นักเขียนจะจัดการอารมณ์อย่างไรเวลาเจอคอมเม้นที่บั่นทอนจิตใจครับ?
ตั้งกระทู้ใหม่
แล้วคือคนอ่านส่วนใหญ่จะใจจดจ่อรอพระเอกของเรื่องมากๆ แล้วก็จะเม้นบ่นเสมอว่าทำไมพราะเอกยังไม่โผล่มา กี่ตอนเข้าไปแล้วเนี่ย ฯลฯ ซึ่งจริงๆคือผมวางโครงเรื่องไว้ให้มันเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ผมเน้นที่เรื่องราวของทุกตัวละครมากกว่าจะเน้นความรักพระนาง แล้วบทพระเอกเองยังไม่ใช่สิ่งที่จะปรากฎตอนนี้
แล้วอีกอย่างคือผมเองก็จะเฉลี่ยบทให้ตัวพระรองด้วย แต่คนอ่านไม่แฮปปี้เลยครับ โฟกัสที่พระเอกอย่างเดียว ถามหาพระเอกจนผมเริ่มเครียดกับตัวเอง
คอมเม้นที่เจอก็มีแต่คำว่า 'รอ' กับ 'เมื่อไรพระเอกจะมา' แค่สองประโยคนี้เท่านั้น
ยอมรับว่าท้อแท้จนไม่อยากแต่ง รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำเนี่ยมันถูกจริงๆหรือเปล่า การวางโครงเรื่องแบบนี้ของเรามันดีหรือเปล่า ทำไมถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้ เราแต่งห่วยงั้นเหรอ ทำไมคนอ่านถึงไม่สนใจเนื้อเรื่องเราเลยนอกจากพระเอก
ตอนนี้รู้สึกกดดันกับตัวเองมากจนนอนไม่หลับ เครียดจริงๆครับ
อยากจะถามคนเขียนด้วยกันว่าเวลารู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดีกับคอมเม้นที่ได้รับ จะจัดการกับความรู้สึกยังไงให้ตัวเองมีแรงฮึดแต่งต่อได้ครับ? เพราะตอนนี้กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ T^T
28 ความคิดเห็น
"ศิลปินเพลง" จะทำเพลงขึ้นมาตามที่ตัวเขาเองเป็น ตามที่ใจปรารถนา
แต่คนที่ร้องเพลงตามคำขอของคนฟังเขาเป็นได้แค่ "นักดนตรี" ครับ
เวลาเรารู้สึกแย่ ก็จิตตกไปวูบหนึ่ง55555 แต่แค่แป๊ปเดียว
แล้วก็แต่งต่อไปตามโครงเรื่องเดิมนะ เพราะว่าวางโครงเรื่องไว้แล้ว
ความคิดที่ทำให้ฮึดคือ มันเป็นนิยายของเรา มาจากตัวเรา เป็นสิ่งที่เกิดจากตัวเรา
ส่วนคำติชมรับฟังนะ แล้วปรับแก้ไข ไม่ได้เปลี่ยนทั้งหมด ไม่ได้เปลี่ยนทุกอย่าง
แต่กรณีของ จขกท. เหมือนแค่เป็นการบ่นๆ หาพระเอก ซึ่งเราว่าอาจจะบอกไปให้คนอ่านเข้าใจ
ว่า "อีกสักพักเดี๋ยวพระเอกก็มาครับ" "เรื่องนี้มีพระเอกนะครับ แต่โผล่มาช้าหน่อย"
เป็นการบอกกล่าวให้คนอ่านทราบว่าเป็นยังไง ให้เข้าใจ แบบนี้ก็น่าจะโอเคนะ
เป็นกำลังใจให้จ้า
เคยชี้แจ้งแบบยาวๆไปรอบหนึ่งล่ะครับ นึกว่าจะเข้าใจกัน แต่ก็ยังมีเสียงบ่นมาอีก เลยนอยด์ครับ T^T
คอมเม้น คนสองคน ไม่มีผลหรอกครับ แต่ถ้าเม้นแบบเดียวกันเป็นร้อยคน แสดงว่าเริ่มมีปัญหาแล้วล่ะ
ทีนี้ก็ต้องเลือกว่า จะนำพระเอกออกมาเร็วๆ ตามคำเรียกร้อง หรือให้พระเอกโผล่มาตามแผนของเรา
พล็อตมันเปลี่ยนกันได้ครับ
แต่งตามใจเราดีที่สุดนะ
ความจริงนิยายผมก้ไม่ได้เป็นที่นิยมขนาดนั้น กะง่ายๆก็ประมาณ30คอมเม้นจะพูดถึงพระเอกไป5-6คอมเม้นอ่ะครับ
ผมโดนทวงตัวประกอบครับ บั่นทอนกว่าคุณอีก!
