Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เขาชอบเราจริงๆหรือเขาแค่อ่อย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ตามระเบียบก็คือนี้เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะคะ ไม่มีการมโนแน่นอนค่ะ
ตอนนี้เรามาเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่ญี่ปุ่นค่ะ ขออณุญาตใช้เเทนตัวเองว่า'เรา'นะคะ
เนื่องจากที่โรงเรียนเรา มีชมรมแล้วเขาบอกว่าให้คนไทยเข้าชมรมไปก่อน แล้วถ้าไม่ไหวยังไงก็ค่อยดูอีกที เราก็เลยตัดสินใจเข้าชมรมชมรมหนึ่งเพราะอยากเข้า น่าสนุกไรงี้ แต่พอเข้าไปแล้วแบบอย่างกะฝึก รด ค่ะ คือมันเป็นอะไรที่ทรหด อดทน มากกกกก แต่ก็สนุกดีนะคะ พอเราได้เข้าชมรมแล้ว จากที่ว่าเป็นคนไทยด้วยแล้ว ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนญี่ปุ่นมาคุยด้วยเองแหละ แต่ไม่ ไม่ใช่เลย มันไม่ใช่อย่างนั้น คนญี่ปุ่นเป็นประเภทเข้าถึงยาก หรือเพราะอะไรไม่รู้เขาไม่มาทักเราเลย แต่!!! ตอนนั้นมีอยู่เสียงๆหนึ่ง ทักขึ้นมาว่า "สวัสดีครับ" เป็นภาษาไทยที่ไม่ชัด พอเราหันไปก็เจอกับ ผู้ชายคนหนึ่ง ตัวไม่สูงมาก (168 รู้มาแล้ว 555) ขาวๆ ตี๋ๆ น่ารักมาก หัวโล้น ไม่มีผมเลย พูดง่ายๆคือโกนหัวอะค่ะ เรานี้แบบใจไปแล้ว รู้จักรักแรกพบไหมคะ? นั้นแหละค่ะ จากที่ว่าคงไม่มีคนญี่ปุ่นคุยกับเราแล้ว ก็เป็นเขาที่เข้ามาคุย เข้ามาทัก เราก็เลยถามพี่คนไทยที่อยู่ชมรมเป็นรุ่นพี่ ว่าแบบเขาคือใคร อะไรยังไง ก็ได้ผลมาว่า เขาคือคนที่เก่งที่สุดในชมรม เรานี้ โอ้ววว แอบชอบคนที่สูงอีกแล้ว(ไม่ใช่ตัวนะคะ ตัวมันเตี้ย ฮ่ะๆ) เราก็ตั้งชื่อเขาว่า 'มังกร' เพราะเพื่อนเราบอกเขาหน้าเหมือนคนที่แสดงเป็นมังกรในเรื่องนาเนียร์ พอเราไปดูเห้ย!เหมือนจริงๆ ไม่เชื่อไปดูได้ค่ะ ตอนที่เราไปชมรมมังกรก็จะชอบพูดตอนเราสวัสดีเขาว่า"ออน! น่ารักเนอะ"(ขอใช้ชื่อแทนตัวเองว่า'ออน'นะคะ) พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆจนพ้นหนึ่งเดือนจากที่เคยคุยกัน เขาเคยทักเราก่อน ทักในที่นี้คือเจอหน้ากันแล้วทักนะคะ ไม่ใช่พิมคุยกันฮ่ะๆ เขาก็เปลี่ยนไปเหมือนคนละคน คือไม่คุย ไม่ทัก ไม่ยุ่ง มองหน้าเหมือนมีอะไรแล้วไม่พูด เรานี้ก็งงสิคะ ว่าเห้ย