[REVIEW] อุปกรณ์การวาดในครอบครองของข้าพเจ้า
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่าาาา ^0^/
วันนี้เราก็จะมารีวิว "อุปกรณ์การวาดรูป" ทั้งหมดที่เรามีนะคะ
ก็เนื่องจากเราเป็นคนชอบวาดรูปเนอะ (บวกบ้าเครื่องเขียนด้วย) ก็เลยมีอุปกรณ์พวกนี้เยอะอยู่
----------------------------------------------------------------
มาเริ่มที่อุปกรณ์ที่แพงที่สุดกันก่อน... "เมาส์ปากกา"
ส่วนตัวเราเคยใช้สองแบบนะคะ คือ Wacom Intuos แบบเก่าและแบบใหม่
อันนี้หน้าตาของแบบเก่า เราซื้อจากโยโดบาชิที่ญี่ปุ่น ราคา 7210 เยน รวมภาษีแล้ว 8%
(เราสามารถเอาพาสปอร์ตของเราไปยื่นลดหย่อนภาษีได้)
ด้านหน้า
ด้านหลัง
เปิดออกมาได้ด้วย มีไส้เมาส์ปากกาให้สามอัน
(ตรงที่เสียบปากกากับหัวปากกา เค้ามีอะไหล่ให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินด้วย แล้วแต่เราจะเลือกใช้)
แต่เนื่องจากเราทำสายอันเก่าขาด หาสายใหม่ไม่ได้ จึงต้องจำใจสอยของใหม่ TT
ซื้อจากโยโดบาชิที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ราคาขึ้นเป็น 8320 เยน รวมภาษีแล้ว 8%
จริงๆ มีสามสี คือสีดำ สีขาว แล้วก็สีฟ้าอมเขียว เราซื้อสีหลังสุดมา
ด้านหน้า
ด้านหลัง
เปิดออกมา ออกทั้งยวงเลย ;_;
ส่วนตัวชอบแบบเก่ามากกว่า เพราะปากกาของใหม่ดูด๊อกด๋อยมาก
คนอื่นมาเห็นว่าปากกาเขียนไม่ติดอาจโยนทิ้งได้ 55555555
แต่แบบใหม่ก็ดี เบากว่า เล็กกว่านิ๊ดนึง (แต่จอขนาดเท่าเดิมนะ) บางกว่า และแพงกว่าเช่นกัน T.T
ตัวอย่างผลงานจากเมาส์ปากกา
----------------------------------------------------------------
มาที่วาดมือกันมั่ง
หนึ่งเลย ที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ดินสอ" นั่นเอง
ส่วนตัวเราใช้ลามี่... ไม่ได้ซื้อเอง พี่รหัสให้มา 555555555
ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกับดินสอแท่งละบาทเท่าไหร่นัก แค่ลามี่จับถนัดมือกว่า
สรุปคือ มีอะไรก็ใช้ๆ ไปเหอะ
อุปกรณ์เบสิกที่ทุกบ้านมี แต่ใช้ดีอย่าบอกใคร "สีไม้"
เราใช้คอลลีนค่ะ เป็นสีที่คุณภาพสมกับราคาที่สุดแล้ว (จำราคาไม่ได้)
กล่องค่อนข้างเขรอะ 5555 บางอันสีไปปนๆ กับกล่องอื่นด้วย
นอกจากจะใช้สีไม้เพียวๆ แล้ว เรายังสามารถนำเทคนิกสีไม้ไปผนวกกับวิธีอื่นๆ ได้
เช่น ใช้โคปิก สีน้ำ ฯลฯ แล้วเอาสีไม้มาเสริม เป็นต้น
หรือใช้สีไม้สีฟ้าร่างแทนดินสอก็มี เวลาสแกนลงคอม มันจะได้ลบง่ายๆ สวยๆ
สีเบสิกอีกอย่าง "สีโปสเตอร์"
ที่เราใช้ตอนนี้มีหกสีนะคะ แม่สีสามสี สีขาว สีเขียวที่ผสมยากมาก แล้วก็สีทองไว้เพิ่มความบริ้งๆ ให้ผลงาน
พู่กันสำหรับสีโปสเตอร์ อยากใช้อะไรใช้ค่ะ 5555 รู้สึกว่ามันเหมือนๆ กันหมด ไม่แตกต่างเลย
