Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

!!-วัฒนธรรมเกาหลี-!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
วัฒนธรรมสำคัญของเกาหลี

KOREA 20 IMPORTANT

20 วัฒนธรรมสำคัญของเกาหลี

      

ฮันบก  :  ชุดแต่งกายตามประเพณีชาติ เกาหลี     

          ฮันบก ของผู้หญิงประกอบด้วย กระโปรงพันรอบตัว เรียกว่า “ชิมา” และเสื้อ “ชอกอรี” ซึ่งคล้ายเสื้อแจ็คเก็ตฮันบกของผู้ชายประกอบด้วยชอกอริเช่นกัน แต่สั้นกว่าของผู้หญิง และมีกางเกงเรียกว่า “บาจิ” ทั้งชุดของผู้หญิงและผู้ชายสวมคลุมทับด้วยเสื้อคลุมยาวเรียกว่า “ตุรุมากิ” ปัจจุบันนี้ชาว เกาหลี นิยมสวมชุดแต่งกายประจำชาติในงานเทศกาล หรือในงานพิธีต่างๆ เช่นพิธีแต่งงาน พิธีศพ


กิมจิ และ บุลโกกิ 
:  อาหารเพื่อสุขภาพ

          บุลโกกิ แปลตามศัพท์หมายความว่า เนื้อย่าง เป็นอาหารที่นิยมรับประทานในหมู่ชาว เกาหลี ในขณะที่กิมจิซึ่งเป็นผักดองรสจัดชนิดหนึ่ง ใช้รับประทานกับบุลโกกิมีรสไม่จัด ทำจากเนื้อสัตว์ได้หลายชนิด ที่นิยมมากที่สุดคือเนื้อวัวและเนื้อหมู

          เครื่องปรุงมีส่วนสำคัญที่ทำให้บุลโกกิและกิมจิมีรสชาติตามต้นตำรับ กิมจิ ทำจากผักได้หลายชนิด ที่นิยมได้แก่ผักกาดและหัวผักกาด วิธีการทำ นำผักมาดองในน้ำเกลือแล้วเทน้ำเกลือออกให้ผักแห้งพอหมาด แล้วคลุกด้วยเครื่องปรุง กิมจิเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสตอรอลต่ำ และยังมีเส้นใยอาหาร รวมทั้งมีวิตามินมากกว่าแอปเปิล จึงมีมีผู้กล่าวว่า “กินกิมจิวันละนิดหน่อย ไม่ต้องคอยไปหาหมอ"


ฮันกึล 
:  อักษร เกาหลี

          ตัวอักษร เกาหลี ถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 15 โดยพระเจ้าเซจองแห่งราชวงศ์โชซอน ประกอบด้วยพยัญชนะ 14 ตัว และสระ 10 ตัว การผสมกันระหว่างสระและพยัญชนะทำให้สามารถสร้างคำได้นับพันคำ เพราะตัวอักษรฮันกึลไม่มีความสลับซับซ้อนและมีจำนวนไม่มาก ภาษาเกาหลีสามารถเรียนรู้ได้ง่าย ปัญหาการไม่รู้หนังสือจึงหมดไปจาก เกาหลี


จองเมียว เชอแยก 
:  ดนตรีจองเมียวในพิธีสักการะบรรพบุรุษ

          ในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมของทุกปี ลูกหลานของตระกูลชอนจู ยี ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์กษัตริย์โชซอน (1392 – 1910) จะประกอบพิธีสักการะบรรพบุรุษที่ศาลเจ้าจองเมียว ใน กรุงโซล

          แม้ว่าพิธีนี้จะกระทำโดยย่อแล้วก็ตามยังมีเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบพิธีดังกล่าวนี้ทั้งหมด 19 ชนิด ซึ่งประกอบด้วยระฆังหิน กระดิ่งทองเหลือง และกลองชนิดต่างๆ เครื่องดนตรีเหล่านี้ใช้บรรเลงบทเพลงประกอบพิธีกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะ


หน้ากากและการแสดงระบำหน้ากาก

          หน้ากากภาษา เกาหลี เรียกว่า “ทัล” ซึ่งทำจากกระดาษ ไม้ ผลน้ำเต้าและขนสัตว์ หน้ากากเหล่านี้จะสะท้อนถึงโครงสร้างหน้าตาของคน เกาหลี แต่หน้ากากบาง X ยถึงเทพเจ้ากับอมนุษย์ ความจริงกับมโนภาพลักษณะของหน้ากากนั้นมีรูปร่างที่ผิดธรรมชาติไปมากเพราะว่า “ทัลชุม” เป็นการแสดงระบำหน้ากากแสดงตอนกลางคืนโดยใช้แสงสว่างจากกองไฟ

          ระบำหน้ากากเป็นศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ได้พัฒนาโดยชาวบ้านที่มีเชื้อสายโชซอน ที่มีความรู้สึกถึงความขัดแย้งในการปกครองจากชนชั้นสูงในสังคมส่วนใหญ่แล้วผู้แสดงและผู้ชมมักมีส่วนร่วมในตอนท้ายของการแสดง


โสมเกาหลี

          โสมเป็นพืชที่นิยมปลูกกันทั่วไปในเกาหลี ซึ่งมีภูมิอากาศและสภาพดินดีเหมาะกับการปลูกโสมที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก โสมเกาหลีมีชื่อเรียกเฉพาะว่า “โสมกอริโย” (GORYEO GINSENG) ซึ่งตั้งตามชื่อของราชวงศ์กอริโยโบราณ เพื่อให้ต่างจากโสมที่นำไปปลูกตามที่ต่างๆทั่วโลก และชื่อประเทศเกาหลีที่เป็นภาษาอังกฤษว่า “KOREA” ก็ได้มาจากชื่อนี้

          โสมรับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย หรือเป็นยาเจริญอาหาร เชื่อกันว่าโสมทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ และร่างกายแข็งแรง ช่วยกระตุ้นหัวใจ ป้องกันโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร เป็นยาชูกำลังและช่วยระงับประสาท โสมเป็นตัวยาสำคัญสำหรับการแพทย์แผนโบราณทางตะวันออก แต่ชาวเกาหลีนิยมดื่มโสม เช่นเดียวกับการดื่มชาหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์


วัดบุลกุกซา และถ้ำซอกกุรัม

          วัดบุลกุกซาเป็นวัดใหญ่และสวยที่สุดในเกาหลี ตั้งอยู่ที่เกียงจู เมืองหลวงของอาณาจักชิลลา (57 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 935) วัดบุลกุกซา ก่อสร้างโดยกษัตริย์บิวเพิง (ครองราชย์ 514 – 540) เป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์ชิลลา ที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ทรงสวดมนต์ภาวนาขอให้อาณาจักรของพระองค์มีความอุดมสมบูรณ์และความสงบร่มรื่น

          โครงสร้างของวัดที่ปรากฏในปัจจุบันนี้ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ทดแทนของเก่าเมื่อ 751 มาแล้ว แต่เดิมนั้นวัดนี้มีอาคาร 86 หลัง ซึ่งมากกว่าในปัจจุบันถึง 10 เท่า บนภูเขาด้านหลังวัด มีถ้ำหินที่มนุษย์สร้างขึ้นเรียกว่าถ้ำซอกกุรัมถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดถ้ำหนึ่งในโลก

          ถ้ำซอกกุรัม ประกอบด้วยห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสำหรับนั่งพัก ภายในมีห้องโถงกลม มีโดมอยู่ตรงกลาง และถัดไปเป็นทางผ่านรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้วัดบุลกุกซา และถ้ำซอกกุรัม เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1995


ภูเขาซอรักซัน

          เกาหลีมีภูเขาที่สวยงามสองลูก ลูกหนึ่งอยู่ทางใต้ ชื่อภูเขาซอรักซัน อีกลูกหนึ่งอยู่ทางเหนือ ชื่อ ภูเขากึมกังซัน ซอรักซันเป็นเทือกเขาทางใต้สุดยาวเป็นแนวเดียวกันกับกึมกังซัน หรือภูเขาเพชร ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ

          ป่าบนภูเขาซอรักซันซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,708 เมตร เป็นป่าที่มีพันธุ์ไม้ใบหลายชนิด และต้นสนนานาชนิด พันธุ์ไม้บนยอดเขานี้มีประมาณ 939 สายพันธุ์ มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 25 สายพันธุ์ นก 90 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 11 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 9 ชนิด แมลง 360 ชนิด และสัตว์น้ำ 40 ชนิด