เราทำอะไรผิดรึเปล่ารึยังไง? ช่วงนั้นเป็นช่วงที่แบบ เขาอ่อยให้อยากแล้วก็จากไป ประมาณนั้น เดือนที่สาม เขาก็กลับมาคุยกับเรามากขึ้น และเป็นช่วงที่ชมรมได้ไปแข่งที่จังหวัดอื่น เราก็ไปด้วย นอนห้องละคน แถวๆนั้นมีห้างอยู่ข้างๆโรงเเรม เรานี้โอ้ สบายละ ตอนเย็นครูบอกให้ไปไหนก็ได้ แต่ต้องกลับมาทันสามทุ่มครึ่ง โอเคเลยครู ฮ่ะๆ ห้างค่ะห้าง ทิ้งห้างไว้กับผู้หญิงคุณบ้ารึเปล่า แต่สุดท้ายเราก็ซื้อของมาแค่นิดเดียวเอง เพราะอะไรนะเหรอ? กระเป๋าไม่มีที่ใส่นะสิ แค่ชุดอย่างเดียวเราก็ปาไปกี่อย่าง ไหนจะอุปกรณ์ป้องกันอีก หนักนะเว้ยย ที่เราเล่าเรื่องนี้ก็เพราะว่า ตอนที่ครูปล่อยไป เราก็ไปแฟมิลี่มาร์สกับพี่คนไทยที่อยู่ชมรมเดียวกัน ก็ถามเขาว่า "พี่รู้ไหม? มังกรชอบใคร" แล้วพี่เขาก็ตอบกลับมาว่า "ชอบคนนี้" แล้วก็ชี้มาทางเรา ไอเรานี้ก็แบบกรี๊ดไปแปดตลบสิค่ะ เราชอบใคร ก็ไม่ค่อยสมหวังสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้จะสมหวังแล้วเหรอ แต่เราก็กลัวโดนหลอก ก็ถามไปว่า "รู้ได้ไง" พี่เขาก็บอกว่า "ก็พี่ไปซ้อมที่ที่ซ้อมทุกวัน(ซ้อมเพิ่มนะคะ คือปกติจะซ้อม สี่โมงถึงทุ่ม แต่จะมีบางคนที่อยากซ้อมเพิ่มอีกเป็น หนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม นะค่ะ) พี่ก็เห็น พี่วัว(พี่เขาหน้าเหมือนวัวเราเลยขอแทนชื่อเขาเป็นวัวละกันเนอะ) เขาล้อมังกรประมาณแบบเอาเนื้อเพลงที่มีคำว่าเธอ เปลี่ยนเป็นชื่อเรา อะไรยังงี้" เรานี้แบบเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนเลย แต่ตอนนั้นเราก็เผื่อใจไว้บ้างว่าบางทีเขาอาจจะแค่เล่นๆไรงี้ ตอนขากลับ เรากำลังเดินอยู่บนถนน เราก็ได้ยินเสียงคนเรียกจากข้างหลัง เป็นเสียงที่คุ้นเคย ว่า "ออน! ออน! คัมมอน!" เรานี้เเบบนึกภาพที่พี่คนไทยเราให้ฟังแล้ว ไม่อยากหันไปเจอหน้าเขา ไม่ใช่เพราะเกลียด แต่เพราะเขิน ใครจะไปกล้าสู้หน้าไหว ถึงบางทีเขาอาจจะเล่นๆก็เถอะ สุดท้ายเราก็ต้องเดินไปหาเขา -ค่ะ- ฮ่ะๆ เขาก็ยื่นไอติมองุ่นมาให้ คือลักษณะจะเป็นไอติมเป็นลูกๆอยู่ข้างในถุงเวลากินต้องบีบแล้วกินเอา เราก็จะให้หยิบเหรอ มันเปื้อนนะ แต่แบบนึกคำไม่ออกทำได้แค่งงค่ะ ฮ่ะๆ เขาก็บอก "อ้าาาา" แล้วก็อ้าปากให้ดู เราก็พอเขาใจว่าให้เราอ้าปาก แต่เราก็เกรงใจจะถาม แต่พออ้าปากจะถามเขาก็ยัดไอติมเขาปากเรา ย้ำนะคะ ว่ายัด! ทำไมอ่านฉากนี้แล้วมันดูติดเรทยังไงไม่รู้ฮ่ะๆ เราก็แบบเอ่อม กล้ากินต่อเหรอ?