Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แฮรี่พอตเตอร์ ภาค 5

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

user posted image

เรื่องย่อแฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
ย่อจนจบ
ใครกลัวไม่สนุกก็อย่าอ่าน ใครที่อ่านแล้วก็รู้ๆกันอยู่

ปิดเทอมหน้าร้อนนี้ แฮร์รี่ กระวนกระวายใจอย่างมาก เพราะเขาเป็นกังวลเรื่อง โวลเดอมอร์ แต่ไม่ได้รับข่าวคราวจากโลกเวทย์มนต์เลย จดหมายที่ได้รับจากพ่อทูนหัว ซิเรียส และเพื่อนทั้งสองคือ รอน และ เฮอร์ไมโอนี มีเพียงข้อความสั้นๆ แค่ “พบกันเร็วๆนี้” ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่ามีใครบางคนที่มองไม่เห็นติดตามเขาอยู่

แฮร์รี่หงุดหงิดเสียจนต้องระบายด้วยการไปดักหาเรื่องกับดัดลีย์ขณะที่อีกฝ่ายเดินกลั
บบ้านในตอนเย็นวันหนึ่ง ระหว่างที่มี X งกัน ทันใดนั้นก็ถูกผู้คุมวิญญาณสองตนจู่โจม ดัดลีย์เกือบได้รับจุมพิตจากผู้คุมวิญญาณ ถ้าแฮร์รี่ไม่ใช้เวทย์มนต์ผู้พิทักษ์เข้าช่วย เหตุการณ์ทั้งหมดถูก มิสซิสฟิกก์ เพื่อนบ้านชราพบเห็น แฮร์รี่จึงได้รู้ว่า มิสซิสฟิกก์เป็น สควิป ได้รับมอบหมายจาก ดัมเบิลดอร์ให้คอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ โดยไม่ให้รู้ความจริงก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังให้พ่อมดแม่มดกลุ่มหนึ่งคอยติดตามคุ้มครองแฮร์รี่อยู่เงียบๆ เพียงแต่ มันดังกัส เฟล็ชเชอร์ ที่เข้าเวรในขณะนั้น แอบไปทำธุระส่วนตัว มิสซิสฟิกก์โกรธจนบอกว่า จะต้องฟ้องดัมเบิลดอร์

แฮร์รี่พาดัดลีย์ซึ่งยังไม่ได้สติกลับบ้าน ลุงเวอร์นอนและป้าเพ็ตทูเนียตกใจมาเมื่อเห็นสภาพของลูกชาย ทันใดนั้นเขาก็ได้รับจดหมายสองฉบับ ฉบับหนึ่งจากกระทรวงเวทย์มนต์ แจ้งว่า เขาจะต้องถูกสอบสวนข้อหาใช้เวทย์มนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกไล่ออกจากโรงเรียนและถูกหักไม้กายสิทธิ์ ในเวลาเดียวกันจดหมายจากดัมเบิลดอร์มีเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ว่าอย่างไร ห้ามออกจากบ้านซอยพริเว็ต” เมื่อดัดลีย์ได้สติก็กล่าวหาว่า แฮร์รี่เป็นผู้กระทำ ลุงเวอร์นอนจึงได้โอกาสไล่ออกจากบ้าน ถ้าป้าเพ็ตทูเนียไม่ได้รับจดหมายกัมปนาทที่มีข้อความที่ป้ารู้เรื่องเพียงคนเดียว จึงยอมให้แฮร์รี่ยังอยู่ในบ้าน

คืนหนึ่ง พวกเดอร์สลีย์ออกไปจากบ้านโดยทิ้งแฮร์รี่ไว้ตามลำพัง คืนนั้นเองที่เขาได้พบกับลูปิน มูดดี้ และพ่อมดแม่มดอีกจำนวนหนึ่ง ได้รับคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ ให้มาคุ้มครองเขาออกจากบ้านซอยพริเว็ต ไปยังสำนักงานใหญ่ของ “โองการแห่งนกฟินิกส์” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดัมเบิลดอร์จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านโวลเดอมอร์ ที่นั่น แฮร์รี่ได้พบกับ ซิเรียส พ่อทูนหัวของเขา รอน เฮอร์ไมโอนี่ และครอบครัววิสลี่ย์เกือบทุกคน ซึ่งบ้านที่ใช้เป็นที่ทำการใหญ่นั้น เป็นบ้านเดิมของซิเรียสนั่นเอง

ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวท ี่รู้สึกว่าถูกตัดขาดและไม่ได้รับความไว้วางใจ แฮร์รี่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด กระทรวงเวทย์มนต์ปิดข่าวเรื่องการฟื้นคืนชีพของโวลเดอมอร์ คอนนีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรี หวงตำแหน่งและระแวงว่า ดัมเบิลดอร์จะสร้างขุมกำลังขึ้นมาแข่ง จึงพยายามกีดกัน แฮร์รี่ถูกกล่าวหาว่า โกหกเรื่องโวลเดอมอร์ การที่มีการกล่าวโทษและสอบสวนก็เพื่อไม่ให้แฮร์รี่กลับไปที่ ฮอกวอร์ต เพอร์ซี่ ลูกชายคนที่สามของตะกูลวิสลีย์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยของรัฐมนตรี มีความทะเยอทะยานถึงขนาดทะเลาะกับพ่อของตนเองและออกจากบ้าน

นอกจากนี้แฮร์รี่ยังได้รู้ความจริงที่ว่า ตระกูล แบล็ค ของซิเรียส ถือว่าเป็นตระกูลที่มีเลือดบริสุทธิ์และสูงส่ง รังเกียจพวกลูกครึ่งและ “เลือดสีโคลน” จะแต่งงานกับพวกที่เป็น “เลือดบริสุทธิ์” ด้วยกันเท่านั้น สายเลือดที่สืบต่อกันมาเกี่ยวดองกับตระกูลอื่นๆ รวมทั้งตระกูล มัลฟอย ตัวซิเรียสเองก่อนจะต้องคดี ก็ไม่ถูกกับแม่ซึ่งเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง จึงหนีออกจากบ้านเมื่ออายุได้ 17 ปี โดยไปอยู่ที่บ้านปู่ย่าของแฮร์รี่ จนมีบ้านของตนเอง ในภายหลัง

ที่น่าตกใจไปกว่านั้น น้องชายของซิเรียส เป็นผู้เสพความตาย แต่ถูกโวลเดอมอร์ฆ่าเมื่อพยายาม จะตีตัวออกห่าง ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อ เบลลาทริกซ์ เป็นสมุนที่ใกล้ชิดกับ โวลเดอมอร์ กำลังถูกขังอยู่ในคุกอัซคาบัน ด้วยข้อหาใช้คำสาปทรมานกับมือปราบมาร ซึ่งเป็นพ่อแม่ของ เนวิลล์ ลองบ็อตทอม เพื่อนร่วมบ้านกริฟฟินดอร์ นั่นเอง




ในวันสอบสวน ซิเรียสแจ้งความประสงค์ ที่จะไปกับแฮร์รี่และนายวิสลีย์ในร่างสุนัข แต่มีคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ห้ามไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ซิเรียสข้องใจ เพราะ สมาชิกของ “โองการ” ทุกคนแม้แต่ สเนป ต่างได้รับมอบหมายในภาระกิจสำคัญๆ ยกเว้นตัวเขาเองซึ่งมักจะต้องอยู่ประจำสำนักงานใหญ่ อันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า ตนเองนั้น ไร้ประโยชน์

คณะกรรมการสอบสวนที่มีฟัดจ์เป็นประธาน พยายามทุกวิถีทางที่จะลงโทษแฮร์รี่ให้ได้ แต่ดัมเบิลดอร์มาช่วยแก้คดีให้ โดยมีมิสซิสฟิกก์มาเป็นพยาน ซึ่งดัมเบิลดอร์ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ที่ผู้คุมวิญญาณมาเพ่นพ่านในโลกมักเกิ้ล กระทรวงเวทย์มนต์จำยอมปล่อยแฮร์รี่ให้พ้นคดี แฮร์รี่แปลกใจและขุ่นข้องที่ในการพบกันครั้งนี้ ดัมเบิลดอร์ไม่คุยกับเขานานๆ หรือแม้แต่สบตาเขาโดยตรงเลย แม้จะมารู้ทีหลังว่า ตัวดัมเบิลดอร์เองก็ถูกถอดถอนจากตำแหน่งต่างๆ ในสภาพ่อมด ถูกยึดเหรียญตรา และถูกกล่าวหาว่า เป็นคนหลอกลวง ตำแหน่งเดียวที่ดัมเบิลดอร์ยืนยันไม่ยอมละทิ้งก็คือ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฮอกวอร์ต หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้น แฮร์รี่ได้พบกับ ลูเชียส มัลฟอย ซึ่งเดินคุยไปกับฟัดจ์อย่างสนิทสนม

เมื่อใกล้จะเปิดเทอม แฮร์รี่และพี่น้องวิสลีย์ได้รับจดหมายจากโรงเรียนตามที่เคย เฮอร์ไมโอนีได้รับแต่งตั้งเป็นพรีเฟ็ค ที่น่าประหลาดใจและแฮร์รี่ข้องใจอยู่เงียบๆ ก็คือ รอนได้รับเลือกให้เป็นพรีเฟ็คแต่ตนเองกลับไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาคิดว่า ตนเองมีความสามารถมากกว่า มูดดี้พยายามทำให้แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้นด้วยการมอบรูปถ่ายเก่าให้แก่แฮร์รี่ ซึ่งเป็นรูปถ่ายสมาชิก “โองการแห่งนกฟินิกส์” ในยุคก่อน ในจำนวนนั้น นอกจากพ่อแม่ของเขา ซิเรียส ลูปิน ก็ยังมีหางหนอน และพ่อแม่ของเนวิลล์รวมอยู่ด้วย รูปนี้จึงไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย

ในวันเปิดเทอม รถเมล์อัศวินราตรีมารับเด็กๆ ไปสถานีรถไฟโดยมีลูปิน และแม่มดอีกคนชื่อ… คุ้มกันไปด้วย และในครั้งนี้ ซิเรียสดึงดันที่จะไปส่งแฮร์รี่จนได้ ที่สถานีรถไฟ แฮร์รี่พบกับพ่อลูกมัลฟอย เขาพบว่า เดรโก มัลฟอย ได้เป็นพรีเฟ็ค

