

เราหลับทุกคาบ (สอบตกครั้งแรกก็ ม.3 นี่แหละ)

.

กลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่ทำคือ เดินไปเตียง ไปนอน

.

แต่เนื่องด้วยบุญเก่าที่สะสมมา

พี่ได้ 4.00 และเป็นนักเรียนดีเด่น 5555555

.

เลยไม่เคยเอะใจ

.

.

.

.

พอขึ้น ม.4

เราก็ใช้ชีวิตแบบเดิม หลับในห้องเรียน กลับบ้านมาแล้วนอนเลย

เพิ่มเติม คือ ผีอำ!

.

ผีอำคือยังไง?

.

ถ้าอธิบายคือ

คนเราเวลาหลับ จะเข้าสู่โหมด

1.เพิ่งเริ่มหลับ(ยังรู้ตัว) > 2.หลับฝัน > 3.หลับสนิทไม่ฝัน

.

โดยปกติคนเรา จากโหมด 1.>2. จะใช้เวลาประมาณ 100 นาที

แต่-โรค Narcolepsy เนี่ย 

มันทำให้จาก โหมด1.>2. ใช้เวลาน้อยมาก

ตัวเราเอง สามารถเข้าสู่โหมด 2. ได้ภายในเวลา 2 นาทีหลังจากเริ่มหลับ (เข้าแล็ปทำผลทดสอบมาเรียบร้อย)

.

ซึ่งเวลาคนกำลังฝัน(อยู่โหมด2.)เนี่ย จะไม่สามารถขยับได้

(ใครเคยดูซินเดอเรลล่า ตอนหมาบรูโนนอนฝันหน้าเตาผิงว่าได้แกล้งแมวลูซิเฟอร์ แล้วนอนดิ้นวิ่งๆ นี่ไม่จริงเลยนะ)

.

พูดง่ายๆคือ

พอเราหลับไป 2 นาที เรายังสะลึมสะลือมีสติอยู่

เราก็เริ่มฝัน เห็นภาพต่างๆ

แต่เราขยับไม่ได้...

.

.

นี่แหละคือ ผีอำ

.

.

.

.

พอ ม.5

เราไปแลกเปลี่ยนที่อิตาลี 

โฮสขับรถพาเที่ยวทัศคานี 

ทุ่งหญ้า ไร่องุ่น สายลม และแสงแดด 

กะว่าให้ลูกสาวคนไทยได้ดู

.

เราหรอ...หลับ...

.

เราไม่สามารถตื่นในรถได้อีก

มันง่วงเหมือนอดนอนมาหลายคืน

ตื่นได้แปปเดียว

ก็ต้องหลับต่อ

.

ขอโทษนะป่าป๊า มัมม่า T_T

บ้ายบาย ทัศคานี

พี่จำอะไรไม่ได้เลย

.

.

.

.

พอ ม.6

เพื่อนๆกับพี่ติววาดรูป ยิงมุขกันอย่างเมามัน

.

เราก็ขำออกมา 1 แอะ

.

แล้วก็ ตึง! 

หน้าฟุบลงไปกับโต๊ะ

.

"เฮ้ย มันหลับว่ะ"

"5555 หยั่งกะลูฟี่"

.

.

ได้ยินทุกอย่างอ่ะ แต่ขยับไม่ได้

ผ่านไป 10 วิ

เราก็ขยับได้อีกครั้ง! เย้!

แล้วก็หัวเราะออกมา ในส่วนที่ยังไม่ทันขำ เพราะหมดแรงไปก่อน

.

.

ถึงจุดนี้ อาการมันแปลกมาก จนเราควรเอะใจไปหาหมอมั้ย?

.

.

.

.

.

ไม่ข่าาาาา

.

ไม่เคยได้ยินคำว่า หัวเราะจนเข่าอ่อน หรอ?

.

ก็นึกว่าปกติมาตลอดดดดดดดดดดดดด

จน google วันนั้นนี่แหละ

.

.

.

.

.

ความร้ายกาจของโรคนี้คือ

มันค่อยๆโผล่มา ปีละอาการ จนเราไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกัน

และ

มันค่อยๆเปลี่ยนตัวเรา

.

เรา

.

