พวกที่มีเป้าหมายซิ่ว กสพท.แน่นอน เรียนคณะสถาบันไหนดีที่สุด

[กัลย์]

ของเก่าเอามาเล่าใหม่
พวกที่มีเป้าหมายต้องการซิ่ว กสพท.ปีหน้าแน่นอน และไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ เบื่ออยู่บ้าน กลัวทนแรงกดดันไม่ไหว พ่อแม่ไม่ให้อยู่บ้านอ่านอย่างเดียว ให้ไปเรียน ไม่อยากมีความคิดเป็นเด็กมัธยม อยากมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แบบนิสิต นักศึกษา จะได้วิเคราะห์ข้อสอบหรือเดา ถูกมากกว่าปีที่แล้ว
ถามว่า ควรเลือกเรียนคณะ หรือ สถาบันไหน ดีที่สุด ความเห็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเชื่อนะ ขอให้คำแนะนำ ดังนี้

1.เลือกสถาบันที่อยู่ใกล้สถานที่เรียนพิเศษ ประหยัดเวลาการเดินทาง เช่น จุฬาฯ
2.เลือกคณะ ตามคะแนนที่ถึงหรือบวก เช่น
ทันตะ
เภสัช
วิศวะ
สัตวแพทย์
วิทย์สุขภาพ สหเวชฯ(เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด โภชนาการ รังสีเทคนิค)
วิทยาศาสตร์ เช่น ชีวภาพ เคมี เคมีวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม ทางทะเล เทคโนโลยี่อาหาร วัสดุศาสตร์ ฯลฯ
คณะพวกนี้ ชั้นปีหนึ่งมีวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่ใช้ประโยชน์ในการสอบ กสพท.ได้มาก หากเลือกเรียนสายสังคม จะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย
3. ถ้าคณะที่ชอบและคะแนนถึง เป็นสถาบันที่อยู่ต่างจังหวัด
หรืออยู่ไกลจากสถานที่เรียนพิเศษมาก เช่น เภสัช ตจว.สัตวแพทย์ ตจว.
ก็ควรลดสเปคลง เลือกเป็นคณะอื่นเรียงลำดับตามที่กล่าว เช่น สหเวช
วิทยาศาสตร์ แต่เปลี่ยนเป็นเลือกสถาบันจุฬาฯ

ฉะนั้น พวกที่คะแนนหลุด กสพท.ไปนิดหน่อย ใกล้เคียงความจริง เกือบติด
ถ้าเลือกตามที่แนะนำ และต้องขยันอ่านหนังสือ ทำข้อสอบมากกว่าเดิม ไม่วอกแวก
ไม่เน้นกิจกรรม เพราะเป้าหมายเราไม่ได้อยู่ที่คณะนี้ รับรองติด กสพท.ปีหน้าแน่นอน

ผู้เขียน เพียงแต่มีประสบการณ์ในการวางแผนการเรียน การสอบ
สร้างคนให้ติดแพทย์ 2 คน ปี 52 ปี 56 โดยศึกษา การเลือก 4 อันดับ
และการสอบ กสพท.ตั้งแต่ปี 52 ที่ยังเป็นระบบ ความถนัดแพทย์ O-NET A-NET
โดยจ่ายเงินค่าเรียนพิเศษน้อยที่สุด 5,000 บาท ส่วนใหญ่เน้นอ่านเนื้อหา
สรุปย่อ ตะลุยโจทย์ ทำข้อสอบเก่าเองเป็นหลัก
ตามสถิติ คนที่สอบติดแพทย์ กสพท.ในแต่ละสถาบัน เกือบครึ่งหนึ่งจะเป็นเด็กซิ่ว
ข้อมูลนี้ได้มาจากคนที่ติด กสพท.ในแต่ละรุ่น และคิดว่าปัจจุบันและในอนาคต
ก็จะมีเด็กซิ่วที่ติด กสพท.เพิ่มจำนวนมากขึ้น มากกว่าในอดีต

