Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ถ้าไม่ค่อยได้คุยกัน คิดว่าความรู้สึกจะเปลี่ยนไปบ้างมั้ย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีเพื่อนๆ เรามาแชร์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาได้ซักพักแล้วแต่ไม่แน่ใจซักที..ว่าที่เป็นอยู่นั้นกำลังทำอะไรอยู่กันแน่..





ขอเล่าแบบรวบรัดเลยละกันนน

....เราคบกันมาสามปีกว่าแล้ว ตลอดที่คบกันก็แชทเฟส คุยโทรศัพท์กันตลอดด ตามประสาคนเป็นคู่ทั่วไป แต่เราอยู่รุ่นเดียวกันเลยสนิทกันมาก คุ้นเคยกันมาก 

....แต่พอเรียนต่อเราเรียนกันคนละที่ ไกลกันมากเถอะ ไม่ใช่แค่ต่างจังหวัด แต่คนละภาคเลย เหนือกับอีสาน 

....ปีแรกกำลังปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงกับอะไรหลายๆอย่าง ทั้งที่อยู่ ที่เรียน เพื่อน สังคม และคนรัก ถึงแม้จะอยู่ไกลแต่ก็คอลหากัน โทรหากัน และแชทไม่ขาด ทำให้ประคับประครองกันมาได้ตลอดหนึ่งปี ในตอนที่เป็นเฟรชชี่

....ปีต่อมา พอเป็นรุ่นพี่ ก็ต้องมีอะไรรับผิดชอบหลายๆอย่าง กิจกรรมเพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าจากปีหนึ่ง ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างตรงกัน

 ทั้งวันคุยกันไม่กี่ประโยค บางวันคุยโทรศัพท์ไม่กี่นาที บางวันไม่ได้คุย และเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ..จนนานๆครั้งได้คุยคอลกัน แต่ก็เหมือนว่าคุยแบบไม่สนิทกันเหมือนเคยๆคุยเลย ยิ่งนานไปยิ่งเหมือนว่าแย่กันทั้งคู่ 

....(มอเรากับมอเขาระบบต่างกัน เขากิจกรรมเยอะมาก พูดไรเยอะไม่ค่อยได้ แต่เราก็เข้าใจมาตลอดตั้งแต่ต้น แต่จริงๆเราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมากเรื่องที่ไม่มีเวลา เขาก็จะว่าเราไม่เข้าใจในจุดนั้นของเขาที่ต้องทำหน้าที่ในกิจกรรมนั้นๆ)

....แต่ทะเลาะครั้งล่าสุด หลังจากที่ไม่ค่อยได้คุยกันแบบคุ้นๆเคยๆ แต่ละคำพูดที่คุยกัน เหมือนบีบให้กันบอกเลิก แต่ต่างคนต่างไม่ยอมกันอย่างนั้นแหละ...

........แต่วันต่อมา เราก็ยอมรับฟังเขาทุกอย่าง ถึงแม้เขาจะหายไปกับกิจกรรมทั้งวันทั้งคืน แชทคุยขาดๆหายๆ ได้คอลกันแค่วันเสาร์ไม่ก็วันอาทิตย์ โทรคุยกันไม่กี่นาที แค่โทรบอกว่าไปไหนมาไหน เราก็บอกว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องทำ แม้มันทำให้ไม่มีเวลา เราก็เข้าใจ..

... . . จนถึงวันนี้ เกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว เราก็ยังทำแบบเดิม แต่เหมือนยิ่งห่างกันไปทุกที เพราะยิ่งไม่ได้คุยกัน ละนานๆมาคุยอีกที ยิ่งเข้าใจความรู้สึกที่เปลี่ยนไป...