ต้องเพิ่มบทให้กันเลยทีเดียว
บางทีมันอาจจะยืดเยื้อเกินไปหรือเปล่าคะ
แบบมีมากไปในสายตาของผู้อ่าน และหากมันยืดเยื้อไปอ่านทำให้เกิดความเบื่อหน่าย
แต่ก้ดีนะคะมีคนเม้นเรานี่คนเม้นไม่มีอ่านก้ไม่มี 555
คอมเม้นด่าและไร้ซึ่งการให้กำลังใจแฝงใด ๆ ทำให้บั่นทอนกำลังใจที่สุด บางทีคนเม้นก็ไม่รู้ตัวหรอก
แต่ไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งที่บั่นทอนอะไรหรอกนะ ผมกลับคิดว่าที่คนอ่านตามทวงเพราะคาแรกเตอร์ตัวเอกของเราโดดเด่นและดึงดูดคนอ่านจริง ๆ นับเป็นข้อดีเสียอีก (ผมเคยเจอคนอ่านบ่นเรื่องพระเอกกระจอก จืดจาง อันนั้นแย่กว่าครับ 55)
และผมมั่นใจว่า สุดท้ายแล้ว ตอนที่พระเอกโผล่มาอีกครั้งจะทำให้คนอ่านที่ติดตามพึงพอใจและเข้าใจถึงเหตุผลที่มันหายตัวไปนาน (เป็นเดือน ๆ) ได้อย่างแน่นอนครับ...
เจอกระทู้นี้ที คิดว่าคงต้องตอบแบบแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง
1. จัดการอารมณ์ยังไง เวลาเจอคอมเมนต์บั่นทอนจิตใจ
ถ้าให้แนะนำ ข้าน้อยเสนอให้ทำตามแผนที่วางไว้ขอรับ แล้วเก็บคอมเมนต์นั้นไว้เพื่อเป็นบทเรียนในการจัดการกับเรื่องถัดไป หรือในการรีไรท์เมื่อทุกอย่างจบก็แล้วแต่ ยังไม่ต้องจัดการตามคอมเมนต์ใดๆ เพราะเวลาที่เรื่องยังคงอยู่ในหัว ยังไม่ลงในหน้ากระดาษทั้งหมด มันยากที่จะจัดการเรื่องมากกว่าที่ออกมาเป็นนิยายเต็มเรื่องเรียบร้อยแล้ว
ใจแข็งและรู้จักเลือกขอรับ โดยเฉพาะอย่างหลัง ไม่ว่าจะ 'เลือก' คอมเมนต์ที่ส่งผลต่อเรื่องของเราจริงๆ ณ เวลานั้นๆ (ในที่นี้หมายถึง คอมเมนต์เรียกหาพระเอกซึ่งขัดกับแผนที่เราตั้งใจไว้ แปลว่า มันเป็นคอมเมนต์ที่น่าสนใจแต่ยังไม่เหมาะสมกับเราในเวลานี้ มันจะเหมาะสมกับเรา หลังจากที่เราเขียนเรื่องนี้จบ) รวมทั้ง 'เลือก' action ของตัวเองด้วยว่าจะทำยังไงกับอุปสรรค แถมยังต้อง 'เลือก' สิ่งที่จำเป็นและเหมาะสมที่จะนำไปใส่ในเรื่อง
เป็นคนเขียน มีสิ่งที่ต้อง 'เลือก' เก็บและ 'เลือก' ไม่เก็บ หรือ 'เลือก' นำไปใช้ในเวลาต่อมาเยอะแยะมากมายขอรับ