เช่นกัน นอกจากนี้ เขามีความรู้สึกว่า มัลฟอยผู้พ่อจะต้องจำซิเรียสได้ เนื่องจากได้ข้อมูลจาก หางหนอน บนรถไฟ รอนกับเฮอร์ไมโอนีแยกไปปฐมนิเทศก์ที่ตู้พรีเฟ็ค แฮร์รี่จึงต้องนั่งอยู่กับพี่น้องวิสลีย์คนอื่นๆ พร้อมทั้งเพื่อนของจินนีอีกคนหนึ่งชื่อ ลูน่า เลิฟกู๊ด เด็กผู้หญิงท่าทางแปลกๆ จากบ้านเรเวนคลอ ลูกสาวบรรณาธิการนิตยสาร ควิบเบลอร์ ลูน่าเล่าว่า แม้ผู้คนหาว่าหนังสือของพ่อเธอเชื่อถือไม่ได้ แต่ ควิบเบลอร์ จะลงข่าวที่ เดลี พรอเฟ็ต ไม่กล้าลง พวกมัลฟอยมาหาเรื่องอีกเช่นเคย พอดีศาสตราจารย์ฟลิตวิกมาขัดจังหวะพอดี เมื่อถึงโรงเรียน แฮร์รี่สังเกตเห็นม้าลากรถมีปีก หน้าตาประหลาด ทั้งๆ ที่คนอื่นไม่เห็น แต่น่าแปลกใจว่า คนที่เห็นม้าลากรถอีกคนหนึ่งคือลูน่า

ที่โรงเรียน แฮร์รี่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์หลายอย่างนับตั้งแต่มาถึง บรรดานักเรียนพากันมองดูเขา และซุบซิบอย่างหวาดระแวง แฮกริดหายไป เพลงใหม่ของหมวกคัดสรรเตือนในเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และที่สำคัญ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่คือ ศาสตราจารย์ โดโลเรส อัมบริดจ์ นั้น เป็นเลขานุการของรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ ซึ่งแฮร์รี่เคยพบเธอในห้องสอบสวน อัมบริดจ์กล่าวคำทักทายในงานเลี้ยงโดยเน้นย้ำเรื่องกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติ เฮอร์ไมโอนีตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงเวทย์มนต์พยายามแทรกแซงกิจการของโรงเรียน แอนเจลินา จอห์นสัน กัปตันทีมควิดดิชคนใหม่ ของกริฟฟินดอร์มาบอกแฮร์รี่ว่าจะมีการคัดเลือกคีปเปอร์มาแทนวู้ดซึ่งเรียนจบไปแล้ว ให้เตรียมตัวให้พร้อมในวันเสาร์ที่จะถึง และเขาต้องแตกคอกับ เซมัส ฟินิกัน ซึ่งถูกแม่ห้ามไม่ให้คบกับแฮร์รี่อีก เนื่องมาจากข่าวที่ลงใน เดลี พรอเฟ็ต







ในการเปิดเรียนวันแรก นักเรียนปีห้าได้รับการเน้นย้ำเรื่องการสอบ ว.พ.ส. ที่จะมาถึง ทุกวิชาต้องเรียนอย่างหนัก เพื่อเตรียมตัวสอบ แต่ศาสตราจารย์อัมบริดจ์นั้น แทนที่จะสอนนักเรียนตามที่ควรจะทำ กลับสอนแต่ทฤษฎี ซ้ำยังตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ และการลงโทษอย่างเคร่งครัด แฮร์รี่เป็นคนแรกที่ต่อต้านการกระทำนี้ ด้วยการพูดสิ่งที่กระทรวงกล่าวหาตลอดมาว่า โกหก นั่นคือ “โวลเดอมอร์กลับมาแล้ว” ถึงแม้เขาทำให้นักเรียนทั้งชั้นพลอย ต่อต้านอัมบริดจ์ แต่ก็ถูกอัมบริดจ์สั่งกักบริเวณเป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่วันถัดมา ในห้องทำงานของเธอ ด้วยวิธีการลงโทษที่ทารุณ มิหนำซ้ำยังต้องพลาดการคัดตัวคีปเปอร์ อย่างไรก็ตาม เขาพบว่า แม้นักเรียนส่วนใหญ่จะคิดเหมือนเซมัส แต่ก็มีไม่น้อยที่เชื่อถือคำพูดของเขา ในจำนวนนี้นอกจาก เนวิลล์ ซึ่งบอกว่า คุณย่าของเขาเชื่อมั่นในตัวดัมเบิลดอร์แล้ว ก็มี เออร์นี แมคมิลลัน บ้านฮัฟเฟิลพัฟ และ โช แชง จากเรเวนคลอ ซึ่งทำให้แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้นมาก




