Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครมีเทคนิคการเขียน "ฉากจูบ" ดีๆบ้างคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยค่ะ

ปกติเป็นคนไม่ค่อยเขียนฉากจูบ จะเขียนทีนี่ก็เค้นกันจนสมองแทบทะลัก55(เว่อไป) บางครั้งเขียนเสร็จแล้วกลับไปอ่านก็รู้สึกว่ามันไม่ได้อารมณ์ ภาษาไม่สวย

เคยมีคนบอกว่าให้จินตนาการเหมือนจะจูบกับแฟนดู เราก็ไม่มีแฟนซะอีก55555555555 เลยจิ้นว่าจูบกับหนุ่มๆจากอนิเมะดู กลายเป็นว่าเขิน ไม่ได้เขียน5555

ใครมีเทคนิคดีๆมาแชร์กันหน่อยยย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 13:19 น. 1-1

นางเอกก็จะลงไปม้วนกลิ้งแดดิ้นกับพื้น 5555

0
bee123bee 23 พ.ค. 59 เวลา 10:08 น. 2

             ปึง!!!

            ฉันเลยฉวยจังหวะที่ออกัสปิดประตูวิ่งหนีเขา แต่หนีมาถึงแค่หน้าห้องน้ำออกัสก็คว้าท่อนแขนของฉันเอาไว้ได้ ก่อนจะผลักฉันไปกระแทกติดกับกำแพงด้านในของห้องน้ำ จนฉันรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวระบมที่บังเกิดขึ้นจากแผ่นหลังที่โดนกระแทกอย่างแรงกับผนังของห้องน้ำที่ถูกปูทับไปด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสี เท่านั้นยังไม่พอเขายังเบียดร่างกายร้อนๆ ของเขาตามมาติดๆ ฉันพยายามดิ้นรนทุกวิธีทางแต่ยิ่งดิ้นเท่าไรร่างกายของออกัสก็ดูเหมือนจะแนบสนิทกับร่างกายของฉันมากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามทั้งจิกทั้งข่วนเขาจนกระทั้งรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวจากปลายนิ้วก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ของ ของเหลวที่ไหลซึมออกมาทำให้รู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับมัน นี่อย่าบอกนะว่าเล็บฉันหัก แต่ดูเหมือนว่าฉันจะทำขนาดนี้แต่คนตรงหน้ายังไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย นี่ผิวหนังของเค้าทำมาจากเหล็กกล้ารึยังไงกัน นี่ฉันข่วนเขาจนกระทั้งเล็บหักยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีเพียงรอยยิ้มหวานหยด แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นเฉียบจนน่าขนลุกมาให้ฉันเท่านั้น

               “ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ให้ไปยุ่งกับหมอนั่น”

                ออกัสพูดออกมาก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยแววตาแข็งขืน ที่แฝงไปด้วยอันตรายอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยที่เขาก็เอาแต่จ้องหน้าแันพร้อมๆ กับส่งรอยยิ้มที่เย็นเฉียบจนฉันรู้สึกเย็นวาบไปถึงไขสันหลัง

                 “ฉันไม่”

               “หุบปากของเธอซะมิริน ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเธอ”

                ฉันยังพูดไม่ทันจบออกัสก็พูดแทรกขึ้นมาทันที โดยที่ไม่สนว่าฉันจะพูดแก้ตัวยังไง นี่เขาจะเผด็จการมากเกินไปแล้วนะ ได้ในเมื่อเขาไม่อยากฟังคำแก้ตัวของฉันฉันก็จะไม่ขอแก้ตัวก็แล้วกัน

                “แล้วยังไงนายจะทำไม ฉันจะเต็มใจรึไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายซักหน่อย อย่ามาทำเป็น อื้อ!!”

                   ฉันพูดได้เพียงแค่นั้นก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองลงไปในลำคอ เพราะถูกคนตรงหน้าบดเบียดริมฝีปากของเขาเข้ามาอย่างแรงและคุกคาม โดยไม่สนว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร ฉันเองก็พยายามดิ้นรนและต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายการกระทำที่ป่าเถื่อนของเขา ก็เอาชนะเรี่ยวแรงที่มีอยู่ของฉันได้อยู่ดี ซึ่งฉันเองก็ไม่เคยจะต่อต้านเขาได้เลยซักครั้งเดียว ได้แต่นึกเจ็บใจตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กับเขาอยู่ตลอดเวลา รสจูบที่รุนแรงบาดลึกเข้ามาจนฉันเริ่มดิ้นทุรนทุรายเพราะขาดอากาศหายใจ เขาถึงได้ถอนจูบของเค้าออก ก่อนจะพูดว่า “เธอไม่มีสิทธิ์ ที่จะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของฉัน ฉันบอกให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำตามไม่อย่างนั้นเธอจะต้องทุรนทุรายและทรมานยิ่งกว่านี้”

                  “นายมันบ้าอำนาจ เลวที่สุด"

                  “ฉันเลวได้มากว่านี้อีก ถ้าเธออยากจะรู้ว่าฉันมันเลวแค่ไหน เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู”
                   พูดจบออกัสก็จับหัวไหล่ฉันก่อนจับฉันกระแทกกับผนังอีกด้านหนึ่ง จนตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่ามันระบมไปหมดทั้งร่างกายเจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจ ก่อนที่เขาจะจู่โจมริมฝีปากของเขามาอีกครั้งโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันถูกริมฝีปากของออกัสบดขยี้ลงมาอย่างแรงแบบคุกคามก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกร้องและหวามไหวในเวลาต่อมา ถึงแม้ฉันจะพยายามขัดขืนซักแค่ไหน สุดท้ายแล้วร่างกายและจิตใจกลับทรยศอย่างไม่น่าให้อภัย ฉันในตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากขี้ผึ้งที่ถูกเปลวไฟที่ร้อนแรงแผดเผาแทบมอดไหม้ไปกับสัมผัสอันร้อนระอุนี้ ไม่มีแม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะทรงตัวยืนให้อยู่ยังทำไม่ได้ ฉันเลยต้องเอามือที่เป็นอิสระอยู่นั้นเกาะกุมหัวไหล่ของเค้าเอาไว้เพื่อพยุงตัวไม่ให้ร่วงลงกับพื้น พอฉันทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเหมือนฉันเปิดโอกาสให้เขารุกรานฉันมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่มือข้างหนึ่งของเขาเริ่มรุกรานเข้ามาด้านในร่มผ้าของฉันแล้ว

                เผาะ!

