Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ชีวิตแลกเปลี่ยน10เดือนในจีน จากเมืองที่ไม่อยากไป แต่ตอนกลับไทยนี่ร้องไห้หนักมาก #มันยาวมากกก

ตั้งกระทู้ใหม่




สวัสดีค่ะ :)))) ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ อรณิช  บุญเจริญกุล หรือ ลูกหมู นะคะ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโครงการ AFS รุ่น 54 ค่ะ ไปประเทศจีน เมืองที่เราได้ไปนั้นคือเมือง "เจียมูซือ" มาแล้วค่ะ ศัพท์ใหม่คำแรก เจีย มู ซือ นั่นเอง5555 (จำไว้ให้ดีนะคะ55555) เมืองๆนี้อยู่ มณฑลเฮยหลงเจียงค่ะ มณฑลเหนือที่สุดของจีน อยู่บนสุดของจีน ไกลจากเมืองหลวงก็มากๆ หนาวทีนึงก็หนาวจนไม่อาบน้ำ15วัน ก็ทำมาแล้ว55555 ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ เมืองๆนี้เป็น1ใน3เมืองที่อยู่ในบัญชีดำของหมูค่ะ หมูภาวนาตลอดว่าอย่าได้เมืองนี้ อย่าได้ไปเมืองๆนี้นะโว้ยยยย(อีกสองเมืองไม่บอกหรอกว่าเมืองอะไร5555) เหตุผลโง่ๆเลยค่ะ มันไกลจากปักกิ่ง มันเป็นเมืองเล็ก มันไม่เท่ เมืองอะไรวะ ไม่รู้จักเว้ย ไม่เอาไม่ไป!!! นี่แหละค่ะเหตุผลที่ไม่อยากไปเจียมูซือ มีแค่นี้เลยจริงๆ55555 อย่างที่โบราณเค้าว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น เอาแล้วจ้าาา วันที่afsส่งเมล์มาว่าเราได้เมืองไหนก็เลื่อน เลื่อน เลื่อน และ เลื่อน...จ้าาาา อีอรณิช โดนส่งไปเจียมูซือจ้าาาา ตอนนั้นความรู้สึกคือ แย่ โคตรแย่ แย่มากๆ ทำไมวะ ทำไม คำถามเกิดเต็มหัวแต่ก็ไม่แสดงอะไรมากไม่อยากให้พ่อแม่รู้เพราะว่าเรารู้สึกยังไง เพราะเป็นคนพูดเองว่า ไปอยู่ได้หมด ไปได้ทุกที่ นั่นแหละค่ะท่านผู้ชม ก็เลื่อนๆดูเออเมืองนี้มีคนไทย6คน (รวมหมูแล้วนะคะ) โรงเรียนที่ได้ไปอยู่คือ Jiamusi No.11 Middle School คือ เจีย11 หรือ ฉืออีจง นั่นเองค่ะ  เข้าเรื่องกันเลยว่าทำไม จากเมืองที่ไม่อยากไปแต่ถึงเวลากลับร้องไห้นี่สะอึกสะอื้น มาค่ะมาเริ่มกันเลย



(รูปนี้คือชุดเครื่องแบบของโรงเรียนนะคะ)




หลังจากวันที่ทราบเมืองแล้วว่าเราได้เมืองอะไร ก็นั่นแหละค่ะ ศึกษาเมืองๆนั่นว่ามันอยู่ตรงไหน มันมีอะไร อากาศมันเป็นยังไงบลาๆ รวมถึงเตรียมตัวกับการที่จะต้องไปใช้ชีวิต10เดือนที่นั่น เช่น ไปซื้อชุดไทย ของฝาก เสื้อผ้ากันหนาวบางอย่าง บลาๆ แต่พีคมากกว่านั้นคือ โฮสแฟมิลี่ ค่ะ รอโฮสจ้า คือคิดตลอดว่า ใครจะได้เด็กเถื่อนๆแบบนี้ไปอยู่ในบ้านวะ5555 ใครจะได้อีเด็กพูดมากๆ กินเยอะๆ ไปอยู่ในบ้านวะ 