ที่เห็นความแตกต่างคือ "สีน้ำ" พู่กันดีๆ จะระบายออกมาแล้วสวยกว่า
ส่วนตัวเราใช้ของ "สง่ามยุระ" ราคาถูกก็จริง แต่เราว่ามันดีกว่าพู่กันราคาถูกอันอื่นๆ
(แต่พู่กันแพงๆ ก็ยังดีกว่าอยู่ดีนั่นแหละ แค่เราไม่มีเงินซื้อ 555555555)
จริงๆ อยากรีวิวสีน้ำด้วย แต่สีน้ำคู่ชีพเราดันถูกหนูแทะกินเล่นไปแล้ว ฮือออ
เราใช้สีน้ำของเพนเทลนะคะ ติดใจมาตั้งแต่ตอนมันเป็นหลอดโลหะเงินๆ
จนตอนนี้เห็นแต่หลอดพลาสติก (เหมือนคุณภาพจะแย่กว่าหน่อยนึง) แต่ก็ยังคงใช้เพนเทลอยู่ดี
หลักการเหมือนพู่กันเลย คือคุณภาพดีกว่าตัวอื่นๆ ที่ราคาใกล้ๆ กัน
เอาสีโปสเตอร์คู่ชีพไปดูอีกรูป
จะขาดสิ่งนี้ไปได้อย่างไร "ปากกาตัดเส้น"
แนะนำให้ใช้ปากกาปิกม่านะคะ เวลาโดนน้ำจะได้ไม่เลอะ
มีหลายๆ ขนาด ไว้ใช้ตัดเส้นขนาดต่างๆ
ส่วนตัวเรามี 3 แท่งค่ะ 0.03, 0.2, Brush
แท่ง 0.03 เราไม่เคยเจอในไทย อันนี้ไปซื้อจากญี่ปุ่นค่ะ ตัว Brush ก็เช่นกัน
ส่วน 0.2 ใช้ยี่ห้อซากุระค่ะ ยี่ห้อไม่ค่อยฟิกเท่าไหร่ เลือกแท่งที่ถูกสุดพอ 5555
ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ ราคาจะอยู่ในช่วง 40-60 บาทค่ะ
ซูมหัวให้เห็นชัดๆ
ตัว Brush หัวจะคล้ายๆ โคปิกนะคะ คือมันยืดๆ หยุ่นๆ ได้ เหมือนเราใช้พู่กันที่ขนไม่แตกวาด
ใช้เวลาถมดำตอนวาดภาพแนวมังงะ สะดวกมากค่ะ ;w;b
ปากกาตัดเส้นที่ล้ำขึ้นมาหน่อย "G-Pen Maru-Pen Saji-Pen"
ขนาดเส้นจะหนาบางตามแรงกดของเรา จึงสะดวกและได้ภาพสวยขึ้นมาก
ตอนใช้ปิกมาคือ แรงกดมีผลแค่นิดเดียว เวลาต้องการเส้นหนาๆ ก็เลยต้องลากเส้นเพิ่ม
แล้วมันก็จะแอบมีรอยต่อตอนเปลี่ยนความหนา ซึ่งไม่สวยเลย ;-;
แต่ความสวยที่ได้รับก็ต้องแลกมาด้วยการที่มันใช้ยากมากกกกกกกกกก
ถ้าไม่ได้ชอบวาดรูปมากขนาดนั้นก็แนะนำให้ใช้ปิกม่าธรรมดาพอค่ะ
หน้าตาของมัน
มีสามหัว เรียงตามซ้ายไปขวาคือ Saji-Pen Maru-Pen G-Pen ส่วนแท่งเหลืองๆ ข้างๆ คือที่เสียบหัวค่ะ
เวลาวาดก็จุ่มหมึกเอา จุ่มหนึ่งครั้งวาดได้นานอยู่เหมือนกัน
ตัว G-Pen หัวจะอ่อนสุด คือถ้ากดด้วยแรงที่เท่าๆ กัน ในสามหัวนี้ G-Pen จะได้ขนาดเส้นที่ใหญ่สุด
ส่วน Maru-Pen (หรืออีกชื่อคือ Mapping-Pen) กับ Saji-Pen เรายังไม่เห็นความแตกต่างมากนัก
แต่ข้างซองเค้าบอกว่า "หัว Saji-Pen เหมาะกับพวก Beginner"
เราซื้อมาเป็นแพ็กแบบนี้จาก Loft ที่ญี่ปุ่น ราคายังไม่รวมภาษี 660 เยน บวกภาษีไปอีก 8% เป็น 712 บาท
เนื่องจากตอนนี้ไม่มีหมึก จึงไม่สามารถลองเส้นให้ดูได้ ขออภัยด้วยนะคะ T-T
ปากกาเพื่อนรักนักวาด "โคปิก"
(แต่ราคาไม่น่ารักเอาซะเลย ฮรึ่ก)
อันนี้เป็นโคปิกของเรานะคะ
ด้านซ้ายเป็นแท่งใหญ่ เราซื้อจากสมใจหน้า รร.สวนกุหลาบ ราคาแท่งละ 125 บาท
ด้านขวาเป็น Copic Ciao แท่งเล็ก หมึกน้อยลงมาหน่อย แต่ราคาน่ารักขึ้นมาหน่อยเช่นกัน
ไม่มีขายในไทยค่ะ อาจมีพวกร้านรับพรี แต่อันนี้เราไปซื้อจากญี่ปุ่นเลย
ราคาแท่งละ 250 เยน บวกภาษีอีกเป็น 270 เยน
มันเป็นหมึกเนื้อแอลกอฮอล์ค่ะ ระบายทับกันได้เหมือนสีน้ำเลย เกลี่ยสีได้ด้วย
(ดูตัวอย่างการเกลี่ยสีได้จากรูปวาดข้างล่างนะคะ สังเกตตรงขากับผ้าคลุมได้)
แต่ข้อเสีย(นอกจากความแพง)คือกลิ่นฉุนมากกกค่ะ นึกถึงเวลาเราเปิดขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลดมดู
ระบายแรกๆ ก็ไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ตอนใกล้เสร็จเท่านั้นแหละ แสบจมูกเลย T^T
แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนนะคะ บางคนอาจแสบมากแสบน้อยไม่แสบเลย
โคปิกจะมีสองหัวค่ะ หัวตัดกับหัวพู่กัน
หัวตัดก็จะเหมือนปากกามาร์เกอร์แบบหัวตัดทั่วๆ ไปเลยค่ะ
ส่วนหัวพู่กันจะมีปลายแหลมๆ ยืดหยุ่น ดึ๋งๆ ได้เหมือนพู่กันที่ขนไม่แตก
ส่วนใหญ่คนจะใช้หัวพู่กัน หัวตัดไม่ค่อยมีใครใช้ ใช้แค่ตอนเติมหมึกเท่านั้น ดึงหัวตัดออกแล้วเทหมึกไป 555
ปาดแล้วหน้าตาออกมาแบบนี้ ด้านซ้ายหัวตัด ด้านขวาหัวพู่กัน
สิ่งเล็กๆ แต่ทำให้งานสวยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ "ปากกาสีทอง, เงิน, ขาว"
เอาไว้เติมแสงบริ้งๆ ให้ผลงานค่ะ (ดูตัวอย่างได้ในรูปวาดข้างล่างเลย)
โดยเฉพาะเวลาใช้โคปิก สีขาวนี่ขาดแทบไม่ได้เลย
ราคาที่เห็นก็มีตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป
สีทองกับสีเงินอันนี้เราซื้อมาจากไหนไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ราคาแท่งละ 35 บาทค่ะ
สีขาวไปซื้อมาจากญี่ปุ่น ราคา 120 เยน รวมภาษีแล้ว
มาดูหน้าตาเส้นของปากกาสีเงินและทองกัน
มันจะแววๆ ถ่ายรูปจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ในงานจริงจะสวยมากกกกกก
ถ้าใครเคยใช้สีโปสเตอร์สีทองหรือสีเงิน นั่นแหละ แบบนั้นเลยค่ะ แต่เป็นในรูปแบบปากกาลูกลื่น
ต่อมา สีขาว
เทสต์กับที่ลองโคปิกให้ดูเมื่อกี้ 5555555+
สีจะเข้มหรืออ่อนก็แล้วแต่ยี่ห้อนะคะ เลือกดีๆ อันนี้อย่าสนเรื่องราคาให้มาก เลือกอันที่ดีที่สุด (สีขาวเข้มสุด) ไว้ดีกว่า
บางทีอันถูกๆ ก็อาจมีคุณภาพดีกว่าก็ได้ ต้องลองอย่างเดียว
ลองแล้วรอมันแห้งด้วยนะ บางยี่ห้อเขียนมาเข้มมาก พอแห้งแล้วสีจางมากก
อันนี้เป็นตัวอย่างงานวาดบนกระดาษของเรานะคะ
//ถ่ายเบี้ยวไปหน่อย ตัวเบี้ยวเลย 55555
อันนี้ใช้ปิกม่า โคปิก สีไม้นิดหน่อย แล้วก็ปากกาขาว ทอง เงินค่ะ