                หยาดน้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นมันเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็เริ่มไหลลงมาข้างแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่ จนออกัสเองก็รับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่เกิดขึ้นข้างแก้มของฉัน เขาเลยหยุดชะงักการกระทำไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะถอนจูบออกมา แล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาเหยียดๆ อย่างน่าสมเพชซะเต็มประดา

อันนี้เป็นตัวอย่างฉากหนึ่งที่ค่อนข้างรุนแรงเล็กน้อย เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องที่เราเขียนอยู่ เวลาเขียนต้องนึกถึงอารมณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ก็แอบเขินๆ อยู่ในอารมณ์เดียวกัน กว่าจะเค้นออกมาได้ค่อนข้างยากทีเดียวเพราะเวลาเขียนรู้สึกทั้งโกรธและเขินไปด้วยในตัว

ลงใหม่นะคะ

                 ปึง!!!

                ฉันเลยฉวยจังหวะที่หมอนั่นกำลังปิดประตูอยู่วิ่งหนีเขามา แต่วิ่งหนีมาถึงแค่หน้าห้องน้ำออกัสก็คว้าเอาท่อนแขนของฉันเอาไว้ได้ ก่อนจะผลักฉันไปกระแทกติดกับกำแพงด้านในของห้องน้ำ จนฉันรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวที่บังเกิดขึ้นจากแผ่นหลังที่โดนกระแทกอย่างแรงกับผนังของห้องน้ำที่ถูกปูทับไปด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสี เท่านั้นยังไม่พอออกัสยังเบียดร่างกายร้อนๆ ของเขาตามมาติดๆ ฉันพยายามดิ้นรนทุกวิธีทางแต่ยิ่งดิ้นเท่าไรร่างกายของออกัสก็ดูเหมือนจะแนบสนิทกับร่างกายของฉันมากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามทั้งจิกทั้งข่วนเขาจนกระทั้งรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวจากปลายนิ้วก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ของ ของเหลวที่ไหลซึมออกมาทำให้รู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับมัน
                 นี่อย่าบอกนะว่าเล็บฉันหัก
                 แต่ดูเหมือนว่าฉันจะทำขนาดนี้แต่คนตรงหน้ายังไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย นี่ผิวหนังของเขาทำมาจากเหล็กกล้ารึยังไงกัน นี่ขนาดฉันข่วนเขาจนกระทั้งเล็บหักขนาดนี้เขายังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีเพียงรอยยิ้มหวานหยด ที่แฝงไปด้วยความเย็นเฉียบจนน่าขนลุกมาให้ฉันแทน

                “ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ให้ไปยุ่งกับหมอนั่น”
                ออกัสพูดก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยก่อนจะกดบ่าของฉันให้จมลึกเข้าไปในกำแพงนั่นอีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลจ้องเขม็งมาที่ฉันราวกับอยากจะฆ่าแันให้ตายตรงนี้ซะให้พ้นๆ ไป

                “ฉันไม่”

                 “หุบปากของเธอซะมิริน ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเธอ”
                  ฉันยังพูดไม่ทันจบออกัสก็พูดแทรกขึ้นมาทันที โดยที่ไม่สนว่าฉันจะพูดแก้ตัวยังไง นี่เขาจะเผด็จการมากเกินไปแล้วนะ ได้ในเมื่อเขาไม่อยากฟังคำแก้ตัวของฉันฉันก็จะไม่ขอแก้ตัวก็แล้วกัน

                 “แล้วยังไงนายจะทำไม ฉันจะเต็มใจรึไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายซักหน่อย อย่ามาทำเป็น อุบ!!”
                   ฉันพูดเพียงแค่นั้นก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองลงไปในลำคอ เพราะถูกคนตรงหน้าบดเบียดริมฝีปากของเขาเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง โดยไม่สนว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร ฉันเองพอโดนกระทำแบบนั้นก็พยายามดิ้นรนและต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายการกระทำที่ป่าเถื่อนของเขา ก็เอาชนะฉันได้อยู่ดี โดยที่ฉันไม่เคยจะต่อต้านเค้าได้เลยซักครั้งเดียว ได้แต่นึกเจ็บใจตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้เค้าอยู่ตลอดเวลา เขาจุมพิตฉันเนิ่นนานจนฉันเริ่มดิ้นทุรนทุรายเพราะขาดอากาศหายใจนั่นแหละ เขาถึงได้ถอนจูบของเค้าออกมา ก่อนจะพูดว่า 
“เธอไม่มีสิทธิ์ ที่จะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของฉัน ฉันบอกให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำตามไม่อย่างนั้นเธอจะต้องทุรนทุรายและทรมานยิ่งกว่านี้”

                  “นายมันบ้าอำนาจ เลวที่สุด”

                 “ฉันเลวได้มากว่านี้อีก ถ้าเธออยากจะรู้ว่าฉันมันเลวแค่ไหน เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู”
                  พูดจบออกัสก็จับหัวไหล่ฉันก่อนจับฉันกระแทกกับผนังอีกด้านหนึ่ง จนตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่ามันร้าวระบมไปหมดทั้งร่างกาย เจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจ ก่อนเขาจะจู่โจมริมฝีปากของเขามาอีกครั้งโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันถูกริมฝีปากของออกัสบดขยี้ลงมาอย่างแรงแบบคุกคาม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกร้องและหวามไหวในเวลาต่อมา ถึงแม้ฉันจะพยายามขัดขืนซักแค่ไหน สุดท้ายแล้วร่างกายและจิตใจกลับทรยศอย่างไม่น่าให้อภัย ฉันในตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากขี้ผึ้งที่ถูกเปลวไฟที่ร้อนแรงแผดเผาแทบมอดไหม้ไปกับสัมผัสอันร้อนระอุนี้ ไม่มีแม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะทรงตัวยืนให้อยู่ยังทำไม่ได้ ฉันเลยต้องเอามือที่เป็นอิสระอยู่นั้นเกาะกุมหัวไหล่ของเค้าเอาไว้เพื่อพยุงตัวไม่ให้ร่วงลงกับพื้น พอฉันทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเหมือนฉันเปิดโอกาสให้เค้ารุกรานฉันมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่มือข้างหนึ่งของเค้าเริ่มรุกรานเข้ามาด้านในร่มผ้าของฉันแล้ว

                     เผาะ!