เวลาไม่เคยหยุดเดินเนอะ มันก็เดินทางมาเรื่อยๆจนถึงวันที่ซื้อของเสร็จ ได้โฮสแล้วและ....ก็ต้องเดินทางค่ะก็เดินทางไปเรื่อยๆจนถึงปักกิ่งจ้าาาา ถึงแแล้วเย้ๆ (ช่วงเวลาก่อนถึงเมืองไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะขออนุญาตรวบรัดเนื้อหานะคะ) หลังจาดนั้นก็ทำกิจกรรมที่ปักกิ่งค่ะ โดยวันรุ่งขึ้นก็ไปกำแพงเมืองจีนค่ะ สนุกสนานกันไปเนอะ วันถัดมาอีกวันนี้เริ่มแล้วค่ะชีวิตแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมมันเริ่มแล้วค่ะ หมูและเพื่อนๆก็โดนส่งไปที่สถานีรถไฟปักกิ่งค่ะ เพื่อขึ้นรถไฟเป็นเวลาทั้งสิ้น 24 ชั่วโมงโดยประมาณ..ไปเมืองเจียมูซือ เชื่อยังวะะะะ เชื่อยังว่ามันไกลโคตร โอ้โหกว่าจะถึงที่รอขึ้นรถไฟนี่ฝ่าฟันมากค่ะ เบียดกระแทกเบียดๆ โวยวายเว้ย ร้อนด้วยวันนั้น มนุษย์ป้าและลุงหรือทุกวัยอะแหละ พลังเยอะมากจริงๆ55555 ก็ได้ขึ้นรถไฟแล้วจ้าก็เม้ามอยกันไป รวมถึงคึณครูหรือเหล่าซือชองพวกเราก็คุยกันพอประมาณเนื่องจากความไม่แข็งแรงในภาษาจีนของพวกเรานั่นแหละค่า ส่วนภาษาอังกฤษก็เนาะ สำเนียงมันไม่เหมือนกันก็คุยกันยากหน่อยแต่สุดท้ายก็รู้เรื่อง (เก่งเนาะ5555) 


(กำแพงเมืองจีนค่าาาาา)

ถึงแล้วจ้าาาา ถึงแล้วเย้ๆ แล้วก็ลงรถไฟ ความรู้สึกแรกที่รับรู้คือ...เห้ยยยยยย เย็นวะ ทำไมอากาศมันเย็นจังเลยวะ แต่ก็โอเคไม่ถึงกับหนาวมากขนาดนั้น พอทีนี้เราก็เดินออกมาและก็เจอโฮสค่าาา เจอแล้วค่า อีนี่เสนอหน้ามากค่ะวิ่งไปกอดโฮส555555 แล้วก็พูดจีนแบบโง่ๆ5555 พูดแบบหนีห่าวๆ แค่นั่นแหละ ก็ถ่ายรูปบลาๆแล้วเค้าก็พาเราไปโรงเรียนค่ะ ก็โอเค ไปก็ไป ความรู้สึกที่เห็นเมืองนี้วันนั้นคือ เห้ย มันใหญ่เว้ย มันไม่ได้เล็ก ตึกมันเยอะ มีรถติดอีก โอ้โหว สนุกสนาน พอไปถึงโรงเรียนเราก็เก็บของจัดของ กินข้าว แล้วก็ออกไปซื้อของใช้ในซุปเปอร์แถวๆนั้นอะแหละ ว่าด้วยเรื่องกินข้าว...ครั้งแรกคือรสชาติมันไม่ชินอะ และ บางทีมันอาจจะถึงขั้นที่เกิดความคิดที่ว่า มัน ไม่ อร่อย วะ... เลิกๆอยากต้มม่าๆเว้ย แต่พอเค้าถามว่าอร่อยมั้ยจ้ะเด็กๆ ทุกคนพร้อมใจพยักหน้าค่ะ แต่มองหน้าก็ณู็ใจเพราะถ้าถามว่าเติมมั้ยทุกคนคงพร้อมใจส่ายหน้าเหมือนกัน55555 ผ่านไปสองวันการเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ก็ได้เกิดขึ้นค่ะ..