ปัจจุบันนี้ยังไม่มีไรเกิดขึ้นเพิ่มอีกจากที่ที่เราเล่า เดี๋ยวยังไงต่อไปจะมาเล่าต่อนะ ^^
มาเล่าต่อแล้วนะคะ..อยู่ที่คอมเม้นท์ 5-1 นะคะ เดี๋ยวจะเล่าต่ออีกอยู่นะ^^ 

จากที่แก้ไขกระทู้นี้ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่2 ก.ย. 59
วันนี้ได้กลับมา จะเล่าสุรปทุกอย่างนะคะ หลังจากที่ไม่ได้พูดอะไรต่อเลย  วันนี้ 15 ก.ย. 60
ผ่านไปเป็นปีเลยมั้ยละ..

 
เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน

...หลังจากที่เราที่ได้คอลกับเขาวันนั้น  ก็เป็นอย่างที่เล่ามาแหละค่ะ  ก็เหมือนเดิม555 ไม่ค่อยได้คุยกันค่ะ แต่ละวันไม่ต่างกันเลย เหมือนจะว่างแต่ก็ไม่ว่างซะงั้น  บ้างก็ว่างไม่ตรงกัน  บ้างก็ไม่ว่างเลย 
...เราก็คิดว่ารออีกหน่อย เข้มแข็งอีกนิด เดี๋ยวก็คงดีขึ้น
...จนกระทั่งประมาณเดือนตุลาปีที่แล้วนะคะ  มีโอกาสได้เจอกัน  ไปกินข้าวกัน อย่างที่เคยๆไปด้วยกันปกติ
ก็ทำให้หายคิดถึงบ้าง ถึงแม้จะเป็นเวลาอันน้อยนิดก็เถอะ คิดแบบนั้นนะคะ
แต่พอกลับไปมอของเขา ก็เข้าสู่สภาวะเดิมค่ะ  หนักกว่าเดิมอีก  
ยาวไปจนกระทั่งถึงเดือนธันวา  ก็ได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้ง  แต่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง  
เรารู้สึกว่าเราอยู่ใกล้ๆเขาแล้วไม่ได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนเคย  (อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน) 
และวันที่เราไปส่งเขากลับมอวันนั้น  รู้สึกหวิวๆแปลกๆยังไงไม่รู้  แบบคิดถึงมาก  ไม่อยากให้เขากลับเลย..

นานวันมาเรื่อยๆกับปัญหาเดิมๆเรารู้สึกว่ามันบั่นทอนความรู้สึกต่างๆให้ท้อและบอกให้พอแล้ว  
หลังจากขึ้นปีใหม่มา  หลายอย่างทำให้เราคิดแบบนั้น  เพราะทุกอย่างที่เราเจอมั้งคะ
...ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่าง  แต่ถ้ามีเวลาให้กันแล้ว ก็ทำให้หายคิดถึงบ้างไม่ได้หรอ  แต่ทำไมมันไม่มีแบบนั้นบ้างเลย...
...ต่างคนต่างเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด  โดยเฉพาะเราเองเรายอมรับ  เรารู้สึกหลายๆอย่างรวมเข้าด้วยกัน  อยากจะเล่าอะไรหลายๆอย่างให้เขาได้ฟัง  แต่ไม่ได้คุยกันเลย  นั่นแหละค่ะ  เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ
จนกระทั่งเราได้มีความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวว่า 
 "ถ้ายังจะอยู่แบบไม่มีไรดีขึ้นเลย  จะอยู่ไปเพื่ออะไร  ความรู้สึกที่มีให้กันจากที่รักมากอาจจะเปลี่ยนเป็นเกลียดมากก็ได้  ถ้ายังเป็นแบบนี้กันอยู่"  
...วันนั้นเรารอเขาว่างคุยกับเรา แล้วเราก็ตัดสินใจพูดอย่างที่คิด แล้วบอกว่า  ทุกอย่างพอเถอะ...
เราพูดอย่างเย็นชา  น้ำเสียงเรียบนิ่ง  พูดเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร  แต่จริงๆแล้วกลั้นน้ำตาไว้แทบตาย
ซึ่งกลับกันกับเขา  ที่กำลังร้องไห้  แต่ในระหว่างนั้นเราคุยกันด้วยเหตุผลต่างๆว่าอะไรหลายๆอย่างทำให้เรื่องราวเป็นแบบนี้  และคงต้องยอมรับ  
เขาเอาแต่พูดกับเราซ้ำๆว่า  "อยู่ได้ใช่มั้ย"
เราตอบแค่อืม และไม่พูดไรต่อ  เขาเข้าใจเหตุผลที่เราเป็นทำแบบนี้ 
อย่างที่เขาเคยพูดกับเราว่า
  ถ้าเราไม่ไหวที่เป็นๆอยู่ เขาก็เข้าใจ และคงไม่รั้ง เพราะดูแลเราไม่ดีเอง คงไม่กล้าขอโอกาศ  จึงเป็นอันเข้าใจแล้ว  ความรักของเราคงต้องจบกับเพียงเท่านี้
วันนี้ก็ประมาณแปดเดือนละค่ะที่เลิกรากันไป  