ที่แนะนำให้เลือกคณะและสถาบันดังกล่าว เพื่อเรียนไปด้วย ซิ่วสอบ กสพท.ไปด้วย ถ้าไม่ติด จะได้มีที่เรียน ไม่เสียเวลา สามารถเรียนต่อเนื่องกันไปได้เลย เพราะมีโอกาสสอบอีกแค่ปีเดียว ถ้าอยู่ปี 2 สอบ กสพท.ไม่ได้อีกแล้ว ต้องลาออกตามระเบียบฯ หรือดร็อบเรียน
ในระหว่างเรียนปีหนึ่งที่สถาบัน หากสอบถามทุกคนก็จะไม่ยอมเปิดเผยว่า
จะซิ่ว กสพท.หรือไม่ แต่พอใกล้สอบ กสพท.ก็รู้เลยว่า ซิ่วกันเยอะแยะ
ฉะนั้น ปีหน้าหากยังไม่มีการแก้ไขระเบียบฯ ห้ามไว้ จึงเป็นการใช้สิทธิตามระเบียบฯ

- คนที่เรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย ซิ่วไปด้วย สอบติด กสพท.น้อยมาก
ไม่ได้ทุกคน นับคนได้
- คนที่อยู่บ้าน เตรียมตัวสอบอย่างเดียว สอบติดแพทย์ กสพท.ก็น้อยเหมือนกัน
ไม่ติดทุกคน นับคนได้
- คนทั้ง 2 กลุ่มข้างบนที่สอบติด กสพท.ส่วนมากจะเป็นเด็กที่เลือกอันดับผิดไป
มีความมั่นใจในตัวเองสูง เลือก 4 อันดับคะแนนสูง หรือติดสถาบันที่ไม่ชอบ
ไม่ได้เลือกแพทย์ ตจว ไม่เลือกปิดท้ายด้วยคะแนนต่ำๆ (กันพลาด)
กับเด็กที่เลือก 4 อันดับถูกต้องแล้ว แต่คะแนนหลุด กสพท.ไปนิดหน่อย
จึงอยากแก้ตัวใหม่ จะขยันขึ้นกว่าเดิม พวกนี้มีประสบการณ์แล้ว แก้ไขในจุดที่ผิดพลาด บกพล่องไป สอบใหม่ จึงมีโอกาสติด กสพท.แน่นอน

คนที่เรียนไปด้วย ซิ่วไปด้วย แล้วสอบติดแพทย์ กสพท.
รู้จักคนหนึ่ง ผลการเรียนปี 1 ที่จุฬาฯในปี 56 ก็ดีมาก เกรดเฉลี่ย 3.5 ขึ้นไป
มากกว่าเพื่อนเรียนจุฬาฯที่ไม่ซิ่วไปที่อื่น เพื่อนบางคนยังเสียดายเกรดแทน
บอกว่ายกเกรดให้ไม่ได้หรือ เค้าตอบว่าก็ยกให้ แต่เอาไปไม่ได้
ปัจจุบันเรียนที่อื่นแล้ว ก็ยังมีเพื่อนจุฬาฯ รักกันดี เป็นเพื่อนกัน คุยกันตลอดเวลา
เพราะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว

ขอพูดตามความจริง คงไม่โกรธกันนะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย
คะแนน กสพท.ปี57 ได้ 54.7 ถือว่าได้น้อย ถ้าได้ 58-59 สนับสนุนเต็มที่
คะแนน กสพท.ปี58 ได้ 52.7 ถือว่าได้น้อย ถ้าได้ 57-58 สนับสนุนเต็มที่
คะแนน กสพท.ปี59 ได้ 52.0 ถือว่าได้น้อย ถ้าได้ 56-57 สนับสนุนเต็มที่