เรียน6:50 เลิก สามทุ่ม... ใช่ค่ะ เชื่อสายตาท่านนะคะ 55555 เวลานี้จริงๆค่ะ คือต้องพร้อมเพรียงกันนะคะ แล้วก็ต้องมีเข้าแถวด้วยทุกวันจันทร์แค่นั้นแหละวันเดียว การเรียนก็เรียนสนุกมากอาจจะเป็นเพราะส่วนตัวคือชอบภาษาจีนและประเทศจีนมากๆคือชอบจริงๆ ใช้คำว่าบ้าคลั่งเลยก็ได้ค่ะ 555 ส่วนมากก็เรียนภาษาจีนค่ะ แล้วก็มีแทรก วิชาพละ การเต้น ร้องเพลง กังฟู ภู่กันจีน รวมถึง การทำอาหารนั่นเองค่ะ  คุณครูค่อนข้างกดดันตอนแรกๆก็ไม่ชอบแต่หลังๆก็อ๋ออออ หวังดีนี่เอง เหนื่อยหน่อยแต่ก็คุ้มกับการที่ทุกวันนี้ฟัง พูด อ่าน เขียน คล่องทีเดียว(เอาจริงๆไม่หน่อยอะ เหนื่อยมากๆ) 


(วันนั้นซื้อชุดนี้เพื่อมาถ่ายรูปกับหิมะ55555)




ความรู้สึกแรกที่ลงรถไฟคือหนาว... และหน้าหนาวมันก็มาถึงค่ะมาลงเรื่อยๆ อาจจะเริ่มจาก 20 15 14 13 12...3 2 1 0 ยังไม่หมดค่ะ มันถึงติดลบโว้ย!!! ตอนนั้นเชคอากาศแล้วเห็น 0 องศาคือกรี๊ดค่ะ 55555 แต่มันก็ลงมาเรื่อยๆจนถึง -35... ในขณะที่ทุกวันนี้ไทยนี่จะสามห้าตลอด5555 หนาวค่ะมันหนาวมาก หนาวแบบเจ็บหน้า ปากแตก รวมถึงมือแตกเลือดซิบ..เอาน้ำเดินออกไปกลับเข้ามาเป็นน้ำแข็งนั่นแหละค่ะ ความหนาวของเมืองที่มันติดรัสเซียมันเป็นแบบนี้แหละค่ะ55555 เรื่องอากาศก็ไม่เท่าไหร่ เรื่องของกินนี่สิ น้ำมันเยอะไปป่าว รวยน้ำมันมากหรอคะ 55555 คือช้อนออกมาได้อะ ได้เลยจริงๆ55555 ส่วนใหญ่ทุกๆวันก็จะกินเกี๊ยว กินเนื้อ กินเส้น และใช้ตะเกียบกับอาหารทุกๆอย่าง ทุกอย่างจริงๆกินเฟรนชฟรายที่บ้านโฮสก็หยิบตะเกียบมาให้อะ555555 และคนที่นี่ดื่มน้ำอุ่นค่ะ น้ำร้อนเลยก็ว่าได้ คือครั้งแรกที่ซื้อชาไข่มุกเค้าไม่ใส่น้ำแข็ง...



(รูปนี้คืออาทิตย์แรกที่ไปถึงก็ผอมเพรียวทั้งสองคน คนในรูปทางซ้ายคือโฮสของเค้าเองงงง)