สรุปนะคะ  การที่ไม่ค่อยได้คุยกัน ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปนั้น มีเปอร์เซ็นมากเลยค่ะ(สำหรับคห.เรานะ)  เพราะการที่เราคบหาใครสักคน  เราก็ต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องต่างๆ ปรึกษาหารือกัน ปรึกษาปัญหากัน  หรือให้กำลังใจกัน  ถึงแม้การไม่มีเวลาว่างหรือว่างไม่ตรงกัน ไม่ผิดหรอกค่ะ เราก็ต่างมีหน้าที่ของแต่ละคน แล้วถ้ามีโอกาสเวลาว่างตรงกันแล้วก็ควรชดเชยเวลาที่หายไปให้กันและกันบ้าง  นั่นก็หนีไม่พ้นการพูดคุยกันใช่มั้ยละคะ

ฝากไปสำหรับคนที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้  ก็ต้องเข้มแข็งพอสมควรเลยละค่ะ  พอมีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจกัน  ก็พูดคุยกันเยอะๆนะคะ  มองหลายๆมุม  และเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย  เชื่อว่าหลายคู่คงไม่จบแบบเรานะ  สู้ๆและเข้มแข็งนะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

Primthadha 30 ส.ค. 59 เวลา 20:19 น. 1

อยากเลิกก็เลิกนะคะ ยิ่งโตความรับผิดชอบก็สูงขึ้น หน้าที่มากขึ้น เป็นธรรมดา รับไม่ได้ ก็ควรปล่อยเขาไปนะ เขาจะได้ทำใจสักทีค่ะน้อง

3
Untatar 30 ส.ค. 59 เวลา 21:06 น. 1-1

ไม่ใช่แค่ฝ่ายเขาที่ต้องทำใจนะคะพี่ หนูก็เสียใจเหมือนกัน ในการที่รอทั้งวันทั้งคืนละได้มาคุยกันนิดเดียว แทนที่จะใส่ใจกันบ้าง แต่กลับไม่เห็นมุมนั้นเลย พอเราพูดไรบ้างนิดหน่อยก็หาว่าเราไม่เข้าใจเขา
...แต่เขาก็ถามนะคะ ว่ายังไหวมั้ย เหนื่อยมั้ย แต่เหมือนคำถามนี้มันบีบให้บอกเลิก เหมือนเขาอยากเลิกแต่บีบให้เราพูดค่ะ ...แต่หนูยังไม่อยากจากไปไหนนี้สิคะ..

0
Primthadha 30 ส.ค. 59 เวลา 22:21 น. 1-2

น้องเรียกร้องอะไรบ้างไหม

พอทำงาน ยิ่งกว่านี้อีก ขาดใจตายแน่ๆเลยมั้งคะ

ถ้าไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจ ไม่คอยเป็นแรงใจ เอาแต่ต้องการเวลาตลอด พี่ว่าไม่นานคงต้องเลิกจริงๆ