ในเรื่องจัดการอารมณ์ เป็นศิลปะส่วนบุคคล ข้าน้อยไม่สามารถแนะนำได้ แต่การจัดการในเรื่องการ 'เลือก' เป็นเรื่องของประสบการณ์ อันนี้ข้าน้อยแนะนำให้ท่านพิจารณา แล้วลองค่อยๆ เลือกไป อาจจะเหมาะ อาจจะไม่เหมาะ แต่เมื่อเจอมากขึ้น ก็จะเริ่มรู้ว่าจะต้องจัดการยังไงขอรับ
2. เรื่องคนอ่านเรียกร้องหาพระเอก
ข้าน้อยตั้งใจจะอธิบายเหตุผลว่าทำไมคนอ่านถึงเรียกร้องแบบนี้ แต่ขอเตือนว่าเป็นไปได้ที่คำอธิบายนี้อาจอยู่ในลักษณะ "คอมเมนต์ที่บั่นทอนจิตใจ" ก็เป็นไปได้ เพราะงั้นหากหัวใจไม่แข็งแรง ขอให้เก็บไว้ อย่าเพิ่งอ่าน ไว้รอแข็งแรงขึ้นค่อยมาอ่านก็ยังไม่สาย
ก่อนอื่น ขอหยิบภูเขานิยายมาก่อน (เหมือนไม่ได้ใช้นาน)
อธิบายคร่าวๆ ว่าในนิยายหรือเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง เนื้อเรื่องจะมีลักษณะเป็นภูเขาแบบนี้เสมอ โดยความชันของมันก็คล้ายๆ กับอารมณ์ของเรื่องน่ะขอรับ
ตรงส่วนของ Background เป็นการปูพื้นของตัวละคร และ Beginning Force คือการที่เนื้อเรื่องเริ่มต้นขึ้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ในนิทาน สมมุติเป็นซินเดอเรลล่า
มีครอบครัวอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง ลูกสาวชื่อเอลล่า น่ารักงู้นงั้นงี้ก็ว่ากันไป จนกระทั่งแม่ก็ตายไปและพ่อแต่งงานใหม่ แถมมาพร้อมแพคเกจลูกเลี้ยงอีก 2 คน เอลล่าก็ดีใจแหละ ได้มีพี่สาวกับเขาสักที แต่อยู่มาวันหนึ่ง -ไปอีกคน คราวนี้แม่กับพี่สาวก็แปลงร่างทันที และจัดการโขกสับเอลล่า บลา บลา บลา
ตรงหลัง "อยู่มาวันหนึ่ง" นี่แหละขอรับ คือ Beginning Force หมายถึง ชีวิตตัวละครที่อยู่มาดีๆ กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ชีวิตธรรมดานั้นพลิกผันไป ตรงจุดนี้ที่คนอ่านถือว่า เนื้อเรื่องเริ่มขึ้นแล้ว
และตรงจุดนี้เองที่คนอ่านรอขอรับ ว่าชีวิตธรรมดาของนางเอกจะเปลี่ยนไปเมื่อไร และจุดที่ว่านั้น ส่วนมากในหนังสือหลายๆ เล่มก็คือ "การปรากฏตัวของพระเอก" นั่นเอง
คำถามเบื้องหลังของการเรียกหาพระเอกก็คือ เมื่อไรเรื่องจะเริ่ม?
