รีไรท์ระหว่างเขียน VS รีไรท์หลังเขียนจบ
ตั้งกระทู้ใหม่
เริ่มที่ว่า เรากำลังแต่งนิยายแนวแฟนตาซีอยู่เรื่องนึง เริ่มแต่งตั้งแต่สองปีที่แล้ว ตอนนั้นยังเด็กกว่านี้ ที่แต่งไปนั้นไม่มีพล็อตอะไรเลย ถ้าถามว่าเขียนต่อได้ไหม คำตอบคือได้ค่ะ แต่เรื่องจะเป็นยังไงอะไรก็ไม่อาจทราบได้ เรียกได้ว่าด้นสดแบบสดจริงๆ แต่ถ้าถามว่าอยากเขียนต่อไหม ไม่ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเรื่องมันจะเป็นยังไง จะแต่งจบไหมก็ไม่รู้ T^T ด้วยความที่ตอนนั้นเราแต่งมาถึงเกือบกลางเรื่องแล้ว (น่าจะนะ) ก็ประมาณยี่สิบกว่าบทอ่ะค่ะ แล้วก็มีความคิดหนึ่งผุดเข้ามาในหัว
มันคือความคิดที่ว่า เราต้องสร้างพล็อตให้นิยายของเราสิ เราก็บรรจงนั่งเขียนพล็อตอยู่สองสามวัน แต่ด้วยความที่เนื้อเรื่องที่เราดำเนินไปมันขัดกับพล็อตที่เราวาง คือเหมือนว่าถ้าเราไปต่อตามพล็อตที่เราเพิ่งวางใหม่มันก็จะไม่สมเหตุสมผลอ่ะค่ะ เลยมีอีกความคิดหนึ่งผุดเข้ามา คือการรีไรท์ แต่เราไม่แน่ใจว่าสมควรจะรีไรท์ตอนไหน
"รีไรท์ระหว่างเขียน" (ก็คือก่อนจะแต่งบทใหม่เนี่ย รีไรท์บทเก่าไปก่อนเลย) หรือว่า "รีไรท์หลังเขียนจบ" (ก็คือเดินตามพล็อตที่เพิ่งวาง ถึงแม้มันจะขัด ๆ ไปหน่อยก็เถอะ)
เพื่อน ๆ มีคำแนะนำยังไงแนะนำกันได้นะคะ เราห่างการเขียนและการอ่านไปนาน พิมพ์ผิดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณผู้ที่ให้คำแนะนำไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ
6 ความคิดเห็น
รีไรต์ของเก่าก่อนที่จะเขียนตอนใหม่ค่ะ จะทำให้น้องมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครที่เคยทิ้งไปนานแล้ว และทำให้น้องรู้ด้วยว่าน้องยังชอบที่จะเขียนต่ออีกมั้ย เพราะงานรีไรต์คืองานสำคัญสำหรับการแต่งนิยายทุกเรื่อง เป็นหน้าที่ของนักเขียนทุกคน งานรีไรต์จะทำให้งานของน้องดีขึ้นค่ะ
บางครั้งโล๊ะพล็อตใหม่หมดเลย ดันทุรังเขียนต่อแบบเดิมทั้งที่รู้ว่าต้องทิ้งไป ก็ไม่รู้จะเขียนต่อไปทำไมอ่ะครับ แบบนั้นเขียนใหม่ตั้งแต่แรกเลยดีกว่า
แต่บางทั้งจะแก้พล็อตแค่เล็กๆ น้อยๆ เขียนต่อไปก่อนก็ใช้ได้ ก็เขียนต่อไปก่อนครับ ผมก็อยากเขียนจบเหมือนกัน อย่างน้อยพอถึงเส้นชัยแล้วย้อนกลับมาแก้มันจะมีแรงมากกว่า (ไหนๆ ก็จบไปตั้งรอบนึงแล้วอ่ะนะ)
ต้องพิจารณาดูเองครับ :)
ผมเชียร์ให้รีไรท์ระหว่างเขียนนะ คือถ้าเรารู้ว่าเส้นทางที่เราจะเดินต่อมันไม่ใช่ ก็ควรจะถอยกลับไปแก้ใหม่ตั้งแต่แรก ดีกว่าปล่อยยืดเยื้อมาจนจบแล้วมาแก้ทีเดียว แบบนั้นมันจะยาก เกรงว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เหมือนเดิม พอไม่เหมือนเดิมเดี๋ยวก็ต้องลบแล้วแต่งใหม่อยู่ดี มันจะเป็นการทำงานซ้ำซ้อน เสียเวลาและเสียพลังงาน บางทีก็ทำให้เราท้อใจเปล่าๆ
