Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หน้ามัน! ต้องจัดการ... รีวิวเทียบประสิทธิภาพแผ่นซับความมัน 3 ยี่ห้อ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน แก้ยังไงก็ไม่หาย ทำสารพัดวิธีทั้งบำรุงผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน ก็ช่วยแค่ลดลง สุดท้ายความเงาวับบนใบหน้าก็กลับมาทุกที จะมโนว่าหน้าโกลวเป็นสาวเกาหลีมันก็ไม่ใช่ ฮ่าๆ อีกทั้งสภาพอากาศอากาศของประเทศไทยร้อนระอุแบบนี้  ยิ่งยากที่จะเยียวยา เมื่อมันแก้ไม่หายก็คงต้องหาตัวช่วย และสิ่งที่จะมาททำให้หน้าหายมันในชั่วพริบตาก็คือเจ้านี่ “แผ่นซับความมัน”  ชื่อก็บอกว่าซับความมัน หน้าที่ของมันจึงเป็นการดูดซับความมันบนใบหน้า ไม่ได้ช่วยลดความมันของผิวหน้า แต่ไอเจ้าแผ่นซับความมันนี้มีหลายแบบให้เลือกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นแบบแผ่นกระดาษ แผ่นฟิล์ม แผ่นที่ผสมผงแป้งมาให้ก็มี ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบใช้แบบไหนมากกว่ากัน 

ส่วนเราเองเป็นคนที่มีผิวมันระดับนึง แต่ไม่ถึงขั้นมันเยิ้มหยดย้อยขนาดนั้น ช่วงเย็นๆ นั่นแหละความมันถึงแสดงพลังออกมาท แผ่นซับความมันจึงเป็นไอเท็มสำคัญของเราที่ต้องมีติดกระเป๋าไว้ตลอด ในเมื่อต้องพึ่งพาเจ้านี่เสมอ ก็เลยมีโอกาสได้ซื้อยี่ห้อนู้น ยี่ห้อนี้มาลองใช้อยู่เรื่อยๆ ทั้งแบบกระดาษ แบบฟิล์ม แม้กระทั้งแบบที่ผสมแป้ง ก็ลองมาแล้วทั้งนั้น และที่เข็ดเลยคือแบบผสมแป้ง เลือกมาเพราะหวังให้หน้าเด้งทันที ซับเสร็จแล้วเติมแป้งไปในตัวได้เลยงี้ แล้วเป็นไงสิวเด้งขึ้นแทนหน้าเด้งเลยจ้า ฮ่าๆ

สำหรับเราชอบใช้แบบแผ่นฟิล์มมากที่สุด เวลาซับลงบนหน้าความมันที่ถูกดูดซับผ่านแผ่นฟิล์มออกมามันเห็นชัดเจนดี สภาพแผ่นฟิล์มหลังใช้ก็ทำเอาตกใจเหมือนกันนะ หน้าฉันมันเยิ้มอะไรขนาดนั้น ฮ่าๆ 

กระทู้นี้เลยจับเจ้าแผ่นซับความมันแบบฟิล์ม 3 ยี่ห้อที่เราได้ลองใช้ มารีวิวเทียบกันว่า ตัวไหนดีเลิศกว่ากัน หรือว่ามันอาจจะไม่เห็นความแตกต่างเลยก็ได้ จะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันจ้า
 

(รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากได้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่สภาพผิวหน้าของแต่ละคนด้วย อยากให้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเท่านั้น และการทดสอบต่อจากนี้ไม่ได้มีหลักวิชาการหรือทฤษฎีใดๆ ทั้งสิ้น เป็นความอยากรู้อยากลองทดสอบตามความคิดของตัวเองล้วนๆ ฮ่าๆ) 

เริ่มที่ยี่ห้อแรก “Gatsby” 
 



แผ่นฟิล์มสีฟ้า บรรจุมาในกล่องทั้งหมด 70 แผ่น ขนาดกว้าง 5.4 ยาว 9.3 cm 
ประสิทธิภาพ : ซับความมันได้ดี แผ่นใหญ่ใช้ได้ทั่วใบหน้า แผ่นเดียวรอด 
ราคา 120 บาท เราซื้อแบบแพ็คคู่ 199 บาท (โปรจาก Watsons)

