{สาระ} ความหมายของ 'นักเขียน'
จะเป็นนักเขียนกันทั้งที รู้กันรึเปล่า ว่านักเขียนนั้นหมายถึงอะไร ?
ถ้าคุณฝันจะเป็นนักประพันธ์เพลง คุณจะบอกกับตัวเองเช่นนี้ไหมว่า ฉันฟังเพลงมาทั้งชีวิต และฉันก็เล่นเปียโนได้... เอาละ อาทิตย์นี้แหละ ฉันจะแต่งเพลงเพราะๆซักเพลง ...คงไม่ แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่นักเขียนหลายๆคนคิด ฉันดูหนังมานับไม่ถ้วน ทั้งดีแย่ ภาษาเขียนของฉันก็ดี แล้วทำไมฉันถึงจะยังไม่พร้อมล่ะ?
ถ้าคุณฝันจะเป็นนักประพันธ์เพลง คุณต้องเรียนด้านดนตรีเป็นปีๆ ศึกษาทั้งทางทฤษฎี และปฏิบัติ รู้จักกับภาษาดนตรี และหลังจากการฝึกฝน และความพยายามนานนับปี คุณจึงประสานความรู้และทักษะทางดนตรีทั้งหมดเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ แล้วจึงเริ่มที่จะประพันธ์บทเพลงขึ้นมา แต่ในทางกลับกัน ในบรรดานักเขียนหลายๆคนกลับไม่เคยคิดเอะใจเลยว่า การเขียนนิยายขึ้นมาเรื่องหนึ่งนั้น มีความยากลำบากพอๆกับการแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ในขณะที่นักประพันธ์เพลงเรียบเรียงบทเพลงขึ้นมาจากความซับซ้อนของภาษาดนตรี พวกเราเข้าไปเกี่ยวพันกับสิ่งยุ่งเหยิงที่รู้จักกันใน ธรรมชาติของมนุษย์
นักเขียนสร้างโครงเรื่องขึ้นมาจากอะไร? 75% หรือมากกว่าในการแต่งนิยายแต่ละเรื่องนั้นมาจากการวางโครงเรื่อง ใครคือตัวละครเหล่านั้น? พวกเขาต้องการอะไร? ทำไม? แล้วพวกเขาจะได้สิ่งเหล่านั้นมาได้อย่างไร? อะไรคือสิ่งที่มาขัดขวาง? อะไรคือผลลัพธ์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น? เพียงแค่หาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ และหล่อหลอมพวกมันขึ้นมาเป็นเรื่องราวก็นับว่าเป็นงานประติมากรรมชั้นสูงแล้ว
นักเขียนสร้างเรื่องราวขึ้นมาจากความเข้าใจ และมุมมองต่อสิ่งที่ว่า อะไรคือความหมายของชีวิต ชีวิตเราอยู่เพื่ออะไร ตายเพื่ออะไร อะไรคือสิ่งที่ไร้ความหมาย อะไรคือความยุติธรรม อะไรคือสัจธรรม ถ้าคุณต้องการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก คุณเข้าใจความรักดีแค่ไหน? การรักใครซักคนคืออะไร? อะไรคืออุปสรรคต่อความรักของเรื่องราวคุณ? อะไรคือสิ่งที่ทำให้พระเอกโกรธนางเอกจนถึงขั้นแตกหัก? อะไรคือสิ่งที่ชายคนหนึ่งทำให้หญิงอีกคนรักเขาจนหมดหัวใจ? ผู้ชายมีทัศนคติต่อผู้หญิงว่าอย่างไร? แล้วผู้หญิงล่ะคิดอย่างไรกับผู้ชาย? การรักใครซักคนจนสุดหัวใจนี้มันรู้สึกอย่างไร? อะไรคือสิ่งที่สังคมยอมรับ และอะไรคือสิ่งที่สังคมรับไม่ได้? แล้วถ้าเป็นความรักที่ผิดต่อสังคมล่ะ ทำไมมันถึงยังมีความหมายอยู่?
