Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เวลาเขียนเหมือนมือไหลไปเอง ทำให้เนื้อเรื่องออกมามั่วไปหมด *-*

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ฮืออออ อย่างหัวข้อกระทู้ค่ะ เวลาเขียน ชอบไหลไปเองเลย พอหยุดพิมพ์/ไหล แรกๆก็ว่าแบบนี้ก็ดีนะ
แต่ไม่ค่อยเข้ากับชื่อเรื่องหรือพลอตเรื่องที่คิดไว้ แรงบันดาลใจ มีหลายอย่างเลยค่ะ
นิยายที่ชอบ สิ่งของที่ชอบ หนังที่ชอบ ชอบอะไรก็จินตนาการดู แต่พอลองมิกซ์ออกมา ก็กลายเป็นนิยายแนวแฟนตาซี
บางทีก็ออกเป็นแนวรักงุ้งงิ้งไปเลย พอลองปล่อยให้มือมันไหลตามความคิดอีกซีกหนึ่ง//ของสมอง
มันก็กลายเป็นเรื่องที่ดูน่ารำคาญตาเลยค่ะ แงงงงงง
พอลองพิมพ์แบบที่คิดไว้ มันออกไปคนละแนวอีกเหมือนเดิม ส่วนตัวว่า เป็นคนเขียนนิยายไม่ออกเลยค่ะ
บางทีเขียนไปครึ่งเรื่อง หรือใกล้จบแล้ว ก็รู้สึกเบื่อ ลบหน้าทิ้ง หรือไม่ก็ฉีกกระดาษทุกหน้าที่เขียนออกไป
//ส่วนตัวชอบเขียนในกระดาษไว้อ่านตอนเหงาๆค่ะ แหะๆ
บางทีก็ขีดหน้านั้นออก พอจะเริ่มเขียนเรื่องอื่น มือมันก็ไหลตามสมองอีกซีกหนึ่งอีกแล้ว
เคยลองให้เพื่อนอ่านดู เขาก็บอกน่าสนุกดี เขียนต่อสิ ได้อยู่นะ คือพอลองมาอ่านเองก็แบบ
นี่ใครเขียนฟะ อะไรอะ อ่านไม่รุ้เรื่องโว้ยยยย 555555555 เหมือนเพื่อนไม่กล้าบอกว่าไม่สนุก ไม่กล้าวิจารณ์ตรงๆ
ควรทำยังไงกับนิสัยไหลๆของเราดีค้ะ อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

K.W.E. 25 ก.ย. 59 เวลา 16:55 น. 1

กำหนดพล็อตไว้หรือยังล่ะครับ

อาการนี้เหมือนเขียนแบบไม่ได้ลงรายละเอียดพล็อตเลย
ไม่งั้นก็คือมีพล็อตแต่ไม่ทำตามที่พล็อตกำหนดไว้

สำหรับการเขียนนิยายแล้ว พล็อตก็เหมือนคู่มือการปฏิบัติงานล่ะครับ
มีไว้ช่วยให้งานเดินหน้า ต่อให้หมดมุกแทรก หรือมองไม่เห็นทาง เราก็ยังใช้พล็อตเป็นเชือกนำทางในที่มืดให้ด้นแต่งได้ด้วย

ถ้าไม่ได้วางพล็อต หรือมีพล็อตแต่ไม่เชื่อพล็อตล่ะก็
มีโอกาสที่จะออกมาในอาการที่ จขกท. กำลังเป็นอยู่ได้น่ะครับ