0
Untatar 30 ส.ค. 59 เวลา 23:50 น. 1-3

พอเป็นแบบนี้ หนูก็คิดถึงตอนที่จะทำงานเลยค่ะ ใช่ค่ะคงหนักกว่านี้แน่
....ถามว่าเรียกร้องมั้ย หนูแค่ขอว่าไปไหนบอกหน่อย เผื่อจะได้รู้ว่าว่างตอนไหนบ้างไม่ว่างตอนไหนบ้าง แค่นี้ที่ขอจริงจังแต่จริงๆเรื่องนี้ก็ทำปกติกันตลอดอยู่แล้ว
....ส่วนเรื่องไม่ไว้ใจและไม่เชื่อใจ ไม่มีเลยค่ะ เขาพูดให้ฟังตลอดว่าไม่ค่อยพูดกับผู้หญิง ขนาดเพื่อนผู้หญิงยังว่าเขาหยิ่ง เพราะว่าไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อยู่แต่กับเพื่อนผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีเพื่อนผู้หญิงนะคะ
....ส่วนเรื่องคอยเป็นแรงใจ ถ้าไม่มีเลยคงเลิกกันไปตั้งแต่ปีหนึ่งละค่ะ เพราะต่างคนต่างท้อต่างเจออะไรมากมายโดยเฉพาะเขา หนูคอยพูดให้กำลังใจตลอดกว่าจะผ่านกันมาแต่เรื่องก็ท้อมากเหมือนกันค่ะ

....เรื่องเวลาตอนนี้หนูว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่พอช่วยหนูได้มั้งค่ะ เพราะประเด็นหลักจริงๆมันอยู่ที่ตัวเขาและตัวหนูที่จะพยายามคุยกันเข้าหากันมากกว่าที่เป็นอยู่ให้มันดีขึ้นมัั้ย

0
kAew Dek-D Columnist 30 ส.ค. 59 เวลา 23:01 น. 3

ถ้าเอาเท่าที่น้องเล่ามาตอนนี้ ก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ จริงๆ ถ้าเรารักกันมากพอ ยิ่งห่างกัน เราจะยิ่งคิดถึงกัน คบคนไกลต้องใช้กำลังใจที่แข็งแรงมากๆ ค่ะ ถ้าความรู้สึก ณ ตอนนี้ทั้งของเราและของเค้า ยิ่งห่าง ยิ่งเฉยๆ ไม่ได้อยากจะคุยกัน พี่แก้วว่าน้องอาจจะไม่ได้รักกันแล้วหรือเปล่าคะ ลองถามใจดีๆ ถ้าหมดรักกันแล้ว แนะนำให้เลิกค่ะ สบายตัว สบายใจ ถ้าคบแล้วรู้สึกหน่วงชีวิต  มันไม่โอเค เราก็คงต้องทบทวนแล้วล่ะค่ะ   

1
Untatar 30 ส.ค. 59 เวลา 23:56 น. 3-1

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและคำแนะนำนะคะพี่แก้ว หนูอ่านจบแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ เพราะมีหลายประโยคที่ตรงกับความคิดหนูด้วย TT

0
มุ้งมิ้ง วิ้งวิ้ง... 31 ส.ค. 59 เวลา 16:36 น. 4

อยู่ที่ใจของเค้าด้วยค่ะ ถ้ารักกันจริงไกลแค่ไหน
ยุ่งแค่ไหน ความรู้สึกก็ไม่เปลี่ยนไปหรอกค่ะ
ยิ่งห่างกันยิ่งคิดถึงกันมากขึ้น ก็เหมือนพ่อแม่
เราแหละค่ะ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกันอาจจะไม่ค่อยแสดงออก
เพราะ ดูแลเราทุกวันอยู่แล้ว แต่พอเราต้องไปเรียนต่างจังหวัด ที่ไกลๆ กลับบ้านได้เฉพาะวันหยุดยาวเท่านั้น
โห...โทรมาบอกทุกวันเลยอ่ะว่าคิดถึง <3 ไม่ก็นานๆที
ก็จะโทรมาทีนึง (แทบจะย้ายบ้านมาเลยทีเดียว)
เรื่องนี้ก็บอกแบบฟันธงไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ
มันแล้วแต่คน ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้อะไรมันชัดเจนขึ้น
เท่านั้นเองค่ะ อย่าคิดมากเลย ^_^ รักในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน
ดีกว่าค่ะ อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ

1
SindySanta 2 ก.ย. 59 เวลา 01:18 น. 4-1

ใช่ค่ะ อยู่ที่ใจนั่นแหละ ว่าคิดถึงกันมั้ยและพยายามที่จะคุยด้วยกัน หรือปรับความเข้าใจกันมั้ย
...และยิ่งห่างยิ่งคิดถึงมากๆเลยค่ะ สำหรับบ้าน ในเวลาที่ท้อ ก็อยากจะกลับบ้านเลย ณ ตอนนั้นเลย..
....ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจ ตอนนี้ใจเย็นมากถึงมากที่สุด และทำหน้าที่ตัวเองดีที่สุดตามที่เจ้าของเม้นท์บอกเลยค่ะ

0
White Frangipani 31 ส.ค. 59 เวลา 17:27 น. 5

สวัสดีค่ะ


จากที่อ่านแล้วเข้าใจเจ้าของกระทู้ค่ะ

และอยากจะบอกว่าความรักนี้เป็นอาการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน เปราะบางจริงด้วยสิ

เพราะความรักมีอาการเป็นแบบนี้ละมังเนอะทุกๆคนจึงชอบกับความรู้สึกว่า..รัก...เพราะอาการของมันให้ความตื่นเต้นนะ หนักไปก็ไม่ดี เบาไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี แบบนั้นนะคะ ตื่นเต้นหล่ะ ฮา ฮา อา

โดยความเข้าใจส่วนตัวนะคะคิดว่าบางครั้งนะ...คนที่เป็นคนรักกันนะพูดมากเกินไปอธิบายมากก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ บางครั้งเงียบๆไปเลยนั้นจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้คิดเองบ้าง(หากเขารักเรานะคะ)

และบางครั้ง อาจจะต้องจัดหนักๆฮา ฮา ฮา คือครั้งเดียว  คือจับตัวมานั่งพูด อธิบาย แลกเปลี่ยน เหตุผล ความคืบแคลงใจต่อกันกันหน้าต่อหน้าให้สะสางไปเลยค่ะ ในบางครั้งให้เขาหรือเธอได้เข้าใจได้ไม่มีอะไรต้องเกิดเป็นหตุที่ต้องทุกข์ที่มีกันและกันค่ะ

คือ...อยากจะบอกว่า บางครั้งต้องดูด้วยว่าเมื่อไรที่จะต้องพูด หรือเมื่อไรจะต้องไม่พูดค่ะ การที่เป็นคนรักกัน ไม่พูดเลยก็ไม่ดี พูดมากไปก็ไม่ดี คุณลองพยายามหาจุดทีสมดุลย์ดูนะคะ

และที่สำคัญ...เจ้าของเม้นต์นี้เข้าใจว่า หากคนมีใจรักกันจริงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนไกลกันเพียงไร จะมีโอกาสพูดกันมากน้อยเพียงไรนั้นไม่เป็นปัญหาสำคัญที่จะเกิดเป็นอุปสรรค์ของความรักได้เลยค่ะ หากความรักนั้นได้บังเกิดขึ้นแล้วที่จิตใจเขาและเธอ 

ความห่างเหิน ทั้งกายใจหรือการสนาทนานั้นจะทำให้คนรักกันทั้งสองรัก โหยหาต่อกันมากขึ้นต่างหากหล่ะคือธรรมชาติของความรัก

แต่...ที่คุณเล่ามานี้คืออการของคนที่เริ่มจะหมดรักค่ะ  อาการหมดรักนั้นเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติเช่นกันค่ะ และแน่นอนหล่ะ เหตุการณ์จากความห่างเหินนั้นอาจจะเป็นเหตุหรือจุดเริ่มของการหมดรักนั้นเกิดขึ้นได้

