Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อเด็กในเมือง ต้องไปใช้ชีวิตในป่า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆชาวเด็กดี ^^ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกทีตั้งขึ้น หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า... ผมเป็นเด็กที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง กินในเมือง เที่ยวห้างสรรพสินค้า เที่ยวตลาดทั่วไป ชีวิตไม่ค่อยได้สัมผัสกับธรรมชาติเท่าไหร่นัก อาจจะได้เที่ยวตามอุทยานบ้าง แต่ก็เที่ยวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป ถ่ายรูปไปเรื่อย ซื้อของฝากธรรมดาๆก็แค่โปสการ์ด พวงกุญแจฝากเพื่อนๆ เวลาขับรถผ่านถนนต่างๆเห็นภูเขา เราคนเมืองก็มองแค่ว่ามันคือภูเขาธรรมดาลูกหนึ่ง แต่จะมีสักกี่คนล่ะที่มองว่าภูเขานั่นคืออะไร? มีอะไร? กลับบ้านมานั่งอ่านหนังสือ คลุกอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นแบบนี้ทุกวันจนเราเริ่มคิดว่าชีวิตเริ่มไร้สาระเกินไป 
จนได้มาเจอเพจในเฟสบุ๊ครับสมัครน้องๆม.ปลายไปค่ายฯ เป็นค่ายอนุรักษ์ เกี่ยวกับพวกสิ่งแวดล้อม เราก็เปิดดูรายละเอียดว่าค่ายเป็นยังไง พอเปิดแล้วแบบ เห้ยยยยย!! ชีวิตเราน่าจะไม่ไร้สาระแล้วล่ะถ้าได้ไปค่ายนี้  อยากลองเปิดโอกาสให้ตัวเองเจอประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง ก็เลยลองสมัครไป มันรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ทั้งๆที่ตั้งแต่เด็กจนโตใช้ชีวิตสบายมาตลอด อยากจะมีส่วนร่วมกับค่ายนี้จริงๆ
       ปรากฏว่าเราได้ไปค่าย!! โคตรดีใจเลยตอนนั้น รอพี่เค้าติดต่อกลับมา พี่เค้าก็อธิบายว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ให้คำแนะนำเรา เพราะเราไม่เคยไปค่ายอะไรอย่างนี้มาก่อน

และแล้วก็มาถึงวันที่จัดค่าย เราก็รีบเดินทางมาลงทะเบียนแต่เช้า

พี่ๆน่ารักและใจดีมากกกกกกกก


เพื่อนๆก็น่ารัก เราเริ่มทำความรู้จักกัน แต่ละคนมาจากหลากหลายจังหวัด หลากหลายภาค เราได้แลกเปลี่ยนความคิดพูดคุยกัน

แล้วก็เข้าสู่ช่วงกิจกรรม...
ทำความรู้จักเพื่อน และพี่ค่าย  มีการละลายพฤติกรรม เพื่อนแต่ละคนฮามากและกิจกรรมนี้ยังช่วยให้สนิทกับเพื่อนได้เร็วขึ้นด้วย


แล้วเราก็ได้เดินทางไปยังสถานที่ทำค่าย คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 


มาถึงเขาใหญ่แล้วว...
สูดอากาศได้แบบเต็มปอด อากาศสดชื่นแตกต่างจากในเมืองอย่างเห็นได้ชัด
ผมเก็บภาพบรรยากาศและกิจกรรมความสนุกบางส่วนมาให้เพื่อนๆได้ดู

ภาพการใช้ชีวิตอยู่ในร่วมกันในค่ายก็มีนะ ไม่ต้องมีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก มันก็มีความสุขได้โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี

มีกิจกรรมดีๆให้ทำเยอะแยะได้ทั้งความรู้และความสนุก

อย่างที่บอกว่าผมเป็นเด็กในเมืองผมทำอะไรไม่เป็นเลยทั้งก่อไฟ กางเต็นท์ ทำอาหาร หรืออีกหลายๆอย่าง หลังจากออกค่ายมาผมทำเป็นหมดแล้ว555 แต่มีอีกหนึ่งอย่างที่ผมได้จากการไปค่ายนี้และผมไม่เคยลืมเลยคือ รอยยิ้มและมิตรภาพ  จากพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ มันทำให้ผมคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีทุกอย่าง เราไม่ต้องจ้องแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องจับแต่โทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องวุ่นวายกับโซเชียลมีเดีย เราก็มีความสุขได้ มองหน้าแล้วพูดคุยกันยิ้มให้กันดีกว่ามองแค่หน้าจอสี่เหลี่ยมเป็นไหนๆ หันกลับมาอยู่กับคนรอบข้างแล้วเรื่องราวสนุกๆชวนให้เก็บเป็นความทรงจำดีๆยังมีอีกมาก
สุดท้ายผมขอบคุณ สโมสรนิสิตคณะวนศาสตร์ ที่จัดค่ายดีๆแบบนี้(ค่ายกล้าไม้ในเมือง) ค่ายที่สอนผมหลายๆอย่างสอนหลายๆเรื่องราวสอนให้คนทำอะไรไม่เป็นไม่กล้าแสดงออกให้กล้าทำกล้าพูดกล้าเปิดใจ ขอบคุณมากนะครับ
ค่ายที่ผมไปคือ ค่ายกล้าไม้ในเมืองครั้งที่ 11 จัดเมื่อวันที่ 21-25 ตุลาคม พ.ศ.2556 และตอนนี้ผมก็ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของคณะนี้แล้วนะ :)

ติดตามกิจกรรมดีๆแบบนี้ได้ที่ Fanpage Facebook : ค่ายกล้าไม้ในเมือง
เครดิตรูป : จากพี่ๆค่ายกล้าไม้ในเมืองครั้งที่ 11

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

soulspirit 27 ก.ค. 59 เวลา 21:28 น. 1
กล้าไม้ในเมือง11 นี่ละ ตั้งใจจะไปสมัคร เพราะเกี่ยวกับอนุรักษ์
ได้เข้าป่า และเป็นของคณะนี้ ชอบ เลยตั้งใจไว้

พอปริ้นใบสมัครมาก็เขียนใบสมัครเสร็จตั้งแต่วันแรกๆ
แต่ชิวจัดค่อยส่งก็ได้ จนจะปิดรับเลยฝากพ่อส่งวันสุดท้าย
กลับบ้านมาใบสมัครวางอยู่ที่เดิม
สรุป ไม่มีโอกาสลุ้นติดค่าย เพราะพ่อลืมส่งไปสมัครให้

พอจะไปค่ายกล้าไม้ในเมือง12 ก็ไม่ได้แล้ว เขาไม่รับป.ตรี 

ถ้ามีโอกาสอยากให้น้องๆที่สนใจไปดูนะ 
พี่นี้พลาดโอกาสนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังติดตามเพจอยู่นะ กดไลค์เพจไว้ตั้งแต่ม.ปลาย 
ปล.ยังไม่แก่นะ 
1
kasidit_or 27 ก.ค. 59 เวลา 22:06 น. 1-1

ถ้าติดค่ายตอนนั้น วันนี้เราคงเป็นเพื่อนกัน ^^

0