0
หมาป่าน้อยผู้น่ารัก 25 ก.ย. 59 เวลา 18:55 น. 2
นิสัยแบบนี้ หากจะให้เปรียบเทียบ ก็เหมือนกับเข็มทิศที่จะชี้ไปทางทิศเหนืออยู่เสมอ แต่มีคนเอาแม่เหล็กมาใกล้ เข็มมันก็จะเปลี่ยนไปจากทิศที่มันควรจะชี้ไปทุกครั้ง
ฉะนั้นขอแนะนำ ให้เขียนเสร็จก่อน แล้วปล่อยเรื่องนั้นไว้ 1 - 2 วัน แล้วค่อยย้อนกลับมาอ่านใหม่ เราจะเห็นอะไรที่มันออกนอกทางไปพอสมควร จนพี่ตูนบอดี้สแลมมาร้องเพลง "อยากจะออกไปแตะขอบฟ้า แม้เขียนออกนอกทะเลก็ไม่เคยเข้าใจตัวเอง มันจะมีหนทางบ้างไหมที่จะเลิกนิสัยแบบนี้"
1
Z.WA 25 ก.ย. 59 เวลา 19:48 น. 3

แบบนี้น่าจะแนวๆ ไม่มีสมาธิ หรือเปล่าครับ?
พอเราไม่มีสมาธิเราก็จะจัดลำดับไม่ถูก
มันก็เหมือนเปิดประตูด้วยความเคยชิน จนไม่รู้ว่าตัวเองเปิดประตูหรือเปล่าน่ะครับ

...ถ้าจะพูดแบบมีหลักการหน่อย สมัยมัธยมผมมีโอกาสได้เรียน Writing
ซึ่งผมก็อยากให้ในวิชาภาษาไทยมีสอนแบบนี้นะครับเพราะว่ามันดีมากๆเลย
คร่าวๆคือ
คืออย่างแรกเราต้องตั้ง Topic (ชื่อเรื่อง) ครับว่าเราจะเขียนถึงอะไร
จากนั้นก็เป็นทีของ Main Ideas (แก่นเรื่อง) คือเราใจความหลักใหญ่ว่าเราจะพูดถึงอะไรบ้าง เหตุการณ์สำคัญๆหลักๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
จากนั้นค่อยแตกออกเป็น Supporting Sentences (เนื้อเรื่องและเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นเพื่อดำเินเรื่องราว) ก็คือรายละเอียดที่แตกออกมาจาก Main Ideas อ่ะครับ
แล้วก็ Summary (บทสรุปตอนจบของเรื่อง) ก็คือปมสุดท้ายเพื่อจบเรื่อง

ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้นครับ ตอนแรกเรตติ้งดีมาก ไปๆมาๆเริ่มออกอ่าวจนผู้อ่านก็ท้วงเหมือนกัน แต่นั่นเพราะสมาธิผมยังไม่ดี ไม่มีการจำกัดขอบเขต ใช้จินตนาการมากไป (เพราะในความเป็นจริงทุกเรื่องย่อมมีขอบเขตความเป็นไปได้ครับ ถ้าเกินขอบเขตนั้นแปลว่าไม่จริง เช่น ถ้าผมอยู่ในโลกนี้ ผมบอกผมบินได้ (ซึ่งเกินขอบเขตของมนุษย์ในมิตินี้) ผมย่อมโกหกครับ แล้วถ้าผมเกินขอบเขตไปมากๆ จะไม่มีใจความอะไรให้จับเลย กลายเป็นไม่สนุกนั่นเอง ดังนั้นคุณจะเห็นว่าคนโกหกที่ได้ผลคือคนที่พูดเรื่องเกินจริง 20 พูดจริง 80 เพราะมี-ส่วนความเป็นไปได้มากกว่า ทำให้เรื่องที่เล่าดูน่าติดตามและน่าเชื่อถือครับ (ยกเว้นคนอยู่วงการนั้นก็จะไม่ตื่นเต้นเลยเพราะรู้หมดแล้ว)

ถ้าให้ผมเปรียบก็คือ การเขียนนิยาย เหมือน การอาชญากรรมครับ
ถ้าเราไปปล้น (เขียน) แบบไม่วางแผนเลย เราก็โดนตำรวจจับ (แปลว่านิยายเราล่มไม่เป็นท่า) เราต้องมีแผน A B C หรือมากกว่านั้น เพื่อหาทางหนีทีไล่ให้กับนิยายของเรา
เพราะบาง Main Idea มันก็อาจไม่เวริคครับ เพราะหนทางของนิยายไปได้หลายทางเหมือนชะตาชีวิตของคนเลย ทุกตัวละครมีวิธีคิดของตัวเอง พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้โดยที่ผู้เขียนก็อาจคาดไม่ถึง