พักเรื่องนี้ไว้แล้วสนุกสนานกันกับเรื่องโฮสเถอะ55555555
โฮสเราชื่อเล่นชื่อหยวน (น้องหยวน นางหยวน หรือบางทีก็ อีหยวน) โฮสเราเกิดปีเดียวกันค่ะเป็นพี่เรา9เดือนแต่โฮสท่านแม่มักจะบอกเสมอว่าเราเป็นพี่นางหยวน เพราะน้องค่อนข้างจะเด็กน้อยมากๆในทุกๆเรื่อง555555 ส่วนตัวหมูสนิทกับโฮสมากค่ะมากๆเลย คุยกันได้เกือบทุกเรื่องทั้งๆที่คนละภาษาแท้ๆ และเชื่อด้วยว่าเค้าเองก็สนิทกับเราเหมือนกัน555555 มาวันแรกอีหยวนมันไม่พูดกับหมูเลยค่ะ มันพิมพ์ในโทรศัพท์สีฟ้าของมันแล้วก็ยท่นให้หมูดู หมูก็พูดภาษาอังกฤษไปค่ะตอนนั้นแปลมาแล้วก็คือ จะไม่พูดด้วยแล้วนะ ถ้าไม่เลิกคุยผ่านการพิมพ์ทางมือถืออะ นางก็เลยพูดจีนมาคำนึงค่ะ ตอนนั้นฟังออก เชื่อว่าแปลไม่ผิด นางพูดว่า ปู้ก่านชัว แปลว่าไม่กล้าพูด ้ราก็บอกไปค่ะ ไม่ๆไม่เป็นไรพูดมาเถอะ เราเองโง่กว่าที่เธอคิดนะประมาณนี้นางก็ขำๆแล้วก็เรื่มกล้าคุยกันมากขึ้นเรื่อยๆ จากนอนคนละห้องผ่านไปเดือนเดียวนางขอย้ายมานอนกับหมูค่า 55555 หลังจากนั้นก็นอนดึกดื่นเม้ามอยจนแม่เดินมาด่าตลอด 55555 จรืงทะเลาะกันก็มีนะ หลายรอบ มันเป็นเรื่องที่เบาๆสำหรับเรามากๆเช่นเราแกล้งถ่ายรูปหลุดนาง นางก็งอนแล้ว อะไรแบบนี้ บางทีนางไม่พอใจมากๆก็ตะคอกบ้าง แต่ตอนสุดท้ายด้วยความที่นิ่ง คือเกิดมาอีนี่เป็นคนแรกที่เรายอมมากๆขนาดนี้ ด้วยความนิ่งนี้ทำให้นางค่อยๆเริ่มหายนิสัยแบบนี้และสามเดือนสุดท้ายพวกเรารักกันมาก สามารถคุยกันปรับทุกข์กันได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเวลาร้องไห้จนสะอื้นแล้วอีกคนต้องเอาน้ำอุ่นมาให้ เอาช้อนวางนอกน้ำต่างตอนอากาศติดลบเพื่อเอามาแปะตาตอนร้องไห้เพราะกลัวตาบวม555555 หรือจนกระทั่งตอนหัวเราะดังมากๆตอนตีสองแล้วแม่ก็ตะโกนมาด่าอีก555555 ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากๆเรากับหยวนๆ เพราะตั้งแต่เราไปอยู่บ้านเค้า พ่อแม่เค้าก็ปล่อยนางมากขึ้น ถ้ากล่าวถึงคุณพ่อและคุณแม่ก็คงพูดได้อย่างเดียวว่า เลี้ยงดีจนนน้ำหนักขึ้น10โล..นั่นแหละค่ะ ถ้าในเจาะมากกว่านี้ก็คงจะเป็นการที่พ่อและแม่สอนเราเหมือนลูกเค้าแท้ๆอีกคนเลยไม่ว่าเรื่องอะไร ในบางครั้งก็ดุแต่ก็จะน้อยมากๆ



(วันนั้นจำได้ว่าตอนห้าทุ่ม55555555เปลืองเครื่องสำอางค์มากมั้ยถามใจดู)


CULTURE (SHOCK) .....
เรื่องที่ทุกคนอย่างรู้ก็คงเป็นเรื่องห้องน้ำสินะคะ...หมูเจอมาทุกแบบค่ะ ย้ำเลยว่า ทุก แบบ ค่ะ ตั้งแต่ราง ไม่มีประตู มีประตู สะอาดมากล้มตัวนอนได้ หรือ ไปในบ้านที่ไม่มีห้องน้ำในบ้านเราไปมาหมดแล้ว..
มากกว่าห้องน้ำก็คือการอาบน้ำค่ะ..คนจีนนานๆอาบทีแต่เราไม่เคยรังเกียจอะ เพราะเราก็ทำตามเค้า55555 ก็มันหนาวนี่น่า อาบทุกวันก็แข็งตายกันพอดีสิ เหงื่อไม่มี กลิ่นไม่ออกสบายไป5555 แต่..  มากสุดในชีวิตก็15วันอะค่ะที่ไม่ได้อาบน้ำ (เฉยๆ55555) 