ฉะนั้น ความเห็นส่วนตัว เห็นว่า ควรแอดฯคณะตามคะแนนที่ถึง
แล้วตั้งใจเรียนคณะที่แอดฯติดดีกว่า และทำเกรดให้ดีๆ
หากต้องการซิ่ว กสพท.ใหม่ ก็สมัครไป ไม่ต้องไปกังวลหรือหวังมาก สามารถเอาความรู้ที่เตรียมมา ใช้สอบ GAT/PAT ครั้งที่ 3-4 ได้ด้วย
ถือว่าเป็นของแถมตามสิทธิ์
หากติด กสพท.ก็ถือว่าโชคดีไป หรือได้คะแนน GAT/PATเพิ่ม
ก็อาจจจะเลือกคณะใหม่ตามใจที่ชอบได้(เลือกแบบไม่กลัวหลุดแอดฯ)
การสอบโดยไม่มีแรงกดดัน ไม่กังวลอะไร ส่วนใหญ่จะทำคะแนนได้ดี
หรือถ้าไม่ติด กสพท.หรือคะแนน GAT/PATไม่เพิ่ม ก็จะไม่เสียเวลา
เพราะมีที่เรียนอยู่แล้ว เรียนต่อเนื่องกันได้ทันที
ส่วนการเตรียมตัวสอบใหม่ ให้เรียนพิเศษเฉพาะวิชาที่เป็นจุดอ่อน
นอกนั้นอ่านสรุปย่อ ทำโจทย์-ปัญหาหรือตะลุยโจทย์ตามบท
ฝึกทำข้อสอบเก่า(ส่วนเนื้อหา ถ้ามีเวลาหรือยังไม่แน่นพอ ก็อ่านได้)

ลองเข้าไปดูของเก่า ที่เคยแนะนำไว้ ตามลิงค์ข้างล่างนี้
พวกมีเป้าหมายซิ่ว กสพท.แน่นอน เรียนคณะสถาบันไหนดีที่สุด
http://www.dek-d.com/board/view/3309536
http://www.dek-d.com/board/view/3461936/

Comments

[กัลย์]

เว็บเด็กดี ให้อิสระ เสรีภาพทางความคิดดีมาก(ยกเว้นโฆษณาจะแบนเร็วมาก)
ใครจะใช้ชื่อซ้ำกันอย่างไรก็ได้ ใครจะมีความเห็นอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับหัวเรื่องกระทู้ก็ได้
ใครจะบ่นอะไร หรือเพ้อเจ้ออะไร ไร้สาระอย่างไร ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านก็ได้

เสียดายที่เว็บเด็กดีได้ออกระเบียบ ข้อห้ามตั้งมากมาย แต่ก็ไม่สามารถจัดการ แก้ไข ป้องกัน
คนใช้ชื่อซ้ำ(ตัวปลอม) ความเห็นที่ไม่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กันกับหัวเรื่องของกระทู้
และความเห็นที่บ่นอะไร หรือเพ้อเจ้ออะไร ไร้สาระอย่างไร ไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านเลย
หรือจะต้องอดทนรอให้เว็บเด็กดี ค้นหาวิธี จัดการแก้ไข ป้องกัน ไปอีกนานระยะเวลาหนึ่งก่อน

[กัลย์]

มีหลายคนเรียนทันตะ เภสัช สัตวแพทย์ เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด โภชนาการฯ รังสีเทคนิค
วิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ และคณะอื่นๆ สอบ กสพท.ติดระหว่างเรียนก็มี ไม่ติดก็เยอะแยะไป

มีหลายคนเรียนจบ รับปริญญาคณะต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว มาสอบ กสพท.ใหม่อีก
เพื่อทำตามความฝันของตนก็เยอะแยะไป เพราะอยากเลือกอาชีพที่ตัวเองชอบ
ไม่กลัวเสียเวลา และไม่ยอมทำไปทำงานตามวุฒิที่จบ พยายามจนประสบความสำเร็จตามที่หวัง

ถ้าติด กสพท.แล้วก็จะรู้เองว่า เด็กซิ่วติด กสพท.เกือบครึ่งหนึ่งของรุ่นเดียวกัน
ลองพยายามดู ก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าโชคดีติดขึ้นมา ก็สามารถเปลี่ยนอนาคตของตัวเองได้เลย

[กัลย์]

ลืมบอกไป เด็กซิ่ว วิศวะ ที่สอบติด กสพท.ก็มีจำนวนมากเหมือนกัน

[กัลย์]

ลองอ่านกระทู้เก่าของปี 58 "จับปลาสองมือ #เด็กซิ่ว"
http://www.dek-d.com/board/view/3565173/