ศิลปินชาวเกาหลี

          ชาวเกาหลีเป็นผู้ที่มักจะแสดงออกถึงความสามารถทางด้านดนตรีและศิลปะ นักไวโอลินชื่อ ซาราห์ ชาง ได้บันทึกแผ่นเสียงการบรรเลงไวโอลินชุดแรกของเธอเมื่ออายุ 9 ขวบ นอกจากนี้ยังมีนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงคือ ชุงคยองฮวา ซึ่งเป็นนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงและมีความสารรถมากมาตลอด 25ปีที่ผ่านมา

          โจซูมิ เป็นนักร้องเสียงโซปราโน ซึ่งวาทยการ เฮอร์เบิร์ด วอน คาราจัน ได้ยกย่องเธอว่าเป็นนักร้อง “เสียงพระเจ้าประทาน"

          อาจจะเป็นที่น่าประหลาดใจว่า แบกนัมชุน ชาวเกาหลีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งศิลปะวีดิทัศน์” นั้นเคยเป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงมาก่อน

          ในปี 1963 แบกนัมชุน เป็นคนแรกที่นำเสนอผลงาน “พรีแพริด” โดยใช้โทรทัศน์เป็นสื่อ หลังจากนั้นผลงานของเขามีอิทธิพลต่องานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเชื่อมโยงวีดีโอและโทรทัศน์กับโลกของศิลปะ สื่อ เทคโนโลยี วัฒนธรรมสมัยใหม่และศิลปะประเภท อะวอง การ์ด


มรดกทางการพิมพ์

          การพิมพ์แม่พิมพ์ไม้ของเกาหลีเริ่มเมื่อศตวรรษที่ 8 ตัวพิมพ์โลหะชิ้นแรกของโลก พัฒนาโดยชาวเกาหลีก่อนกูเดนเบิร์ก ของเยอรมนีกว่า 200 ปี

          ชาวเกาหลีสมัยราชวงศ์กอริโย (918 – 1392) ได้สร้างพระไตรปิฏกฉบับเกาหลีขึ้นในศตวรรษที่ 13 ซึ่งถือว่าเป็นพระคัมภีร์แม่พิมพ์ไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก และองค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี1995


เครื่องดนตรีตามประเพณีเกาหลี

          เครื่องดนตรีตามประเพณีเกาหลีมีประมาณ 60 ชนิด ที่ได้มีการสืบทอดกันจนถึงปัจจุบันเครื่องดนตรีเหล่านั้น มีทั้งพิณ 12 สาย เรียกว่า “กายากึม” และพิณ 6 สาย เรียกว่า “กิวมันโก” พิณทั้งสองชนิดนี้เชื่อว่าน่าจะมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6

          เครื่องดนตรีเกาหลีแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องสาย เครื่องเป่า และเครื่องตี คิมดุกซู ซามัลนอริ วงดนตรีประกอบด้วย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีสี่ชิ้นที่มีชื่อเสียงมากทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างบทเพลงเก่าและบทประพันธ์ใหม่ๆ ทำให้เกิดเป็นผลงานทางดนตรีในมิติใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ดันชอง 
:  รูปแบบการตกแต่งอาคาร

          ดันชอง หมายถึง การตกแต่งอาคารและสิ่งของอื่นๆ ด้วยสีต่างๆ ตามสไตล์เกาหลีแสดงถึงความสวยงามและความมีสง่า ภูมิฐาน

          ดันชองใช้สี 5 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง สีดำ และสีขาว นอกจากนี้ดันชองจะประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้มีความสวยงามแล้วและยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกคือ เป็นการรักษาพื้นผนังของอาคารและปกปิดวัสดุที่นำมาก่อสร้างบางอย่างที่ดูไม่งามตาไม่สวยงาม ในขณะเดียวกันก็ทำให้อาคารดังกล่าวโดดเด่นมีความสง่างามยิ่งขึ้น ส่วนใหญ่แล้วดันชองใช้กับอาคารสถาปัตยกรรม รวมทั้งวัดวาอารามทั้งในกรุงโซลและภูมิภาคต่างๆ ของเกาหลี