----------------------------------------------------------------
สุดท้าย ไม่เกี่ยว แค่อยากอวดเฉยๆ 555555555555
ตอนนี้ยังไม่มีกระเป๋าใส่ ถ้าได้รางวัลกระเป๋าจากการประกวดจะดีมา-----แค่กๆๆๆๆ
----------------------------------------------------------------
ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่อยากจะฝึกวาดภาพ รวมถึงผู้ที่กำลังฝึกอยู่(อย่างเรา)นะคะ
สุดท้ายแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ถ้ามันไม่เข้ากับเรา มันก็จะเป็นได้แค่อุปกรณ์อันหนึ่ง
ลองหาเทคนิคที่ตัวเองสนใจ และเข้ากับตัวเองดูนะคะ
ใครสนใจงานวาดเรา สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เพจ La'LynXiA นะคะ :D
----------------------------------------------------------------
mail: chom.poo.pan(แอด)hotmail.com
ก็เนื่องจากเราเป็นคนชอบวาดรูปเนอะ (บวกบ้าเครื่องเขียนด้วย) ก็เลยมีอุปกรณ์พวกนี้เยอะอยู่
----------------------------------------------------------------
มาเริ่มที่อุปกรณ์ที่แพงที่สุดกันก่อน... "เมาส์ปากกา"
ส่วนตัวเราเคยใช้สองแบบนะคะ คือ Wacom Intuos แบบเก่าและแบบใหม่
อันนี้หน้าตาของแบบเก่า เราซื้อจากโยโดบาชิที่ญี่ปุ่น ราคา 7210 เยน รวมภาษีแล้ว 8%
(เราสามารถเอาพาสปอร์ตของเราไปยื่นลดหย่อนภาษีได้)
ด้านหน้า
ด้านหลัง
เปิดออกมาได้ด้วย มีไส้เมาส์ปากกาให้สามอัน
(ตรงที่เสียบปากกากับหัวปากกา เค้ามีอะไหล่ให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินด้วย แล้วแต่เราจะเลือกใช้)
แต่เนื่องจากเราทำสายอันเก่าขาด หาสายใหม่ไม่ได้ จึงต้องจำใจสอยของใหม่ TT
ซื้อจากโยโดบาชิที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ราคาขึ้นเป็น 8320 เยน รวมภาษีแล้ว 8%
จริงๆ มีสามสี คือสีดำ สีขาว แล้วก็สีฟ้าอมเขียว เราซื้อสีหลังสุดมา
ด้านหน้า
ด้านหลัง
เปิดออกมา ออกทั้งยวงเลย ;_;
ส่วนตัวชอบแบบเก่ามากกว่า เพราะปากกาของใหม่ดูด๊อกด๋อยมาก
คนอื่นมาเห็นว่าปากกาเขียนไม่ติดอาจโยนทิ้งได้ 55555555
แต่แบบใหม่ก็ดี เบากว่า เล็กกว่านิ๊ดนึง (แต่จอขนาดเท่าเดิมนะ) บางกว่า และแพงกว่าเช่นกัน T.T
ตัวอย่างผลงานจากเมาส์ปากกา
----------------------------------------------------------------
มาที่วาดมือกันมั่ง
ส่วนตัวเราใช้ลามี่... ไม่ได้ซื้อเอง พี่รหัสให้มา 555555555
ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกับดินสอแท่งละบาทเท่าไหร่นัก แค่ลามี่จับถนัดมือกว่า
สรุปคือ มีอะไรก็ใช้ๆ ไปเหอะ
อุปกรณ์เบสิกที่ทุกบ้านมี แต่ใช้ดีอย่าบอกใคร "สีไม้"
เราใช้คอลลีนค่ะ เป็นสีที่คุณภาพสมกับราคาที่สุดแล้ว (จำราคาไม่ได้)