                    หยาดน้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นมันเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็เริ่มไหลลงมาข้างแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่ จนออกัสเองก็รับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่เกิดขึ้นข้างแก้มของฉัน เค้าเลยหยุดชะงักก่อนจะถอนจูบออกมา แล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาเหยียดๆ อย่างน่าสมเพชซะเต็มประดา


3
puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 13:57 น. 2-1

ลงอีกรอบได้มั้ยคะ กดดูตรงspoilไม่ได้TTUTT

0
bee123bee 23 พ.ค. 59 เวลา 14:19 น. 2-2

ปึง!!!
ฉันเลยฉวยจังหวะที่หมอนั่นกำลังปิดประตูอยู่วิ่งหนีเขามา แต่วิ่งหนีมาถึงแค่หน้าห้องน้ำออกัสก็คว้าเอาท่อนแขนของฉันเอาไว้ได้ ก่อนจะผลักฉันไปกระแทกติดกับกำแพงด้านในของห้องน้ำ จนฉันรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวที่บังเกิดขึ้นจากแผ่นหลังที่โดนกระแทกอย่างแรงกับผนังของห้องน้ำที่ถูกปูทับไปด้วยกระเบื้องเคลือบหลากสี เท่านั้นยังไม่พอออกัสยังเบียดร่างกายร้อนๆ ของเขาตามมาติดๆ ฉันพยายามดิ้นรนทุกวิธีทางแต่ยิ่งดิ้นเท่าไรร่างกายของออกัสก็ดูเหมือนจะแนบสนิทกับร่างกายของฉันมากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามทั้งจิกทั้งข่วนเขาจนกระทั้งรู้สึกได้ถึงความปวดร้าวจากปลายนิ้วก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ของ ของเหลวที่ไหลซึมออกมาทำให้รู้ว่าตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับมัน
นี่อย่าบอกนะว่าเล็บฉันหัก
แต่ดูเหมือนว่าฉันจะทำขนาดนี้แต่คนตรงหน้ายังไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย นี่ผิวหนังของเขาทำมาจากเหล็กกล้ารึยังไงกัน นี่ขนาดฉันข่วนเขาจนกระทั้งเล็บหักขนาดนี้เขายังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีเพียงรอยยิ้มหวานหยด ที่แฝงไปด้วยความเย็นเฉียบจนน่าขนลุกมาให้ฉันแทน
“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่รึไงว่าไม่ให้ไปยุ่งกับหมอนั่น”
ออกัสพูดก่อนจะมองมาที่ฉันด้วยก่อนจะกดบ่าของฉันให้จมลึกเข้าไปในกำแพงนั่นอีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลจ้องเขม็งมาที่ฉันราวกับอยากจะฆ่าแันให้ตายตรงนี้ซะให้พ้นๆ ไป
“ฉันไม่”
“หุบปากของเธอซะมิริน ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเธอ”
ฉันยังพูดไม่ทันจบออกัสก็พูดแทรกขึ้นมาทันที โดยที่ไม่สนว่าฉันจะพูดแก้ตัวยังไง นี่เขาจะเผด็จการมากเกินไปแล้วนะ ได้ในเมื่อเขาไม่อยากฟังคำแก้ตัวของฉันฉันก็จะไม่ขอแก้ตัวก็แล้วกัน
“แล้วยังไงนายจะทำไม ฉันจะเต็มใจรึไม่ มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายซักหน่อย อย่ามาทำเป็น อื้อ!!”
ฉันพูดเพียงแค่นั้นก็ต้องกลืนคำพูดของตัวเองลงไปในลำคอ เพราะถูกคนตรงหน้าบดเบียดริมฝีปากของเขาเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง โดยไม่สนว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร ฉันเองพอโดนกระทำแบบนั้นก็พยายามดิ้นรนและต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่สุดท้ายการกระทำที่ป่าเถื่อนของเขา ก็เอาชนะฉันได้อยู่ดี โดยที่ฉันไม่เคยจะต่อต้านเค้าได้เลยซักครั้งเดียว ได้แต่นึกเจ็บใจตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้เค้าอยู่ตลอดเวลา เขาจุมพิตฉันเนิ่นนานจนฉันเริ่มดิ้นทุรนทุรายเพราะขาดอากาศหายใจนั่นแหละ เขาถึงได้ถอนจูบของเค้าออกมา ก่อนจะพูดว่า “เธอไม่มีสิทธิ์ ที่จะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของฉัน ฉันบอกให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำตามไม่อย่างนั้นเธอจะต้องทุรนทุรายและทรมานยิ่งกว่านี้”
“นายมันบ้าอำนาจ เลวที่สุด”
“ฉันเลวได้มากว่านี้อีก ถ้าเธออยากจะรู้ว่าฉันมันเลวแค่ไหน เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู”
พูดจบออกัสก็จับหัวไหล่ฉันก่อนจับฉันกระแทกกับผนังอีกด้านหนึ่ง จนตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่ามันร้าวระบมไปหมดทั้งร่างกาย เจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจ ก่อนเขาจะจู่โจมริมฝีปากของเขามาอีกครั้งโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันถูกริมฝีปากของออกัสบดขยี้ลงมาอย่างแรงแบบคุกคาม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกร้องและหวามไหวในเวลาต่อมา ถึงแม้ฉันจะพยายามขัดขืนซักแค่ไหน สุดท้ายแล้วร่างกายและจิตใจกลับทรยศอย่างไม่น่าให้อภัย ฉันในตอนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากขี้ผึ้งที่ถูกเปลวไฟที่ร้อนแรงแผดเผาแทบมอดไหม้ไปกับสัมผัสอันร้อนระอุนี้ ไม่มีแม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะทรงตัวยืนให้อยู่ยังทำไม่ได้ ฉันเลยต้องเอามือที่เป็นอิสระอยู่นั้นเกาะกุมหัวไหล่ของเค้าเอาไว้เพื่อพยุงตัวไม่ให้ร่วงลงกับพื้น พอฉันทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าเหมือนฉันเปิดโอกาสให้เค้ารุกรานฉันมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่มือข้างหนึ่งของเค้าเริ่มรุกรานเข้ามาด้านในร่มผ้าของฉันแล้ว
เผาะ!
หยาดน้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นมันเอาไว้จนถึงเดี๋ยวนี้ ก็เริ่มไหลลงมาข้างแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่ จนออกัสเองก็รับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นที่เกิดขึ้นข้างแก้มของฉัน เค้าเลยหยุดชะงักก่อนจะถอนจูบออกมา แล้วมองมาที่ฉันด้วยสายตาเหยียดๆ อย่างน่าสมเพชซะเต็มประดา



