Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระวัง ดร.สมคิด ตีความเพี้ยน น่าเชื่อถือหรือไม่

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
           ดร.โสภณ ชี้ ดร.สมคิด "ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ" ตีความด้านเดียว บอกความจริงไม่หมด คนที่น่าเป็นห่วงคือประชาชนที่ไม่เข้าใจข้อมูล และห่วงถึงนายกฯ ประยุทธ์
           ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่า ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เคยกล่าวไว้ว่า "เราเป็นประเทศเดียวที่ถูกปรับให้เป็นบวก แต่ไม่ประมาท เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราเคยต่ำถึง 0.8% แต่ปีนี้เขาปรับให้เราจาก 2.0% เป็น 2.5% และปีหน้าคาดว่าจะโต 2.6% ในขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแต่ทรงกับทรุด" (http://bit.ly/2d0VmMW) และล่าสุดท่านก็ยังพูดในงานแถลงผลงานครบรอบ 3 ปีโดยย้ำว่าท่านพัฒนาเศรษฐกิจจาก 0.8% ในปี 25557 ซึ่งเป็นปีที่มีรัฐประหารจนดีขึ้นในขณะนี้ (http://bit.ly/2dnC1da)
           กรณีนี้ถือเป็นการบิดเบือน ตีความเพี้ยนหรือไม่ ท่านบอกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ของไทย ในปี 2559 ได้รับการปรับเพิ่มโดยธนาคารโลก จาก 2% เป็น 2.5% โดยถือเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ (อาเซียน) ที่ได้รับการปรับเพิ่ม ที่ท่านพูดนี้ เป็นความจริงด้านเดียว ด้านที่ท่านไม่ได้พูดก็คือ ในอาเซียนนี้ ประเทศไทยมีการเติบโตของ GDP ที่ต่ำที่สุด ยกเว้นบรูไนและสิงคโปร์ที่เป็นประเทศที่รวยที่สุดในอาเซียน
           ที่แทบทุกประเทศในอาเซียนต่างเติบโตดีกว่าไทยทั้งสิ้น ก็เพราะประเทศเหล่านี้ไม่มีรัฐประหารต่างหาก ลองตรองดูได้ง่าย ๆ ว่าหากวันนี้ มีข่าวรัฐประหารในฟิลิปปินส์ที่เคยเกิดบ่อยที่สุดพอ ๆ กับไทย หรือคณะทหารอินโดนีเซียยึดอำนาจจากประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง และชนะแบบไม่ขาด หรือคณะทหารเมียนมายึดอำนาจจากอองซานซูจีเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อน นักลงทุนต่างชาติที่แห่กันไปยังประเทศเหล่านี้คงหนีหายไปหมดเป็นแน่
           ดร.สมคิดมองเพียงจุดเดียวที่ว่าตอนที่รัฐบาลจากรัฐประหารมานั้นเศรษฐกิจตกต่ำเหลือ 0.8% ดังนั้นที่ท่านทำได้ที่ 2.8% ในปี 2558 นั้น แสดงว่าเป็นผลงานของรัฐบาล ดร.สมคิดจงใจมองเฉพาะจุด โดยไม่กลับไปมองว่า เมื่อปี 2555 รัฐบาลยิ่งลักษณ์สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตถึง 7.1% หลังจากที่ได้มาบริหารประเทศเพียงปีเดียว และในปี 2554 ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มา GDP ของไทยก็อยู่ที่ 0.8% เช่นเดียวกัน แต่ GDP ในปี 2556 และ 2557 กลับตกต่ำลงไปเพราะการก่อความไม่สงบเพื่อโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนประเทศชาติพังพินาศต่างหาก (http://bit.ly/2cElj5u)
           ดร.สมคิดยังชอบอ้างว่าเศรษฐกิจโลกมีแต่ทรงกับทรุด อ้างว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดีเพราะเศรษฐกิจโลก ข้อนี้ก็ไม่เป็นความจริง การส่งออกที่ไม่ดี ความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง แม้แต่ราคายางที่ขายได้ ก็ยังเคยขายได้ต่ำกว่าราคาที่มาเลเซียขายได้ (http://bit.ly/1PYDSBa) ยิ่งประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย การตรวจสอบก็ไม่มี สิ่งที่ทางราชการดำเนินการต่าง ๆ ในส่วนราชการ ในสภาจากการแต่งตั้งสรรหา จะมีความโปร่งใสหรือไม่อย่างไร ก็ไม่อาจตรวจสอบได้
           ดร.สมคิดมองเพียงจุดเดียวที่ว่าตอนที่รัฐบาลจากรัฐประหารมานั้นเศรษฐกิจตกต่ำเหลือ 0.8% ดังนั้นที่ท่านทำได้ที่ 2.8% ในปี 2558 นั้น แสดงว่าเป็นผลงานของรัฐบาล ดร.สมคิดจงใจมองเฉพาะจุด โดยไม่กลับไปมองว่า เมื่อปี 2555 รัฐบาลยิ่งลักษณ์สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตถึง 7.1% หลังจากที่ได้มาบริหารประเทศเพียงปีเดียว และในปี 2554 ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มา GDP ของไทยก็อยู่ที่ 0.8% เช่นเดียวกัน แต่ GDP ในปี 2556 และ 2557 กลับตกต่ำลงไปเพราะการก่อความไม่สงบเพื่อโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนประเทศชาติพังพินาศต่างหาก (http://bit.ly/2cElj5u)
           ดร.สมคิดยังชอบอ้างว่าเศรษฐกิจโลกมีแต่ทรงกับทรุด อ้างว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดีเพราะเศรษฐกิจโลก ข้อนี้ก็ไม่เป็นความจริง การส่งออกที่ไม่ดี ความสามารถในการแข่งขันของไทยที่ลดลง แม้แต่ราคายางที่ขายได้ ก็ยังเคยขายได้ต่ำกว่าราคาที่มาเลเซียขายได้ (http://bit.ly/1PYDSBa) ยิ่งประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย การตรวจสอบก็ไม่มี สิ่งที่ทางราชการดำเนินการต่าง ๆ ในส่วนราชการ ในสภาจากการแต่งตั้งสรรหา จะมีความโปร่งใสหรือไม่อย่างไร ก็ไม่อาจตรวจสอบได้
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1604.htm

แสดงความคิดเห็น

>