ผลการคัดตัวคีปเปอร์ ปรากฎว่า รอน ซึ่งแอบซุ่มซ้อมตลอดมาได้รับการคัดเลือก แต่ในการฝึกทำไม่ได้ดีเท่าไร ทำให้ถูกพวกสลิธีรินที่มาแอบดูการฝึกเยาะเย้ยถากถางและทำให้ทั้งทีมวิตกกังวล ส่วนตัวเองก็ขาดความมั่นใจ อัมบริดจ์ นอกจากคอยจับผิดแฮร์รี่แล้ว ยังวางอำนาจมากขึ้นด้วยการตั้งกฎข้อบังคับสารพัด มิหนำซ้ำยังแต่งตั้งตัวเอง เป็นกรรมการสอบสวนประจำโรงเรียน อีกทั้งไปสังเกตการสอนของอาจารย์ทุกคน และประเมินผล ทำให้ทั้งโรงเรียนนอกจากพวกสลิธีริน ไม่พอใจ แต่ดัมเบิลดอร์ยังวางเฉยอย่างน่าประหลาด




แฮร์รี่เริ่มฝันถึง โวลเดอมอร์ ในความฝันเขารู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองเป็นโวลเดอมอร์ เฮอร์ไมโอนียุให้แฮร์รี่เปิดสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ให้แก่นักเรียนคนอื่นๆ อย่างลับๆ เพื่อเตรียมตัวสอบ ว.พ.ส. แฮร์รี่จำใจยอมและได้เพื่อนนักเรียนทั้งจากบ้านเดียวกันและบ้านอื่นๆ ทั้งหมด 28 คน รวมถึง โช แชง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจึงก่อตัวขึ้น แม้ว่าโชจะมีอาการแปลกๆ ที่เขาไม่เข้าใจ ด้วยความช่วยเหลือจาก ด๊อบบี้ เอล์ฟประจำบ้าน พวกเขาได้สถานที่ลับในการฝึก ซึ่งเป็นห้องที่เรียกว่า “ห้องตามความประสงค์” ซึ่งจะเป็นห้องที่จะปรากฎขึ้นเมื่อมีผู้ต้องการใช้ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของผู้ใช้ พวกเขาตั้งชื่อกลุ่มว่า “กองทัพของดัมเบิลดอร์” โดยเรียกย่อๆ ว่า “ก.ด.” ที่ได้ชื่อนี้เพราะรู้ว่า การที่อัมบริดจ์ไม่ยอมสอนภาคปฏิบัติ ให้กับนักเรียนเพราะทางกระทรวงฯ กำลังหวาดระแวงดัมเบิลดอร์นั่นเอง แฮร์รี่เกรงว่า ความลับจะแตก เพราะอัมบริดจ์ทำท่าทางคล้ายๆ จะสงสัย เพราะเธอเคยพยายามจะล่อลวงให้เขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับดัมเบิลดอร์มาแล้ว แต่เฮอร์ไมโอนีบอกว่า เธอใช้เวทย์มนต์บางอย่างที่จะทำให้รู้ได้ทันที หากมีผู้เปิดเผยความลับ การฝึกวิชาเป็นไปด้วยดี แฮร์รี่มีกำลังใจขึ้น และความสัมพันธ์กับโช ก็ก้าวหน้าขึ้นด้วย ถึงกับมีนัดกัน เมื่อถึงวันไปเที่ยวฮอกส์มี้ด คราวต่อไป ซึ่งจะตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี




ระหว่างนี้ เดลี พรอเฟ็ต ลงข่าวการบุกรุกห้องทำงานของกองปริศนา ในกระทรวงเวทย์มนต์แต่ถูกจับได้ของพ่อมดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกของ “โองการ” แฮร์รี่ส่งจดหมายถึงซิเรียส แต่ทั้งๆ ที่ระวังอย่างดี เฮ็ดวิกยังถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บในตอนที่นำจดหมายกลับมาให้ อัมบริดจ์ออกกฎว่า จะมีการตรวจสอบจดหมายทุกฉบับ จึงทำให้การติดต่อกับซิเรียสยิ่งลำบากขึ้น ซิเรียสแอบมาหาที่โรงเรียน ผ่านทางเตาผิงด้วยผงฟลู แต่เกือบถูกอัมบริดจ์จับได้ ในการแข่งขันควิดดิชนัดแรกกับสลิธีริน รอนวิตกกังวลจนเล่นพลาด ถูกมัลฟอยและทีมสลิธีรินเยาะเย้ย แฮร์รี่และฝาแฝดวิสลีย์โกรธจนลืมตัว ถึงกับเข้าไปทำร้าย อัมบริดจ์ซึ่งเข้าข้างสลิธีรินอยู่แล้วสั่งห้ามทั้ง สามคนเล่นควิดดิชและยึดไม้กวาด กริฟฟินดอร์จึงต้องหาผู้เล่นใหม่และได้ จินนี่ มาแทนแฮร์รี่