ลงสปอยไม่ได้ เอ๋รึว่าเราลงไม่เป็นกันนะเยี่ยม

0
MuI2asaki [紫] 23 พ.ค. 59 เวลา 10:56 น. 4

จูบมีหลายระดับ
ถ้า Kiss เฉยๆ ก็ริมฝีปากประทับแผ่วเบา แต่จูบแบบนี้มักทำแป๊บเดียว
ถ้าจะลึกซึ้ง ก็ใช้บรรยากาศโดยรอบ หรือความรู้สึก รสสัมผัสช่วยบรรยายก็ได้ค่ะ

:)

1
K.W.E. 23 พ.ค. 59 เวลา 11:08 น. 5

จูบกับแฟน มันเหมาะกับตัวละครที่เราเอาตัวเองเป็นแม่แบบครับ

แต่การจูบในนิยาย(การ์ตูน) ทั้งหลาย จะมีสถานการณ์ที่ต่างกันครับ
ตั้งแต่แต่งนิยายมาเคยเขียนฉากจูบมาอยู่พอตัว แต่กระนั้นก็ทำให้เห็นว่าการจูบมีลักษณะที่ต่างกัน ขึ้นกับตัวละคร อารมณ์ตัวละคร ความรัก ความสัมพันธ์ บรรยากาศ เหตุที่จูบ ครับ เอาง่ายๆว่าผมเคยแต่งรูปแบบจูบมาประมาณนี้

- จูบปกติ (ทักทาย บอกรักประจำ)
- จูบลึกซึ้ง (รักจริง หรือก่อน/ระหว่าง เมคเลิฟ)
- จูบแบบพี่น้อง
- จูบมัดจำ
- จูบลา (เมื่อรู้ว่าจะต้องตายและแยกจากคนรัก)
- จูบแบบไม่ได้ตั้งใจ (พล็อตโหลของการ์ตูนยุคนี้ และแน่นอนว่าเหตุการณ์ต่อมาคือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายเขินอาย ไม่ก็เป็นฝ่ายชายที่ถูกชก)

จะเห็นได้ว่ารูปแบบและเหตุการณ์ก่อนหลัง มันจะแตกต่างหลากหลายมากครับ

ถ้าจะแนะนำล่ะก็ ผมว่าอย่าเพิ่งไปเน้นช่วงจูบจะดีกว่า
แต่แรกสุดคือเราต้องเข้าถึงตัวละครและอารมณ์ตัวละครในบทนั้นๆให้อิ่มตัวเสียก่อน ว่าทำไมถึงจูบ เหตุการณ์ใดชักพาไปให้ต้องจูบ ใครเป็นฝ่ายเริ่ม(จูบ)ก่อน แล้วจูบแล้วจะเป็นยังไงต่อไป ซึ้ง อิ่มสุข เขินอาย โมโห ซึนกลบเกลื่อน

ค่อยๆจัดองค์ประกอบพวกนี้ให้เข้าที่เข้าทางก่อน
ถ้ามันลงตัวแล้ว มันจะรวมกลายเป็นบทจูบที่อ่านแล้วฟินเองครับ

2
puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 13:18 น. 5-1

จะลองนำวิธีไปใช้ดูค่าา เป็นคำตอบที่ดีมากอ่ะ:)
ต้องเข้าถึงตัวละครมากกว่านี้อีก ขอบคุณที่แนะนำค่ะ:)
ตั้งใจ

0
namhom25636-ACT 24 พ.ค. 59 เวลา 17:22 น. 5-2

เฮ้ย!ใช้เวลาพิมพ์กี่ชั่วโมง #ไม่เกี่ยว (ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ)ว้าวปล.จริงๆแล้วถ้าเราพิมพ์หมดนี่ 3 นาทีก็เสร็จ พิมพ์เล่นคอมมาตั้งแต่ 6 ขวบอ่ะ ก็เลยเร็วมาก 55

0
nopoxa' 23 พ.ค. 59 เวลา 12:10 น. 6

ไม่รู้จะแนะนำยังไงแหะ... เอาที่เคยเขียนไว้มาให้ดูแล้วกันเนอะ


ชาย-หญิง

            เขายกมือขึ้นและใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมนุ่มมือของเธอเบาๆ..  เขาชอบจับมันมากจริงๆ.. ระยะห่างของทั้งสองไม่ได้ไกลกันมากนัก..  ไออุ่นจากตัวของเธอเหมือนเรียกร้องให้เขาขยับเข้าไปใกล้ๆอีกสักนิด... ไม่ทันไร...

                ...ไม่มีความคิดใดๆ... เขาเพียงปล่อยให้ร่างกายตัวเองพาไปเท่านั้น..... 

               เขาโน้มตัวลงกดจูบที่ริมฝีปากนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา
มันทั้งอุ่น.. และนุ่ม..   รู้สึกหอมหวานทั้งที่ไม่ได้กลิ่น..... ไออุ่นจากกายของเธอลอยขึ้นมากระทบกายของเขา... 


วาย

เมฆหยุดนิ่งฟังคำสารภาพของเพื่อนรัก... ฝ่ามืออุ่นๆของเก้าแตะลงบนผิวแก้มของเขา.. ...มันช่างอบอุ่น... เพียงไม่นานลมหายใจของเพื่อนรักก็ขยับเข้ามาใกล้ๆ.. ใกล้เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว.. ริมฝีปากอุ่นๆของเก้าขยับเข้ามา...

จนในที่สุดมันก็ประกบแนบชิด..

ถึงแม้ว่าเขาจะหลับตาลง..แต่สัมผัสอบอุ่นที่ริมฝีปากของเขามันชัดเจน.. สัมผัสนั้น.. มันทำให้เขารู้สึกเหมือนคุ้นเคย.. เหมือนว่าเขาเคยผ่านมันมาแล้ว... แต่เมื่อไหร่กันนะ .....

 เขาจำเกือบจะได้แล้วว่า.. จูบของเก้านั้น... อบอุ่นมกมายขนาดไหน...

แต่จำไม่ได้เลยว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเคยสัมผัสมัน... ริมฝีปากร้อนถอดถอนออกไปอย่างเชื่องช้า.. ลมหายใจอุ่นๆยังคงวนเวียนที่ปลายจมูก.. ดวงตาของเมฆค่อยๆปรือลืมขึ้นมาอีกครั้ง... ขนตาเก้าที่รับกับแสงสีน้ำเงินของค่ำคืนมันช่างสวยงาม..