ยี่ห้อที่ 2 “The Face Shop” 
 



แผ่นฟิล์มสีฟ้า ในกล่องบรรจุมา 50 แผ่น  ขนาดกว้าง 5.3 ยาว 7.8 cm
ประสิทธิภาพ : ซับความมันได้ดี แต่แผ่นเล็กไปหน่อย ซับยังทันทั่วทั่งหน้า แผ่นฟิล์มก็ใสจนไม่เหลือที่ให้ซับต่อ ทำให้ต้องใช้อีกแผ่น
ราคา 159 บาทซื้อจากช็อปในไทย แต่ถ้าใครมีโอกาสไปเกาลหลีขอให้ตุนมาเลยจ้า ราคาไม่ถึง 100 

ยี่ห้อที่ 3 “Jabs”
 



แผ่นฟิล์มสีฟ้าเช่นกัน บรรจุมาทั้งหมด 70 แผ่น ไม่บางไม่หนาเกินไป แข็งแรงเหนียวแน่น ขนาดกว้าง 5.4 ยาว 9.3 cm 
ประสิทธิภาพ : ซับความมันได้ดี แผ่นใหญ่ใช้ได้ทั่วใบหน้า แผ่นเดียวเอาอยู่ ตามที่เคลมไว้บนซองเลย (ซองทิ้งไปแล้ว แฮ่ะๆ)
ราคา เราได้มาในราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 99 บาท ราคาปกติ 115 บาทมั้งนะ (จาก Watsons)

ทีนี้ลองมาทดสอบโดยใช้เบบี้ออยหยดลงไปบนแผ่นซับความมันของแต่ละยี่ห้อ (ที่ใช้เบบี้ออยเพราะเห็นว่ามันเป็นออย มีความมัน ก็น่าจะใกล้เคียงกับน้ำมันที่ออกมาจากผิวเราล่ะมั้ง คิดเอาเอง  ฮ่าๆ ใครมีความรู้มาชี้แจงได้นะ)
 



ผ่านไป 3 นาที
 

ผลก็คือซึมซับความมันได้ไม่ต่างกันเลย แหม่แหม นี่ก็ตื่นเต้นรอลุ้นว่ามันจะมีอะไรให้เปรียบเทียบ จบง่ายๆ แค่เนี้ย ฮ่าๆ

หลังจากทดสอบด้วยเบเบี้ออยตัวแทนความมันบนใบหน้าไปแล้ว คราวนี้มาลองใช้จริงบ้างดีกว่า โดยสภาพหน้าเราตอนทดสอบเต็มเปี่ยมไปด้วยความมันที่สะสมมาทั้งวัน พร้อมที่จะได้รับการดูดซับอย่างเต็มที่ละ สำหรับการลองใช้แผ่นซับความมันครั้งนี้ เราจะทำการซับทั้ง 3 แผ่นจาก 3 ยี่ห้อลงบนหน้าพร้อมกันเลย และซับในจุดเดียวกันคือ ตรงแก้ม กับหน้าผาก เพื่อดูว่าในระดับความมันของผิวที่เท่ากัน เจ้าไหนจะมีประสิทธิภาพในการดูดซับความมันได้ดีที่สุด
 



ท๊าดา!!! หลังจากการซับลงบนหน้า ได้ออกมาแบบนี้ 
 

Before-After จ้า
 

ผลก็คือซึมซับความมันได้ไม่ต่างกันเลย ในภาพอาจจะดูแล้ว เอ๊ะ...มันซับออกได้ไม่เท่ากันหรือป่าว ต้องบอกว่าการใช้นิ้วที่คีบแผ่นซับมันไว้ 3 แผ่นแล้วทำการแปะลงไปพร้อมกัน ให้ทุกส่วนสัมผัสบนผิวหน้าเท่าเทียมกันมันไม่ง่ายเลยน้า บางส่วนของแต่ละแผ่นมันสัมผัสกับผิวไม่ค่อยจริงๆ แต่เราพยายามกดน้ำหนักให้เท่ากัน แล้วก็เน้นจุดตรงกลางๆ ที่มันสัมผัสกับผิวได้เท่ากันแล้ว ปรากฎว่ามันก็ดูดซับความมันขึ้นมาได้พอๆ กันเลยนะ อีกอย่างคือเราซับพอให้หายมัน ไม่ได้ซับให้แห้งซะเลยทีเดียว

