(สาระ) ชัวิตของ "เกย์" ในเมืองจีน

[โครวรี้ด]

ชีวิตสีหม่นของชาวเกย์ในสังคมจีน โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2548 09:18 น. ชีวิตคนเมืองจีน / กู้ หนุ่มนักออกแบบเครื่องยนต์ของบริษัทแห่งหนึ่งในเฉิงตู ถูกเพื่อนร่วมห้องที่ทำงานอยู่ด้วยกันนำเรื่องที่เขาเข้าไปแชตกับเพื่อนชาวเกย์ในอินเตอร์เน็ตยามค่ำคืนไปฟ้องเจ้านาย กู้ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นักเพราะเชื่อว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร เขายังสารภาพอย่างสัตย์ซื่อว่าเป็นรักร่วมเพศจริง แต่เจ้านายกลับมองว่าเขาเป็นพวกลามก กู้คงไม่เจ็บปวดแสนสาหัสหากเจ้านายไม่นำเรื่องนี้ไปรายงานกับพ่อแม่ของเขา เพราะทันที่ที่ ‘สถานะ’ ที่เขาปกปิดมาตลอดรู้ถึงหูคนในครอบครัว มันได้นำมาซึ่งความอับอายและทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อแม่ญาติพี่น้องลงในพริบตา จนถึงวันนี้ มารดาของเขายังคงช็อกกับข่าวที่ได้รับรู้ราวกับโดนฟ้าผ่า เธอล้มเจ็บและยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนบิดาก็ปฏิเสธที่จะมองหน้าลูกชาย คำกล่าวที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้นของพ่อที่ว่า “ฉันหวังว่าจะไม่เคยมีลูกชายอย่างแก” ก็ยังคงก้องอยู่ในหัวของกู้ ชายหนุ่มต้องย้ายที่ทำงานและบ้านไปอยู่ถึงหังโจว ให้ห่างไกลจากผู้คนที่รู้แล้วว่า เขาเป็นเกย์ จีนแผ่นดินใหญ่ในวันนี้ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมในด้านต่างๆ ที่ถาโถมเข้าประเทศอย่างรวดเร็วราวกับทำนบแตก และการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ ก็เป็นกรณีใหม่ที่คงตกค้างอยู่ระหว่างช่องว่างของการเปิดกว้างกับความคิดอนุรักษ์นิยม เรื่องราวของกู้เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่เปรียบเสมือนตราบาปและฝันร้ายที่ชาวเกย์ทั้งหลายในประเทศนี้กำลังเผชิญหน้าอยู่ จากการเปิดเผยตัวเลขของหน่วยงานของรัฐบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ระบุว่า ประเทศจีนมีชายรักร่วมเพศอยู่ 5-10 ล้านคน แต่นักวิชาการกลับออกมาแย้งว่า นี่เป็นแค่ตัวเลขคาดการณ์อย่างต่ำที่ไม่ใกล้เคียงกับความจริงเลย พวกเขาคาดว่า มีชายและหญิงรักร่วมเพศรวมกันราว 30-40 ล้านคนแล้ว และถึงแม้ว่าจีนจะยอมรับสถานะของชาวเกย์มากขึ้น ด้วยการแก้ไขกฎหมาย ว่าด้วยการร่วมเพศอย่างผิดธรรมชาติเป็นคดีอาชญากรรมไปเมื่อปีค.ศ. 1997 และเมื่อปี 2001 หน่วยงานด้านสาธารณะสุขก็ยังยกเลิกการใช้คำเรียกกลุ่มคนรักร่วมเพศว่าเป็นผู้พิการทางจิตแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การรับรู้ของคนในสังคมก็ยังเปลี่ยนไปไม่มากนัก การเปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศในจีนยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก ‘ครอบครัว’ สุสานฝังเกย์ทั้งเป็น เกย์หลายคนในจีนที่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า แรงกดดันจากคนในครอบครัวมีส่วนทำให้ชาวเกย์ในจีนจมลงสู่ห้วงชีวิตอันน่าอดสู “ลูกน้องที่ทำงานไม่มาสนใจชีวิตส่วนตัวของผมหรอก แม้แต่ยายเม้าเพื่อนบ้านก็ยังไม่สร้างความรำคาญใจให้ผมเท่าไหร่ แต่ผมคงปฏิเสธความรู้สึกของพ่อกับแม่ไม่ได้” ลู่ อาจารย์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในกว่างโจว กล่าว “พวกท่านคงหวังว่าให้ผมเป็นอัมพาตซะจะยังดีกว่า เพราะว่าพวกท่านจะยังสามารถเห็นอกเห็นใจและรักผมได้อย่างไม่มีเงื่อนไข หรือถ้าผมกลายเป็นมนุษย์ต่างดาวเสีย พวกท่านก็แค่ข้องใจในตัวผม” หนุ่มกู้ตัดพ้อ หลังครอบครัวรู้ว่าเขาเป็นเกย์ มีครอบครัวจำนวนน้อยเท่านั้นที่พ่อแม่มีการศึกษาและเข้าใจความเป็นเกย์มากพอ ที่ยังพอรับได้กับสถานะของลูก เช่น หนุ่มเฟยจากเจียงซู เขาเป็นลูกชายที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อที่มีอาชีพเป็นผู้ X วชาญด้านการแพทย์ หลังจากพลิกอ่านไดอารี่ที่ลูกชายนำมาให้และรับรู้ถึงชีวิตลับอีกโลกหนึ่งของลูก พ่อของเฟยยอมรับอย่างเฉยเมยตราบเท่าที่ลูกยังมีความสุขและแน่ใจว่าเขาปลอดภัยจากโรคติดต่อ แต่เขาได้เลือกทางออกให้ลูกโดยกล่าวกับเฟยในเช้าวันต่อมาว่า ขอให้เลิกติดต่อกับทุกคนที่เคยคบและห้ามออกจากงานที่ทำอยู่ การคาดหวังจะได้เห็นลูกชายแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา ก็เป็นอีก ‘ห่วง’ หนึ่งของชาวเกย์ในจีน บางคนถูกลากเข้าพิธีวิวาห์ด้วยความกล้ำกลืน บางคนเที่ยวค้นหาสาวรักร่วมเพศ (ที่หายากเสียยิ่งกว่าชายรักร่วมเพศ) เพื่อหวังว่าจะแสร้งแต่งงานกับพวกเธอและแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของกันและกันได้ ความหวังอันริบหรี่ทำให้หลายคนเลือกที่จะเชื่อว่า ถ้าพยายามมากขึ้นจะเลิกเป็นเกย์ได้ แต่สุดท้ายชีวิตแต่งงานก็มักพังทลายลงราวโศกนาฏกรรม กลุ่มผู้รักร่วมเพศในจีนก็ต้องการความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคติดต่อทางเพศเช่นกัน ‘ชีวิตสองด้าน’และ‘เกย์ปลอมขายเซ็กซ์’ กระแสซ้ำเติมชีวิต เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นกับจิตใจของเกย์จีนก็ยังไม่ร้ายแรงเท่าอันตรายที่เกิดขึ้นกับสุขภาพร่างกายของพวกเขา แพทย์ผู้ X วชาญของเมืองเซินเจิ้น กล่าวว่า การกีดกันทางเพศเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเกย์ในจีนลำบากยิ่งขึ้น บางคนพยายามที่จะมีชีวิตอยู่และหาทางออกบนความเสี่ยง ด้วยการมีชีวิตคู่ทั้งกับชายและหญิง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีและเป็นพาหะของการแพร่เชื้อในหมู่ชาวเกย์และสู่คนในครอบครัว ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติ ยังออกมาเตือนให้รัฐบาลและสังคมยอมรับการมีอยู่ของกลุ่มผู้รักร่วมเพศในจีน และตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในกลุ่มคนดังกล่าว โดยพยายามเปิดเผยตัวเลขที่เป็นจริงว่า ขณะนี้จีนมีประชากรชายรักร่วมเพศกว่า 80% ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคเอดส์ ซึ่งในจำนวนนี้กลุ่มที่มีคู่รักชายเป็นตัวเป็นตน 1-10 คน มีอยู่ 31.7% และอีก 22.2% มีคู่นอนมากกว่า 100 คน ส่วน 17.4% มีคู่รักเป็นหญิง และ 12.6% แต่งงานแล้ว นอกจากนี้ เสน่ห์ลึกลับของเกย์ก็ยังดึงดูดให้เด็กหนุ่มบางคนฉวยโอกาสกับชายรักร่วมเพศ เข้ามาขายบริการทางเพศโดยอ้างตัวว่าเป็นเกย์ หลังจากนั้นหนุ่มเกย์ปลอมเหล่านี้ก็จะใช้จุดอ่อนของเกย์แท้ที่กลัวความจริงจะเปิดเผยมาแบลกเมล์เอาเงิน ปล้นชิงทรัพย์ บางรายรุนแรงถึงขั้นก่อคดีฆาตกรรม อาชีพนี้กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในสังคมเมืองที่ซ้ำเติมให้การมีชีวิตอยู่ของเกย์จีนตกต่ำลงไปอีก ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ตัวเลขว่า มีชายรักร่วมเพศถึง 38% ที่เคยมีประวัติถูกทำร้ายจากการมีเพศสัมพันธ์ 21.3% ถูกคู่รักที่เป็นชายแท้หลอกหรือทำร้าย และ 21% ตกเป็นเหยื่อของสังคมเมื่อความจริงถูกเปิดเผย แต่ใช่ว่าทุกด้านในชีวิตของชายรักร่วมเพศในจีนจะมืดมนสิ้นหนทาง ทุกวันนี้หลายคนก็ยังพอหาเพื่อนได้บ้างตามบาร์เกย์ที่เปิดกันอย่างคึกคักในเมืองต่างๆ หรือการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนเกย์ด้วยกันทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งการสร้างชุมชนเกย์ในอินเทอร์เน็ต และการได้เล่าประสบการณ์ความรักของกันและกัน เป็นเสมือนการถมช่องว่างที่เคยถูกสังคมผลักไสให้ห่างออกไป จนกลายเป็นพวกแตกต่างและโดดเดี่ยวของชาวเกย์ในจีน ให้กลับมามีความหวังในชีวิตขึ้นบ้าง นอกจากนี้ การเปิดศูนย์ฮอทไลน์และศูนย์สุขภาพเพื่อให้คำปรึกษาแก่กลุ่มผู้รักร่วมเพศในเมืองใหญ่ๆ เช่น เซินเจิ้น ฉงชิ่ง และหังโจว ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการดูแลรักษาสุขภาพ และให้บริการตรวจเลือดฟรีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี แสงสว่างรำไรนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า อย่างน้อยสังคมจีนวันนี้ก็ค่อยๆเปิดใจยอมรับแล้วว่า กลุ่มผู้รักร่วมเพศคือส่วนหนึ่งของประชากรในประเทศ . เรียบเรียงจาก ไชน่าเดลี่ / ซินหัวเน็ต