กล่องค่อนข้างเขรอะ 5555 บางอันสีไปปนๆ กับกล่องอื่นด้วย
นอกจากจะใช้สีไม้เพียวๆ แล้ว เรายังสามารถนำเทคนิกสีไม้ไปผนวกกับวิธีอื่นๆ ได้
เช่น ใช้โคปิก สีน้ำ ฯลฯ แล้วเอาสีไม้มาเสริม เป็นต้น
หรือใช้สีไม้สีฟ้าร่างแทนดินสอก็มี เวลาสแกนลงคอม มันจะได้ลบง่ายๆ สวยๆ
สีเบสิกอีกอย่าง "สีโปสเตอร์"
ที่เราใช้ตอนนี้มีหกสีนะคะ แม่สีสามสี สีขาว สีเขียวที่ผสมยากมาก แล้วก็สีทองไว้เพิ่มความบริ้งๆ ให้ผลงาน
พู่กันสำหรับสีโปสเตอร์ อยากใช้อะไรใช้ค่ะ 5555 รู้สึกว่ามันเหมือนๆ กันหมด ไม่แตกต่างเลย
ที่เห็นความแตกต่างคือ "สีน้ำ" พู่กันดีๆ จะระบายออกมาแล้วสวยกว่า
ส่วนตัวเราใช้ของ "สง่ามยุระ" ราคาถูกก็จริง แต่เราว่ามันดีกว่าพู่กันราคาถูกอันอื่นๆ
(แต่พู่กันแพงๆ ก็ยังดีกว่าอยู่ดีนั่นแหละ แค่เราไม่มีเงินซื้อ 555555555)
จริงๆ อยากรีวิวสีน้ำด้วย แต่สีน้ำคู่ชีพเราดันถูกหนูแทะกินเล่นไปแล้ว ฮือออ
เราใช้สีน้ำของเพนเทลนะคะ ติดใจมาตั้งแต่ตอนมันเป็นหลอดโลหะเงินๆ
จนตอนนี้เห็นแต่หลอดพลาสติก (เหมือนคุณภาพจะแย่กว่าหน่อยนึง) แต่ก็ยังคงใช้เพนเทลอยู่ดี
หลักการเหมือนพู่กันเลย คือคุณภาพดีกว่าตัวอื่นๆ ที่ราคาใกล้ๆ กัน
เอาสีโปสเตอร์คู่ชีพไปดูอีกรูป
จะขาดสิ่งนี้ไปได้อย่างไร "ปากกาตัดเส้น"
แนะนำให้ใช้ปากกาปิกม่านะคะ เวลาโดนน้ำจะได้ไม่เลอะ
มีหลายๆ ขนาด ไว้ใช้ตัดเส้นขนาดต่างๆ
ส่วนตัวเรามี 3 แท่งค่ะ 0.03, 0.2, Brush
แท่ง 0.03 เราไม่เคยเจอในไทย อันนี้ไปซื้อจากญี่ปุ่นค่ะ ตัว Brush ก็เช่นกัน
ส่วน 0.2 ใช้ยี่ห้อซากุระค่ะ ยี่ห้อไม่ค่อยฟิกเท่าไหร่ เลือกแท่งที่ถูกสุดพอ 5555
ส่วนใหญ่ที่เห็นๆ ราคาจะอยู่ในช่วง 40-60 บาทค่ะ
ซูมหัวให้เห็นชัดๆ
ตัว Brush หัวจะคล้ายๆ โคปิกนะคะ คือมันยืดๆ หยุ่นๆ ได้ เหมือนเราใช้พู่กันที่ขนไม่แตกวาด
ใช้เวลาถมดำตอนวาดภาพแนวมังงะ สะดวกมากค่ะ ;w;b
ปากกาตัดเส้นที่ล้ำขึ้นมาหน่อย "G-Pen Maru-Pen Saji-Pen"
ขนาดเส้นจะหนาบางตามแรงกดของเรา จึงสะดวกและได้ภาพสวยขึ้นมาก
ตอนใช้ปิกมาคือ แรงกดมีผลแค่นิดเดียว เวลาต้องการเส้นหนาๆ ก็เลยต้องลากเส้นเพิ่ม
แล้วมันก็จะแอบมีรอยต่อตอนเปลี่ยนความหนา ซึ่งไม่สวยเลย ;-;
แต่ความสวยที่ได้รับก็ต้องแลกมาด้วยการที่มันใช้ยากมากกกกกกกกกก
ถ้าไม่ได้ชอบวาดรูปมากขนาดนั้นก็แนะนำให้ใช้ปิกม่าธรรมดาพอค่ะ
หน้าตาของมัน
มีสามหัว เรียงตามซ้ายไปขวาคือ Saji-Pen Maru-Pen G-Pen ส่วนแท่งเหลืองๆ ข้างๆ คือที่เสียบหัวค่ะ
เวลาวาดก็จุ่มหมึกเอา จุ่มหนึ่งครั้งวาดได้นานอยู่เหมือนกัน
ตัว G-Pen หัวจะอ่อนสุด คือถ้ากดด้วยแรงที่เท่าๆ กัน ในสามหัวนี้ G-Pen จะได้ขนาดเส้นที่ใหญ่สุด
