Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กระทู้เตือนใจ แด่เด็กน้อยที่กำลังจะAdmission (จากพี่ที่ซิ่วมา2รอบ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

         สวัสดีค่ะ พี่ขอแทนตัวเองว่าพี่ละกันนะคะ ตอนนี้พี่เรียนอยู่คณะในฝันจากก้นบึ้งในหัวใจของตัวเอง นี่ก็ปี2 แล้ว มหาลัยก็ใช่สุดๆ เพื่อนก็ดี๊ดี ชีวิตสุดจะแฮปปี้เลยตอนนี้ พี่ขอเล่าแบบย่อๆไม่ลงรายละเอียดมากนะคะ ^^ 


        แต่ก่อนที่จะแฮปปี้ พี่จะย้อนกลับไปตอนช่วงม.6 ตอนนั้นน่ะหรอออ พี่ร้องไห้เสียน้ำตาไปเป็นลิตรๆแล้ววว 
        เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ตอนนั้นพี่เป็นเด็กอายุ17 ที่กำลังจะต้องเลือกคณะ คณะอะไรดีๆๆ คณะนู้นก็ไม่ดี คณะนี้ก็ตกงาน ขอบอกว่าตอนนั้นพี่เป็นคนคิดลบ ทัศนคติแย่มาก หารีวิวคณะอ่านไปเรื่อย โอ๊ยยยย สับสนๆ ไม่รู้จะเรียนอะไรแล้วววว  พี่ไม่ฟังเสียงหัวใจตัวเองหรอกตอนนั้น ทั้งๆที่พี่ชอบอ่านหนังสือวิเคราะห์ธุรกิจ ชอบเรื่องเกี่ยวกับเงินแท้ๆ สุดท้ายพี่ก็ไม่รู้จะเรียนอะไร สอบตรงติดคณะเศรษฐศาสตร์ก็เอาวะ ยืนยันเคลียร์ลิ่งเฮ้าเลยย อ้าวววว ไม่อยากเรียน ทำไงดี แต่จู่ๆคงเป็นโชคดี(มั้ง) มหาลัยที่พี่สมัครทิ้งไว้ดันประกาศช้า พี่สอบติดมหาลัยที่เด็กสายศิลป์เกือบทุกคนคงอยากเรียนแต่พี่ดันติดสายวิทย์ว่ะ ถึงคณะไม่ใช่ แต่มหาวิทยาลัยรองTop ไทยเลยนะแกร้ คิดในใจแล้วก็แพ็คกระเป๋าไปเรียนทันที 

       และแล้วก็มาเป็นFreshyใสๆ ในรั้วเหลืองแดง อะไรๆก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด แต่ก็เฉยๆกับคณะที่เรียน ไม่ภูมิใจเลย มันไม่ใช่ไม่โดนอย่างแรงงงง ตอนนั้นเรียนไปวันๆ เพื่อรอซิ่วโดยแท้ ถามว่าตอนนั้นจะซิ่วไปเรียนอะไร ก็ยังตอบไม่ได้อยู่ดี

       วันดีคืนดี ได้ยินเด็กฝั่งตะวันตกยิงศัพท์ธุรกิจใส่กัน โอ้ยานแม่!!! เท่ห์เชี้ยๆเลย ในใจก็เริ่มคิดคณะนี้เท่ห์จริงๆ แต่ก็ได้แค่คิด ไม่กล้าเรียนคณะนี้ มันไม่คูลในสายตาคนต่างจังหวัดว่ะ ไหนๆจะซิ่วทั้งที เลือกอะไรที่วงศาคณาญาติภูมิใจดิวะ คิดเองเออเอง ไม่ถงไม่ถามพ่อแม่ซักคำ