ถ้านิยายรักของคุณเป็นเพียงแค่การเลียนแบบมาจากนวนิยาย หรือละครที่ทำให้คุณประทับใจ พระเอกนางเอกของคุณเป็นเพียงแค่การยืมบุคลิกมาจากตัวละครที่คุณชื่นชอบ เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เหมือนๆไปกับละครหลังข่าวที่พวกเราเคยดู แล้วนิยายของคุณจะคุ้มค่าพอที่จะให้โลกจดจำไหม?
นิยายเป็นเสมือนกับสิ่งเปรียบเปรยชีวิต การสร้างนิยายเป็นการทดสอบความนึกคิด และความเข้าใจต่อสังคมโลกของตัวผู้แต่ง เป็นการทดสอบความรู้ของนักเขียนต่อโลก สังคม ธรรมชาติ และจิตใจมนุษย์ นิยายต้องการทั้งจินตนาการที่แจ่มชัด และความคิดวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง มีพลัง นิยายก็เปรียบได้กับกระจกสะท้อนตัวผู้แต่ง มันมาจากจิตวิญญาณของตัวผู้แต่งนี่เอง
แล้วอะไรล่ะคือเมฆหมอกที่เข้ามาบดบังนักเขียนที่มีความสามารถจากการเขียนนิยายที่ดี? เหตุผลหลักๆ 2 ประการก็คือ การที่นักเขียนถูกบดบังโดยความรู้สึกที่จะต้องพิสูจน์ความคิดของเขาให้เห็น หรือ ถูกผลักดันโดยความต้องการที่จะต้องแสดงความรู้สึก แต่สำหรับนักเขียนที่เขียนนิยายได้ดีนั้นเป็นเพราะพวกเขาถูกดลใจด้วยความปรารถนาที่จะทำให้ผู้อ่านประทับใจ
ถ้าคุณต้องการเขียนนิยายเกี่ยวกับความรัก คุณคงไม่คิดที่จะพยายามเล่าให้คนอ่านเห็นว่าชายคนนี้รักคนรักของเขามากแค่ไหน หญิงคนนั้นเสียใจขนาดไหนที่จะต้องสูญเสียคนรักของเธอไป พวกเขาทั้งสองมีความสุขมากเพียงไรเมื่อพบว่าตนรักกัน แต่... คุณควรที่จะทำให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับความรักของเขาและเธอ รู้สึกถึงส่วนลึกของจิตใจว่าเธอคนนั้นมีความสำคัญต่อเขามากเพียงไร คุณคงอยากที่จะให้คนอ่านน้ำตาไหลพรากด้วยความโศกเศร้าระทมใจไปกับการจากไปของคนรักของเธอคนนั้น ให้คนอ่านรู้สึกอิ่มเอิบใจจนยิ้มออกมาเมื่อพบว่าเธอรักเขา ถ้านิยายของคุณเป็นเรื่องราวสะท้อนสังคม คุณคงจะไม่พยายามบอกให้คนอ่านเห็นว่า เห็นไหมล่ะโลกมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะ นี่ล่ะคือสัจธรรม แต่คุณคงอยากที่จะให้พวกเขาอ่านนิยายของคุณจนจบแล้วรู้สึกกับมันว่า ใช่ โลกจริงๆของเรามันเป็นเช่นนี้เอง ให้เขาค้นหาสัจธรรมในชีวิตจากเรื่องราวของคุณมิใช่จากการบอกเล่าของคุณ
นักอ่านทุกคนอยากที่จะอินไปกับนิยายที่เขาอ่าน อยากรู้สึกใจเต้นตุบๆไปกับฉากแอ็คชั่นอันเร้าใจ รู้สึกร้อนวูบไปจวบจนทุกอณูขนกับฉากสะเทือนอารมณ์ รู้สึกมีความสุขจนยิ้มแก้มปริออกมาอย่างที่ไม่เคยมาก่อนในชีวิต รู้สึกถึงแรงบันดาลใจที่แทบจะทะลักออกมาจากทรวงอก นำพาให้พวกเขาเห็น นำพาให้พวกเขารู้สึก ไม่ว่าความรู้สึกอะไรที่คุณต้องการจะถ่ายทอด รัก แค้น โกรธ เกลียด สุข ทุกข์ โศก เศร้า จงสัมผัสให้ลึกถึงจิตใจของกลุ่มผู้อ่านของคุณ และทำให้พวกเขารู้สึกประทับใจไปกับมันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เนื้อเรื่องที่ดี ผ่าน การบอกเล่าอันดีเยี่ยม