ในที่สุด แฮกริดก็กลับมา และเล่าเรื่องการเดินทางไปเกลี้ยกล่อมยักษ์ ให้เข้าเป็นพวกแต่ประสบความล้มเหลวให้ฟัง แฮกริดมีบาดแผลเต็มตัวแต่ไม่ยอมบอกว่า เกิดจากอะไร พวกแฮร์รี่เกรงว่า แฮกริดจะไม่ผ่านการตรวจสอบการสอนของอัมบริดจ์ เพราะศาสตราจาย์ทริลอว์นีย์ ก็ถูกภาคฑัณฑ์มาแล้วเนื่องจากการสอนไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่แฮกริดก็ไม่สนใจ เขาใช้ตัว ธีสธรัล ซึ่งเป็นสัตว์ที่ที่ใช้ลากรถนักเรียนและอาศัยอยู่ในป่าต้องห้ามมาใช้ในการสอน เมื่อใกล้วันคริสต์มาส แฮร์รี่ฝันเห็นนายวิสลีย์ถูกงูกัด เลือดไหลเต็มตัวในห้องที่จำได้ว่า เป็นห้องกองปริศนาของกระทรวงเวทย์มนต์ ในฝัน ตัวเขาเองคืองู เมื่อตกใจตื่น เขาเล่าความฝันให้ศาสตราจารย์มักกอลนากัล ซึ่งเนวิลล์ไปตามให้ฟัง มักกอลนากัลจึงพาแฮร์รี่ไปหาดัมเบิลดอร์ เมื่อดัมเบิลดอร์ให้คนรีบไปดูนายวิสลีย์และพบว่าเป็นความจริง ก็ให้พี่น้องวิสลีย์และแฮร์รี่เดินทางไปสำนักงานใหญ่ของ “โองการแห่งนก ฟินิกส์” ซึ่งเป็นบ้านของซิเรียส และคอยฟังข่าวที่นั่น




นายวิสลีย์ถูกนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที และปลอดภัยในที่สุด ทุกคนรวมทั้งสมาชิก ของโองการไปเยี่ยมแฮร์รี่ที่โรงพยาบาลเซ็นต์มังโกฯ พวกสมาชิกปรึกษากันเกี่ยวกับเรื่องที่แฮร์รี่ฝัน แฮร์รี่และพี่น้องวิสลีย์แอบฟังโดยใช้เครื่องมือที่เฟร็ดและจอร์จประดิษฐ์ขึ้น และได้รู้ว่า สิ่งที่ทุกคนกำลังหวาดวิตกก็คือ แฮร์รี่อาจถูกโวลเดอมอร์ครอบงำจิตใจเพราะทั้งสองมีการเชื่อมต่อบางอย่างอยู่ แฮร์รี่ตกใจมาก เขาเกรงว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง โวลเดอมอร์อาจจะล่วงรู้เรื่องของพวกโองการโดยผ่านทางเขา และยังระแวงว่า คนอื่นๆ กลัวเขา หลังจากกลับจากโรงพยาบาล แฮร์รี่พยายามหลบหน้าใครต่อใคร ถึงกับคิดจะหนีออกจากบ้าน แต่แล้วได้จินนี่เป็นผู้ปลอบใจเพราะเธอเองเคยถูกโวลเดอมอร์ครอบงำมาแล้ว เธอเล่าว่า เธอจำเหตุการณ์ในขณะที่ถูกครอบงำไม่ได้ ดังนั้น ความฝันของแฮร์รี่จึงไม่ใช่การถูกครอบงำเพราะเขาจำได้ทุกอย่าง แฮร์รี่โล่งใจและฉลองคริสต์มาสอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับซิเรียสที่เบิกบานเป็นพิเศ





พวกแฮร์รี่ไปเยี่ยมนายวิสลีย์ที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันคริสต์มาส พวกเขาได้พบกับ กิลเดอร์รอย ล็อกฮาร์ต อาจารย์เก่าซึ่งเคยสอนพวกเขาและสูญเสียความทรงจำ จึงต้องตามเข้าไปเยี่ยมถึงในห้องตามที่ผู้เยียวยา (Healer) ประจำตัวล็อกฮาร์ต เชื้อเชิญ พวกเขาได้พบกับเนวิลล์และคุณย่าซึ่งมาเยี่ยมพ่อแม่ของเนวิลล์ รอนและเฮอร์ไมโอนีจึงพลอยรู้เรื่องของเนวิลล์ไปด้วย เมื่อกลับมาจากโรงพยาบาล แฮร์รี่ได้พบกับสเนป ซึ่งมาแจ้งว่า ดัมเบิลดอร์มีคำสั่งให้สอนแฮร์รี่ฝึก “มนต์กำบังจิต” เพื่อป้องกันไม่ให้โวลเดอมอร์เข้ามาอ่านจิตได้ โดยจะฝึกทุกเย็นวันจันทร์หลังเลิกเรียน หากมีใครถามให้บอกว่า เรียนซ่อมเสริมวิชาปรุงยา ซิเรียสและสเนปมี X งและเกือบจะถึงขั้นต่อสู้กัน ถ้าคนอื่นๆ ไม่มาเห็นเข้าพอดี




