Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิถีเด็กถาปัตย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อยากแนะนำน้องๆที่อยากเรียนสถาปัตย์นะคะ หลังจากที่พี่เข้ามาเรียนที่คณะ มีกิจกรรมรับน้องตอนปี1 ของถาปัตย์ที่มากมายสุนกสนานทั้งแปลก สร้างสรรค์ ตลก สกปรก เอ้ย! ปี1 เป็นปีแห่งการปรับตัวค่ะ เนื่องจากที่ผ่านมาเราเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไป เลข วิทย์ ไทย สังคม อังกฤษ ฯลฯ แต่การเข้ามาเรียนถาปัตย์เหมือนเป็นโลกใบใหม่ที่เราไม่เคยรู้ การออกแบบคืออะไร มันไม่ใช่การท่องจำ Remembering>Understanding>Applying>Analyzing>Creating เรียนถาปัตย์ต้องไปให้ถึงขั้นCreating ค่ะ และต้องCreativeด้วย โดยรวมแล้วปี 1 เรียนพื้นฐานการออกแบบและต้องปรับตัว ต้องอดทน บางครั้งต้องนอนดึกทำงานส่งอาจารย์ ต่อมาปี2 เริ่มทำงานเป็นโปรเจค คร่าวๆเทอมละ 2โปรเจค เป็นวิชาหลักชื่อว่า Studio Design เริ่มจากงานเป็น installation ร้านกาแฟ บ้าน 1ชั้น บ้าน2ชั้น อาคาร 3ชั้น (ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลักสูตรเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนนะคะ) ปีนี้เริ่มเรียนการออกแบบ การทำแบบร่าง ทำแบบจริง ทำโมเดลไปจนกระทั่งเขียนแบบโครงสร้างต่างๆ ปี 3 เริ่มแยกย้ายเข้าภาค (พี่อยู่ภาคภูมิสถาปัตย์) เริ่มปรับตัวเข้ากับภาค ออกแบบพื้นที่ที่เป็นspaceใหญ่ขึ้น งานสเกลใหญ่ขึ้น เป็นการออกแบบสวนบ้าน ออกแบบและวางผังบ้านพักตากอากาศ รวมไปถึงการออกแบบรีสอร์ท งานแต่ละโปรเจคมีสถานที่จริง มีแผนที่แปลนจริง ให้เราได้เรียนรู้และออกแบบ แต่ละครั้งที่ส่งงานเสร็จ จะเกิดการ จูรี่ JURY คือการpin งานบนกระดาน แล้วให้นิสิตอธิบายงานและฟังคำติชม ความคิดเห็นจากอาจารย์ 4-5ท่าน คล้ายๆโดนรุม ซึ่งฝึกให้เราฟังความเห็นคนอื่นและลดอีโก้เราลงไปบ้าง รวมถึงการไป field trip การไปต่างจังหวัดเรียนรู้งานLandscape จะมีอาจารย์พาไป ทำให้เราได้รู้ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ สังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว นอกจากนี้จะเริ่มเรียนโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์เช่น Autocad , 3ds Max, Rhinocerus , photoshop , illustrator ,Indesign ,Arc gis เป็นต้น ปี4 ความเข้มข้นของการเรียนเริ่มสูง มีทั้งงานกลุ่ม งานเดี่ยว เริ่มเปลี่ยนจากงานทำมือ มาเป็นงานทำทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังที่กล่าวไว้ในขั้นต้น ทำโปรเจค 4โปรเจคทั้งหมดในปีนี้ นอกจากนี้มีเรียนConstruction วิชาโครงสร้างที่เข้มข้นไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นวิชาที่เอาผลงานการออกแบบมาเขียนแบบไปก่อสร้างนั่นเอง หลังจากเรียนจบปี4 จะต้องไปฝึกงาน ที่สำคัญคือการทำ portfolio ให้ดีทำได้ทั้งที่ไทย สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น ตัวพี่นั้นได้ไปฝึกสิงคโปร์ ได้เรียนรู้งานเป็นระบบดีนะ ได้ทำงานหลากหลายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับบริษัทที่เราไปฝึกด้วย และได้เรียนรู้งาน Landscape Architecture ที่มีมากมายในสิงคโปร์ด้วย ต่อมาปี 5 ปีพีคพีค ปีนี้จะต้องทำวิทยานิพนธ์หรือที่เรียกว่า THESIS มีความยิ่งกว่าโปรเจค เพราะหน่วยกิต 12 หน่วย ถึงจุดนี้เราต้องตั้งโจทย์เองว่าจะวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับอะไร บางคนเลือกจากความสนใจ บางคนเลือกจากไซต์ บางคนเลือกจากความเป็นคนท้องถิ่นหรือบ้านเกิดของตนเอง อยากตรงที่เราต้อตัดสินใจเอง เลือกรับฟังความเห็นที่หลากหลาย ยืนด้วยลำแข้ง อดหลับอดนอนบ้าง แต่เด๋วมันก็จะผ่านไปได้
จบปี5 บางคนทำในสายอาชีพถาปัตย์ บางคนไปเป็นครีเอทีฟ เป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ และอื่นๆอีกมากมาย
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ได้หลักๆคือกระบวนการคิด ซึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานของทุกสายอาชีพ

พี่ของฝากหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า ช่างคิด ช่างเขียน ช่าง(จะ)เรียนสถาปัตย์ ไปที่ :https://www.facebook.com/media/set/?set=a.847104062062262.1073741843.845675732205095&type=3
(ขายในราคาถูกมาก)

อ่อ เดือน มิย. กค. สค. 2559 พี่รับสอนวาดรูปภาพพื้นฐานสถาปัตย์ พื้นฐานการออกแบบ รวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางสถาปัตย์ด้วยนะคะ เพราะหลังจากเดือนนั้นๆ พี่เริ่มทำงานแล้วค่ะ

ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ
พี่ตา Arch CU STU79

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น