นิยายที่ดีมาจาก เนื้อเรื่องที่ดี ผ่าน การบอกเล่าอันดีเยี่ยม
เนื้อเรื่องที่ดี คือ เรื่องราวอันคุ้มค่าที่จะบอกเล่า และโลกอยากจดจำ แต่การแสวงหาเรื่องราวนั้นเป็นงานของคุณ มันเริ่มต้นจากพรสวรรค์ คุณต้องเกิดมาพร้อมกับพลังสร้างสรรค์ที่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวเข้าด้วยกันในรูปแบบที่ไม่มีใครใฝ่ฝันถึง จากนั้นคุณต้องสร้างจินตภาพที่สามารถชี้ทะลุถึงธรรมชาติแห่งมนุษย์และสังคม ผนวกเข้ากับความลึกซึ้งในการสร้างตัวละคร และโลก แต่พรสวรรค์นั้นคือสิ่งใดกันล่ะ? ไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้กับคุณอย่างแน่นอน มันเริ่มต้นมาจาก... ความรัก
รักที่จะบอกเล่าเรื่องราว ...ความเชื่อมั่นที่จะถ่ายทอดภาพที่อยู่ในหัวของคุณให้ออกมาเป็นเรื่องราว เชื่อมั่นในตัวละคร และโลกในจินตภาพของคุณ
รักในดราม่า ...ความหลงใหลการหักมุม และตอนจบของเรื่องราวที่นำมาซึ่งความผลิกผันอย่างคาดไม่ถึง หลงใหลในความเป็นดราม่าของนิยาย
รักความจริง ...รักที่จะค้นหาความจริงในทุกๆสิ่งของชีวิต รวมถึงความพยายามที่จะรู้จักตัวตนของคุณเอง
รักผองมนุษย์ ...การต้องการที่จะเข้าใจถึงความนึกคิด และความสนใจที่จะมองโลกจากมุมมองของผู้อื่น
รักความรู้สึก ...รักที่จะเข้าถึงความความรู้สึกต่างๆ เข้าให้ถึงความรู้สึกทาง ภาพ เสียง กลิ่น รส และกายสัมผัส รวมถึงสัมผัสทางจิตใจ
รักที่จะฝัน ...รักจะปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปกับจินตนาการ รักที่จะเห็นสิ่งที่จินตนาการนำพาคุณไป
รักอารมณ์ขัน ...สุขที่จะเทิดทูนสิ่งงามๆเพื่อรักษาสมดุลของชีวิต
รักภาษา ...รักที่จะเข้าใจถึงความหมายของภาษา และหลักแห่งภาษาที่จะนำมาซึ่งงานเขียนอันสวยงาม
รักมุมมองแฝง ...การรู้สึกถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในชีวิต การวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลถึงสิ่งต่างๆว่ามันอาจจะไม่ใด้เป็นไปอย่างที่คุณเห็น
รักความสมบูรณ์แบบ ...ความปรารถนาที่จะแก้ไข และเรียบเรียงนิยายของคุณจนกว่าจะได้เป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุด
รักในตัวตน ...ความกล้าที่จะเขียนโดยไม่หวาดหวั่นต่อคำเย้ยหยัน
รักความงาม ...รักที่จะเทิดทูนงานเขียนที่ดี เกลียดงานเขียนที่แย่ และเข้าใจโดยสัญชาตญาณถึงความแตกต่างระหว่างงานเขียนทั้งสอง