และก็ถึงเวลาAdmission ครั้งแรก
       แท่น แทน แท๊นนนนน พี่เลือกสายสุขภาพหมดเลยจย้าาาาาทั้ง4 อันดับ
แล้วก็มาเป็นFreshy ที่เกือบใสในรอบที่2ในคณะที่วงศาคณาญาติภูมิจ๊ายภูมิใจ แต่แม่จ้าววว รอบนี้ล่ะ ขอบอกว่า มีดราม่า น้ำตาท่วมจอเลยยย เรียนไปตรอมใจไป ฮรือๆๆๆๆ
      วันที่มาสัมภาษณ์ เริ่มได้กลิ่นถึงความพินาศในชีวิต เป็นกลิ่นจริงๆนะ สัมภาษณ์ในร.พ. เลย คณะนี้ไม่ใช่ตัวช้านนนนนน จบไปไม่อยากทำงานแบบเน้ ช้านเลือกอะไรมาาาา 
กลับบ้านบอกพ่อเลย 'ป๊าหนูขอหยุดเรียน 1 ปีนะ' แค่นั้นแหละ ตู้มมมมม กลายเป็นโกโก้ครั๊น บ้านแตกเลยจย้าาา ทะเลาะกันบ้านแตก ป๊าบอกว่าไม่เรียนที่นี่ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว เลือกเองทั้งนั้น บอกเลยว่าทำตัวเองล้วนๆไม่มีวัวผสม บอกเลยนะ พ่อแม่ไม่เคยบอกว่าต้องเรียนอะไร มีแต่พี่คนเก่าที่ไซโคตัวเองล้วนๆ
      สุดท้ายก็เข้าไปเรียนอย่างตรอมใจ กิจกงกิจกรรมอะไรก็ไม่ทำ อะไรๆก็แย่ๆๆๆในสายตาพี่ไปหมด กลับหอก็มานอนร้องไห้ทุกวัน คิดในหัวอย่างเดียวไม่อยากเรียนคณะนี้ ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
      จู่ๆ ก็มีคนมาดลใจ ทำไมเธอไม่ย้ายคณะล่ะ? เอ้ยยย ใช่ว่ะ ทำไมตรูไม่ทำเรื่องย้ายคณะ เช้ามารีบเลยจ้าา รีบไปติดต่อคณะๆนึงที่คิดว่าใช่แล้วล่ะ แต่ๆๆๆ เจ้าหน้าที่บอกว่า ย้ายได้ตอนปี 3 นะ WTF ช้านต้องทนเรียนในคณะนี้ตั้ง3 ปีหรอ ถ้าย้ายไม่ได้ล่ะ เท่านั้นล่ะ เดินกลับหอแบบคอตกเลย แล้วก็เริ่มร้องๆๆๆ ร้องจนเกิดสภาวะซึมเศร้าแล้ว เริ่มไม่ไปเรียน แย่สุดเริ่มอยากตาย
       และสุดท้าย เพื่อนรักก็โทรไปเล่าทุกอย่างที่พี่เคยระบายให้มันฟังแต่ไม่กล้าบอกแม่ ตอนเช้าแม่โทรมาบังคับให้พี่ลาออกเลย (สงสัยกลัวพี่กินเป็ดม่วง)

      และการAdmissionรอบที่2 และสุดท้ายก็มาถึง พี่เลือกคณะเดียวกัน มหาลัยเดียวกันหมดเลย ที่นี่ล่ะมหาลัยในฝัน และพี่ก็ติดในสาขาที่พี่ต้องการ เย่ๆๆ แต่ๆๆๆ ตอนนี้มันไม่Happy สุดหรอกนะ เพราะพี่ต้องปิดบังพ่อเรื่องลาออกจากคณะเก่า (ที่พี่คิดว่าแกภูมิใจที่พี่เรียนคณะนี้) 
     ตอนนี้พี่happy กับคณะกับมหาลัยมากเลยนะ พี่เรียนอย่างมีความสุข ยากแค่ไหนพี่ก็ไฝว้ เพราะมันใช่ว่ะแกรรร พี่ชอบทำธุรกิจ คณะนี้เหมาะกับช้านจริงๆ พอชีวิต happy ทัศนคติก็ดีขึ้น เริ่มทำตามความฝันที่อยากเป็นพิธีกร ก็เลยเดินไปออดิชั่นกับชมรม และก็ได้เป็นพิธีกรสมใจเลยย ใครเคยดูการติวแบรนด์บ้างงง

งานอะไรในมหาลัยก็มีส่วนร่วมมันซะหมด โอ๊ยยย มีความสุขจริงๆ
         แต่ก็สุขไม่สุดเพราะมีชะงัดติดหลังเรื่องที่ปิดบังพ่อ จนเวลาล่วงเลยไป

        เมื่อ3 เดือนก่อนหน้านี้ แม่บอกว่าพ่อจะขึ้น กทม ใส่ชุดนิสิตมาหาพ่อเลย   ลองดู 
วันนั้นใจพี่ตุ๊มๆต๊อมๆ มาก กลัวพ่อขึ้นสมอง แต่ๆๆ ท่านไม่แสดงอาการโกรธเลยเว้ยเห้ย อาจจะเคืองบ้าง แต่ยังไงพ่อแม่ทนเห็นเราทุกข์ไม่ได้หรอกจะบอกให้ ตอนนี้ท่านก็รู้แล้ว และตอนนี้พี่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลใจอีกแล้ว 