ส่วน Maru-Pen (หรืออีกชื่อคือ Mapping-Pen) กับ Saji-Pen เรายังไม่เห็นความแตกต่างมากนัก
แต่ข้างซองเค้าบอกว่า "หัว Saji-Pen เหมาะกับพวก Beginner"
เราซื้อมาเป็นแพ็กแบบนี้จาก Loft ที่ญี่ปุ่น ราคายังไม่รวมภาษี 660 เยน บวกภาษีไปอีก 8% เป็น 712 บาท
เนื่องจากตอนนี้ไม่มีหมึก จึงไม่สามารถลองเส้นให้ดูได้ ขออภัยด้วยนะคะ T-T
ปากกาเพื่อนรักนักวาด "โคปิก"
(แต่ราคาไม่น่ารักเอาซะเลย ฮรึ่ก)
อันนี้เป็นโคปิกของเรานะคะ
ด้านซ้ายเป็นแท่งใหญ่ เราซื้อจากสมใจหน้า รร.สวนกุหลาบ ราคาแท่งละ 125 บาท
ด้านขวาเป็น Copic Ciao แท่งเล็ก หมึกน้อยลงมาหน่อย แต่ราคาน่ารักขึ้นมาหน่อยเช่นกัน
ไม่มีขายในไทยค่ะ อาจมีพวกร้านรับพรี แต่อันนี้เราไปซื้อจากญี่ปุ่นเลย
ราคาแท่งละ 250 เยน บวกภาษีอีกเป็น 270 เยน
มันเป็นหมึกเนื้อแอลกอฮอล์ค่ะ ระบายทับกันได้เหมือนสีน้ำเลย เกลี่ยสีได้ด้วย
(ดูตัวอย่างการเกลี่ยสีได้จากรูปวาดข้างล่างนะคะ สังเกตตรงขากับผ้าคลุมได้)
แต่ข้อเสีย(นอกจากความแพง)คือกลิ่นฉุนมากกกค่ะ นึกถึงเวลาเราเปิดขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลดมดู
ระบายแรกๆ ก็ไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ตอนใกล้เสร็จเท่านั้นแหละ แสบจมูกเลย T^T
แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนนะคะ บางคนอาจแสบมากแสบน้อยไม่แสบเลย
โคปิกจะมีสองหัวค่ะ หัวตัดกับหัวพู่กัน
หัวตัดก็จะเหมือนปากกามาร์เกอร์แบบหัวตัดทั่วๆ ไปเลยค่ะ
ส่วนหัวพู่กันจะมีปลายแหลมๆ ยืดหยุ่น ดึ๋งๆ ได้เหมือนพู่กันที่ขนไม่แตก
ส่วนใหญ่คนจะใช้หัวพู่กัน หัวตัดไม่ค่อยมีใครใช้ ใช้แค่ตอนเติมหมึกเท่านั้น ดึงหัวตัดออกแล้วเทหมึกไป 555
ปาดแล้วหน้าตาออกมาแบบนี้ ด้านซ้ายหัวตัด ด้านขวาหัวพู่กัน
สิ่งเล็กๆ แต่ทำให้งานสวยขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ "ปากกาสีทอง, เงิน, ขาว"
เอาไว้เติมแสงบริ้งๆ ให้ผลงานค่ะ (ดูตัวอย่างได้ในรูปวาดข้างล่างเลย)
โดยเฉพาะเวลาใช้โคปิก สีขาวนี่ขาดแทบไม่ได้เลย
ราคาที่เห็นก็มีตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป
สีทองกับสีเงินอันนี้เราซื้อมาจากไหนไม่รู้ จำไม่ได้ แต่ราคาแท่งละ 35 บาทค่ะ
สีขาวไปซื้อมาจากญี่ปุ่น ราคา 120 เยน รวมภาษีแล้ว
มาดูหน้าตาเส้นของปากกาสีเงินและทองกัน
มันจะแววๆ ถ่ายรูปจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ในงานจริงจะสวยมากกกกกก
ถ้าใครเคยใช้สีโปสเตอร์สีทองหรือสีเงิน นั่นแหละ แบบนั้นเลยค่ะ แต่เป็นในรูปแบบปากกาลูกลื่น
ต่อมา สีขาว
เทสต์กับที่ลองโคปิกให้ดูเมื่อกี้ 5555555+
สีจะเข้มหรืออ่อนก็แล้วแต่ยี่ห้อนะคะ เลือกดีๆ อันนี้อย่าสนเรื่องราคาให้มาก เลือกอันที่ดีที่สุด (สีขาวเข้มสุด) ไว้ดีกว่า
บางทีอันถูกๆ ก็อาจมีคุณภาพดีกว่าก็ได้ ต้องลองอย่างเดียว
ลองแล้วรอมันแห้งด้วยนะ บางยี่ห้อเขียนมาเข้มมาก พอแห้งแล้วสีจางมากก
อันนี้เป็นตัวอย่างงานวาดบนกระดาษของเรานะคะ
//ถ่ายเบี้ยวไปหน่อย ตัวเบี้ยวเลย 55555
อันนี้ใช้ปิกม่า โคปิก สีไม้นิดหน่อย แล้วก็ปากกาขาว ทอง เงินค่ะ
----------------------------------------------------------------
สุดท้าย ไม่เกี่ยว แค่อยากอวดเฉยๆ 555555555555
ตอนนี้ยังไม่มีกระเป๋าใส่ ถ้าได้รางวัลกระเป๋าจากการประกวดจะดีมา-----แค่กๆๆๆๆ
----------------------------------------------------------------
ก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่อยากจะฝึกวาดภาพ รวมถึงผู้ที่กำลังฝึกอยู่(อย่างเรา)นะคะ
สุดท้ายแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ถ้ามันไม่เข้ากับเรา มันก็จะเป็นได้แค่อุปกรณ์อันหนึ่ง
ลองหาเทคนิคที่ตัวเองสนใจ และเข้ากับตัวเองดูนะคะ
ใครสนใจงานวาดเรา สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เพจ La'LynXiA นะคะ :D
----------------------------------------------------------------
mail: chom.poo.pan(แอด)hotmail.com
นุ้งดาวเจ้าของไหเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง
24 พ.ค. 59 เวลา 19:01 น.
18,326
views
2 ความคิดเห็น
ปิกม่า 0.03 ในไทยมีอยู่นะคะแต่เหมือนจะมีแค่ของโคปิค ส่วนแบบหัวบรัชนี่ของซากุระทำอยู่เหมือนกันแต่มีขายแค่บางที่น่ะค่ะ
แอบสนปากกาขาวจังเลยค่ะในไทยหารุ่นที่เป็นแบบกดเวิร์คๆไม่เจอเลยTvT
โอ้ ความรู้ใหม่ *-*
จริงๆ รุ่นแบบปลอกก็ดีนะคะ รุ่นกดมันหาดีๆ ยากจริงแหละ เราจำได้ว่าเมื่อก่อนใช้แบบปลอกอยู่แท่งนึง ดีมากๆ แต่ลืมไปแล้วว่ายี่ห้ออะไร 5555
ไม่แน่ใจว่าใช่อันนี้รึเปล่านะคะ 555555
แต่เราว่ามันดีที่สุดเท่าที่ใช้มาทั้งหมดแล้วล่ะ
https://www.google.co.th/imgres?imgurl=http%3A%2F%2Fimage.dek-d.com%2F25%2F3029768%2F111471930&imgrefurl=http%3A%2F%2Fmy.dek-d.com%2Fpat09%2F&docid=cExoaLmGSg3qrM&tbnid=JwsZL6GkfeXjZM%3A&w=600&h=400&safe=active&ved=0ahUKEwi5vurIhfPMAhUIM48KHRcPD34QMwgbKAAwAA&iact=mrc&uact=8&biw=1536&bih=777
ใช่เลยยยย อันนี้แหละ 5555 เสียดายหัวใหญ่ไปนิด เวลาตวัดวิ้งๆ เป็นดาวแฉกๆ แล้วมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ;w;
ที่พี่บอกว่าซื้อมาจากที่ไหนไม่รู้ มีขายที่b2s ค่ะ เป็นปากกา Sarasa
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?