ในนิยายปัจจุบัน คนอ่านไม่ค่อยมีความอดทนในเรื่องการอ่านพื้นฐานตัวละครสักเท่าไรหรอกขอรับ อ่านแค่สักสองสามย่อหน้าก็เข้าเรื่องเลยก็มี คนอ่านจึงเคยชินกับ 'การเข้าเรื่อง' อย่างรวดเร็ว ไม่แปลกหากหลายๆ ตอนแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต่อชีวิตนางเอกสักที
แต่ในที่นี้ ข้าน้อยไม่ได้หมายความว่า การปรากฏตัวของพระเอกจะเป็นการเข้าเรื่องเสมอไปนะ บางเรื่องก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าคนเขียนหลายคนใช้วิธีนี้ และคนอ่านเห็นการเข้าเรื่องลักษณะนี้มากๆ เข้า จึงเข้าใจว่าเป็นการเข้าเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว
ขอย้ำว่า ข้าน้อยไม่ได้คิดจะคอมเมนต์เรื่องของท่านจขกท.เพราะไม่เคยอ่าน ส่วนที่อธิบายข้างบนไป เป็นแค่ข้อสันนิษฐานความเป็นไปได้ที่คนอ่านคอมเมนต์ในลักษณะนี้ขอรับ
อยากเรียนเจ้าของเม้นว่าช่วยก๊อปคอมเม้นนี้ไปตั้งกระทู้ที อยากปักหมุด555555555
วางไว้ตรงนี้แล้วกันขอรับ แอบขี้เกียจ
หากท่านเจ้าของคอมเมนต์ด้านบนจะกรุณา จะหยิบไปตั้งก็ได้ขอรับ
เหมือนไขข้อข้องใจเลยครับ เข้าใจแล้ว่าทำไมคนอ่านเรียกร้องพระเอกจริงๆ
ผมชอบคอมเม้นนี้มากครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการกดดันหรือด่าแต่อย่างใด ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณมากๆครับ
คล้ายๆกันค่ะ 5555 แต่เราไม่ซีเท่าไร เพราะตามพล็อตเรื่องราวพระเอกจะออกแนวลึกลับอยู่ช่วงแรกๆค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนหายไปนาน เราอาจจะมีการเพิ่มฉากพระเอกมาทีหลัง เห็นใจคนอ่านไรแบบนี้ ซึ่งฉากที่เพิม่มาเราจะใช้เป็นฉากเสริมแทนค่ะ พยายามไม่ให้กระทบกับพล็อตหลัก หรือใช้เสริมพล็อตหลักบางส่วนไปเลยก็ได้ค่ะ
เรื่องที่เราแต่งตัวละครที่วางไว้เยอะมากค่ะ แต่ยังไงก็ต้องเลือกตัวหลักๆ แนะนำว่าบางส่วนไหนไม่จำเป็นไม่ต้องไปเน้นเยอะไปค่ะ อาจจะใช้บอกเล่าผ่านอีกตัวแทนก็ได้ เนอะ
คิดในแง่ดีไว้ค่ะ ว่าคนอ่านชอบตัวละครตัวไหน เขาก็อยากที่จะให้ตัวนั้นออกบ่อยๆ 555
แสดงว่าพระเอกหล่อมาก จึงมองไม่เห็นคนอื่นในสายตา ฮิๆ
อารมณ์คู่จิ้นนะครับ คนชอบเยอะ 5555
มาคอมเม้นด่าเราก็ได้ 555 เพราะนิยายเราไม่มีคอมเม้นเลย
โดนกดดันหนักกว่า
เพราะตอนแรกกะว่านิยายจะไม่มีนางเอก ไปๆ มาๆ กลายเป็นต้องใช้นางเอก ไม่งั้นเรื่องไม่สมเหตุสมผล
รีทฝั่งนึงไม่เอานางเอก อีกฝั่งจะเอานางเอก T^T!!!
นางเอกเรากว่าจะโผล่ก็ตอนที่15 ถ้าเทียบเป็นไฟล์ก็หน้าที่119-.-
โดนแรงกดดันบ่อยๆ เยอะๆ เดี๋ยวก็ตายด้านเอง #แบบเรา=_=
ก่อนหน้านี้เราซึมเลยค่ะ เวลาเจอคนทวงบ่อยๆก็เครียด คิดไม่ออกก็ฝืนแต่ง แล้วก็มาเซ็งตัวเอง
หลังๆ ตามใจตัวเองละ
แรกๆ เครียดค่ะ เครียดมากแบบเหมือนเราไปฆ่าคนตายอะไรประมาณนั้น ล่าสุดโดนว่า ว่าแบบนิยายเรียบไปค่ะ เราก็แบบ นี่มันเริ่มต้นเอง จะให้ดราม่าแต่เริ่มเลยเหรอ สุดท้ายเลยจัดหนัก ร้องไห้น้ำตาท่วมจอเลยค่ะ ก็แค่ไม่มีไรมากแค่เอาคืนแค่นั้น ร้ายเนาะ5555
