Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 วิธีเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ จากCEO ของ Psych Central

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
10วิธีเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ จาก CEO ของPsych Central





     1.น้องๆ ต้องมี Mindset ที่ดีต่อการเรียน

- คิดบวกเสมอ
- ไม่มีคำว่าสายเกินไป เช่น หากน้องๆคิดว่าจะอ่านหนังสือไม่ทันแน่ๆ พี่อยากให้น้องๆคิดสะว่า ถึงแม้เราควรจะเริ่มอ่านตั้งนานแล้ว แต่ไหนๆเราก็เพิ่งจะมาเริ่มอ่านแล้ว เราก็ต้องเดินไปให้ถึงที่สุด อ่านให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะน้องๆ !!
อดีตที่ผ่านมาก็คือผ่านไปแล้ว ให้น้องๆคิดว่า ครั้งที่แล้วเราพลาดไป แล้วครั้งต่อไปละ เราจะทำยังไงให้มันดีขึ้น เราต้องปรับปรุงตรงไหนบ้าง ??
- การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น บางคนอาจจะมีพรสวรรค์ในบางเรื่อง แล้วเราละ เราไม่มีอะไรเลย ผิดค่ะน้องๆ!! ทุกคนอาจไม่มีพรสวรรค์ แต่เราทุกคนล้วนมีพรแสวง หากน้องๆตั้งใจทำอะไรแล้ว พี่เชื่อว่าน้องจะทำมันสำเร็จแน่นอนค่ะ ดังนั้น คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นเลยค่ะ




     2.สถานที่ที่น้องๆเรียนก็มีส่วนสำคัญนะคะ  

- บางครั้งน้องๆอาจจะเคยมีประสบการณ์เวลาอ่านหนังสือในที่ที่มีสิ่งรบกวนมากมาย อาทิเช่น เสียงคุยกันของเพื่อน สภาพอากาศ สภาวะแวดล้อม แต่สิ่งที่พี่น้องๆก็คือ น้องๆควรหาสถานที่ ที่เหมาะสำหรับน้องๆในการอ่านหนังสือ บางคนอาจจะชอบฟังเพลงไปอ่านหนังสือไป บางคนอาจจะชอบอ่านในที่เงียบๆ คนเดียว บางคนอาจจะชอบอ่านที่ร้านกาแฟ ฟังเพลงเบาๆ ระหว่างการอ่านหนังสือ เพราะถ้าหากน้องๆเจอสถานที่นั้นๆแล้ว การอ่านหนังสือของอ่านๆ จะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากค่ะ




    3.เมื่อน้องๆได้สถานที่ที่เหมาะสมแล้ว อย่าลืมนำสิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วย !!             
- ปากกา ไฮไลท แบบฝึกหัด หนังสือเรียน ห้ามลืม !! ต้องพกไปด้วยนะคะ ^^
- บางครั้ง อาจารย์สั่งงานให้น้องๆ และงานนั้นก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเตรียมเอาไว้ แต่คอมพิวเตอร์นี่แหละเป็นสิ่งที่รบกวนสมาธิของน้องๆได้เป็นอย่างดี เช่นเวลาน้องๆจะค้นหางาน น้องๆก็อยากจะฟังเพลงไปทำงานไป พอไปเจอเพลงใหม่ๆ หรือสิ่งที่เข้ามารบกวนมากมาย มันก็จะทำให้น้องๆ อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำงานชิ้นนั้นอีกด้วย ดังนั้นน้องๆก็ควรเผื่อเวลาเอาไว้ หรือ ใช้ค้นหาข้อมูลเพียงอย่างเดียวค่ะ





     4.เขียนสรุปด้วยตัวเอง

- แทนที่น้องๆจะอ่านสรุปจากเพื่อนคนที่เก่งๆในห้อง ลองเอาสรุปของเพื่อน มาเขียนในแบบของตัวน้องๆเอง ขณะเดียวกัน น้องจะได้ทบทวนเนื้อหาไปในตัว เพื่อที่จะจำเนื้อหาส่วนที่สำคัญๆได้อีกด้วย ทำให้น้องๆเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ของเนื้อหาได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ

     



     5.ใช้คำย่อช่วยในการจะรายละเอียดย่อยๆ

- คำย่อๆต่างๆนี้จะช่วยให้น้องๆจำได้ง่ายมากขึ้น เช่น จำนวนเดือนใน 1 ปี ก็จะแบ่งเป็น ม.ค. ก.พ. เป็นต้น ซึ่งน้องๆจะสังเกตได้ว่า ชื่อเดือนมกราคมนั้น ถูกเปลี่ยนเป็นคำย่อเพียงแค่สองตัวอักษรเท่านั้น และ ม กับ ค ทั้งคู่เป็นตัวอักษรที่มาจากชื่อเต็มของเดือนนั้น ซึ่งนี่เป็นเทคนิคในการช่วยให้น้องๆจำได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นเวลาน้องๆจะคิดคำย่อต่างๆ ก็ควรใช้คำที่เกี่ยวข้องกับคำเต็มนั้นๆ หรือ ใช้ตัวย่อที่ง่ายต่อการเข้าใจและจำค่ะ






       6.ฝึกฝนด้วยข้อสอบ 

- หลังจากที่น้องๆทบทวนหรืออ่านเนื้อหาจนหมดแล้ว น้องๆควรทำข้อสอบเก่าๆ หรือ แบบฝึกหัดในบทเรียน หรือ ข้อสอบย่อย และหาจุดอ่อนของตัวเองและแก้จุดอ่อนนั้นๆ เช่น น้องๆบางคนอาจจะทำข้อสอบเสร็จก่อนเพื่อน แต่ยังขาดความรอบคอบ การบวกเลขลบเลข บางครั้งก็คิดผิดบ้าง ดังนั้น น้องๆควรตั้งสมาธิให้ดีก่อนที่จะสอบ เมื่อเรารู้ว่าเป็นคนทำข้อสอบก็ควรเช็คคำตอบเสมอหลังจากที่ทำเสร็จหรือเช็คระหว่างที่ทำ เพราะหากน้องๆแก้ส่วนที่น้องๆผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว น้องๆก็จะมีเวลาไปทำข้ออื่นอีกด้วย






        7. จัดตารางเรียนให้เหมาะสม 

- แบ่งเวลาในแต่ละวัน หรือแต่ละอาทิตย์ในการทบทวนบทเรียน เพราะน้องๆคงไม่อยากมาอ่านใกล้ๆสอบ
สามารถไปอ่านต่อได้ที่ : เทคนิคการอ่านหนังสือแบบชาญฉลาดจาก American Psychological Association





      8. อ่านหนังสือมากเกินไปไม่ส่งผลดีแน่นอน

- นอกจากน้องๆจะใช้เวลาทั้งวันหมกตัวอยู่แต่ในห้อง นั่งจ้องหนังสือทั้งวันแล้ว ร่างกายของเราต้องการการพักผ่อน หรือพักเบรก บ้าง ถ้าน้องๆอ่านหนังสือ 3ชั่วโมงรวด โดยไม่มีพักเลย ก็คงจะเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆพี่บอกเลย และถ้าน้องๆจะอ่านต่อไปอีกจะยิ่งทำให้น้องๆเหนื่อยมากขึ้นไปอีก ดังนั้นทางที่ดี เราควรมีตารางเวลาอ่านหนังสือของเราที่ชัดเจน เช่น อ่านตั้งแต่ 9-12 จากนั้นก็พักกินข้าว สัก 1-1.30ชม แล้วค่อยกลับมาอ่านต่อตอนบ่ายโมง หรือใครจะปรับเปลี่ยนเวลาเป็นทุกๆ 2 ชั่วโมง ก็ได้ไม่ว่ากัน แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนค่ะ หรือ น้องๆอาจจะตั้งเป้าเอาไว้กับตัวเองว่า ถ้าหากเราอ่านจบ 2 บท นี้ เราจะให้รางวัลกับตัวเอง เช่น ออกไปกินร้านอาหารอร่อยๆ หรือ เล่นเกมเป็นเวลา30นาทีเป็นต้น นอกจากจะทำให้น้องๆกระตือรือร้นในการอ่านแล้ว น้องๆยังมีเวลาพักระหว่างอ่านหนังสืออีกด้วย บางครั้งรางวัลก็ไม่ควรมากเกินไป เช่น อ่านหนังสือ 2 บท แลกกับ เวลาในการเล่นเกม 2 ชั่วโมง อันนี้ก็มากเกินไปนะคะ  