รูปแบบลวดลาย

          รูปแบบลวดลายต่างๆ นั้นมีที่มาจากรูปภาพแสดงความหมายต่างๆในสมัยก่อน โดยที่รูปแบบลวดลายเหล่านั้นเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความต้องการที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ อารมณ์ ความรู้สึกต่อสิ่งที่อยุ่รอบตัวแล้วพัฒนามาเป็นรูปแบบของศิลปะการตกแต่ง

          ในบรรดารูปแบบลวดลายต่างๆ ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของเกาหลี คือมังกร และนกฟินิกซ์ และ “แทกึก” สัญลักษณ์นี้ใช้ในธงชาติเกาหลีหมายถึงสิ่งที่แตกต่างหรือตรงข้ามกัน 2 อย่างระหว่า อึม กับ หยาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสงบเยือกเย็นกับการเคลื่อนไหว ความอ่อนแอดกับความแข็งแรง ความมืดกับความสว่างและเพศชายกับเพศหญิง รูปแบบเหล่านี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตยืนยาว 10 อย่าง คือ หิน ภูเขา น้ำ เมฆ ต้นสน เต่า กวาง นกกะเรียน เห็นราที่ไม่มีวันตาย และพระอาทิตย์


ชาซุ 
:  การเย็บปักถักร้อย

            การเย็บปักถักร้อย ผ้าและวัสดุตกแต่งประดับประดาต่างๆ เช่น ม่าน นั้นนิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังใช้สำหรับตกแต่งสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านเรือ เช่น ปลอกหมอน ซองแว่นตา กล่องบุหรี่ ที่ใส่ช้อน ตะเกียบ และแปรง

สามัญชนไม่อนุญาตให้ใช้เสื้อผ้าที่มีการถักทอเป็นลวดลาย ประเภทนี้นอกจากใช้ในพิธีแต่งงาน แต่สำหรับชาซุที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้น ใช้ผ้าที่มีการเย็บปักถักร้อย เป็นลวดลายที่แตกต่างจากการใช้เพื่อประดับประดา ผ้าดังกล่าวใช้ตกแต่งวัด พระพุทธรูปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา


งานฝีมือทำจากกระดาษ

          ชาวเกาหลีมีประเพณีที่เก่าแก่อย่างหนึ่งคือ การประดิษฐ์เครื่องใช้จากกระดาษ ซึ่งชาวเกาหลีนิยมใช้กระดาษที่ผลิตได้ในท้องถิ่นหรือผลิตได้ในพื้นบ้าน มาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ทำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ถ้วยชามหลายขนาดที่มีฝาปิด ตะกร้า ถุงตาข่าย เหยือกน้ำ และถาดใส่ของ

          นอกจากนี้ยังมีสิ่งประดิษฐ์จากกระดาษอีกมากมายเช่น กล่องเครื่องเขียน เสื่อ เบาะนั่ง ม่าน แล่ง กระบวย กระติกใส่แป้ง รองเท้า อ่าว และหม้อปัสสาวะ สิ่งประดิษฐ์ส่วนใหญ่จะถูกเคลือบด้วยวัสดุเคลือบผิว เพื่อทำให้ดูดี ทนทานและกันน้ำได้ ส่วนผสมของวัสดุเคลือบผิว ได้แก่ ส่วนผสมของน้ำมะพลับดิบ แป้งเปียกและน้ำมันเพอริลลา


บอจากิ 
:  ผ้าห่อของ

          บอจากิเป็นผ้าเย็บขอบสี่เหลี่ยมมีขนาดและสีต่างๆ ซึ่งชาวเกาหลีใช้สำหรับห่อของเก็บของหรือห่อของเพื่อการพกพา

          บอจากิยังมีใช้อยู่บ้างแม้ว่าบอจากิจะใช้ในชีวิตประจำวันและแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของเกาหลี

          บอจากิแสดงถึงภูมิปัญญาของชาวเกาหลีที่ประดิษฐ์โดยแม่บ้าน จากสิ่งของเหลือใช้และเศษผ้าต่างๆ รูปแบบและลวดลายการเย็บปักถักร้อย ทำให้บอจากิ ดูมีเสน่ห์ สวยงาม สามารถพับเก็บได้ขนาดเท่ากับผ้าเช็ดหน้าเท่านั้น