 สวยกว่าภาพวาดบนแคนวาสของศิลปินชั้นเอก..

ไม่มีคำพูดใดๆ.. มีเพียงความอบอุ่นและความเงียบ..
           และเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ได้ยิน.. ริมฝีปากร้อนขยับเบียดเข้ามาอีกครั้งก่อนที่ฝ่ามืออบอุ่นจะดึงเอาร่างกายที่ไม่ขัดขืนของเมฆเข้าไปในอ้อมกอด..

สัมผัสอันนุ่มนวลของเพื่อนรักนั้นชักชวนให้กายสั่นไหวและไร้เรี่ยวแรง

ลมหายใจที่ถอดถอนออกมาส่งเสียงดังขึ้นทีละนิดเมื่อเพื่อนรักเบียดเบียนป้อนเอาไออุ่นผ่านริมฝีปากให้กับเขา.. และแลกมันไปด้วยรสชาติและความหอมหวานของตัวเขาเอง.. ร่างกายร้อนระอุของเก้าโถมทับร่างของเมฆให้เอนลงบนพื้นเตียงนุ่ม..

ความอบอุ่นของเก้า..ต้อนเอาร่างกายของเมฆให้จนมุม...จน...หมดหนทางขัดขืน..

เสื้อยืดที่ใหญ่เกินตัวของเมฆนั้นมันทำให้ง่ายต่อการปลดเปลื้อง.. ไม่ทันไรฝ่ามือร้อนระอุก็ไล้ไปบนผิวกายอุ่นเรียบลื่น... ผิวที่ไร้ซึ่งสิ่งใดมาปิดกั้น... ลมหายใจของเมฆถูกช่วงชิงไปจนขาดเป็นห้วง.. ความกระหายของเก้าทำให้เมฆแทบจะขาดใจ.. เมฆยกมือขึ้นดันร่างกายร้อนที่โถมทับเข้ามาเมื่อถูกริมฝีปากของเพื่อนรักกวาดต้อนจนใจหวิว

ตัดจบ ฉึบ !



2
puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 13:22 น. 6-1

เกลียดคำว่าตัดฉึบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ตามไปอ่านต่อแป๊บ 555555

0
puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 14:02 น. 7

ขอบคุณทุกคำตอบเลยนะคะ สรุปได้ว่ามีหลายวิธีมากแล้วเราก็ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะๆๆๆ

ปล. แต่ที่บอกว่าจิ้นว่าจูบกับแฟนดีที่สุดนี่เจ็บจี๊ดจริงๆ ต้องหาแฟนซะมั้งเนี่ยเรา555

0
MiiiNiii 23 พ.ค. 59 เวลา 18:32 น. 8
ตัวอย่างนิยายของเราเอง แนวจีนโบราณผสมแฟนตาซี

จูบแรกแบบเต็มใจ
และความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วห้องอีกครั้ง อวี้หลิงผละออกจากร่างบางเล็กน้อย ยกมือขึ้นซับน้ำตาให้นาง แล้วเขาก็สังเกตเห็น รอยแดงจ้ำที่คอระหง แววตาพลันมีไอสังหารพาดผ่านคราวนี้รุนแรงกว่าครั้งแรกมากนัก 

อวี้หลิงจับไหล่ทั้งสองข้างของนาง ดันตัวให้นอนลงไป แล้วขึ้นคล่อมร่างบางเอาไว้ 

เหมยฟางตกใจเล็กน้อยกับท่าทีของเขา แต่ไม่ได้ต่อต้าน ไม่ได้ขัดขืน ไม่ได้หลบเลี่ยง ไม่แม้แต่จะห้ามเขา 

เขาโน้มศีรษะลงมองนางจากด้านบน มือข้างหนึ่งยันอยู่ข้างหมอน ส่วนอีกข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามลำคอระหงของนางเบาๆ ลูบไปตามรอยจ้ำหลักฐานของบุรุษอื่นที่เคยแตะต้องนางนัยน์ตาสีนิลดำสนิทเข้มขึ้น 

ความทรงจำอันเลวร้ายนั่นหวนกลับมา เหมยฟางเม้มปากแน่น เบือนหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่จ้องลึกเข้าไปจนถึงในใจ

"ข้าจะไม่ยอมให้ร่องรอยของสารเลวนั่น หลงเหลืออยู่บนร่างของเจ้าเป็นอันขาด!" 

เขาพูดด้วยเสียงอันเย็นเยียบ จนเหมยฟางต้องหันหน้ากลับมามองเขา 

เหมยฟางเห็นเพลิงโทสะที่ลุกโชนอยู่ในตาของเขาได้อย่างชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มโน้มลงมาที่ซอกคอระหง ขบกัดลงบนผิวอ่อนบางเนียนนุ่มซ้ำลงไปในต่ำแหน่งเดิมที่เคยถูกเหยียนเกอล่วงล้ำ 

เรียวปากหยักสวยดูดเม้มไปทั่วลำคอ ทิ้งร่องรอยที่เป็นของเขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว จูบที่เปียกชื้นนำพาความเจ็บแปลบไปตามจุดที่เขาลากลิ้นผ่านไป 

"อื้อ.." 

เสียงครางหลุดออกมาสร้างความอับอายให้อย่างใหญ่หลวง เหมยฟางรีบปิดปากตัวเองเอาไว้ 

อวี้หลิงชะงักเล็กน้อย ค่อยๆยันตัวขึ้นมามองหน้านาง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยดน้ำที่คลอออกมา 

เหมยฟางมองหน้าเขาอย่างขวยเขิน ใบหน้าเนียนแดงก่ำ ไม่กล้าพูดไม่กล้าขยับตัว 

อวี้หลิงสะบัดมือวูบหนึ่ง เทียนในห้องดับลง ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด

เขาจับมือนางที่ปิดปากเอาไว้ออก ประสานมือกันกดแนบไว้ที่ข้างศีรษะนาง 

เหมยฟางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

ริมฝีปากหยักสวยก็จู่โจมลงมายังริมฝีปากอวบอิ่มของนางเสียแล้ว

ดวงตาสีเทาเบิกกว้างในความมืด รับรู้ได้ถึงเรียวลิ้นที่เลาะเล็มอยู่ตรงริมฝีปาก เขาค่อยๆเม้มดูดไปตามกลีบปากของนาง บนบ้าง ล่างบ้างอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ลิ้นนุ่มจะแทรกเปิดริมฝีปากลุกล้ำเข้ามา กระหวัดรัดพันลิ้นเล็กก่อกวนไปทั่ว 