---

PS.  กำลังตามหา ยูเอะ กับ เคโรเบลรอส ครับ ไม่รู้หายตัวไปไหน

Comments

[หยก]

เราเปนคนหนึ่งที่เรียนอยู่ที่เมืองจีน มาหลายปีเเล้ว 6 ปีเเล้ว
ตั้งเเต่เราอยู่ มอ 1 ตอนนี้ เรา มอ 6 เราเรียนอยู่ที่กวางโจว เปนเมืองกลางตุ้ง
เราบอกได้เลยว่าที่นี้ไม่ยอมรับเรื่องรักร่วมเพศซักเท่าไหร ...ตั้งเเค่เราเรียน มอ 1 ถึงมอ 6 นีบได้เลยว่ามีคนที่ เปนเกย์ เปนทอม
อาจจ่ะหนึ่งไนร้อยเลยก้อได้ รร ของเรามีเกย์เพียงเเค่คนเดียวเท่านั้น เเล่ะเค้าเปนคนฮ่องกง
ซึ่งคนไน รร ต่างก้อชอบเเกล้งค่อยทุกวิถี่ทาง  จนทำไห้เค้าต้องลาออกจาก รร เอง
เเค่ที่จีน อาจจ่ะมีพวกทอมบอย เยอะกว่า เกย์...เพราะคนจีนส่วนไหย่ชอบมีลูกผู้ชาย
เพราะชะนั้น เลยอยากบอกเพื่อนๆคนอื่นๆที่รุ้ว่าตัวเองเปนชายรักชาย ต้องทำไจเรื่องนี้นิดเนิงเลยน่ะค่ะ
บอกเลยว่าคนที่นี้เค้าค่อนข้าง เเอนตี้ เรื่องนี้กันพอสมควร อาจจ่ะถูกเเกล้งบ้าง..ควรทำไจไว้ก่อนมานิดเนิงน่ะค่ะ

[nattakool]

น่าสงสารพวกเกย์ชาวจีนจังเลยเนอะ แอนตี้ ยิ่งกว่าที่ไทยอีกง่า

---

PS.  เรา ชอบตัวเราเองที่สุด... และเราเชื่อว่าเราเทพ! ด้วยเช่นกัน

[jothauland]

ใช่น่าสงสาร คนจีนมาก เดือน พ.ย. ผมจะไปหาแฟนที่จีน เขาอึดอัดกับครอบครัวมากกกก

[arthit]

มิน่าละแฟนผมเค้าถึงกลัวครอบครัวจะรู้มากถึงขนาด
ยอมเสียใจไม่พบคนที่ตัวเองรัก...น่าสงสารจังรู้แบบยี้ผมยิ่งสงสารเขามากยิ่งขึ้นแล้วชวิตต่อไปเค้าจะทำไงจะหาความสุขได้จากไหนเมื่อผมไม่อยู่กลับไทยแล้ว...เศร้าจะง