Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Death Eater ผู้เสพความตาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 
ผู้เสพความตาย (Death Eater) เป็นตัวละครสมมติในชุดนวนิยายและภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ พวกเขาเป็นกลุ่มพ่อมดแม่มด นำโดยลอร์ดโวลเดอมอร์ ที่แสวงการทำให้ชุมชนพ่อมดแม่มดบริสุทธิ์โดยการกำจัดผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล (พ่อมดแม่มดที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่มีเวทมนตร์) พวกเขายังพยายามสร้างระเบียบใหม่ผ่านกระทรวงเวทมนตร์และทำให้เกิดความกลัวในหมู่ชุมชนพ่อมดแม่มดโดยการข่มขวัญและสังหารข้าราชการคนสำคัญและศัตรูอื่นของผู้เสพความตาย ซึ่งหมายถึง สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์เป็นหลักผู้เสพความตายระบุได้จากตรามารบนต้นแขนซ้าย สัญลักษณ์ที่โวลเดอมอร์สร้างขึ้นเพื่อเรียกตัวเขาไปยังผู้เสพความตายทันทีหรือกลับกัน เครื่องแต่งกายปกติของพวกเขารวมเสื้อคลุมมีหมวกคลุมสีดำ และหน้ากาก กลุ่มผู้เสพความตายปรากฏครั้งแรกในนวนิยาย แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี แต่สมาชิกนั้นปรากฏตั้งแต่เล่มก่อน ๆ แล้ว เช่น ลูเซียส มัลฟอย และเซเวอร์รัส สเนป

ในช่วงแรกนั้นโวลเดอมอร์มีกองกำลังสมุนเป็นจำนวนมาก เรื่องการฆ่าผู้วิเศษและรวมไปถึงมักเกิ้ลนั้นถือเป็น 'การละเล่น' ธรรมดาอย่างหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันในยุคเรืองอำนาจของโวลเดอมอร์ ก็ได้มีสมาคมลับที่ใช้ชื่อว่าภาคีนกฟีนิกซ์ ซึ่งมีอัลบัส ดัมเบิลดอร์เป็นแกนนำ ที่พยายามต่อต้านและกำจัดอำนาจมืด พวกผู้เสพความตายจึงพยายามกำจัดพวกภาคีให้หมดสิ้น ในขณะที่พวกภาคีถูกฆ่าเหล่าผู้เสพความตายก็ลดลงจากการถูกจับกุม หรือถูกฆ่าโดยมือปราบมารบ้าง จนกระทั่งโวลเดอมอร์สูญสลายอำนาจ เหล่าผู้เสพความตายจึงถูกกำจัดไปทีละคน บางคนตาย บางคนถูกจับ และบางคนพ้นความผิด ยุคแรกจึงสิ้นสุดลง

13 ปีต่อมาโวลเดอมอร์ฟื้นคืนชีพขึ้น และพยายามรวบรวมสมุนกลับมา แต่ในขณะเดียวกันแฮร์รี่ซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์คนเดียวก็พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้กระทรวงเชื่อ แต่กระทรวงกลับปฏิเสธที่จะรับรู้ว่าโวลเดอมอร์กลับมาจนกระทั่งผู้เสพความตายที่ถูกคุมขังแหกคุกออกมารวบรวมกำลังกับโวลเดอมอร์อีกครั้ง จึงทำให้เกิดสงครามกับผู้เสพความตายที่กระทรวงเวทมนตร์ ในกองปริศนา

หลังจากดัมเบิลดอร์ถูกฆ่าตาย ผู้เสพความตายกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง หลังจากนั้นพวกของโวลเดอมอร์ยึดอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์ได้สำเร็จอำนาจมืดกำลังจะครอบงำทั่วโลก ทำให้ประเทศถูกอำนาจมืดครอบงำทั่วทุกสารทิศรวมถึงฮอกวอตส์ด้วย พวกแฮร์รี่เองก็พยายามกำจัดชิ้นส่วนวิญญาณของโวลเดอมอร์ และทำให้เกิดสงครามที่ฮอกวอตส์