การเขียนนิยายดีๆสักเรื่องใช้อะไรหลายอย่างครับ เพราะผมเองก็ Study หลายอย่างซึ่งไม่ใช่สายที่ผมเรียนเลย ยกตัวอย่างเช่น ผมต้องไปดูการผ่าศพ ไปดูการตั้งท้องตั้งแต่แบบธรรมดา ไปจนถึงนอกมดลูก เพราะตัวละครผมเป็นเคสที่ต้องใช้ข้อมูลแบบนี้ถึงจะเขียนออกมาได้ดี กลายเป็นพอ Study แล้วผมเปลี่ยนเนื้อเรื่องส่วนนั้นใหม่หมด เพื่อให้มันสมจริงมากขึ้น คือการเขียนนิยายมันมีหลายอย่างครับ เราจะเขียนให้มันสมจริงก็ได้ กึ่งก็ได้ หรือเอาสนุกอย่างเดียวไม่สนใจความจริงเลยก็ได้ เพราะผู้อ่านก็มีหลายขั้น หลายระดับ อยู่ที่ว่าเราจะไปจับกลุ่มไหนได้ หรือจับไม่ได้เลย

1
ชนุ่น 26 ก.ย. 59 เวลา 09:16 น. 4

โอเค อ่านแล้วพอทำความเข้าใจปัญหาของคุณได้ ดังนี้ว่า
1) แต่งไปแต่งมาไม่เข้ากับชื่อเรื่องหรือพล็อต
2) เปลี่ยนแนว
3) มีไฟเขียนเรื่องใหม่ก็ทิ้งเรื่องเก่า
4) ไม่มีความมั่นใจ

ก็ถ้ารู้ปัญหาก็พออาจจะแก้ได้น่ะนะ...อย่างชื่อเรื่องอย่าไปซี เปลี่ยนใหม่ได้  แต่พล็อตนี่ละปัญหา  คุณต้องวาางพล็อตอะไรให้มันแน่นหรือพอเข้าใจได้ว่าจะเดินไปตามทางนี้ อย่างน้อยสักนิดก็ยังดี

และเรื่องที่จับประเด็นมาใส่เรื่อยๆ จนเรื่องเพี้ยน อันนี้ต้องกำหนดกรอบชัดเจนว่าโทนเรื่องจะเป็นแบบไหน เช่นแนวเกมออนไลน์แบบแฟนตาซีที่อ่านได้ทุกวัย หรือแนวรักสดใสปนปริศนาในโรงเรียน  ต้องกำหนด Genre ให้ชัด  หรือไม่ก็ใช่ดนตรี/การ์ตูน/นิยายกำหนดอารมณ์ ณ ตอนนั้นของเราไปเลย
แต่ปัญหานี้ผมก็เคยเป็นตอนยังเป็น newbie เพิ่งเข้ามาใหม่ๆ ก็เกิดเปลี่ยนแนวดื้อๆ  อันนี้ต้องถามใจตัวเองแล้วฝึกแต่งไปเรือ่ยๆ จนเจอแนวที่ถนัด

แต่-เรื่องเขียนเรื่องอื่นลืมเรื่องเก่านี่ก็ยังไม่รู้ ประสบปัญหาอยู่และยังหาทางแก้ไม่ค่อยได้  ส่วนเรื่องความมั่นใจอยากบอกว่า "ให้คิดเสียว่าแต่งเพื่อตัวเอง" แต่ต้องเกลาภาษา พล็อตเรื่องให้ดีด้วยนะ

1
Supporo 28 ก.ย. 59 เวลา 14:57 น. 4-1

ต้องปรับอีกเยอะเลยฮือออ พอจะรู้ปัญหาตัวเองแล้วล่ะค่ะ
ฮือฮือ

0