เมื่อกลับมาที่โรงเรียน แฮร์รี่เริ่มฝึกมนต์กำบังจิตกับสเนป เขาสังเกตว่าสเนปจะใช้ เพนซิฟ ซึ่งเป็นอ่างวิเศษสำหรับเก็บความทรงจำของดัมเบิลดอร์ นำความทรงจำบางอย่างไปเก็บไว้ก่อนที่จะเริ่มสอน และจะนำกลับคืนมาทุกครั้งที่สอนเสร็จ แฮร์รี่จะต้องฝึกจิตให้ว่างก่อนนอนทุกคืนอีกด้วย แต่เขาไม่ตั้งใจฝึกสักเท่าไร เพราะคิดว่า ถ้าสามารถอ่านจิตของโวลเดอมอร์ได้ ก็อาจจะสามารถป้องกันเหตุร้ายได้อย่างที่เคยฝันเกี่ยวกับนายวิสลีย์ และเขามักจะฝันว่า เดินไปตามทางมืดๆ ที่จำได้ว่า เป็นทางเดินไปกองปริศนาในกระทรวงเวทย์มนต์นั่นเอง ความฝันจะต่อเนื่องตั้งแต่การพยายามหาทางเข้าไปในห้องจนสำเร็จ การฝึกมนต์กำบังจิตจึงไม่ก้าวหน้าสักเท่าไร ซึ่งทำให้สเนปโกรธ มีเพียงครั้งเดียวที่เขาเข้าไปอ่านจิตของสเนปสำเร็จและได้เห็นอดีตบางส่วนสมัยเด็กขอ
งสเนป




เดลี พรอเฟ็ตลงข่าวเป็นระยะๆ ทั้งการแหกคุกครั้งใหญ่ของบรรดาสมุนเก่าของโวลเดอมอร์ โดยข่าวลงว่ามีการสงสัยว่า ซิเรียส แบล็ค เป็นผู้มาช่วยเหลือ และยังมีข่าวการตายของเจ้าหน้าที่กระทรวงเวทย์มนต์ที่ทำงานอยู่ในกองปริศนาและกำลังป
่วยด้วยอาการสูญเสียการพูด อยู่ที่โรงพยาบาล พวกแฮร์รี่เคยไปพบอยู่ในห้องเดียวกับล็อกฮาร์ตและพ่อแม่ของเนวิลล์ เขาสังหรณ์ว่า จะต้องมีอาวุธบางอย่างที่โวลเดอมอร์ต้องการในห้องนั้น




ก่อนถึงวันไปเที่ยวฮอกส์มี้ดซึ่งแฮร์รี่มีนัดกับโช เฮอร์ไมโอนีนัดให้เขาไปพบที่ร้านไม้ กวาดสามอันในตอนบ่าย โดยบอกว่ามีเรื่องสำคัญและเขาจะพาโชไปด้วยก็ได้ โชพาแฮร์รี่ไปดื่มน้ำชาที่ร้านของมาดามพุดดิฟู้ต แต่เธอพูดและมีกิริยาแปลกๆ ที่เขาไม่เข้าใจโดยพูดถึงเซดริก และนักเรียนชายคนอื่นๆ ที่เคยมาขอนัดกับเธอ เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของเขา และเมื่อเขาบอกว่า เขามีนัดกับเฮอร์ไมโอนี โชจึงไม่พอใจและจากไป ยิ่งทำให้เขางงมากขึ้น เมื่อแฮร์รี่ไปพบกับเฮอร์ไมโอนี ก็ได้พบ ลูน่า เลิฟกู๊ด และ ริต้า สกีตเตอร์ อดีตนักข่าวของ เดลี พรอเฟ็ต เฮอร์ไมโอนีวางแผนให้แฮร์รี่เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนที่เผชิญหน้ากับโวลเดอ
มอร์ โดยให้ริต้าสัมภาษณ์ลงในนิตยสาร ควิบเบลอร์ รวมทั้งเปิดเผยรายชื่อของผู้เสพความตายด้วย




ทันทีที่หนังสือออกมาก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ทั้งๆ ที่อัมบริดจ์สั่งให้เก็บหนังสือฉบับนี้ทั้งหมด ผู้คนตื่นตัวกันเป็นการใหญ่แลหันมาเชื่อถือแฮร์รี่อีกครั้ง และโชก็มาคืนดีด้วย อัมบริดจ์ไล่ทริลอว์นีย์ออก แต่ดัมเบิลดอร์ยังอนุญาตให้อยู่ที่หอคอยเดิมของเธอ และขอให้เซ็นทอร์ชื่อ ฟิเรนเซ มาสอนวิชาพยากรณ์แทน ซึ่งทำให้เซนทอร์ตนอื่นๆ โกรธที่ฟิเรนเซมายุ่งเกี่ยวกับมนุษย์และเปิดเผยพรสวรรค์อันถือเป็นความลับ จึงถูกขับไล่ออกมาจากป่า เมื่อหมดชั่วโมง ฟิเรนเซบอกให้แฮร์รี่ไปเตือนแฮกริดว่า “ที่พยายามอยู่นั้นไม่สำเร็จหรอก เลิกล้มเสียเถอะ” แต่ไม่ยอมบอกรายละเอียดมากไปกว่านั้นเพราะถือว่า เป็นความลับของแฮกริดเอง