จากคนที่เคยบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เราเริ่ม...นอนตื่นสาย

เราเริ่ม...ติดนิสัย นอนไม่อาบน้ำ

เราเริ่ม...กินข้าวไม่เป็นเวลา (ก็มันนอนไม่เป็นเวลา)

เราเริ่ม...ผลัดวันประกันพรุ่ง

และอื่นๆอีกมากมาย ที่พอเรามาคิดดูแล้ว เราเปลี่ยนทางพฤติกรรมมากๆ

.

.

เท่าที่เล่ามา เป็นแค่นี้

ง่วงนิดๆหน่อยๆ อะไรจะขนาดนั้น

.

.

พอเล่าให้ใครๆฟัง ก็ชอบพูดว่า 

"เข้าใจอ่ะ เราก็เคยเป็น ง่วงนอนมากๆ"

.

.

ไม่เว้ย แกยังไม่เคย...

.

.

แกอาจจะเคยอดนอนมากบ้างในชีวิต

ซัก 48-72 ชั่วโมง

จำความรู้สึกนั้นไว้

แล้วคิดว่าเราเป็นแบบนั้นทุกวัน ทุกๆ3-6 ชั่วโมง (แล้วแต่อาการของคน)

.

ความง่วงมันจะโจมตีใส่กะทันหัน

จนหาที่นอนแทบไม่ทัน

.

เราเคยหลับในร้านอาหาร(แบบลูฟี่อ่ะ)

เราเคยยืนหลับในบีทีเอส (หลับๆตื่นๆสลับกัน)

เราเคยหลับใส่หน้าอาจารย์ที่กำลังตรวจงานเราอยู่

เราเคยหลับตอนทำงาน ทั้งๆที่เจ้านายนั่งอยู๋ข้างๆ (ฮีก็งงไปดิ)

เราเคยหลับตอนขับรถ ระหว่างรอไฟแดงครึ่งนาที

เราเคยหลับในสระน้ำ

เราเคยหลับระหว่างเดินดูงานในมิวเซียม (อันนี้เป็นบ่อยมาก เสียตังเข้าไป ดูไม่รู้เรื่องเลย T_T)

เราเคยหลับตามสถานที่ท่องเที่ยว เก้าอี้สาธารณะ เคยมาหมดแล้ว

.

.

.

แล้วเราหัวฟาดพื้นบ่อยมาก เพราะเราหัวเราะ...

.

.

.

.

.

.

.

.

กลับมาต่อ หลังจากที่เราอ่าน wikipedia แล้วเรามั่นใจมากว่า อีโรคนี้แหละ ที่ฉันเป็นมาตลอด

เราเริ่มหาข้อมูลเบื้องต้น วิธีการตรวจ/วิธีการรักษา

.

เราก็เริ่มไปหาหมอ

เนื่องจากโรคนี้ ต้นตอมาจากสมอง

.

(อธิบายสั้นๆคือ ระบบสื่อประสารของโปรตีน orexin ในสมองเสียหาย ซึ่ง orexin เป็นตัวที่ regulate sleeping cycle และ appetite / ยังไม่ค้นพบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมถึงเสียหาย)

.

.

เราจึงเริ่มหาหมอเฉพาะทางสมองและประสาทไปเลย!

แม่ไลน์ถามเพื่อนพยาบาล ว่ามีใครแนะนำมั้ย

ตัวเราเองก็ไลน์ถามเพื่อนที่เป็นหมอ ว่าเป็นโรคนี้หาใครดี

.

.

ปัญหาคือ 

หมอ และ พยาบาล ส่วนใหญ่ ไม่นึกถึงโรค Narcolepsy ด้วยซ้ำ

.

.

หมอดูไม่ค่อยเชื่อเรา พอเราเข้าไปถึง แล้วบอกว่า คิดว่าตัวเองเป็นโรคนี้

(ก็พอเข้าใจว่าดูจิต มันคงเหมือนคนที่ ใจสั่งกาย คิดว่าเป็น แล้วก็เป็น ทั้งๆที่ไม่ได้เป็น)

.

.

เราโดยสั่งยา ที่ทำให้เราเป็นบ้าอยู่พักนึง

(น่าจะเป็นยาแก้ลมชัก/ยาแก้ซึมเศร้า ที่มีผลต่อเคมีในสมอง)

.

