Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อึ้ง! สื่อไทยลงข่าวบิดเบือนคำพูดของทูตสวีเดน ให้เข้าข้างรัฐบาลทหาร (มีแคป)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



สุดอึ้ง! สื่อไทยบิดเบือนคำพูดทูตสวีเดนให้เข้าข้างรัฐบาลทหาร ทั้งที่ความจริงทูตสวีเดนเตือน เรื่องเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงออก โดยเฉพาะประชามติ หวั่นทหารออกกฎหมายไม่เป็นธรรม



ชาวเน็ตสับสน สื่อไทยแปลงสาร ออกข่าวขัดกับข้อความประกาศของเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย ทั้งข่าวจากไทยรัฐ และจากผู้สื่อข่าวผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์ วาสนา นาน่วม ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า สื่อไทยกำลังออกข่าวปลอมหลอกลวงประชาชน นับเป็นการผิดจรรยาบรรณสื่ออย่างโจ่งแจ้ง





แชร์จากเฟสบุ๊ค Pipob Udomittipong



สื่อไทยบอกว่า
“เอกอัครราชทูตสวีเดน ได้กล่าวสนับสนุนถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด อันจะนำมาซึ่งสังคมที่ปรองดองและความมั่นคงของประเทศต่อไป” 
https://politics.kachon.com/39208




แต่ Facebook สถานทูตสวีเดนกลับบอกว่า
ท่านทูต Herrström “ย้ำเตือนถึงข้อกังวลที่คณะทูตานุทูตของสหภาพยุโรปได้เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 7 เมษายนเกี่ยวกับประเทศไทย ท่านทูตเน้นโดยเฉพาะความสำคัญของเสรีภาพในการชุมนุมและเสรีภาพในการแสดงออก ทั้งนี้เพื่อให้สังคมได้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งสำคัญไม่เฉพาะกับบริบทการลงประชามติที่กำลังจะมีขึ้น หากยังรวมถึงการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย ท่านทูตยังเน้นถึงความกังวลเกี่ยวกับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของทหารในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2559 และเน้นถึงความสำคัญของหลักนิติธรรม”






ท่านที่เป็นวิญญูชนโปรดพิจารณา สื่อไทย รวมทั้งวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวบางกอกโพสต์ (https://twitter.com/WassanaNanuam/status/727802755532759041) บอกว่า ทูตสวีเดนสนับสนุนบทบาทของทหารในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แต่สื่อของทางการสวีเดนบอกว่า เขากังวลกับบทบาทที่เพิ่มขึ้นของทหารในการบังคับใช้กฎหมาย ท่านเชื่อใคร? 



หน้า facebook ของสถานทูตสวีเดน มีภาพประวิตร โรจนพฤกษ์ โดดเด่นกว่าท่านรองนายกฯ อีก เข้าไปดูสิ https://www.facebook.com/EmbassyofSwedeninBangkok/photos/a.195506280461948.49414.120425627970014/1188648801147686/?type=3&theater




ทั้งนี้ ข้อกังวลของสหภาพยุโรปที่ทูตสวีเดนกล่าวถึง คือเมื่อครั้งคณะทูตานุทูตสหภาพยุโรปเข้าพบรองปลัดกระทรวงต่างประเทศของไทยเมื่อ 7 เม.ย. เพื่อเรียกร้องให้ไทยมีประชามติที่เป็นธรรม ห่วงการจับกุมคนไปปรับทัศนติ และห่วงกฎหมายคำสั่งคสช.13/2559 ซึ่งเพิ่มให้อำนาจทหารจนละเมิดหลักนิติธรรม






สำหรับความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างสหภาพยุโรปกับไทย นอกจากด้านวิชาการอย่างทุนการศึกษา Erasmus และการให้ทุนความช่วยเหลือต่างๆแล้ว การค้าระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศไทยมีมูลค่ามหาศาลถึงประมาณ 2.7 หมื่นล้านยูโร (1.15 แสนล้านบาท) สหภาพยุโรปเป็นตลาดส่งออกอันดับสองของประเทศไทยรองจากอาเซียน การส่งออกของประเทศไทยไปยังสหภาพยุโรปมีมูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.25 แสนล้านบาท) 


ด้วยความสัมพันธ์อันดี ในอดีต มากกว่าครึ่งหนึ่งของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปจึงได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favoured Nation - MFN) และการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือเสียภาษีเพียงบางส่วนภายใต้ระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือจีเอสพี (Generalized Scheme of Preferences - GSP) ในบรรดาประเทศคู่ค้าของสหภาพยุโรป เดิมประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากจีเอสพีเป็นอันดับสองรองจากอินเดีย 