โฉง ช่าง ป่าง ปัง ปรี๊ด!!!! ไม่ว่าจะเสียงประทัดแตรรถหรือเสียงคนจีน ทุกอย่างคือดังค่ะ สตรองมากไม่ว่าจะอะไร 55555 คนจีนเป็นคนเสียงดังค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนหยาบคายนะ เสียงดังค่ะ ไม่ได้พูดคำหยาบ เสียงดัง โดยเฉพาะเวลาดีใจนี่เสียงดังมากค่ะ ดังราวๆกับประทัด..ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ พี่จีนเค้าจะจุดประทัดค่ะ โดยเฉพาะตรุษจีน โอ้โหววววว นึกว่ามีโรงงานผลิตประทัดระเบิดอะ555555  แต่สารภาพค่ะ ว่าไปวันแรกนอนไม่หลับเพราะเสียงแตรรถ..แต่ผ่านมาอาทิตย์นึงก็โอเคเพราะมันชิน555 แต่น่ารักเหอะ น่ารักมากๆด้วย สำหรับหมูประเทศนี้น่ารักตลอด5555  ยิ่งคนในเมืองเล็กๆนะคะรู้ว่าเราเป็นต่างชาติไปนะนี่ยิ่งต้อนรับเลย น่ารักมากๆ คิดถึงจัง ;(((





เข้าเรื่องเพื่อนๆบ้างค่ะ มาที่โรงเรียนนี้มีคนไทยทั้งหมด 6 คน หญิง5 ชาย1 โอ้โหววววว เป็นอัตราส่วนที่ยุติธรรมดีเนาะว่ามั้ย5555 แต่พวกเราก็อยู่กันได้ค่ะ ผ่่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกัน ไม่ว่าเรื่องดีๆหรือเรื่องที่มันเครียดมากๆ ทะเลาะกันบ้าง ไม่ถูกกันใจกันบ้างแต่พอกลับไหนตอบสิใครไม่ร้องไห้ ใครไม่คิดถึง :)))) รวมถึงพวกฝรั่งค่ะ มีฝรั่งมาอยู่รวมกับพวกเรา6คน อิตาลี่4 เยอรมัน2 ตอนแรก เกลียดเว้ย ! เกลียดมัน เกลียดมาก ความคิดไม่ตรงกันสักอย่าง ทะเลาะกันทุกครั้งเมื่อเกิดการสนทนา แต่ไม่รู้อะไรอาจจะเป็นเพราะทุกคนเริ่มเข้าใจ ว่าเห้ย ทุกคนจะมาเหมือนกันไม่ได้เว้ย ค่อยๆปรับคนละนิดละหน่อยละกัน..ผ่านมาได้สักสี่เดือนพวกเราก็เริ่มรักและสนิทกันมากขึ้น จน มากที่สุด ถึงขั้นรวมหัวกันแกล้งครู รวมหัวกันหาแผนไม่เรียน รวมหัวกันในการไฝว้ต่าง55555 ก็สนุกสนานค่ะ รวมถึงเพื่อนๆคนจีนเราก็สนิทกันมากค่ะ เค้าดูแลเราดีมากๆ ถ้าเทียบกันบ้างว่าเด็กต่างชาติมาบ้านเรา เผลอๆหมูเองยังเทคแคร์ไม่ได้เท่าเด็กจีนเลยย

(กายอาาาาา เพื่อนฝรั่งที่เราสนิทมากด้วยที่สุด นางเป็นคนอิตาเลี่ยน)
และกลุ่มคนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือพวกเหล่าซือค่ะ เหล่าซือที่เป็นบุคคลที่ดูแลเราทุกๆเรื่อง เทคแคร์เรามากๆ ไม่ว่าเหล่าซือคนไหนๆ แต่ขอเจาะจงค่ะ ท่านหนี หรือ หนีเหล่าซือ ครูเค้าเป็นผู้หญิงคนนึงที่อายุสามสิบกว่า ที่จิตใจและความคิดวัยใสและซื่อมากๆเลย55555 ทำให้โดนพวกเราหลอกแกล้งอยู่บ่อยๆ หรือกระทั่ง ทำท่านหนีร้องไห้มาแล้ว 55555 ซ่ามั้ยละให้ทาย แต่เห็นน่ารักแบบนี้ก็มีมุมโหดนะคะ ดุทีนึงเวลาพวกเราทำผิดนี่คือเงียบและกริบทั้งห้อง แต่สุดท้ายคือรักมากๆเพราะไม่ว่าอะไรท่านหนีจะเป็นคนดูแลตลอดเลยตั้งแต่เรื่องเล็กเช่น เหล่าซือเล็บฉีกช่วยด้วย TT หรือเรื่องใหญ่ๆเช่น เหล่าซือเลี้ยงข้าวหน่อย..(ที่เป็นเรื่องใหญ่เพราะใช้เงินใช่ป้ะ5555)