เราเกือบเรียนไม่จบ

เราเป็น bipolar และอาการขำแล้วหมดแรงเกิดขึ้นบ่อยมาก (ปกติเป็น 2 อาทิตย์ครั้ง กลายเป็นวันละ 5 ครั้ง หัวฟาดพื้นรัวๆช่วงนั้น T_T โชคดีไม่เอ๋อซะก่อน)

.

.

.

เราเลยพักการรักษาไปปีนึง

ให้สารตกค้างของยาที่อยู่ในร่างกายหมดไปก่อน

และให้สมองปรับเคมีก่อน

.

.

.

.

.

.

.

ทุกวันนี้ เราเลยเริ่มใหม่

เริ่มจากการหาแพทย์ที่รู้จักโรคอยู่แล้ว

ซึ่งอย่างน้อย วิธีทรีต ก็เหมือนกับที่เราหาข้อมูลมา

.

.

.

.

.

อัตราคนที่เป็นโรคนี้คือ 1:3000

ซึ่งไม่น้อยเลย

แต่ด้วยตัวโรค ที่ไม่เป็นที่รู้จัก

และอาการ ที่ค่อยๆเกิดขึ้นปีละอาการ

ตัวเราเอง ใช้เวลา 8 ปี กว่าจะรู้ตัวว่าเป็น (ขอบคุณ google มา ณ ที่นี้)

.

.

.

เราจึงอยากจะทำอะไรซักอย่างหนึ่ง

ที่ทำให้คนรู้จักโรคนี้มากขึ้น

ทั้งคนในวงการแพทย์ (จะได้ไม่รักษาผิดวิธี แบบที่เราเจอมา)

ทั้งคนทั่วไป (อาจจะเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัว)

.

.

เราจึงเริ่มเปิดเพจ ลมหลับ / Narcolepsy Awareness Thailand

เอาไว้ เผื่อว่าใครเป็นโรค อย่างน้อยก็จะเสิจเจอข้อมูล



________





Cr. Facebook Par Caridi Pongthanavaranon




แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

ล.หลับยืดยาว 4 พ.ค. 59 เวลา 08:15 น. 2

ถือว่าเป็นโรคที่น่าสนใจเลยนะคะ และก็อันตรายด้วยถึงไม่ทางตรงก็ทางอ้อมนี่แหละคะ หนักสุดถ้าอยู่บนถนน ขับรถหรืออะไร ถ้าหลับขึ้นมาละคุณเอ้ยยยยย แต่แปลกทำไมหมอถึงไม่รู้จักเนี่ย 55555555

2
5555 4 พ.ค. 59 เวลา 08:56 น. 2-1

ปี2ก็รู้จักแล้วค่ะ ไม่รู้ใช้คำว่าหมอส่วนใหญ่ได้ไงเหมือนกัน

0
อิงจี้จัง(?) 5 พ.ค. 59 เวลา 10:36 น. 2-2

จขกท.ไม่ได้บอกว่าหมอไม่รู้นะ เขาใช้คำว่าไม่นึก เพราะส่วนใหญ่คนที่ไปหาหมอมักไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคอะไร ไปปั๊บก็เล่าอาการก่อนเลย ส่วนน้อยที่จะหาข้อมูลว่าตัวเองเป็นอะไรแล้วค่อยไปหาหมอน่ะค่ะ