ภาพวาดพื้นบ้าน

          ภาพวาดพื้นบ้านนั้นเมื่อก่อนเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางกันในหมู่ชาวเกาหลีโดยใช้ตกแต่งบ้านเรือนและเชื่อว่าภาพพิมพ์นี้จะทำให้ชีวิตมีความสุขตลอดไป

          ในขณะที่ชาวเกาหลีชั้นสูงนิยมใช้ภาพพิมพ์ที่เป็นรูปทิวทัศน์ ดอกไม้และนก ภาพวาดนี้มักจะแทรกอารมณ์ขันและความเรียบง่ายของวิถีชีวิตในโลกนี้

          แม้ว่าภาพวาดพื้นบ้านเหล่านี้จะเป็นผลงานของศิลปินพื้นบ้านแต่ผลงานเหล่านี้กลับเป็นที่นิยมของทุกชนชั้นในสังคม ตั้งแต่ระดับเชื้อพระวงศ์ วัดวาอาราม จนถึงชาวบ้านในชนบท ภาพวาดเหล่านั้นมีเอกลักษณ์ องค์ประกอบที่เด่นชัด รวมทั้งลักษณะการใช้แปลงและพู่กัน และการให้สีที่ฉูดฉาด


เซริ 
: ประเพณีตามฤดูกาล

          ประเพณีเซริ ซึ่งเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา ตรงกับวันที่เป็นการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลโดยยึดถือตามปฏิทินทางจันทรคติ เช่น ในวันขึ้นปีใหม่ ชาวเกาหลีจะทำการสักการะบรรพบุรุษ โดยการเซ่นไหว้ด้วยอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องเซ่นต่างๆ หลังจากนั้นมีเซเบ หรือการโค้งคาราวะต่อผู้ที่อาวุโสในครอบครัว สำหรับในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย หรือที่เรียกว่าแดบอรึมนั้น จะมีการทำหุ่นฟางข้าว แล้วโยนลงในแม่น้ำ ซึ่งพิธีนี้ได้สูญหายไปจากหลายพื้นที่ในประเทศแล้ว แต่ประเพณีการกินเจ ยังกระทำอยู่โดยทั่วไป ในวันขึ้น 15 คำ เดือน 8 เป็นวันซูซอก เป็นวันแสดงความขอบคุณโดยลูกหลานจะไปไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน อาหารพิเศษสำหรับวันนี้มีซองเพียนซึ่งเป็นขนมรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ที่ใส่ งา ถั่ว ลูกเกาลัดหรือผักสดอื่น ๆ


พีธีเปลี่ยนวัย

          ในเกาหลีนั้น เมื่อชาวเกาหลีเกิดมาจะมีประเพณีต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เรียกว่า กวานฮนอซังเจ ซึ่งรวมถึงประเพณีบรรลุนิติภาวะ ประเพณีการแต่งงาน ประเพณีงานศพ และประเพณีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ประเพณีบรรลุนิติภาวะ เป็นพิธีเรียบง่าย เด็กชายจะไว้ผมยาวและผูกจุก ได้รับกัดหรือหมวก ที่ทำด้วยหางม้า ส่วนเด็กหญิงจะถักผมเปียและทำมวยผม แล้วปักด้วยปิ่นปักผมโลหะ เรียกว่า บินยิว ส่วนประเพณีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว และเมื่อแต่งงานแล้วทั้งคู่จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาวไปอีก 2-3 วัน แล้วจึงไปอยู่บ้านเจ้าบ่าว

          ประเพณีงานศพ ของชาวเกาหลีเป็นพิธีที่มีขึ้นตอนมากมาย การไว้ทุกข์มักจะกระทำเป็นเวลา 2 ปี และมีระเบียบพิธีสวดมนต์ กราบไหว้ สักการะเป็นระยะตลอด 2 ปี ชาวเกาหลีได้สืบทอดประเพณีการเซ่นไว้บรรพบุรุษแสดงถึงความผูกพันระหว่างผู้ตายและลูกหลาน


