Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มหัสจรรย์เทคโนโลยีเปลี่ยนเสียง "ชาย" ให้เป็น "หญิง" 100%

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่




มหัศจรรย์เทคโนโลยี เปลี่ยน"เสียง"ชายเป็นหญิง 100%


เทคโนโลยีการผ่าตัดกล่องเสียงทำเสียงชายให้เป็นเสียงหญิง ได้รับการเปิดเผยจาก น.พ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี ผู้สันทัดเรื่องความงาม

คุณหมอสุพจน์เล่าว่า การทำเสียงห้าวใหญ่แบบชาย ให้แหลมเล็กแบบหญิง เป็นความฝันของสาวประเภทสองอย่างมาก
เพราะหากเสริมหน้าอกก็แล้ว แปลงเพศก็แล้ว หากเสียงยัง "ฮ่ะ" แบบห้าวๆ คนก็รู้วันยังค่ำ

ดังนั้น เหลือแค่อีก 10% คือเรื่องของ "เสียง" หากสามารถแก้ไขได้
ทำให้เป็นเสียงผู้หญิงสมบูรณ์ ปมด้อยของกะเทยทั้งหลายก็จะหมดไป

"เรื่องของเสียง พวกกะเทยจะถือเป็นปมด้อยของเขามาก ถ้ามีเทคโนโลยีด้านนี้เกิดขึ้น
เขายอมทุ่มทุกอย่าง เพราะความไม่สมดุลในร่างกายทำให้เขาไม่มีความสุข
แต่ถ้ามีอะไรที่มาทำให้ร่างกายเขาสมดุล เขาก็จะมีความสุข"

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮียกตัวอย่าง "น้องตุ้ม" ปริญญา เจริญผล
กับข่าวล่าสุดที่เธอชะแว้ปแอบไปผ่าตัดทำเสียงให้เป็น "หญิงแท้" มา

"ตอนนี้เสียงน้องตุ้มแหลมเล็ก เป็นเสียงผู้หญิงมากขึ้น
ถ้าคุยกันตอนนี้ไม่รู้เลยว่าเป็นสาวประเภทสอง นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ล่าสุดของวงการกะเทยเลยทีเดียว

คุณหมอสุพจน์พูดเรื่องการผ่าตัดเปลี่ยนเสียงว่า มีมาหลายปีแล้ว แต่จะทำกันอยู่ในต่างประเทศ แถวยุโรป
อเมริกา และในเอเชียมีแค่ที่ญี่ปุ่น

ส่วนเมืองไทยเพิ่งทำได้ไม่นาน ที่ชำนาญมากคือ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ส่วนของยันฮี เพิ่งรับทำปีนี้เอง

"เวลานี้ทำไปแล้วทั้งหมด 12 คน บางคนอยู่ระหว่างการพักฟื้นให้เสียงเข้าที่"

คุณหมอบอกต่อว่า การผ่าตัดเปลี่ยนเสียงพัฒนามาจากการรักษาคนไข้ที่เป็นโรคเสียงแหบ เช่น

คนที่เป็นหวัดเรื้อรัง ไอเรื้อรัง กล่องเสียงหย่อนยาน จะใช้วิธีผ่าตัดรักษาเสียงแหบ


ต่อมาเมื่อเห็นว่าสามารถทำเสียงแหบให้ดีขึ้นได้
ก็เลยใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในการผ่าตัดเสียงผู้ชายให้เป็นเสียงแหลม เสียงสูงขึ้นเหมือนผู้หญิง

ส่วนวิธีการทำนั้น คุณหมออธิบายว่า อันดับแรกต้องตรวจร่างกายคนไข้ก่อน ถ้าสุขภาพแข็งแรงดี
ก็จะมีการเทสต์เสียงต่อ โดยเครื่อง Strodoscope สนนราคาเครื่องละ 3 ล้านบาท

เครื่องนี้จะวัดกันที่เฮิรตซ์ เหมือนกับความถี่ของคลื่นเสียง
โดยการนำเอาท่อต่อเข้าไปในปากเป็นแท่งไมโครโฟนเล็กๆ ที่เรียกว่า prope และให้คนไข้ตะเบ็งเสียง
"อ้า...อ้า...ออ...