รักที่จะเป็นนักเขียน ...ความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเขียนโดยไม่แคลงใจ ไม่ย้อนถามตัวเองว่าจริงๆแล้วคุณคือนักเขียน คุณต้องรักที่จะเขียน และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความโดดเดี่ยว
อย่างไรก็ตาม เพียงเนื้อเรื่องที่ดีนั้นยังคงไม่เพียงพอที่จะสร้างนิยายที่ดีขึ้นมาได้ เพราะมันต้อง ผ่าน การบอกเล่าอันดีเยี่ยมด้วย การที่คุณจะสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ดีได้นั้น คุณต้องบรรลุศิลป์แห่งการสมานเรื่องราว ศิลป์อันนี้ไม่ใช่หลักสูตร หรือกลวิธี แต่มันเป็นเทคนิคในการดึงความสนใจของคนอ่านให้เข้าสู่นิยายของเรา นำพาพวกเขาให้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่พวกเราสร้างขึ้น และในภวังค์แห่งการเข้าถึงนั้น เรามอบประสบการณ์อันมีความหมาย และควรค่าแก่การจดจำ
ถ้าคุณต้องการที่จะเป็นนักเขียนนิยายที่ดี จงเข้าใจให้ถึงแก่นแห่งการแต่งนิยาย และบรรลุรูปแบบของมัน
ขอบคุณ... ชมรมนักเขียน [http://my.dek-d.com/dek-d/story/view.php?id=84212]
me... แนะนำเว็บให้เขาด้วย = =b เพราะของเขาดีจริง ๆ เยี่ยม!!
8 ความคิดเห็น
โหวต 1 ค่ะ
PS. เป็นแค่คนเกลียดภาษาวิบัติ ที่นั่งอยู่น่าเจอคอมฯ ไม่อยากเห็นภาษาวิบัติ 1.อ่านยาก 2.ทุเรศ คงจะมีคนเกลียดข้าพเจ้านะ แต่ไม่เป็นไร
เป็นนักเขียนต้องมีความพยายามค่ะ ^^
ไม่ได้แวะไปชมรมนักเขียนตั้งนานแล้วแฮะ ^^"
PS. ถ้ากอดเธอก็ปกป้องเธอไม่ได้... ถ้ากำดาบก็กอดเธอไม่ได้...
โหวต 1 คะแนนเลยฮะ ท่านพี่ไอซ์ซี่ ><
PS. โอ้~เย้~ คิกๆๆ(หัวเราะเช่นนี้อาจโดนตบไม่รู้ตัว) อยากได้ เด็กตัวเล็กๆ ขาวๆ แก้มสีชมพู ปากสีแดงมันวาว ผมยาวสลวย หุ่นอ้อนแอ้น และที่สำคัญ!! ขอเชื่องๆ!!! =O=""
สุดยอด...เยี่ยมมาก >o<
PS. WriterClub คลับนักเขียน http://www.writerclub.ob.tc/ คนแก่เขาฝากมา
สู้ๆ นักเขียนทุกท่าน นิยายไทยจงเจริญ
ปล.ไม่ได้พิมพ์นาน กลัวลืมๆ ฮี่ๆ
PS. ~*~True Light แสงสว่างแห่งความจริง~*~ หนังสือ หนังสือ หนังสือ อยากอ่าน อยากอ่าน อยากอ่าน คิดถึง รัก ชอบ หนังสือ โย่ๆ!!!
เยี่ยมมากค่ะ^^
PS. ช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย อย่าใช้ภาษาวิบัตินะคะ
เห็นกระทู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ปวดตาเลยอ่านไม่ไหว @_@''
มาตามอ่านตอนเช้าแทน ^^
กดให้ 1 จึ่ก..
PS. โคนันคือชีวิต ท่านเรียวมะคือกิ๊ก ส่วนจอมโจรคิดคือของแถม 5555+
สุดยอด ความรู้ๆๆ ^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?