กลุ่มลับของแฮร์รี่ถูกอัมบริดจ์จับได้เพราะสมาชิกคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนของโช แต่ไม่เต็มใจมาเรียนนั้นแอบไปบอกด้วยกลัวความผิด แต่ดัมเบิลดอร์ออกรับแทน ฟัดจ์ซึ่งได้รู้เรื่องนี้และเดินทางมาโรงเรียนสั่งจับ แต่ดัมเบิลดอร์หนีไปได้ด้วยพลังอำนาจที่เหนือกว่า เรื่องนี้นอกจากทำให้กลุ่มต้องเลิกล้มแล้ว แฮร์รี่ยังต้องทะเลาะกับโชและเลิกกันในที่สุด อัมบริดจ์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ใหญ่ของ ฮอกวอร์ต แต่ได้รับการต่อต้านจากอาจารย์คนอื่นๆ และนักเรียนส่วนใหญ่ เฟร็ดกับจอร์จลอบก่อความวุ่นวาย ในโรงเรียนโดยคนอื่นๆ แอบสนับสนุนอยู่เงียบๆ เพราะอยากเห็นอัมบริดจ์วิ่งวุ่น





วันหนึ่งระหว่างการเรียนมนต์กำบังจิต เมื่อสเนปมีธุระต้องออกไปจากห้องชั่วคราว แฮร์รี่แอบเข้าไปดูความทรงจำของสเนปในเพนซิฟ เขาได้พบกับพ่อแม่ของเขาและเพื่อนๆ ตอนที่อยู่ปี 5 ได้เห็นว่า พ่อของตัวเองกลั่นแกล้งสเนปให้ขายหน้าเพียงเพื่อความสนุก นี่คือสาเหตุที่ทำให้สเนปเกลียดพ่อของเขาและเพื่อนๆ เข้ากระดูกดำ สเนปจับได้ก็โกรธจัดถึงกับไล่แฮร์รี่ออกจากห้อง และเลิกสอนมนต์กำบังจิต แฮร์รี่ข้องใจเรื่องของพ่อของตน เขาเคยได้ยินอัมบริดจ์บอกว่า เตาผิงทุกเตาผิงในโรงเรียนจะถูกกระทรวงฯ คอยสอดส่องเครือข่ายผงฟลู นอกจากเตาผิงในห้องทำงานของเธอ จึงไปขอความช่วยเหลือ จากเฟร็ดและจอร์จให้ล่ออัมบริดจ์ออกไปจากห้อง และเดินทางไปที่บ้านของซิเรียส เพื่อถามข้อที่ข้องใจ ในระหว่างที่คุยอยู่กับซิเรียสและลูปิน แฮร์รี่ได้ยินเสียงเตือนให้กลับ เมื่อกลับมาถึงก็พบว่า อัมบริดจ์จับฝาแฝดวิสลีย์ได้ เพราะแฮร์รี่อาศัยผ้าคลุมล่องหนจึงไม่ถูกจับไปด้วย แต่เฟร็ดกับจอร์จใช้คาถาเรียกของเรียกไม้กวาดของตนและหนีไปจากโรงเรียนจนได้




ในระหว่างการแข่งขันควิดดิช ระหว่างกริฟฟินดอร์กับเรเวนคลอ แฮกริดมาตามแฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ เขาบอกว่า เขาจะไปจากฮอกวอร์ตก่อนที่จะถูกอัมบริดจ์ไล่ออก แฮกริดพาเด็กทั้งสอง เข้าไปในป่าต้องห้ามเพื่อเปิดเผยความลับ ทั้งสองได้พบกับน้องชายแม่เดียวกับแฮกริดชื่อ กร็อป (Grawp) ซึ่งแฮกริดแอบพามาด้วย แฮกริดฝากฝังแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี ให้ช่วยดูแลน้องชายของตน ทั้งสองยอมรับคำโดยไม่เต็มใจ ระหว่างที่กลับออกมาก็พบกับพวกเซ็นทอร์ พวกนั้นห้ามไม่ให้พวกเขากลับเข้ามาในป่าอีก เมื่อกลับมาถึงก็พบว่า การแข่งขันจบลงโดยกริฟฟินดอร์มีชัย