แต่เขาก็กินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มเขินเขามากขึ้น จากที่อยู่ใกล้ๆได้ เราก็ขออยู่ไกลๆเพราะเขินมากกก ใจละลายเเล้วค่ะ แต่ใครจะไปรู้พอผ่านไปเรื่อยๆ เดือนที่ห้าเขาก็เริ่มเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วคือ ไม่คุยไม่ทัก เราก็แบบ อ้าวเราทำไรผิดอีกวะเนี้ย และเดือนที่หกเดือนที่เจ็ดโหมดต่างๆของเขาก็เริ่มมากขึ้นจากแค่คุยกันก็มีการแตะมือกันบ้าง เราโดนลูบหัวบ้าง คือมันเป็นอะไรที่ แตะมือเราโอเค แต่ที่เขาลูบหัวเรารู้สึกว่ามันเกินไป มันเกินไปกับใจเรา ใจเราไม่ได้เข็มแข็งพอนะเว้ย ที่จะให้คนที่ตัวเองชอบมาลูบหัวอะ แล้วเราก็รู้มาอีกว่ามังกรเคยโดนถามเรื่องชอบใครในชมรม มังกรตอบไปว่าเรา แล้วเขาก็ถามว่าทำไมถึงชอบ มังกรก็ตอบไปว่า เพราะน่ารัก นิสัยน่ารักดี เขาถามว่าชอบเท่าไหน มังกรตอบว่า ชอบมาก เรานี้ได้ยินมาก็เขินเป็นเหมือนกันนะ ฮ่ะๆ เราไม่รู่ว่าข่าวนี้จริงไหม แต่มีคนได้ยินหลายคนแล้วเขาเอามาเล่าให้เราฟัง ก็ขอบคุณผู้ได้ยินมาด้วยน่ะค่ะ เดือนแปด เย้! เขาก็เริ่มสนิทกับเรามากขึ้น เขาช่วยเรายกของ ช่วยอะไรหลายๆอย่าง อยากจะขอบคุณเขามาก แล้วช่วงนั้นเป็นวันเกิดมังกรเขาเล่นเค้กกัน แล้วเราได้เขียนบล็อกของชมรม เราเลยลงรูปที่หน้ามังกรเปื้อนเค้กลง แล้วก็ตอนกลางคืน เพื่อนที่อยู่ชมรมเดียวกันเขาก็บอกว่า เออ เนี้ยมันไม่ดีนะ ลงรูปนั้น เราก็บอก โอเค เดี๋ยวลบ พอเราไปดูรูป มันก็จริงอย่างนั้นแหละ มันดูไม่ดีสักเท่าไหร่ เราอยากจะขอโทษมังกร เราเลยทักไลน์ไปแบบ"ขอโทษนะคะ" เขาก็ถามว่า"เรื่องอะไรเหรอ?""เกิดอะไรขึ้น?" เราก็บอกไปว่า"เราเป็นคนเขียนบล็อกแล้วเราลงรูปนี้ไป"แล้วก็ส่งรูปให้เขาดู เขาก็บอก"จริงดิ?" เราก็บอก"ขอโทษนะคะ" แต่เขาก็บอกว่า"ไม่เป็นไร ลงได้ ไม่ต้องคิดมาก"เรานี้แบบเอื้อกกก ตายค่ะตาย แล้วเขาทักมาว่า "ฝันดีนะ" เรานี้ตายรอบสองค่ะ "ฝันดีค่ะ" ตอบกลับไปด้วยข้อความนี้ถึงมันจะดูไม่มีค่าแต่เราก็ส่งใจเราไปด้วยน่ะ ฮิ้วววว เข้าถึงเดือนที่สิบ วันวาเลนไทน์ก็มี ที่ญี่ปุ่นผู้หญิงจะเป็นคนให้ ไม่ค่อยแฟร์สักเท่าไหร่เลยเนอะ ฮ่ะๆ เราก็ให้ไปเป็นแบบพิเศษด้วย ซื้อมา ทำไม่เป็นฮ่าๆ แต่เราก็ให้คนทั้งชมรมนะ แค่ของมังกรพิเศษกว่าแค่นั้นเอง เราก็มารอลุ้นว่าเดือนหน้ามังกรจะให้กลับเราไหม เดือนที่สิบเอ็ดแล้ว มันมาถึงแล้ว สุดท้ายมังกรให้กลับนะ แต่เหมือนกับของคนอื่นเลย เหอะ สุดท้ายเราก็เป็นได้แค่คนธรรมดาสิเนอะ เราก็ตั้งใจจะเลิกชอบอย่างจริงจังละล่ะ เพราะชอบไปมันก็คงไม่มีโอกาสแต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากนั้นโมเมนต์ดีๆก็เริ่มมี มีแล้วก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เขามาชวนไปกินข้าวด้วยกัน แล้วจะเลี้ยง เขาบอกกับคนอื่นว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเราดีขึ้นและดีมาก เขามาคุยกับเรา เขาร้องเพลงให้เราฟัง เขาลูบหัวเรา เขาเเตะมือกับเรา เขาจับมือเราแตะมือ เขาให้เราจับกล้ามเขา(หุ่นดีมากค่ะ) หลายๆอย่างที่เราได้จากเขามันดี เรารู้สึกดี แต่เราก็ต้องเผื่อใจเพราะบางทีเขาอาจจะคิดกับเราแค่<น้อง>ก็ได้ แต่มันมีช่วงที่พีคที่สุดที่เราไม่มีวันลืมแน่นอนคือตอนที่ชมรมเราได้ไปแข่งที่ฮอกไกโดเป็นอะไรที่โมเมนต์แบบเอื้อกตายค่ะตายยั่งกับในละครเลยค่ะ ฮ่ะๆ คือมันก็แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมคะว่าที่ฮอกไกโดมันหนาวมีหิมะตกแล้วช่วงนั้นที่ไปก็หน้าหนาวของญี่ปุ่นพอดีก็นั้นแหละค่ะหนาวบรรลัยฮ่ะๆ ไอหนาวไม่เท่าไหร่ค่ะหิมะนี้ซิค่ะ เปียกไปเกือบทั้งตัวเลยโดยเฉพาะหัวแล้วคือตอนเช้าต้องรอรถบัสของชมรมมาครูจะเป็นคนไปเอาแล้วเนื่องจากชมรมเราเป็นคนมารยาทดีมากกเกินไปเลยไปรอหน้าโรงแรมแล้วมีรถอันอื่นมาเข้าไม่ได้เลยไปรอข้างๆโรงเเรมเป็นร้านอะไรไม่รู้เราอยู่ปีหนึ่งเราก็ต้องอยู่ข้างหลังๆแล้วหลังคามันอยู่ได้แค่ข้างหน้าๆไอปีหนึ่งก็ยืนเเข็งตายในหิมะไปเถอะค่ะแต่ใครจะไปรู้อยู่ๆเราหันไปข้างๆเจอมังกรมายืนอยู่ข้างๆแล้วก็เอื้อมมือมามาปัดหิมะที่อยู่บนหัวแล้วก็ผมให้ เรานี้ตายค่ะตาย เขาก็ปัดแล้วเขาก็พูดว่า"หนาวไหม""หนาวเนอะ" พูดเองตอบเองเราห็ทำได้แค่พยักหน้าค่ะ พูดอะไรไม่ได้เขิน