แล้ววัดออกมาเป็นความถี่ ว่ามีระดับเท่าไหร่

"โดยปกติผู้ชายจะอยู่ที่ 100-130 เฮิรตซ์ ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ 200-250 เฮิรตซ์
จากนั้นหมอจะตรวจว่าเสียงของคนไข้สามารถเปลี่ยนได้สูงแค่ไหน
เสร็จแล้วอธิบายขั้นตอนวิธีการผ่าตัดให้คนไข้นำกลับไปพิจารณาว่าตัดสินใจแน่หรือไม่ที่จะผ่าตัดเปลี่ยนเสี
ยง เพราะถ้าตัดสินใจไปแล้วไม่อยากได้ จะผ่าตัดกลับเป็นเสียงต่ำทำได้ยาก หรือแทบไม่ได้เลย"

คุณหมอเล่าทุกขั้นตอนให้คนไข้ฟังแล้ว ก็อยู่ที่คนไข้ว่าจะเอาอย่างไร ถ้าตัดสินใจทำแน่นอน
หมอจะนัดมาผ่าตัด โดยต้องอดข้าวก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

วิธีการลงมีดของหมอก็เหมือนผ่าตัดทั่วไป ที่ต้องรมยาสลบคนไข้ก่อนแล้วใช้มีดกรีดลงตรงกลางลำคอ
ตามเส้นรอยพับของคอ เพราะเวลาแผลหายจะได้ไม่เห็นรอย

หมอจะกรีดประมาณ 3 เซนติเมตร จากนั้นตัดกระดูกลูกกระเดือกก่อนประมาณ 1 ส่วน 3
กระดูกส่วนนี้ตัดออกแล้วคอจะเรียบเหมือนผู้หญิง

แล้วมาถึงขั้นตอนสำคัญคือ กล่องเสียง มีรูปร่างรีๆ คล้ายลูกรักบี้ ปลายทั้ง 2 ข้างจะยึดอยู่กับกระดูก
และรอบๆ มีกล้ามเนื้อห่อหุ้มอยู่

หมอจะตัดปลายทั้งสองข้างของกล่องเสียง เพื่อดึงกล่องเสียงให้แคบลง
ทำให้เสียงที่ผ่านถูกบีบให้แคบและกล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มอยู่จะสั่นสะเทือนน้อยลง ทำให้เสียงแหลมขึ้น
เมื่อดึงให้ตึงแล้วเย็บแผล เป็นอันเสร็จวิธี

"ลองนึกดูสายกีตาร์ ถ้าดึงให้ตึงมากๆ เสียงจะแหลมปรี๊ด ถ้าทำให้หย่อนเสียงจะทุ้ม"

ครั้นพอผ่าตัดได้ 7 วัน คนไข้ต้องมาให้หมอตัดไหม และทดสอบด้วยเครื่อง Stodoscope อีกครั้ง
ว่าคลื่นเสียงขึ้นมาเท่าไหร่ ตัวอย่างของน้องตุ้ม วัดครั้งแรกได้ 135 เฮิรตซ์ มาวัดอีกทีได้ถึง 250
เฮิรตซ์

ในช่วงสองสัปดาห์นับจากผ่าตัด มีข้อห้ามใช้เสียงมาก เพื่อให้แผลหายดี ถ้าไปตะเบ็งเสียง หรือไอแรงๆ
แผลอาจจะปริได้ ช่วงนี้ทางโรงพยาบาลจะมีครูฝึกการใช้เสียงให้ด้วย

"น้องตุ้มเวลานี้เสียงไม่ต้องดัดแล้ว พูดออกมาปกติเป็นเสียงผู้หญิงแล้ว ร้องเพลงได้
กรี๊ดเป็นเสียงผู้หญิงได้ และไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย" คุณหมอสุพจน์บอก

เทคนิคล่าสุดแบบเอาใจสาวประเภทสองนี้ ไม่ใช่ว่ากะเทยคนไหนก็จะทำได้ เพราะทางโรงพยาบาลมีเงื่อนไขว่า
ต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป

กะเทยคนไหนอยากได้เสียงผู้หญิงแท้ เวลานี้ไม่ได้เป็นแค่ความฝันอีกต่อไป

เทคโนโลยีช่างสามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริง-จริง

น.พ.สุพจน์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี

"เรื่องนี้ถือเป็นการรักษา ไม่ใช่ส่งเสริมกะเทย"