0
zxty 4 พ.ค. 59 เวลา 08:42 น. 3

เมื่อก่อนเป็นคนที่ตารรางชีวิตเป้ะมาก เพราะพ่อเเม่ควบคุมตลอดจนมันกลายเป็นนิสัย ว่าต้องนอนตอนสามทุ่มนะ ตื่นตีห้านะ กลับมาทำการบ้านนะ เพราะพ่อเเม่ใส่ใจเเละจัดตารางชีวิตให้ เราเลยเรียนดีมาตลอดจนกระทั่งขึ้นม.ปลาย เราเริ่มนอนดึกขึ้น จากสามทุ่มเป็นตีหนึ่งตีสองเเล้วก็ตื่นสายตามระเบียบค่ะ พอไปเรียนก็ง่วง เรียนไม่รู้เรื่องซักวิชา เราเลยพยายามปรับตัวรอนเร็วขึ้น ปรับตารางชีวิตให้ปกติที่สุด คิดว่า-อาการง่วงนอนมันจะหายไป เเต่ไม่เลยค่ะ มันยังอยู่ตลอด เราง่วงตลอดเวลา รู้สึกว่าตัวเองนอนได้ตลอด นอนยังไงก็ไม่เคยพอ จากคนหลับยากเเค่เอนตัวพิงกับเสาก็หลับ หลับจนดพื่อนๆมันตลกกัน นั่งหน้านั่งหลังก็หลับ เราเคยเล่นบาสเเล้วอยู่ดีๆก็ไม่มีเเรง เดินไปนอนข้างสนามเลยก็มี เราไม่คิดว่ามันจะเป็นโรคอะไรหรอกเพราะมันเเค่ง่วง ไม่เคยสงสัยตัวเองด้วยว่าทำไมถึงได้เป็นเเบบนี้ ปิดเทอมเวลาเราไปไหนกับพ่อเเม่เราหลับตลอดเวลาที่อยู่บนรถ ตื่นขึ้นมากินข้างเเล้วก็หลับไปอีกทั้งๆที่วันนั้นเรานอนตั้งเเต่หัววันเพราะกลัวว่าจะง่วงตอนไปเที่ยว เราหมดเเรงบ่อยๆเเต่เพราะเราสุขภาพไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วเลยไม่ใส่ใจกับมันเลย ติดเเค่ว่าก็ปกติเเหละๆไม่ค่อยออกเเรงก็งี้ นั่นเเหละค่ะพอฟุบตลอดการเรียนก็เเย่ลงตามไปด้วย เรากลับบ้านมานอน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทำการบ้านตอนทุ่มนึงเเต่พอตื่นขึ้นมาเเล้วทำต่อไม่ได้เพราะง่วงมาก ง่วงจนไม่มีเเรงลุกไปดปิดไฟ เราก็ยัมองว่ามันปกติอยู่นะคะถึงเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานจะทักเพราะเมื่อก่อนเราไท่ใช่คนเเบบนี้เลย

มันไม่ถึงกับหัวเราะเเล้วฟุบหลับนะคะเเต่พอได้อ่านบทความนี้เราคงต้องกลับมาศึกษาพฤติกรรมของตัวเองเเบบจริงๆจังๆว่ามันเป็นเเค่การง่วงนอนธรรมดาหรือจะเป็นส่วนหนึ่งของโรคนี้เเล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับผู้ที่เเชร์บทความดีๆมาให้ได้ศึกษา
ขอบคุณค่ะ

0
aomori1998 4 พ.ค. 59 เวลา 10:01 น. 4
"จากคนที่เคยบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราเริ่ม...นอนตื่นสาย
เราเริ่ม...ติดนิสัย นอนไม่อาบน้ำ
เราเริ่ม...กินข้าวไม่เป็นเวลา (ก็มันนอนไม่เป็นเวลา)
เราเริ่ม...ผลัดวันประกันพรุ่ง
และอื่นๆอีกมากมาย ที่พอเรามาคิดดูแล้ว เราเปลี่ยนทางพฤติกรรมมากๆ"
เป๊ะมาก แต่เราคิดว่าเราคงไม่เป็นโรคนี้หรอก(มั้ง) เพราะเราตื่นได้ปกติแม้แม่จะมองวา่มันสายมากแล้วก็ตาม555555 
- นอนไม่อาบน้ำนี่คือเราง่วงปนขี้เกียจ  แบบบางทีเล่นคอมจนเช้าเลยก็เลยไม่อยากอาบ หนาว (คือถ้ามันผ่านช่วงตี 2 ไปแล้วเราจะไม่ค่อยนอน เพราะถ้านอนตอนนั้นรู้สึกระบบรวนมาก)
- กินข้าวไม่เป็นเวลา อันนี้จริงจังมาก บางวันคือข้ามไปกินมื้อเย็นเลย ช่วงปิดเทอมตอนนี้เป็นบ่อยมาก จนพ่อแม่เริ่มเป็นห่วงก็เลยกินๆมันเข้าไป ปิดเทอมเหมือนไร้ความหิว ทั้งวันหมดเวลาไปกับการนอน 
- ผลัดวันประกันพรุ่ง ก็มันนอนมาทั้งวัน จู่ๆจะให้ทำอะไรซักอย่างมันก็ไม่ไหวอ่ะ 