และหากเป็นเช่นนั้นเจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...เพราะเขาหรือเธอไม่มีความมั่นคงเป็นเหตุพื้นฐานค่ะ

ความรัก ที่เป็นรักจริง  หรือรักแท้เมื่อบังเกิดขึ้นที่ใจใครแล้ว เข้าใจว่ายากมากที่จะมีเหตุที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ เข้าใจแบบนั้น

เหตุการณ์ของเจ้าของกระทู้นะคะอยากแนะนำว่าคุณลองใจเย็นๆดูนะคะ เขาอาจจะไม่คิดอะไรมากไปกว่าเขายุ่งๆก็ได้ค่ะ คุณลองใจเย็นๆและให้เวลาเขาบ้าง ความรักต้องการเวลาและความเข้าใจนั้นเป็นสำคัญนะคะ

และอีกอย่างหากคุณรักเขาจริงต้องเข้มแข็งและให้โอกาสและเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ  เขาอาจจะรักคุณมากเช่นกันก็ได้ค่ะ

สู้สู้นะคะ เป็นกำลังใจค่ะ




2
SindySanta 2 ก.ย. 59 เวลา 02:10 น. 5-1

ตามที่เจ้าของเม้นท์พูดนะคะว่า ความห่างเหิน อาจทำให้โหยหาความรัก และอาจมีอาการหมดรัก นั้นเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติ เฮ้อออ จริงๆแหละค่ะ จขกท. ก็เหมือนว่าอยู่ในเส้นกั้นบางๆของสองอย่างนี้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย...
...และอย่างที่เจ้าของเม้นท์พูดว่า ต้องจัดหนักครั้งเดียว คุยอธิบาย เหตุ และผล ต่างๆ แต่ จขกท. ไม่ได้ต่อหน้ากันหนะสิ เมื่อสองวันที่แล้ว ตอนแรกก็คุยโทรศัพท์กัน แต่ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงจากการพูดคุยกันอย่างชัดเจน (เพิ่งได้คุยโทรศัพท์กันยาวๆวันนี้แหละค่ะ ก่อนหน้านี้ว่างไม่ตรงกันบ้าง และเขาก็ไม่ว่างบ้าง) หลังจากที่คุยโทรศัพท์ไม่เป็นคำไม่เป็นประโยคอย่างที่เคยคุยเท่าไหร่ ก็เลยขอแชทเป็นพิมเอาค่ะ อธิบายเป็นหางว่าวเลย ว่ารู้สึกยังไง.ตอนนี้เป็นอะไร พูดในเหตุผลของเราต่างๆ เขาก็ไม่ต่างกันค่ะ เขาก็อธิบายในเหตุของเขาเหมือนกัน..

...เขาบอกว่าถ้าเราไม่ไหวที่เป็นๆอยู่ เขาก็เข้าใจ และคงไม่รั้ง เพราะดูแลเราไม่ดีเอง คงไม่กล้าขอโอกาศ..
...(ประโยคแปลกๆนะคะ จขกท.สรุปคร่าวๆค่ะเอาหลักๆมา)...
...เราก็ถามนะคะ ว่ายังอยากอยู่กับเราอยู่มั้ย??
...เขาตอบสั้นๆ.. "อยากก"
...และเขาก็ถามกลับเช่นกันค่ะ เราก็ตอบประมาณเขาค่ะ..
หลังจากที่ปรับความเข้าใจต่างๆก็มีแต่ประโยคให้กำลังใจกันเยอะแยะไปหมด ว่าให้อดทน และเข้าใจ เพราะอยู่ไกลกันด้วยต้องทำใจกับเรื่องนี้
...เมื่อวานก็คอลกัน วันก่อนก็คอลกัน แต่นานๆเพิ่งจะได้คอลนิละค่ะ แต่ก็ทำให้หายคิดถึงกันบ้างจากที่เหมือนจะไม่ได้กันแล้ว...