"เรื่องนี้ถือเป็นการรักษา-รักษาเขาที่จิตใจ ไม่ได้ส่งเสริมให้ใครก็ได้มาเปลี่ยนเสียง
เพราะว่าเท่ดี หรือแปลกดี ไม่ใช่อย่างนั้น ถือเป็นการรักษาเฉพาะสาวประเภทสอง ซึ่งคนพวกนี้น่าเห็นใจ
เพราะลึกๆ แล้วเขามีความผิดปกติทางด้านโครโมโซม ดีเอ็นเอเขาผิดปกติ เขาจะเก็บกด ซ่อนไว้
แล้วกลายเป็นความทุกข์ในจิตใจตลอดเวลา"

"ที่ผมทำเพราะอยากให้เขามีความสุข อีกทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้นมาก
เทคโนโลยีเปลี่ยนเราก็ต้องเปลี่ยนเพื่อความสุขของตนเอง จะไปจมอยู่กับทุกข์ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่
มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคนกลุ่มนี้"

เปิดใจ"สาวประเภทสอง"

นายอนุสรณ์ ศรีทองอินทร์ "ไวท์"

อายุ 23 ปี น.ศ.มหาวิทยาลัยศรีปทุม

"ไม่เคยคิดจะผ่าตัดเปลี่ยนเสียง แต่เคยได้ยินว่ามีคนทำ ที่อยากทำคือ ผ่าตัดแปลงเพศ
อยากทำมากที่สุด ถ้ามีเงินจะไปแปลงเพศแน่นอน ส่วนเรื่องของเสียง เป็นเรื่องที่เปลี่ยนเราไปตลอด
เพราะเวลาคุยกับพ่อแม่หรือคนสนิท จะเหมือนว่าไม่ใช่ตัวเรา และเขาจะไม่คุ้นเคย"

"สาวประเภทสองอย่างเรา แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้
แต่ก็เลือกที่จะทำเพื่อความสุขของเราเองได้"

นายอนุ รูปสอาด ช่างแต่งหน้าบริษัทโฟโตอองโวค สาขาเซ็ลทรัล ลาดพร้าว

"ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ และเงินพร้อม ทำแน่นอน เพราะทำแล้วมีความสุข อยากได้เสียงผู้หญิงมานานแล้ว
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตทีเดียว"

"ถ้าจะทำศัลยกรรม จะทำทุกส่วนให้สมบูรณ์เหมือนผู้หญิงมากที่สุด
เป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของชีวิตทีเดียวนะ..."

นายพูลเพิ่ม นฤมลนภาลัย "ไตเติ้ล"

อายุ 23 ปี น.ศ.คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

"รู้สึกดีใจมากที่วงการแพทย์ไทยสามารถผ่าตัดเปลี่ยนเสียงได้ เพราะเป็นความต้องการสุดสุด
การเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบได้นั้น เสียงเป็นสิ่งที่สำคัญ กะเทยบางคนหน้าตาสวยมาก
แต่พูดทีเสียงเป็นผู้ชายก็กลายเป็นตลกไปเลย"

"การทำศัลยกรรมสมัยนี้มีเยอะมาก ขึ้นอยู่กับโชคเหมือนกัน ที่ทำมาดูดีก็มีเยอะ แต่ที่แย่ก็มี
ถ้าจะทำศัลยกรรมก็ควรจะศึกษาให้รู้เสียก่อน หากทำแล้วมีปัญหาหรือว่าเป็นผลเสียแก่ตัวเองจะยิ่งไปกันใหญ่
ต้องคิดให้รอบคอบ"

นายณัฐณิชา โพธิเลิศ "เจท"

อายุ 21 ปี น.ศ.คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

"สำหรับตัวเองแล้ว ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะเสียงไม่ค่อยใหญ่อยู่แล้ว
และคิดว่าคนไทยสมัยนี้รับได้กับคำว่าสาวประเภทสอง เสียงจึงไม่จำเป็นมากแล้ว แต่คิดว่าก็มีคนอยากทำ
และหมอในเมืองไทยเก่งเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ในอนาคตหากการผ่าตัดมีความก้าวหน้ามากกว่านี้
ก็อยากจะทำเหมือนกัน"

"คิดว่าที่สุดแล้ว จะทำให้พวกเราเสียงเหมือนผู้หญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คงไม่ใช่
แค่ทำให้เสียงเล็กลงเท่านั้น"


PS.  ++ชายรักหญิง หญิงรักชาย หญิงรักหญิง ชายรักชาย ไม่ว่าความรักแบบไหน ต่างก้อรักด้วยหัวใจเหมือนกัลส์ ++

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น