หลังจากโวลเดอมอร์ตาย พลังอำนาจมืดก็สลายไป เหล่าผู้เสพความตายต่างก็ถูกสังหารและถูกจับกุม บางพวกก็หนีไปได้ บางพวกก็ถูกฆ่าตายในสงครามฮอกวอตส์ เช่น เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์, แอนโทนิน โดโลฮอฟ เป็นต้น

รายชื่อผู้เสพความตาย โดยหลัก
ลอร์ดโวลเดอมอร์ หัวหน้า
เอเวอรี่
บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ ปลอมตัวเป็นแม้ด-อาย ในภาค4 เพื่อพาแฮร์รี่ไปหาโวลเดอมอร์ ถูกจุมพิตของผู้คุมวิญญาณของกระทรวง
เรกูลัส แบล็ก (น้องชายของซีเรียส แบล็ก) หรือ ร.อ.บ ภายหลังกลับใจ ขโมยฮอร์ครักซ์ให้ครีเชอร์ และตายด้วยอินเฟอไร
วินเซนต์ แครบ ลูกน้องมัลฟอย
แอนโทนิน โดโลฮอฟ
เกรกอรี่ กอยล์ ลูกน้องมัลฟอย
จักสัน
ไอกอร์ คาคารอฟ เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเดิร์มสแตรงค์ ได้หักหลังโวลเดอมอร์ ตอนโวลเดอมอร์สิ้นอำนาจ และตายด้วยน้ำมือของโวลเดอมอร์
เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ลูกพี่ลูกน้องของซิเรียส แบล็ก เบลลาทริกซ์ได้ชื่อว่า เป็นสมุนเอกของคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม และเธอคือผู้ที่สังหารซิเรียส แบล็ก และใช้คำสาปกรีดแทงกับแฟรงค์และอลิซ ลองบัตท่อม พ่อแม่ของเนวิลล์ ลองบัตท่อมจนทั้งคู่เสียสติ ภายหลังถูกมอลลี่ วีสลีย์สังหารในสงครามฮอกวอตส์
โรโดลฟัส เลสแตรงจ์ สามีของเบลลาทริกซ์
ลาบัสแตรง เลสแตรงจ์
ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ หรือหางหนอน ตายในภาค7
ลูเซียส มัลฟอย พ่อของเดรโก มัลฟอย
นอต
วอลเด็น แมคแนร์ เป็นผู้เสพความตาย และเพื่อนของลูเซียส มัลฟอย ปรากฏตัวครั้งแรกในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน โดยเป็นเพชรฆาตที่จะประหารบักบีค และใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ เขาเป็นผู้เสพความตายที่จับตัวลูน่า เลิฟกู๊ด และในตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์กับซิเรียส แบล็คสู้กับลูเซียส มัลฟอยเขาก็มาช่วย ลูเซียส มัลฟอยต่อสู้
เซเวอรัส สเนป แฝงตัวเข้าไปเพื่อล้วงความลับ แท้จริงแล้วภักดีต่อฝ่ายดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟีนิกซ์
ออกัสตัส รู้กวู้ด
ทราเวอร์ส ผู้เสพความตายที่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ในเจอภาคที่ 7 ตอน กริงกอตส์
อีวาน โรซีเออร์
วิกกี้ส์
มัลซิเบอร์
อะเล็กโต แคร์โรว์ น้องสาวของอะเล็กโต สอนวิชามักเกิลศึกษาภาคที่ 7
อะมีคัส แคร์โรว์ พี่ชายของอะเล็กโต สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด หรือศาสตร์มืดนั่นเองในภาคที่ 7
เฟนเรีย เกรย์แบล็ก มนุษย์หมาป่าผู้จับแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ดีน และลูน่า ไปที่คฤหาสน์มัลฟอย
แยกซ์ลีย์
 
อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org


 

แสดงความคิดเห็น

>