หัวสมองน้อยๆขาวโพลนไปหมด นี่เป็นครั้งแรกของนางที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับบุรุษถึงเพียงนี้ ทว่าเป็นสัมผัสที่ลึกซึ้งเหลือเกิน ฝ่ามือที่ทาบประสานอยู่ จับกันแน่นจนชื้นเหงื่อ

เขาเริ่มบดเคล้าอย่างนุ่มนวล กวาดความหวานจากนาง ตักตวงซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สมกับที่อยากจะทำเช่นนี้มานานแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไป ริมฝีปากเขาก็รุกล้ำหนักขึ้น ทั้งกัดทั้งดูด ท่ามกลางความมืดมิด มีแต่เสียงหายใจหอบหนักๆดังไม่เลิกรา 

เหมยฟางไม่แม้แต่จะปฏิเสธ กลับรู้สึกยินยอม หากจูบแรกของนางเป็นเขาที่ได้ไปครอบครอง 

เหมยฟางไม่ได้รังเกียจที่เขาทำเช่นนี้ ความรู้สึกบางอย่างลึกๆในใจ นางผูกพันธ์กับเขามานานมากแล้ว ฝันเห็นเขามาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไหร่ เพราะมันนานมากเหลือเกิน

เขาปล่อยริมฝีปากของนาง แล้วพรมจูบลงมาตามลำคออีกครั้ง ตอนนี้จังหวะการเต้นของหัวใจเหมยฟางรวนเรไปหมด เขาเลื่อนมือร้อนระอุ ล้วงเข้าไปในเสื้อ ผ่านเอี้ยมเข้าไปเกาะกุมเนินเนื้อเน้นๆ ที่เคยถูกเหยียนเกอสัมผัส 

แต่ตอนที่เหยียนเกอสัมผัสนั้นเขาสัมผัสผ่านเอี้ยมตัวใน ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปสัมผัสโดยตรงเหมือนอย่างอวี้หลิงในตอนนี้ 

อวี้หลิงกระซิบเสียงแหบพร่าอยู่ริมหูเบาๆ

"ฟางเอ๋อร์.. ฟางเอ๋อร์ของข้า.."

เสียงของเขาดั่งร่ายมนต์สะกด ให้นางมัวเมาเคลิ้บเคลิ้ม 

อวี้หลิงขบกัดลงไปแรงๆอีกครั้งตรงจุดที่เหยียนเกอทิ้งร่องรอยเอาไว้ เหมือนเขาไม่ยินยอมให้นาง มีร่องรอยอื่นใดนอกเหนือจากของเขาเพียงผู้เดียว 

"อื้อ!.." 

ความเจ็บแปลบที่รู้สึกทำให้เหมยฟางหลุดเสียงครางออกมา นางยกแขนอันไร้เรี่ยวแรงขึ้นโอบรอบคอเขาอย่างไม่รู้ตัว อวี้หลิงละจากลำคอระหงเปลี่ยนไปขบกลีบปากอวบอิ่มของนางไว้อีกครั้ง ลิ้นนุ่มทะลวงเข้ามา ดูดกลืนอย่างหิวกระหาย 

"อืมส์.." 

เสียงครางต่ำอย่างสุขสมเล็ดลอดออกมาจากลำคอของเขา มือที่เกาะกุมหน้าอกของนางอยู่เริ่มบีบคลึงอย่างแผ่วเบา 

เหมยฟางหายใจหอบหนัก ความปรารถนาของร่างกายถูกจุดขึ้นมา ดอกเหมยสีแดงสดที่กลางหน้าผากเปล่งแสงวาบท่ามกลางความมืด แล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว นางเริ่มที่จะขาดสติสัมปัชชัญญะมากขึ้นทุกที ไม่สามารถขบคิดอะไรได้อีกต่อไป หวังเพียงอยากจะได้รับสัมผัสจากคนตรงหน้าเพียงเท่านั้น 

ปลายลิ้นของเขาหยอกเย้ากับลิ้นเล็กๆของนาง ให้สัมผัสที่วาบหวามและสุขสม 

เหมยฟางเหลือเพียงเสียงครางที่ไร้เรี่ยวแรง 

"อะ.. อื้อ!.. หลิง" 

"ฟางเอ๋อร์.." 


ปล. นิยายเราฉากจูบเยอะมาก ตอนเขียนก็ให้จินตนาการไปตามแต่ละสถานการณ์

ยินยอม ขืนใจ หรือเป็นฝ่ายรุงเอง อะไรแบบนี้ จูบเพราะรัก หรือจูบเพราะจำเป็น
1
puplb 23 พ.ค. 59 เวลา 19:45 น. 8-1

เขียนเก่งอ่าา เป็นตัวอย่างได้ดีเลย ขอบคุณมากค่ะ //กราบบบบบบบ//

0
Nut'reeeee 23 พ.ค. 59 เวลา 22:06 น. 10

บรรยายในลักษณะเปรียบเทียบกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นพวกปุยนุ่นก็ได้

ที่แน่ๆไม่ต้องบรรยายลึกแบบลิ้นชอนไชอะ แบบนั้นจากฟินมันจะอ้วกแทน 555555

1
~ VolcaniK ~ 23 พ.ค. 59 เวลา 22:09 น. 11

แนะนำให้อ่านเยอะๆ อ่ะ ไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้อายุเท่าไร ถ้าแนะนำนิยายโรมานซ์นี่จะเหมาะไหม 55

ตะก่อน เราเป็นคนที่มีปัญหากับการเขียนฉากเลิฟซีนมาก เขียนฉากจูบได้สองสามบรรทัดก็ตันแล้ว จนกระทั่งเพื่อนแนะนำให้อ่านนิยายโรมานซ์ เดี๋ยวนี้นี่คือแค่จูบอย่างเดียวนี่เขียนได้เป็นบทเลย

ตอนแรกก็ต่อต้านนะ รู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่คิดจะทำไรอย่างอื่นกันมั่งเหรอ (555) แต่พออ่านไปเรื่อยๆ มันเหมือนเราสะสมคลังคำและเทคนิค รวมถึงความรู้สึกของตัวละครไว้ พอถึงจุดหนึ่ง เมื่อลงมือเขียนเอง มันก็ออกมาโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ได้ต้องไปฝืนหรือเค้นสมอง บังคับตัวเองเหมือนก่อนเลย