สวน

          แนวคิดหลักในการจัดสวน คือ การจัดสวนให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด หรืออาจพูดได้ว่า เป็นธรรมชาติมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะเห็นได้ว่าผลงานที่ออกมาแสดงถึงภูมิปัญญาของชาวเกาหลี

          แหล่งสวนโบราณที่ดีที่สุดมีการอนุรักษ์ไว้ คือ สระอันนับจิที่เกียงจู จังหวัดเกียงซังบุกโด นอกจากนี้ยังมีสวนที่สวยงามหาที่เปรียบมิได้คือ สวนในพระราชวังชังดอกกุง ในกรุงโซล มีเนื้อที่สวน 300,000 ตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 405,636 ตารางเมตร ของบริเวณพระราชวัง สวนนี้สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน ประกอบด้วย ทางเดินและห้องโถงที่สวยงาม มีสระบัว ก้อนหิน สะพานหิน ทางเดิน ลำธารและน้ำพุ กระจัดกระจายอยู่ในป่า ซึ่งการจัดสวนแบบนี้เป็นการจัดสวนลักษณะประจำชาติของเกาหลี

www.korea-center.com

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

Peachgal 12 ต.ค. 49 เวลา 09:33 น. 1

กู๊ดเก๋ เอาลงคอลัมน์บทความดิ เราจะได้แอดเป็น Faver ได้


PS.  +ฟังธรรมะเเล้วจะทำให้ไม่เเรด เเต่ถ้าฟังบิ๊กเเอสมักจะเล่นของสูง งั้นก็เหมือนเดิม สวรรค์มีทางไปได้ 2 วิธี คือการทำดีกะมีเซ็กซ์+
0
Violet Valentine 12 ต.ค. 49 เวลา 10:18 น. 2

เยี่ยมๆๆๆๆๆๆ......ขอบคุณๆๆๆๆๆๆ.....มากๆๆๆๆๆๆๆ โหวตๆๆๆๆๆ....กำลังแต่งนิยายเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีอยู่พอดี..
PS.  Violet Valentia and The Heir ขอโทษค่ะ หนูคือรัชทายาท เรื่องราวของเจ้าหญิงอลวน ผู้ที่ทำให้วังหลวงต้องอลหม่านหัวปั่นกันทั้งวัง เพราะความแก่นถึงขีดสุด นิยายแนว แฟนตาซี + รักหวานแหวว
0
Rabbitch_n@m 12 ต.ค. 49 เวลา 13:10 น. 5

ดีมากเลยคะ *-*


PS.  YaoI Go Go ~!! ** I Luv TVXQ ว่างๆ แวะไปอ่านฟิคทงบังของเราได้ - -+ อาจจะไม่โดนจิต แต่เราก็แต่งด้วยหัวใจ(อันโรคจิต 55+) http://my.dek-d.com/Rabbitch/story/view.php?id=180565
0
Luster_T 2 พ.ย. 49 เวลา 15:59 น. 7

น่าสนุกเนอะ แต่คงไม่สู้สงกรานต์ของเมืองไทยหรอกมั้ง


PS.  จะทำอย่างไรเล่าเมื่อสี่จักรพรรดิได้เดินทางไปด้วยกัน หนึ่งในสี่จักรพรรดินั้นไม่ใช่มนุษย์เต็มตัวหากแต่มีเลือดผสม การผจญภัยเกิดขึ้นที่ดาวโบโดซ่า !!!
0
bbambear 2 มิ.ย. 52 เวลา 18:43 น. 13

ขอบคุณนะคะ
กำลังหาเรื่องวัฒนธรรมต่างชาติพอดีเลย = )


PS.  รักทานตะวัน ,, ฮิมาวาริที่รัก : )
0
!! โลกร้อน!!___,,, RayZ 16 ธ.ค. 53 เวลา 22:03 น. 19

ขอบคุณค่ะ:)


PS.  ����������������������������♥เทอรู้อะไรไหม๊ที่เค้าว่ากันว่าการรัก คือการเสียสละ แต่ชั้นขอเห็นแก่ตัวนะ เพราะถ้าชั้นเสียสละ ก็คงไม่ได้เทอมา����������������������������♥
0