     9. อย่าเอาแต่เรียนเพียงอย่างเดียว

- แม้แต่ธรรมชาติยังต้องมีความสมดุล ระหว่าง หยิน-หยาง ชีวิตในช่วงวัยของน้องๆก็เช่นกัน ถ้าน้องๆเรียนเพียงอย่างเดียว นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า น้องๆขาดความสมดุล แล้วมันขาดความสมดุลยังไงละ ? การที่น้องเรียนเพียงอย่างเดียวนั้น ในขณะเดียวกัน น้องๆได้เสียโอกาสในการทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับเพื่อนๆ ครอบครัว หรือ ค้นหาสิ่งที่น้องๆสนใจนอกห้องเรียน ก็เท่ากับว่าน้องๆปิดโอกาสของน้องๆ ไว้เพียงการเรียนเท่านั้น ดังนั้นถ้าหากเรามีโอกาสแล้ว น้องๆก็ควรจะคว้าโอกาสนั้น เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนั้นอีกหรือไม่ การที่น้องๆได้ทำอะไรที่น้องๆสนใจ อาจจะทำให้น้องๆค้นพบตัวเองได้มากขึ้น ว่าตัวเองนั้นชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และสิ่งๆนี้จะทำให้น้องๆ สามารถใช้มันเพื่อตัดสินใจอนาคตของน้องๆได้ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ หรือคณะที่เราอยากเรียนได้ค่ะ !!




    10. สิ่งที่อาจารย์คาดหวังจากตัวเรา

- คุณครูแต่ละคนก็ย่อมมีสไตล์การสอนในแต่ละบุคคล ดังนั้น ความคาดหวังของอาจารย์หรือคุณครูก็ดี ล้วนแตกต่างกันออกไป ถ้าหากเรารู้ว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ยากสำหรับน้องๆ น้องๆ ก็ควรเข้าไปถามอาจารย์อย่าไม่รีรอ เพราะว่าการที่เราถามอาจารย์นั้นมีแต่ผลดีกับดี เช่นหากเราถามอาจารย์ในระหว่างเรียน นอกจากเราจะได้คำอธิบายจากอาจารย์แล้ว อาจารย์ก็สามารถตอบข้อสงสัยที่เพื่อนๆคนอื่นในห้องสงสัยได้เหมือนกัน ดังนั้นอย่ากลัวที่จะถาม และ อย่ากลัวว่ามันยาก แต่ให้น้องๆเตรียมตัวให้พร้อมกับการสอบ
หากน้องๆมีปัญหา หรือข้อสงสัย ก็ควรไปพบกับอาจารย์โดยตรง และปรึกษากับอาจารเพื่อหาทางแก้ไขหรือปรับปรุงตรงส่วนที่เรายังขาดเพื่อที่สิ่งนั้นจะไม่เกิดซ้ำอีกในครั้งต่อไปค่ะ
 


ติดตามพวกเราได้ที่ Application Clear : Notebook sharing app แอพเพื่อน้องๆโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น O-net, 9วิชาสามัญ และวิชาอื่นๆค่ะ มีรวมไว้ให้หมดแล้ว โหลดเก็บไว้ติดเครื่องเลยค่ะ ใครไม่มีพลาดมากๆค่ะ >_< 

มีทั้งAndriod และ IOSค่ะ ^^ 


IOShttps://itunes.apple.com/th/app/id613239060 
Andriodhttps://play.google.com/store/apps/details?id=com.scryva.speedy.android



ขอบคุณเนื้อหาจาก : 
http://psychcentral.com/lib/top-10-most-effective-study-habits/




 
 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น