ดังนั้น ถ้ารู้ว่าเนื้อหาตรงไหนในนิยายเรายังไม่ดี เพื่อความสบายใจก็แก้มันเสียเดี๋ยวนั้น เพราะพล็อตพวกนี้มันเป็นลูกโซ่ สมมตินิยายคุณมี 3 ท่อน ท่อนที่ 1,2,3 คุณเขียนจบหมดแล้ว แต่บังเอิญท่อนที่ 2 ไม่ดี แก้ไปแก้มา ผลลัพธ์มันเปลี่ยน มันจูนกับท่อนที่ 3 ไม่ติด คุณก็ต้องแก้ท่อนที่ 3 ใหม่ ก็กลายเป็นเหมือนเขียนใหม่ทั้งเรื่อง แบบนี้เป็นต้น
ปล.จริงๆ อย่างกรณีจขกท.เป็นผม ผมโละทิ้งแล้วเขียนใหม่ทั้งเรื่องเลยนะ เพราะนิยายที่เขียนขึ้นสมัยเด็กกับเราตอนนี้ มันคนละความคิดกันไง เราโต แต่นิยายที่เราเขียนไว้เมื่อนานมาแล้วมันเป็นความคิดของเราตอนนั้น ไม่ใช่เราตอนนี้ บางทีมันจูนกันติดยาก เพื่อให้เรื่องมันสมูทและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผมก็ยอมเขียนใหม่หมดเลยนะ อันนี้แค่แชร์ประสบการณ์ จะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ครับ
ถ้ารีไรท์ไปเขียนไป มันจะไม่อยู่ตัว เดี๋ยวแก้ตรงนั้น เดี๋ยวแก้ตรงนี้
นิยายที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มันบ่งบอกว่าคนเขียนคิดพล็อตไม่รอบคอบ
ถ้าเขียนจบแล้วกลับมารีไรท์ คาดว่าจะทำได้แค่ แก้ประโยค กับปลี่ยนพล็อตเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่เปลี่ยนโครงเรื่องใหญ่ไม่ได้
แนะนำก็คือ คิดพล็อตให้รอบคอบ จะใช้อันเก่าทั้งหมด หรือเปลี่ยนใหม่หมดเลยก็ได้
แต่ขอให้คิดให้กระจ่างก่อนจะเขียน ถ้าคิดได้แล้ว ก็มาดูว่า ต่อจากอันเดิมได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ก็ขึ้นเรื่องใหม่เลย
จริงๆแล้ว ถ้าไม่โอเคกับพล็อตล่ะก็ ผมไม่แนะนำให้รีไร้ท์นะ
แต่เสนอว่าให้เขียนใหม่แต่แรกเลยจะดีกว่า
สำหรับเรื่องก่อน ถ้ามีพล็อตหรือฉากที่ถูกใจ ผมจะดึงมาใช้กับเรื่องใหม่ครับ ไอเดียบางอย่างเอามารียูส หรือรีเมคใหม่ บางทีเจ๋งกว่าตอนแรกเสียอีกครับ เพราะจังหวะมันจะลงตัวขึ้น แถมการที่เคยคิดมาแล้ว การเอามาคิดใหม่ก็เหมือนกับขัดเขลาซ้ำอีกรอบด้วย
กรณีที่แก้ไขแค่บางส่วนที่ไม่สำคัญนักก็เลยไปก่อนแล้วกลับมาแก้ได้ครับ แต่ถ้าเป็นแก่น
ใจความหลักของเรื่องล่ะก็ควรจะรีบแก้ตั้งแต่ต้นๆ ครับ ถึงจะเสียเวลาเขียนใหม่ตอนต้นแต่ก็
น่าจะดีกว่าเขียนใหม่หมดครับ หากเขียนต่อทั้งที่รู้ๆ ว่ามันไม่เข้ากับพล็อก ส่วนนั้นก็จะต้อง
เอาออกไปในภายหลังอยู่ดี กลายเป็นเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ รู้ตัวว่าเข้าผิดทาง
ก็ต้องออกจากทางเดิมแล้วไปทางใหม่นะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?