       ท้ายสุดจริงๆแล้วนะ เลือกคณะที่ใช่เถอะ อะไรๆ ก็มีงานทำทั้งนั้นแหละ ชีวิตต้องคิดบวกนะ อะไรดีๆจะวิ่งพุ่งชนเราเอง แค่เปลี่ยนทัศนคติ ชีวิตเปลี่ยน สำคัญที่สุดเลย อย่าเชื่อคำพูดใครมาก เพราะเค้าไม่ใช่เรา สิ่งที่เค้าเจออาจจะเป็นเพราะตัวเค้าเอง เหรียญมีหลายด้าน มีกระทู้โจมตีคณะนิติว่าตกงานแต่อีกด้านคนที่สอบได้ผู้พิพากษา อัยการเงินเดือนเป็นแสนก็มี เห็นมั้ยทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราทำ เอาล้ะหนูๆคงเข้าใจแล้วใช่มั้ย พี่เล่ามาซะยาวเลย เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจน้องๆที่กำลังจะต้องเลือกคณะและกลัวที่จะเลือกคณะในฝันของตัวเอง

      ที่จริงเรื่องระหว่างทางมันมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายเลยล่ะ พี่อาจจะดูเหมือนคนขี้แพ้ ไม่อดทนแต่พี่ก็มีเหตุผลของพี่เอง ขอบคุณคนระหว่างทางทุกคนเลยนะคะ 
      มีอะไรอยากคุยอยากปรึกษาพี่ เรื่องคณะ เรื่องคะแนน เรื่องสังคมมหาลัยแอดมาได้เลยนะ พี่ว่างพี่ะช่วยหนูๆเต็มที่ 
FB: gve karntida

ปล. กระทู้หน้าพี่จะสร้างแรงบันดาลใจให้หนูๆ ที่คิดว่าตัวเองหน้าปลวก อ้วน ดำ มีแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองกันเถอะ เย่ๆๆ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

Fight to be 6 พ.ค. 59 เวลา 11:12 น. 1

ขอบคุณนะคะพี่ ^^ ช่วยให้หนูมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ไม่นอยเรื่องclearing houseแล้ววว
จะเลือกคณะที่เราชอบและอยากเรียนที่สุด ถึงแม้คะแนนจะติดลบก็ตาม 5555

0
oumbuny 6 พ.ค. 59 เวลา 11:16 น. 2

ขอบคุณนะคะ พ่อแม่ก็อยากให้หนูเรียนครู เรียนสายสุขภาพ คะแนนถึงค่ะ แต่หนูเหมือนพี่เลย กลิ่นรพ.มันไม่ใช่555 หนูเลือกภาษาเลือกฟู๊ดไซน์ ที่ชอบและอยากเรียนหมดเลยค่ะ หลายคนก็มองว่าแปลก หรือกลัวหนูตกงานบ้างล่ะ แต่หนูมั่นใจว่า ถ้าเรียนที่ชอบ กำไรแรกของชีวิตก็มาละ

0
Rainboww ><" 9 พ.ค. 59 เวลา 23:30 น. 3

ชีวิตพี่เหมือนชีวิตหนูในตอนนี้เลยค่ะ เครียดมากๆ คือตอนปี1หนูติดคณะด้านสุขภาพม.ใกล้บ้าน แต่เรียนไปแล้วไม่ชอบ ไม่ใช่ตัวเราเลย ทำให้ไม่มีความสุขมากๆ ทำให้ใจลังเลว่าเราคงอยากเรียนอีกคณะนึง เลยลาออกมาอ่านหนังสือ1ปีค่ะ เพื่อสอบคณะสายวิทย์สุขภาพที่คะแนนสูงกว่า ทั้งๆที่ไม่ใครกดดัน แต่เราเลือกเอง มาถีงตอนนี้ยังไม่ติดที่ไหนเลยค่ะ เพราะเรารู้ตัวว่สเราชอบด้านภาษา ไม่ชอบเรียนวิทย์เท่าไหร่ จะไปด้านภาษาก้ไม่กล้า กลับไปสายวิทย์ก็ไม่ชอบ เครียดมากๆค่ะ

0