เคยเจอเหมือนกัีนว่าทำไมเรื่องมันไม่ไปถึงไหน ทำไมวนอยู่ที่เดิม และอยากให้คนนั้นเป็นพระเอกมากกว่าคนนี้ อ่านแล้วเป๋เลยค่ะ ถึงขนาดหยุกแต่งต่อไปพักหนึ่งรอให้สมองกลับเข้าที่เข้าทาง และพยายามไม่เปิดเข้าไปหน้านิยายเรื่องนั้นเพระากลัวถูกทวงและตำหนิ 555
หนีปัญหาสุด ๆ ใจหนึ่งก็อยากแต่งตามใจคนอ่านนะ แต่อีกใจก็คิดถึงคอมเม้นต์กระทู้ในเด็กดีของนักเขียนคนหนึ่งที่บอกประมาณว่า นิยายทุกแนวก็มีนักอ่านที่ชอบแนวนั้นอยู่ จะมากจะน้อยแต่ก็มี
จากนั้นก็เริ่มทำใจและก็กลับมาทำตามความตั้งใจของเราแต่แรก เพระาคิดว่าถ้าคนอ่านไม่ชอบเค้าก็แค่ไปอ่านนิยายเรื่องอื่นงานคนอื่น แต่นี่คือนิยายของเรา ความคิดของเราที่เราไม่พอใจเองแล้วจะไปแต่งตามคนอื่นก็ไม่ใช่ละ
โดนคล้ายๆกันครับ แต่ไม่รุนแรงเท่า เข้าใจฟีลเลย
อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีคนเม้นนะครับ.... #ร้องไห้หนักมว๊าก #เศร้าแปปป
สมัยก่อนผมเจอก็แทบอยากจะเชือดคอคนวิจารณ์เลยทีเดียว
แต่หลังๆ ถ้าผมมองมันเป็นข้อดีในการปรับปรุงหรือผลักดันนิยายเราให้ดีขึ้น
แต่อย่าลืมว่า นิยายเรื่องของเรา เราจะกำหนดไปทิศทางไหนก็แล้วแต่เรา ไม่ใช่ให้แฟนคลับมากำหนดพล็อตนิยายเรา
หวั่นไหวเหมือนกัน ฮา... คือเรื่องที่เขียนอยู่ คนอ่านหันไปเชียร์พระรองกันหมดเลย และเบื่อพระเอกซะแล้ว แต่เราก็อยากเขียนพระเอกแบบที่เราตั้งใจ
ต้องถามตัวเองว่า จะเอาแบบที่เราคิด หรือจะเอาแบบคนอ่านต้องการ หรือเอามาผสมผสานกัน ถ้าเราทำได้ทั้งสองส่วนก็ยิ่งดีนะ
อย่าซีเรียสกับคอมเม้นท์ของคนอ่านมากนัก จนไม่มีจุดยืนของตัวเอง ไม่งั้นเราจะไขว่เขว้ คนอ่านว่าอย่างนั้นที อย่างนี้ที เราก็ต้องเปลี่ยนไป
คอมเม้นท์ คือ มุมมองของคนอ่าน ไม่ว่าจะชม จะด่า จะชอบ หรือไม่ชอบ มันคือ มุมมองของคนอ่าน ที่เราจะเอามาประกอบการปรับปรุงแก้ไขเรื่องที่เราเขียน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก ^^
ของเราโดนตอนที่เอาตัวเอกคนนึงของเรื่องตายแล้วคนรักก็กลายเป็นฝ่ายผู้ร้าย
ตอนนั้นนี่โดนนักอ่านไล่ฆ่ากันทุกครัง้ที่อัพนิยายเลย 555
แต่เราก็ยังยึดมั่นในพล็อตของเราต่อไป
สำหรับเราถ้าบางจุดของนักอ่านเป็นไอเดียที่ดีแล้วเรา-งขึ้นมาก็อาจนำมาปรับใช้กับนิยายได้ แต่โดนหลักแล้วเราจะยึดมั่นกับพล็อตของเราเวสมอค่ะ
งานของเราอาจไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่เราสามารถเลือกจะทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกใจได้ค่ะ ดังนั้นก็สู้ๆนะคะ
ก็จิตวิทยาอะครับ ทันทีคนอ่าน เริ่มอ่านครั้งแรก เขาจะเริ่มวิเคราะห์ ตัวละครทุก ๆ คน ว่าใครดี ใครเลว แล้วจะคอยเอาใจช่วยฝ่ายดี แล้วจะมองหาตัวหลักของเรื่อง และพระเอก กับ นางเอกอะครับ
ถ้าให้พระเอกหรือ นางเอกออกมาช้า เกิน 1 บท คนอ่านจะเริ่มอึดอัดแล้วละครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?