(คนนี้แหละค่าาาท่านหนี55555555)



(นี่ไงงงง คุณป๊าและม๊าเราเองงงง เอาจริงๆตอนนั้นร้องไห้หนักมากค่าาาา ทั้งสามคนอะแหละ555 คิดถึงจัง)

จริงๆแล้วเรื่องใน10เดือนมันยังไม่หมดเลยนะคะ แต่ถ้ามากไปกว่านี้คาดว่าคงจะใช้เวลาสามวันในการอัพโหลด5555555 ชีวิตเด็กแลกเปลี่ยนมันเป็นได้ครั้งเดียวค่ะซึ่งสำหรับเรามันคุ้มแล้ว มันคุ้มมากๆเราได้รับอะไรมาเยอะมากๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสบกาณ์ดีๆหรือร้ายๆ เรื่องดีๆจนร้องไห้หรือเรื่องแย่ๆจนร้องไห้หนักๆเหมือนกัน ทุกอย่างมันสอนเราหมดแล้ว มันสอนให้เราโตขึ้น ให้เราเย็นขึ้น รวมถึงเรื่องความรู้สึกต่างๆที่เราได้รับมาจากคนจีนที่นั่น ความรู้สึกดีๆของเราที่ให้เค้าไปแบบไม่หวังว่าเค้าจะต้องมาให้ใจเราหรือสิ่งของอะไรมากมาย แค่ได้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขแล้ว หนึ่งอาทิตย์ก่อนกลับจากเมืองนั้นหมูร้องไห้ทุกวันค่ะ 555555 คือตอนนั้นคิดว่ามันคงต้องคิดถึงมากแน่ๆ ครอบครัวที่รู้จักเราแค่กระดาษโปรไฟล์แล้วเปิดบ้านและเปิดใจรับเราไปอยู่ เมืองๆนั้นที่ต้อนรับเราตลอด ผู้คนจริงใจ ยิ้มแย้มให้ตลอด พูดคุยสนุกสนาน พวกเหล่าซือที่ต้องมาดูแลพวกเราและรับผิดชอบพวกเราเยอะมากๆ หรือ นางหยวนที่คอยปั่นประสาท เพื่อนคนไทยที่ผ่านอะไรๆมาด้วยกัน เพื่อนฝรั่งที่จากกันแล้วก็หาทางเจอกันที่โคตรจะยาก แต่ไม่ว่าอยู่ไหน ทุกอย่างทุกคนอยู่กับหมูตลอด เพราะช่วงเวลาทีนั้นมันเป็นช่วงที่มีค่ามากที่สุดแล้วจริงๆ แล้วเราจะต้องได้เจอกันอีกนะ เจียมูซือ ไม่เคยคิดว่าจะรักได้มากขนาดนี้ ถ้าเลือกได้ยังไม่อยากกลับ อยากอยู่ต่อจนให้หายคิดถึงไปเลย

ฝากไว้ด้วยนะคะสุดท้ายแล้วจริงๆ ประเทศจีน เป็นอีกประเทศนึงที่ใหญ่มากๆ คนเยอะที่สุด เพราะฉะนั้นอะไรที่ได้ยินมาก็เยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะแนวแย่ๆหน่อยใช่มั้ยละ555555 แต่บางอย่างมันก็จริงบางอย่างมันก็ไม่จริง เหรียญมันมีสองด้านเสมอ หวังว่าหลายๆคนที่ได้อ่านกระทู้ของหมูแล้วจะเปลี่ยนทัศนคติต่อคนจีนและประเทศจีนในทางที่ดีบ้างเนาะ :))))

ดูรูปเพิ่มได้ที่นี่นะ IG : oh_oranit

ผิดพลาดอะไรตรงไหนขอโทษด้วยนะคะะะะะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ <3


 

