Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Clarino คือหนังสังเคราะห์ที่ถูกคิดค้นมากกว่า 50 ปี

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
       
        
       ​  ปัจจุบันกว่า 70% ของผลิตภัณฑ์ ที่จำทางหนังสังเคราะห์  ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป จะทำจาก วัสดุหนังสังเคราะห์ ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Clarino ในการผลิต แต่กระนั้นคุณทราบหรือไม่ว่า Clarino คืออะไร มีข้อดีอย่างไร เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าคุณภาพของหนังประเภทนี้จะสามารถเทียบเท่าหนังแท้ๆ ได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบครับ  
Clarino คืออะไร
 
       Clarino คือหนังสังเคราะห์ที่ถูกคิดค้นมากกว่า 50 ปี/มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 เป็นหนึ่งในหนังเทียมเชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่น Clarino ใช้เทคโนโลยีทางด้านเคมี โดยเลี่ยนแบบโครงสร้างและคุณสมบัติของหนังแท้ ในตอนต้นต้องเผชิญกับการลองผิดลองถูก ประสบความล้มเหลวนับไม่ถ้วน
 
       จนกระทั้งสามารถพัฒนาหนัง Clarino ที่มีผิวที่เงามันสวยงาม น้ำหนักเบา ป้องกันน้ำได้ แข็งแรงและทนทาน อายุการใช้งานนาน อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย และมีสีสันหลากหลาย คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในหนังสังเคราะห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและถูกนำมาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ มากมาย เช่น กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น , รองเท้า, ถุงมือ/เครื่องกีฬา เครื่องหนังในบ้าน/โซฟา และแจ็คเก็ต/เสื้อคลุม
 
        ทั้งนี้ Soichiro Ohara ประทานบริษัทคนที่สองของบริษัท Kuraray เป็นผู้ตั้งชื่อให้กับหนังที่พวกเขาคิดค้นได้ว่า Clarino ซึ่งเป็นชื่อเรียกของทรัมเป็ดโบราณ เขาเชื่อว่าถ้าบริษัท Kuraray คือวงออกเครสต้าใหญ่ Clarinoก็คือทรัมเป็ดที่บรรเลงเดี่ยวอยู่ในวงนั่นเอง ทั้งนี้ปัจจุบันหนัง Clarino ผลิตที่โรงงานร่วมทุนในประเทศจีน เพราะเหตุนี้เองเราจึงได้เห็นว่าสินค้าที่ผลิตจากหนับ Clarino  มักจะเขียนว่า made in china 

        ข้อดีของหนังสังเคราะห์ Clarino ที่เป็นวัสดุของ กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น ในปัจจุบัน คือ มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบากว่าหนังแท้ ทั้งนี้เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ Clarino เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มีความเบาและแข็งแรงอย่างแท้จริง ทนทานกับแรงดึง มีความเหนียวไม่แตกต่างกับหนังแท้/เช่นเดียวกับหนังแท้ แต่กระนั้นทางบริษัทเผยว่าหนัง Clarino แข็งแรงกว่าหนังแท้ๆ ถึง 3 เท่า และน้ำหนักเบาเพียง 1 ใน 3 ของหนังแท้เท่านั้น 
    
เครดิตบทความจาก >>  http://www.bag99.info/

แสดงความคิดเห็น

>