        จริงๆคือเราเป็นคนที่ไม่ได้ง่วงมากนะ แต่ร่างกายมันอยากนอน คือมันอยากนอนจริงๆ เหมือนเราหลับตาแต่ไม่ได้หลับจริงจังอ่ะ แต่ก็ไม่ขยับไปไหน นอนนิ่งจนหลับไปเอง แล้วก็มานอนไม่หลับเวลากลางคืนเพราะมันเงียบเกินไป 5555555 เราหลับง่ายมากเวลามีเสียงดัง ดังแบบคนคุยกันไรงี้นะ ถ้าดังแบบเอะอะโวยวายก็ไม่ค่อยโอ แต่หลับได้อยู่
        ตอนม.ต้น เรากลับบ้านมาสิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือนอน บางทีชุดนักเรียนเต็มยศมากอ่ะ แต่นอน เพราะมันไม่ไหวจริงๆ
        ก่อนหน้านี้ตอนเด็กๆ เราเหนื่อยง่าย เดินแปปเดียวเหมือนวิ่งเป็นรอบสนาม 5555555 ดูอ่อนแอมาก เวลาเราหลับบ่อยๆเลยมโนว่าตัวเองเพลีย แต่พอมาเจอโรคนี้เริ่มคิดหนักเลย


0
น้ำส้ม 4 พ.ค. 59 เวลา 15:42 น. 5

น่ากลัวจังโรคนี้ เริ่มกลัวเลย เพราะเราก็นอนบ่อยมีอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วก็เป็นพวกperfectionist เหมือนกัน
แบบบางทีคุยกับเพื่อนอยู่ๆแล้วลืมหมดเลยพูดอะไรไปบ้างแบบสลึมสลือ ทั้งๆที่เป็นคนความจำดี
เคยหลับมาหลายที่ตั้งแต่รถเครื่อง บ่อยสุดก็ในห้องน้ำ บางทีก็งงว่าหลับไปตอนไหนกำลังจะอาบน้ำนี่หว่า หลับลึกด้วย อารมณ์แบบไม่ไหวแล้ว
แต่ต้องนอนวันละ10ชั่วโมงขึ้นไป แต่คิดว่าเราคงไม่เป็นโรคนี้หรอก สู้ๆนะจขกท.เรื่องนอนนี่เรื่องใหญ่จริงๆเศร้าจัง

0
คริส 4 พ.ค. 59 เวลา 17:38 น. 6

พี่ขอให้น้องหายไวๆเน่ออออ ดีมากเลย เกิดมาพี่ก็พึงเคยได้ยินไรแบบนี้ มีประโชยน์ กระทุ้น้องอาจช่วยใครได้อีกหลายๆคน สู้ๆน่าาา พี่ไม่ใช่หมอไม่มีความรู้แต่ก็คงบอกได้แค่รักษาสุขภาพให้ดี ทานอาหารมีประโชยน์ พักผ่อนมาๆ ร่างมีร่างเดียวเนอะ พังไปไม่มีเปลี่ยน ^^ หายไวๆเน่ออออ สู้สู้

0
wachiraya0508 5 พ.ค. 59 เวลา 03:21 น. 7

เราเป็นคนผลัดวันประกันพุ่งเหมือนกัน
นอนไม่เป็นเวลา
กลับจาก รร. วางกระเป๋าแล้วลงเตียงตลอด ตื่นมา 2-4 ทุ่มบ้างค่อยทำการบ้านต่อ หรือไม่ก็ตื่นอีกทีเช้าก็มี การเรียนเลยแย่ไปด้วย (ก็การบ้านไม่ค่อยทำนี่ละเอาแต่นอน55555)

ไม่เป็นหนักเท่า จขกท. นะ ถ้าไม่ได้อ่านคงนึกว่าขี้เซาธรรมดาซะอีก


0
Nuumai 26 ธ.ค. 60 เวลา 13:45 น. 8

ขอบคุณมากเลยแล้วอาการง่วงตลอด หลัยตาก็ฝันได้เลย อ่านหนังสือแล้วหลับแต่พอลุกขึ้นเดินหาย แบบนี้เข้าข่ายไหม รอนมากเท่าไหร่ก็ไม่หายง่วง ออกกำลังกายก็เหมือนเดิม

0