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

STARBEADS 24 ก.ค. 59 เวลา 01:21 น. 2

ตอนแรกอยากไปแลกเปลี่ยนมาก จนเมื่อวานคิดจะตัดใจเพราะมันคงยากไปสำหรับเรา วันนี้พอได้มาอ่านกระทู้นี้ ทำให้เราคิดขึ้นมาอีกว่ายังไงก็ต้องลองไปสอบแลกเปลี่ยนแล้วล่ะ เราอยากมีประสบการณ์ไปอยู่ต่างประเทศบ้าง อยากไปศึกษาวัฒนธรรมต่างประเทศ อยากรู้จักคนใหม่ๆ นี่ถ้าเราได้ไปจริงๆก็คงต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วย เพราะถอดใจไปแล้ว แต่กลับมาอยากไปอีก มีแรงฮึดอีกก็เพราะกระทู้นี้เลย

1
Oh Oranit 29 ก.ค. 59 เวลา 11:32 น. 2-1

จริงป้ะะะะะ เราดีใจมากๆที่ได้เห็นแบบนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เข้ามาอ่านแล้วได้กำลังใจจากกระทู้เราอีก มีไรก็ถามเราได้เรื่อยๆเลยนะสู้สู้

0
FaFa 24 ก.ค. 59 เวลา 15:57 น. 3

ช่ายยยย ตอนแรกๆที่เรายังไม่ได้ไปจีนทีอ่ะ คือคิดว่ามันแย่แน่ๆ ต้องไม่มีมารยาทอย่างนู้นนี้นั้นบลาๆ แต่แบบพอไปจริงๆแล้วทัศนคติเปลี่ยนไปเลยเปลี่ยนไปมากกกกกกกกกกกกอ่ะ พวกเราคนไทยที่ไปนี่แบบมีความรู้สึกเดียวกันคือเขาเทคแคร์ดีมากกกอ่ะ เขาใจดีมากสอนเราบางเรื่องง(ไปแค่2อาทิตย์-.-) ยังคิดกันว่าถ้าคนจีนไปไทยเนี่ยเราจะเทคแคร์เขาดีขนาดนี้ไหม-?- พีคสุดคือเรื่องห้องน้ำ5555แบบสุดยอด55ตอนไปแรกๆนี่แบบเห้ย ทำไมเป้นงี้ฟะพวกเราก้บับรับไม่ดงไม่ได้. แต่อยุ่ๆไปก้ชิน5555 คือมันมีเรื่องดีๆมากกว่ามีเรื่องไม่ดีอ่ะถ้าเป็นไปได้อยากไปอยุ่ให้นานกว่านี้อยากไปอีกครั้งนึง นี่แค่2อาทิตย์อ่า ถึงตอนนี้ยังคิดถึงไม่หาย//เมืองเซี่ยเหมิน เมืองเล้กๆเหมือนกัน//.
ปล.จีนมันดีกว่าที่คุณคิดนาา ถ้าลองได้ไปแล้วจะรู้ว์. //บางเมืองบางคนนะ55555

1
Oh Oranit 29 ก.ค. 59 เวลา 11:33 น. 3-1

เนอะๆ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แค่มันแย่กว่าที่คิด เห้ยไม่ใช่555555 เราชอบจีนไม่รู้ดิ เราชอบ555555

0
Oh Oranit 29 ก.ค. 59 เวลา 11:28 น. 6-1

ดีใจจังเลยได้เห็นแบบนี้ ขอบคุณนะคะ :)))รักเลย

0
มุ้งมิ้ง 6 ธ.ค. 59 เวลา 12:52 น. 7

มีค่ายทั้งหมดกี่ครั้งค่ะ มีเพื่อนที่สอบตรงจีนอยู่หอพักมั้ยค่ะ
ปีนี้เค้าบอกหนูว่าไม่มีค่ายสำหรับจีนอยู่หอกพัก แล้วเราจะรู้เรื่องราวการเตรียมตัว เรื่องเพื่อน เรื่องที่อยู่อาศัยยังไงค่ะ??

0
;-) 13 ส.ค. 64 เวลา 17:41 น. 9

อันนี้คือพี่ไปตอนม.อะไรหรอคะ แล้วก้พอกลับมาไทยพี่ซ้ำชั้นมั้ยคะะ คือตอนนี้เราอยู่ม.5 อยู่ดีๆก็อยากไปแลกเปลี่ยนเลยสมัคร ถ้าติดก็ได้ไปตอนม.6

0