...อย่างที่เจ้าของเม้นท์พูดนะคะว่าต้องเข้มแข็ง และรอเวลา และต้องใจเย็นมากๆ เพื่อรอดูอะไรหลายๆอย่าง.. จขกท.ก็หวังว่าเขาจะทำให้หายคิดถึงด้วยสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้อีกนานแค่ไหน.. กลัวว่าจะเป็นแบบเดิมอีก..
...คนมีแฟนแต่เหมือนไม่มีแฟน ไม่อยากรู้สึกแบบนี้อีกแล้วค่ะ..

ขอบคุณเจ้าของเม้นท์ที่เป็นกำลังใจนะคะ^^

0
White Frangipani 2 ก.ย. 59 เวลา 04:00 น. 5-2

สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้


..."คนมีแฟนแต่เหมือนไม่มีแฟน ไม่อยากรู้สึกแบบนี้อีกแล้วค่ะ"... ฮา ฮา ฮา เข้าใจคุณค่ะ แต่จริงแล้วการมีแฟนความรู้สึกนั้นอยู่ที่ใจนะคะ ไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ไหนๆแฟนจะอยู่ทีใจเราตลอดเวลาแบบนั้นนะคะ คุณรู้สึกแบบนั้นด้วยหรือเปล่าเอ่ย

เพราะฉนั้นอย่าปล่อยให้ตัวคุณเองสับสนหรือให้มีความรู้สึกอกหักสิคะ (รู้สึกว่าคุณมีความรู้สึกคล้ายคนอกหักค่ะ คุณคิดไปเองแน่ๆเลยเขาก็บอกนี่คะว่ายังรักคุณอยู่ ยังอยากที่จะอยู่กับคุณ ยังคงเป็นแฟนกับคุณต่อไป (ตามที่คุณบอกมานะคะ)

แบบนี้นานๆคุณก็ต้องเดินทางไปเยี่ยมเยียนเขาบ้าง หรือให้เขามาเยี่ยมเยียนคุณบ้างคงเป็นเรื่องดีที่สุดค่ะ คนรักกันต้องมีโอกาสใกล้ชิดกันบ้างจะช่วยให้รู้จักกันมากขึ้นค่ะ

หรือหากมีโอกาสคุยกันผ่านเน็ตในระบบต่างๆก็พยายามอย่าทะเลาะกันค่ะ คนที่อยู่ไกลกันทะเลาะไม่ดีนะคะ แบบนั้นความสัมพันจะไม่ยืดยาว

อยากแนะนำคุณว่าคุณต้องไม่คิดเล็กคิดน้อย หรือคิดมาก หรือคิดกลัวเกี่ยวกับเขาในรูปแบบต่างๆนานาในยามที่คุณและเขาต้องห่างกันแบบนี้ค่ะ เป็นแฟนกันต้องศรัทธาเชื่อมั่นในตัวเขาเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้นคุณจะทรมาน ไม่ดีเลยนะ

คุณต้องคิดแต่สิ่งดีๆต่อคนที่คุณรักหรือแฟนสิคะคุณได้เป็นสุข (มีแฟนต้องมีความสุขนะคะ ไม่อย่างนั้นจะมีเพื่ออะไรกันเนอะ)

ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ สู้สู้นะคะ



สู้สู้

0
Belmel 2 ก.ย. 59 เวลา 17:56 น. 6

เราว่าแล้วแต่คนนะ
ถ้าห่างกันนานๆ ถ้าเป็นคนที่มั่นคงในความรักมาก
ยิ่งห่างนานพอเจอกันทีจะยิ่งรู้สึกดีมากๆที่ได้เจอกันนะ
พูดในมุมมองของผู้หญิงนะ

แต่ส่วนมากแล้ว ถ้าเราไม่ได้รักกันจริงๆ
หรือวันเวลาที่ห่างกันไปนั้น ต่างคนก็ต่างมีเรื่องต้องทำ
ที่ทำให้ลืมเรื่องของอีกคนไป
นั่นก็แน่นอนแล้วว่ายิ่งห่างกัน ความรู้สึกก็จะยิ่งจางลงไป


0