พูดมาซะยาว ที่จะบอกคือ การอ่านช่วยท่านได้จริงๆ อยากเขียนฉากแบบไหนได้ ก็ให้ไปอ่านนิยายที่มีฉากอย่างที่อยากเขียนอ่ะ อ่านเยอะๆ หลายๆ แบบ แล้วมันจะสะสม ถึงคราวเอาออกมาใช้เมื่อไร มันจะอัตโนมัติเลย--จริงๆ นะ

ปล. ที่พูดถึงนี่เราหมายถึงนิยายแปลฝรั่งนะฮะ ของไทยนี่ไม่แนะนำละกันเนอะ 

2
puplb 24 พ.ค. 59 เวลา 05:43 น. 11-1

18แล้วค่ะ แนะนำมาโลดด 5555
ส่วนตัวติดอ่านนิยายของฝรั่งอยู่แล้วค่ะ แต่ไม่ได้อ่านแบบแปลนะ อ่านตามเว็บเอา อารมณ์แบบเว็บลงนิยาของฝรั่ง เเพราะว่าไม่มีนักเขียนที่ชอบเป็นพิเศษ (ถ้ามีคงกวาดซื้อมาหมดทุกเล่มไม่ต้องกินข้าวกินปลากัน55) คงต้องหาแบบแปลมาอ่านซึมซับคำนู่นนี่นั่นไว้บ้าแล้วแหละ ขอบคุณมากนะคะ:)
ตกใจ

0
~ VolcaniK ~ 24 พ.ค. 59 เวลา 13:22 น. 11-2

ลองอ่านของราเชล กิ๊บสัน ก็ได้นะ อมรินทร์แปลอยู่สองสามเล่ม ตอนนี้เอามาลดราคาอยู่ (เราซื้อราคาเต็มเล่มหนึ่ง อีกสองซื้อตอนครึ่งราคา) ส่วนคนอื่นๆ ก็หาเอาตามชั้นนิยายแปลเลยฮะ ส่วนใหญ่ สนพ. ก็จะคัดกันมาดีอยู่แล้ว โดยส่วนตัวเราชอบของ ซูซาน เอลิซาเบธ ฟิลลิปส์

ปล. เพื่อนคนที่แนะนำให้อ่านแนวนี้ เขาชอบลินดา โฮเวิร์ด เราก็อ่านตามอยู่หลายเล่ม เลิฟซีนเขาจะดิบๆ หน่อย ยังไงก็ไปพิจารณาดูเนอะ ^^

ปล.2 ถ้าจะซึมซึบเรื่องวิธีการใช้ภาษา เราว่าอ่านแบบแปลดีกว่านะ จะได้คลังคำมาสะสมด้วย

0
ณกันต์ / Na-Gunn 24 พ.ค. 59 เวลา 15:39 น. 15
เทคนิค... ก็เหมือนกับที่ความเห็นข้างบนว่าแหละค่ะ คือต้องเข้าถึงตัวละครให้ได้ก่อน 
เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาถึงทำให้เกิดการจูบขึ้น จูบแบบไหน อะไรยังไง

ปกติเวลาเขียนจะใช้วิธี "สิง" ตัวละครค่ะ 5555

พอสิงปุ๊บ เราจะเหมือนไปอยู่ตรงนั้น รู้สึกถึงสิ่งรอบข้าง รู้สึกถึงคนที่จะจูบด้วย จากนั้นให้บรรยากาศในเรื่องพาไปค่ะ (ทำไมเขิน 5555)

พอดีเรื่องที่เขียนล่าสุดมีฉากจูบ 2 ฉาก ซึ่งเป็นการจูบที่แตกต่างกันมาก น่าจะเป็นตัวอย่างได้ เอามาให้ดูนะคะ =)

แบบคนแปลกหน้า

ภัทรกำลังพิมพ์ไลน์ตอบแม่ตอนที่รู้สึกว่าใครบางคนก้าวเข้ามาประชิดตัว ชายหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนคนนั้นดึงคอเสื้อของเขาแล้วโน้มตัวเขาลงมาใกล้อย่างรวดเร็ว ภัทรไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าหวาน ๆ ของคนคนนั้นยื่นเข้าหา เธอประกบริมฝีปากนุ่มเย็นนั้นลงบนริมฝีปากของเขา... (จบตอน - ขึ้นตอนใหม่ข้างล่างค่ะ)
ริมฝีปากนุ่มเย็นนั้นอ้อยอิ่งอยู่สักพักบนริมฝีปากร้อนผ่าวของชายหนุ่ม ภัทรได้กลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวหญิงสาวตรงหน้า เหมือนกลิ่นของเนยและวานิลลา กลิ่นหอมของขนม... ในที่สุดร่างของเขาก็ถูกผลักออก ภัทรจ้องคนตรงหน้าด้วยดวงตาสีน้ำตาลใสเบิกโพลง หัวใจเขาเต้นถี่รัวจนแทบถลนออกมานอกอกด้วยความตกใจ เขามองดูหญิงสาวร่างเล็ก ใบหน้าสะสวยจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาเรียวสีดำไร้ประกาย จมูกโด่งที่ตรงปลายรั้นน้อย ๆ ชายหนุ่มเลื่อนสายตามาที่ริมฝีปากอิ่มแดงนั้น... แค่ได้มองก็ทำเอาใจเขาสั่นขึ้นมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ เขาเพิ่งถูกเธอจูบไม่ใช่หรือ... ภัทรยังคงยืนอึ้งมองหญิงสาวตอนที่เธอทำหน้านิ่งแล้วถอนหายใจใส่เขา
"ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย" เธอบอกภัทรที่ยังคงพูดอะไรไม่ออก ทั้งสองสบตากันอยู่สักครู่ หญิงสาวคนนั้นขมวดคิ้วน้อย ๆ มองดูเขาก่อนจะผละออกไป
ตอนคบกันแล้ว
ภัทรไม่รอให้เธอตอบคำถาม ชายหนุ่มโน้มตัวช้า ๆ เข้าหาหญิงสาว เขาเอียงหน้าหน่อยหนึ่งแล้วขยับเข้าใกล้เธออีกนิด น้ำตาลไม่ได้ฝืนตัวออก ภัทรยิ้มให้กับอาการนั้นก่อนจะวางริมฝีปากอุ่นนุ่มของตัวเองแนบลงบนริมฝีปากร้อนผ่าวของเธอ... 
หัวใจของเขาเต้นถี่ตอนที่รู้สึกถึงสัมผัสนั้น... ลมหายใจอุ่นรดลงบนใบหน้า ภัทรสูดกลิ่นหอมของวานิลลา กลิ่นที่เขาชอบเหลือเกิน ชายหนุ่มอ้อยอิ่งอยู่นานบนริมฝีปากอิ่มแดงแสนหวาน มือใหญ่ประคองใบหน้าหญิงสาว และรู้สึกถึงมือเรียวของน้ำตาลที่จับประคองใบหน้าของเขาเบา ๆ เธอรั้งเขาเข้าไปใกล้และภัทรก็โอนอ่อนตามนั้นอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มเบียดชิดเข้าไปอีกนิด จูบเธออย่างอ่อนโยนหวามไหว ผิดกับจูบเย็น ๆ วันนั้นอย่างสิ้นเชิง
ภัทรถอนริมฝีปากออกในที่สุด แต่ใบหน้านั้นยังคงอยู่ใกล้ มองดูเธอด้วยแววตาสั่นไหว ใบหน้าของน้ำตาลแดงแจ๋ คงไม่ต่างอะไรกับใบหน้าของเขา ภัทรเห็นเธอหายใจขัด ชายหนุ่มยิ้มไปให้ เขาถามเธอเบา ๆ
“คราวนี้... ใจเต้นแรงหรือยัง” น้ำตาลพยักหน้า กระพริบตามองเขา ภัทรยังคงยิ้ม เขาผละออกจากเธอในที่สุด 