ถ้าให้เปรียบเทียบจากความชอบส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองใช้ เราชอบของ Gatsby กับ Jabs พอกัน ส่วน The Face Shop หักคะแนนตรงแผ่นมันเล็ก ซับแปบๆ ยังไม่ทั่วหน้า แผ่นก็ใสซะแล้ว (หรือหน้าฉันมันใหญ่ อ่าว..เป็นงั้นไป ฮ่าๆ) ส่วนราคา Gatsby กับ Jabs ไม่ห่างกันมาก ยิ่งมีโปรยิ่งดี๊ดี ส่วน Tha Face Shop ถ้าซื้อในช็อปไทยนี่ทำใจลำบากเหมือนกันนะ แอบแพง แถมมี 50 แผ่นเอง 

หวังว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมาจะมีประโยชน์ต่อคนที่ต้องพึ่งพาแผ่นซับความมันนะ  แต่เราเคยอ่านเจอมาว่าใช้แผ่นซับความมันบ่อยเกินไปก็ไม่ดี จะยิ่งทำให้ผิวผลิตน้ำมันขึ้นมาทดแทนเพราะเหมือนกับว่าผิวมันเสียสมดุล แต่บางทีก็จำเป็นต้องใช้อ่ะ ใครจะทนหน้ามันได้ตลอดทั้งวันล่ะเนอะ ทางที่ดีใช้เป็นครั้งคราว เวลาที่ต้องไปทำธุระพบปะผู้คนอะไรแบบนี้ หรือไม่ก็ซับหน้าแค่วันละครั้ง และซับ ในส่วนที่เป็นความมันส่วนเกินก็พอ ไม่ต้องซับทั้งหน้าจนหน้าแห้งผาด ส่วนที่ไม่มันก็ไม่ต้องไปซับมันหรอก เดี๋ยวจะไปกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันขึ้นมายกใหญ่กลายเป็นเพิ่มความมันเข้าไปอีก แต่ถ้าหนักหนาระดับที่ความมันกระจายอยู่ทุกส่วนของใบหน้า อันนี้ก็ซับไปเหอะ แต่ซับพอประมาณ ให้พอหายมันตามที่บอกไป
 
เราเองก็ซับหน้าวันละครั้งใช้แค่วันละแผ่นเท่านั้น ใช้ช่วงเวลาที่มันพีคถึงขีดสุด แบบโอ้ย มันเงาจนจะเป็นกระจกให้เพื่อนส่องได้แล้วมั้ง (อันนั้นก็เวอร์ไป ฮ่าๆ) และถ้าไม่ได้ออกไปไหนเราก็ไม่ใช้เลยนะ ปล่อยมันไว้แบบนั้นเพราะเดี๋ยวก็ต้องล้างหน้าอยู่ดี อีกอย่างคือเปลืองด้วย ฮ่าๆ เพื่อนๆ ล่ะชอบแผ่นซับความมันแบบไหน ยี่ห้ออะไร มีแบบเด็ดๆ เลิศๆ ก็มาบอกกันได้ แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า บ๊ายบาย
 

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

31 ก.ค. 59 เวลา 17:47 น. 3

ถ้าแต่งหน้า แนะนำใช้ Gatsby Paper Powdered Oil Clear ในความคิดเรามัน work กว่านะ   เพราะถ้าใช้แบบฟิล์ม มันจะเช็ดเอารองพื้นออกมาเป็นคราบเลยอ่ะ แต่ถ้าแบบที่เราใช้ รองพื้นจะไม่ติดออกมา ดีตรงนี้แหละ แถมมีแป้ง translucent เคลือบอยู่ด้วย :)

1
KIEEE 4 ส.ค. 59 เวลา 15:47 น. 4

เคยอ่านบทความเจอ เค้าบอกว่า ยิ่งซับ หน้าจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมานะคะ ควรดูแลที่ต้นเหตุ อาจจะล้างหน้าให้ดี ใช้พวกแปรงล้างหน้าที่เค้าบอกว่าช่วยขจัดความมันงี้อ่ะค่ะ เราใช้แปรงสมาร์ทโปรไฟล์ของคลาริโซนิคอะ ดีลื๊ม

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น