ตอนที่ขึ้นรถปกติเราจะได้ไปนั่งข้างหน้าเพราะเป็นปีหนึ่งแต่เหมือนมีของมาวางเราเลยได้นั่งใกล้ๆกับมังกรแต่เป็นข้างหน้าแทน พอรถแล่นไปได้สักพักก็มีมือมาปัดหมวกของเสื้อกันหนาวให้เราก็หันไปเจอมังกรปัดให้แล้วพูดมาน่ารักมาก"หิมะ"แล้วก็ยิ้มไอเรานี้ใจละลายเลยสิค่ะ คือเรามาที่ฮอกไกโดคนอื่นมาแข่งแต่เราเหมือนเรามาเที่ยวค่ะ เป็นเมเนเจอร์ค่ะ ก็ไม่มีอะไรมากก็แค่เขียนบล็อกแล้วก็จับเวลาอะไรประมาณนี้ คือก่อนแข่งหนึ่งวันเขาจะให้เด็กมาซ้อมก่อน ตอนที่ซ้อมที่ฮอลล์จริงมังกรซึ่งเป็นถึงประธานชมรมก็ฝากโทรศัพท์ไว้กับเราและสายสร้อยคอ(แบบที่นักกีฬาใส่กันอะ)ซึ่งเป็นการโยนมาตอนแรกเราไม่รู้ว่าของใครเพราะตอนที่เรายืนดูนาฬิกาหยุดเวลาอยู่มันลอยมาพอดี แล้วเหมือนซ้อมที่จริงแล้วแล้วจะได้มาวอร์มที่ตึกข้างๆเป็นฮอลล์ข้างๆแต่คนมันเยอะมากเยอะจริงๆฮอลล์เลยไม่ว่างก็ต้องนั่งรอ แต่เราซึ่งค่อนข้างงงกับเวลาก็เลยมานั่งเรียนรู้การกดนาฬิกาหยุดเวลาด้วยตัวเองตอนที่เรากำลังโง่อยู่มังกรก็เดินมาหาและบอกว่าขอโทรศัพท์เราหยิบและยื่นให้แต่ตอนที่เรากำลังยื่นให้สิ่งที่ติดมากับโทรศัพท์ก็คือสายสร้อยคอ แล้วมังกรก็หยิบไปทั้งสองอย่างแล้วก็บอกว่าอันนี้ให้ใส่เอาไว้แล้วก็เอาสายสร้อยคอมาใส่ให้เรา มันเป็นการอ้อมจากข้างหน้าไปติดที่ข้างหลังคือเป็นการกอดทางอ้อมก็ว่าได้ เราก็ทำได้แค่กดนาฬิกาหยุดเวลาแบบมือสั่นๆใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวฮ่ะๆ เขินสิเขิน ทุกอย่างก็ดำเนินไปเรื่อยๆแบบเราหน้าแดงมากฮ่ะๆ คือต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นที่หน้าแดงง่ายมาก ง่ายจริงๆคือเวลาหน้าแดงจะแดงมากแล้วแดงทั้งหน้ารวมไปถึงหูด้วย ตอนเย็นเราก็จะถอดคืนเขาแต่แบบของเยอะเราก็เลยเรียกเขาแล้วก็ใช้มือชี้ไปที่คอเขาก็บอกว่า"ขอบคุณนะ"แล้วก็เอาไป อีกวันหนึ่งเป็นวันแข่งค่ะชิลๆ เราชิลคนอื่นหนักฮ่ะๆ เราก็ไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งเฝ้าของให้คนในชมรมเเต่สิ่งที่เราเฝ้ามันสำคัญมากเลยนะเพราะมันคือโทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ฮ่ะๆ  ใช้คำว่าเฝ้าดูเหมือนหมาใช้คำว่าดูแลดีกว่าแล้วคือตอนกลับทุกคนต้องรีบกลับด้วยรถไฟค่ะ รีบไปซื้อตั๋วฮ่ะๆ แต่ปัญหามันอยู่ตรงของนี้แหละเราจะให้เพื่อนเราช่วยเพื่อนเราก็ต้องถือขยะที่ล้นมือเราก็แบบสงสาร ต่ของมันก็หนักแล้วต้องวิ่งแต่เราก็โอเคก็ได้ไม่เป็นไร วิ่งสี่คูณร้อยลงไปทีชั้นใต้ดินเลยค่ะฮ่ะๆ เหนื่อยก็เหนื่อยหนักก็หนักแต่ก็ยังโอเคกว่าเพื่อนเราที่ต้องถือถุงขยะค่ะ สักพักหันไปเจอมังกรเดินทางไหนไม่รู้แล้วก็พูดว่าเดี๋ยวช่วยถือ เราก็บอกไม่เป็นไรเขาก็บอกว่ามันหนัก แล้วก็ดึงไป แต่เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ ปีหนึ่งเพื่อนเราที่เราแบกของมาแต่ไม่ช่วยก็รีบวิ่งไปบอกมังกรว่าเดี๋ยวผมถือให้ครับเดี๋ยวผมถือให้ครับ  เป็นโมเมนต์ที่เราแอบสะใจเล็กๆ ตอนที่กำลังจะขึ้นรถไฟก็มีปัญหาค่ะคือพี่คนไทยหายค่ะคือทุกคนขึ้นรถไฟแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าพี่คนไทยหายพวกปีหนึ่งบางคนก็ต้องลงไปตามตอนถึงที่สถานีแล้วครูบอกเดี๋ยวครูจะรออยู่ตรงนี้ให้คนอื่นๆไปโรงแรมได้เลยที่นี้ก็เลยต้องหาโรงเเรมกันเองแต่ใครจะไปรู้ว่ามีปัญหาอีกแล้วคือโรงเเรมนั้นมีหลายสาขาแล้วเราไปกันผิดสาขาจ้า ตอนที่เดินออกมาจากครูก็กำลังจะไปทางออก เราก็ไม่รู้ว่าไปทางทางไหนแต่เราก็บอกเพื่อนว่าน่าจะทางนี้ฮ่าๆ แล้วมังกรก็ตะโกนมาว่าทางนี้เราก็โอเคแต่พอหันไปอีกทีเพื่อนเรากับคนในชมรมคนอื่นๆเดินขึ้นบันไดไปกันหมดแล้วเหลือเรากับมังกร จริงแล้วที่มังกรบอกทางนี้คือให้ขึ้นบันไดเลื่อนมาด้วยกันมังกรก็บอกว่า"ขอบคุณที่เหนื่อยยากนะ"เราก็บอก"ขอบคุณที่เนื่อยยากเหมือนกันค่ะ"เขาก็ยิ้มเเล้วก็ถามเราว่า"เหนื่อยไหม"เราก็พยักหน้าเขาก็ยิ้มแล้วก็ถามว่า"วันนี้ได้ดูเขาเเข่งไหม"เราก็บอก"ดูเก่งมากเลย6-0เเนะ"เขาก็บอก"8-0"แล้วก็ยิ้มเราก็บอ"กขอโทษมองไม่เห็นมันไกล"เขาก็บอก"ไม่เป็นไรๆ"แล้วก็ดึงเราเข้าไปกอดเรานี้ตกใจสัสแต่ก็ยอมให้เขากอดจะว่าเราว่าเราใจง่ายก็ได้แต่มันจะมีโมเมนต์แบบนี้อีกไหมที่เราจะได้กอดกับคนที่เราชอบแต่เราไม่ได้กอดกลับนะมือเราอยู่ที่เดิมเฉยๆ พอเดินขึ้นมาถึงประตูทางออกก็เจอคนอื่นรออยู่ฮ่ะๆ ตอนที่เรากำลังพิมอยู่นี้หน้ากับหูเราแดงมากเลยฮาะๆ ก็พอเดินไปเรื่อยๆเพื่อนเราก็ทักว่าเออนี้ไม่คุ้นเลย เราก็ว่างั้นแต่จังหวะที่เราเดินๆมังกรก็เดินทาคุยกับเรา