หวังว่าจะพอช่วยได้บ้างนะคะ =)

0
Rachata 24 พ.ค. 59 เวลา 16:02 น. 16

มันแล้วแต่อารมณ์ของตัวละครตอนนั้น ๆ เลยค่ะ

ตัวอย่างนี้ เป็น "จูบแรก" เลยบรรยายทั้งอารมณ์และรายละเอียดต่าง ๆ ลงไปด้วย
(แต่ไม่รู้ของเราอ่านแล้วโอเคไหมนะคะ :p) 



ส่วนด้านล่าง ความสัมพันธ์มันเป็น คนรัก ไปแล้ว เลยต้องเพิ่มอารมณ์ รายละเอียดการจูบมากขึ้นค่ะ




เราคิดว่าควรคิดถึงอารมณ์ตัวละครค่ะ หรือคิดให้ออกว่าอยากให้ฉากนั้นออกมาในอารมณ์ยังไง เขียนเสร็จ อ่านในใจ อ่านออกเสียง ถ้าไม่ติดอะไร ก็แสดงว่าคุณชอบค่ะ

0
Quantum 24 พ.ค. 59 เวลา 19:13 น. 17

ของผมกลับกันแฮะ ผมเน้นความรู้สึกของคนสองคนก่อนที่จะมาจูบกัน คือถ้ารู้ตัวว่าจะเขียนฉากจูบ ผมจะบิ้วตัวละครสองตัวนี้มาตั้งแต่ต้น ว่าพวกเขาต้องพบเจออะไร รู้สึกยังไง ต่างคนต่างเก็บอารมณ์อัดอั้นบางอย่างไว้ในใจ เมื่อถึงเวลา ทั้งคู่ก็ปลดปล่อยซึ่งกันและกัน

ถ้าให้ผมแนะนำ ฉากจูบน่ะ คุณจะเขียนยังไงก็ได้ แต่การบิ้วให้คนอ่านอินตามคุณมาเรื่อยๆ จนกระทั่งดำเนินมาถึงฉากจูบเนี่ยแหละยากที่สุด พยายามโฟกัสตรงนั้น เขียนปูทางมาให้ดี แล้วพอมาถึงฉากจูบ ทุกอย่างมันจะง่ายเอง

0
มินามิ คาเอเดะ 25 พ.ค. 59 เวลา 11:18 น. 18

คงต้องสวมบทตัวละครดูค่ะ แบบตัวละครนิสัยแบบนี้จะแสดงอาการยังไง คิดว่าตอนเราเป็นคนๆนั้น อยู่ในสถานการณ์นั้นจะมีความรู้สึกอะไรมาบ้าง เช่น ลมหายใจอุ่นๆ สมองตื้อ หัวใจเต้นแรงแค่ไหน ความรู้สึกเป็นไงรุนแรงนุ่มนวล รสชาติที่ริมฝีปาก แล้วตอนจูบคิดอะไรอยู่จะช่วยให้เห็นภาพมากขึ้น อะไรประมาณนี้ค่ะ เราเป็นคนแต่งเราต้องรู้อยู่แล้วล่ะว่าตัวละครจะรู้สึกยังไงคิดยังไงจริงป่ะ บรรยายออกมาตามที่รู้สึกนั่นแหละค่ะ

ที่เม้นนี่ใช่ว่าจะเก่งอะไรนะ เม้นตามความรู้สึกล้วนๆ 5555 ถามว่าคนเม้นเคยจูบใครมั้ยก็ไม่เคยเหมือนกันค่าาา ใช้วิชามโนศาสตร์ล้วนๆ 5555

0
masari 25 พ.ค. 59 เวลา 16:49 น. 19

แวะมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติมด้วยคน

ที่จริงก็เคยเขียนฉากจูบนะ  แต่ไม่ได้แบบลึกซึ้งอะไรมาก
เพราะเขียนไปก็ใจเต้นไปสั่นไปเองจนเกือบเขียนไม่จบ
เขียนเสร็จก็ลงไปนอนดิ้นกับพื้น 555
แนะนำว่า  อ่านเยอะๆ ค่ะ  เก็บข้อมูลเยอะๆ
มโนเยอะๆ แล้วพอถึงเวลามันจะไหลออกมาเอง
แต่ต้องตั้งสติควบคุมมันเยอะอยู่นะ

0
AllyAlly 25 พ.ค. 59 เวลา 18:46 น. 20

ดูหนังค่ะ ถ้าไม่เคยจูบ ลองเปิดหนังดูที่มีฉากจูบ แล้วพยายามบรรยายจากในหนัง ว่าเขาสัมผัสหน้า จับแขน โอบเข้ามาหา หรือว่าแต่จุ๊บแบบไม่ทันตั้งตัวแบบหนังเกาหลี ไม่ต้องบรรยายมากค่ะ บางทีบรรยายเหตุการชี้น้ำให้ชัดๆ ก็ทำให้จูบสมจริงและไม่ดูอิโรติกเกินไปด้วยค่ะ

0