แต่ตั้งแต่รัฐประหาร สหภาพยุโรปได้ลดระดับความสัมพันธ์กับไทยลงมา 1 ขั้น ยังไม่ถึงขั้นที่ sanction ห้ามการนำเข้าสินค้าจากไทยก็จริงอยู่ แต่ก็เลิกให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศไทย ทำให้สินค้าส่งออกของไทยขาดความสามรถในการแข่งขันกับสินค้าในตลาดทวีปยุโรปทั้งหมด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ โดยสหภาพยุโรปประกาศว่าจะไม่คืนสิทธิพิเศษต่างๆให้ จนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งและปกครองตามระบอบประชาธิปไทยอย่างสมบูรณ์



แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Helegriel (Anarya) 6 พ.ค. 59 เวลา 22:00 น. 2

เห็นหลังไมค์มาถาม เอาอย่างงี้เดี๊ยนสรุปไทม์ไลน์ให้นะ

1.ไทยเป็นประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เคยเซ็นลงนามรับข้อตกลงเรื่องสิทธิมนุษยชนกับสหประชาชาติไว้ = จะต้องให้เสรีภาพการแสดงออก การชุมนุม การเลือกตั้ง ตามหลักประชาธิปไตยสากล

2. ตั้งแต่รัฐประหาร กลายเป็นรัฐบาลทหาร มันก็ไปละเมิดที่เคยเซ็นไว้ สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีสหประชาชาติ จึงประณามรัฐประหารของไทย และประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางทหารกับไทยจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง เลิกร่วมซ้อมรบและระงับความช่วยเหลือกองทัพไทย
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=750399

3.สหภาพยุโรปซึ่งมีอิทธิพลกับการค้าไทยมาก ก็ลงโทษโดยลดระดับความสัมพันธ์กับไทยลงมา1ขั้น โดยบอกว่าจะลดจนกว่ามีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ภาษีที่เคยลดให้พิเศษก็จะไม่ลดแล้ว ทำให้สินค้าไทยที่ส่งออกไปสูญเสียการแข่งขันในตลาดทวีปยุโรป
http://money.kapook.com/view91897.html

4. ปลาย มี.ค. รัฐบาล คสช.ออกคำสั่งที่ 13/1559 ให้ทหารสามารถจับกุมคนได้เหมือนตำรวจ โดยจับกุมแค่เพราะต้องสงสัย ยังไม่ต้องกระทำความผิดก็จับได้ + เข้าค้นบ้านใครก็ได้ + อยู่เหนืออำนาจฝ่ายปกครอง คือคนจะฟ้องศาลปกครองไม่ได้ว่าทหารทำผิด
http://www.dailynews.co.th/politics/388674

5. ตอน 7 เม.ย. คณะทูตานุทูตของสหภาพยุโรปมาเตือนว่า ไทยยังกำลังทำผิดที่เคยเซ็นไปอยู่นะ + คำสั่งที่ 13 ยิ่งเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
http://www.matichon.co.th/news/98677

6. ต่อมามีการเตือน จากทูตแคนาดา (แคนาดาไม่อยู่ในสหภาพยุโรป แต่อยู่ในสหประชาชาติ) ว่าคำสั่งที่13 ละเมิดสิทธิเสรีภาพคนไทยhttp://www.matichon.co.th/news/102676

7. ล่าสุด 4 พ.ค. ทูตสวีเดน เข้าพบประวิตร ซึ่งเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม

8. เฟสของสถานทูตสวีเดนรายงานว่า ทูตสวีเดนแสดงความเป็นห่วง เรื่องเสรีภาพในการชุมนุมและเสรีภาพในการแสดงออก จะต้องมีในประชามติรัฐธรรม และฟื้นฟูประชาธิปไตย + เตือนซ้ำเหมือนคนอื่นๆว่า คำสั่งที่ 13 ไม่เป็นธรรม

9.แต่คราวนี้ มีสื่อไทย(หลักๆคือ ไทยรัฐ และวาสนา นาน่วม ของบางกอกโพสต์) รายงานบิดเบือนคำพูดของทูตสวีเดนว่า ทูตสวีเดนสนับสนุนให้รัฐบาลทหารบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อสังคมที่ปรองดอง (ซึ่งแทบจะตรงข้ามกับสิ่งที่ทูตกล่าว) = ขาดจรรยาบรรณสื่อ + ไม่ให้เกียรติทูตสวีเดน

10.ต่อจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยเราก็รอดูจ้ะ


0