พอไปถึงไฟแดงก็เห็นชื่อโรงเเรมอยู่ไกลๆก็เป็นโรงเเรมนั้นแต่มันไม่ใช่มันเป็นอีกสาขาหนึ่งคนที่นำทางไปกลุ่มแรกๆข้ามถนนไปแล้วเหลือกลุ่มที่มีแค่7คนคือ เรา เพื่อนเรา มังกร คนที่เพื่อนเราชอบ พี่วัว แฟนพี่วัว คนที่เพื่อนเราคิดว่าคนที่เพื่อนเราชอบชอบ เพื่อนเรานี้เศร้าเลย ตอนที่เดินกลับมังกรก็มาเดินกับเราแล้วก็คุยไปเรื่อยเปื่อยพูดถึงเพลงชาติประเทศไทยด้วย แล้วเขาร้องเพลงชาติไทยให้เราฟัง น่ารักดีค่ะ พอเดินไปถึงโรงเเรมก็เจอครูเเละกลุ่มที่ไปตามหาพี่คนไทยและพี่คนไทย แต่มีเรื่องช็อกกว่านั้นคือ ตอนแรกที่แบ่งเป็น3 คือกลุ่มที่ไปตามพี่คนไทย กลุ่มที่อยู่กับครู และกลุ่มที่นำมาก่อน ตอนนี้กลุ่มที่นำมาก่อนแบ่งย่อยเป็น5กลุ่มค่ะ  ฮ่ะๆ ที่นี้ตามหากันลั้ลล้าเลย ก็พอหลังจากกลับมาจากฮอกไกโดก็เป็นเหมือนปกติแต่เราได้คุยกันมากขึ้นแบบคุยกันเยอะมาก  เราชอบมาร์คก็อตเซเว่นแล้ววันนั้นมังกรถามว่ากี่โมงแล้วเราเลยเปิดหน้าจอให้แล้วมังกรก็ถามว่าใครเราก็ตอบไปว่ามาร์คมังกรก็ถามอะไรหลายๆอย่างน่ารักมากแล้วก็เปิดหน้าจอตัวเองแล้วมีรูปที่มังกรถ่ายกับเพื่อนและพูดว่านี้มังกรมีอยู่ครั้งหนึ่งมังกรบอกว่าตัวเองคือมาร์คเรานี้ขำเลยฮ่ะๆผ่านไปเรื่อยๆหลายๆโมเมนต์หลายๆเรื่องราวมันทำให้เรากลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราต้องเจ็บแน่ๆถ้าเขามีเเฟน เราต้องการที่จะออกห่างแต่ใจมันทำไม่ได้ มันทำไม่ได้จริงๆ เพราะอะไรนะเหรอ? เพราะเราชอบเขาไปแล้วไง

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

สู้สู้ 5 พ.ค. 59 เวลา 13:45 น. 1

มาถึงขนาดนี้แล้วคิดว่า จขกท ควรบอกชอบเขาไปตรงๆเลยนะคะเพราะจากที่เล่ามาก็รู้แล้วว่าเขาชอบ จขกท แน่ๆของอย่างงี้มันต้องเสี่ยงค่ะ โอกาสมาอยู่ตรงหน้าเราแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือน้า เอาใจช่วยนะคะ สู้ๆ !ตั้งใจ

1
JapanTK 6 พ.ค. 59 เวลา 19:08 น. 1-1

ขอบคุณนะคะ ใจจริงๆเราก็อยากจะบอกชอบไปตรงๆเหมือนกันค่ะ แต่เรากลัวเพราะว่าเราอยู่ชมรมเดียวกันแล้วต้องเจอหน้ากันทุกวัน กลัวว่าถ้าเขาไม่ได้ชอบเราขึ้นมาแล้วอะไรๆหลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป เรากลัวแค่นั้น ฮ่ะๆ แต่เราก็อยากลองเสี่ยงดูสักครั้งเหมือนกันค่ะ

0