ในระหว่างการสอบ ว.พ.ส. แฮร์รี่เห็นอัมบริดจ์พาเจ้าหน้าที่ของกระทรวงไปจับแฮกริด แฮกริดหนีไปได้ แต่มักกอลนากัลซึ่งมาช่วยนั้นถูกคาถาหยุดนิ่งจนต้องถูกพาไปโรงพยาบาล ทำให้แฮร์รี่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะคิดว่า ขณะนี้ไม่มีสมาชิกของโองการเหลืออยู่ในโรงเรียนอีกแล้ว เขายังฝันเห็นซิเรียสถูกผู้เสพความตายจับ เขาเป็นกังวลถึงขนาดลอบเข้าไปในห้องทำงานของอัมบริดจ์อีกครั้งเพื่อใช้เตาผิงไปที่บ้
านของซิเรียส เขาพบแต่ ครีเชอร์ เอลฟ์ประจำบ้านของซิเรียส ครีเชอร์บอกว่า ซิเรียสไม่อยู่ทำให้แฮร์รี่ตกใจมาก ยิ่งกว่านั้นเมื่อกลับมาก็พบว่า ถูกอัมบริดจ์จับได้ อัมบริดจ์บังคับให้สารภาพ แต่เขาไม่ยอม เธอให้สเนปเตรียมน้ำยา สัจจะเซรุ่ม แต่สเนปอ้างว่า จะต้องใช้เวลาเตรียมนาน ทำให้เธอโกรธมาก แฮร์รี่จึงนึกได้ว่า ยังเหลือสเนปอยู่อีกคนหนึ่ง เขาตะโกนบอกสเนปเป็นนัยๆ เรื่องซิเรียส เฮอร์ไมโอนีทำท่าเหมือนจะสารภาพ เธอบอกว่า ดัมเบิลดอร์สั่งให้พวกเขาทำอาวุธ อัมบริดจ์จึงบังคับให้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีพาไปหาอาวุธนั้น เฮอร์ไมโอนีนำเข้าไปในป่าต้องห้าม ทั้งสามคนได้พบกับพวกเซ็นทอร์ที่โกรธแค้น อัมบริดจ์พยายามต่อสู้แต่ถูกจับไป แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนีก็เกือบจะถูกทำร้ายแต่ กร็อป น้องชายยักษ์ของแฮกริด ซึ่งออกมาตามหาพี่ชายมาช่วยโดยไม่ตั้งใจและไล่พวกเซ็นทอร์ลึกเข้าไปในป่า ขณะที่ทั้งสองกำลังหาทางออกจากป่าก็พบรอน จินนี่ ลูน่า และเนวิลล์ ซึ่งออกมาช่วยพอดี




แฮร์รี่ตัดสินใจจะบุกไปที่กระทรวงเวทย์มนต์เพื่อช่วยซิเรียสตามลำพัง แต่พวกเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะไปด้วย ลูน่าจึงเรียกตัว ธีสธรัล มาใช้เป็นพาหนะ เมื่อไปถึง แฮร์รี่อาศัยความทรงจำ จากความฝันนำทางไปจนถึงห้องทำงานของกองปริศนา ที่มีประตูอยู่มากมายและหาทางเข้าไปในห้องได้ในที่สุด และได้พบกับลูกแก้วพยากรณ์ลูกหนึ่ง ซึ่งมีชื่อของโวลเดอมอร์และแฮร์รี่ ทันทีที่เขาหยิบลูกแก้วพยากรณ์ขึ้นมา ลูเชียส มัลฟอยและเหล่าผู้เสพความตายก็ปรากฎตัวขึ้น กลายเป็นว่า โวลเดอมอร์สร้างแผนลวงให้แฮร์รี่มาติดกับ แม้เด็กๆ จะพยายามสู้พลางหนีพลาง แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์จึงพลาดท่า พอดีซิเรียสและพวกมาช่วยโดยให้พวกเด็กๆ หนีไป แฮร์รี่ทำลูกแก้วตกและกลิ้งหายไปขณะที่ช่วยพยุงเนวิลล์และได้พบกับดัมเบิลดอร์ เขาวิ่งกลับเข้าไปในห้องที่พวกซีเรียสกำลังสู้ กับผู้เสพความตาย และทันเห็นเบลลาทริกซ์ฆ่าซิเรียสซึ่งกำลังประมาทพอดี แฮร์รี่ตกใจและโกรธจนลืมตัว เขาวิ่งตามเบลลาทริกซ์ออกไป แต่เล้วก็ต้องเผชิญหน้ากับ โวลเดอมอร์ให้แฮร์รี่นำลูกแก้วลูกนั้นมาให้ตน ดัมเบิลดอร์ตามมาช่วยไว้ทัน โดยเสกรูปปั้นที่อยู่ในห้องโถงของกระทรวงเวทย์มนต์มาช่วยคุ้มครองแฮร์รี่ ป้องกันไม่ให้เบลลาทริกซ์หลบหนี ส่วนตนเองก็ต่อสู้กับโวลเดอมอร์ เมื่อโวลเดอมอร์สู้ไม่ได้หนีไป ความโกลาหลครั้งนี้ถูกฟัดจ์ มือปราบมาร และคนอื่นๆ ในกระทรวงพบเห็นในที่สุด ดัมเบิลดอร์ให้แฮร์รี่กลับไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนด้วยกุญแจนำทาง หลังจากอธิบายให้พวกกระทรวงฟังแล้วก็กลับมาหาแฮร์รี่

ดัมเบิลดอร์เล่าทุกอย่างให้แฮร์รี่ที่กำลังโกรธแค้น ฟังมากมาย นับตั้งแต่เรื่องที่แฮร์รี่ฝันเห็นซีเรียสถูกจับ เมื่อโวลเดอมอร์รู้ว่า แฮร์รี่เข้าไปในจิตของตนจึงสร้างภาพลวงตา เพราะอ่านจิตของเขาได้เช่นกันว่า คนที่แฮร์รี่รักที่สุด คือ ซิเรียส และถูก ครีเชอร์ เอลฟ์ประจำบ้านของซีเรียสหลอกเรื่องที่ว่า ซีเรียสไม่อยู่บ้าน เป็นเหตุให้แฮร์รี่เข้าใจผิดและไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะความจริงแล้ว ครีเชอร์ ไม่จงรักภักดีกับซีเรียสตามที่ควร แฮร์รี่ยังได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว สเนปให้ความช่วยเหลืออย่างลับๆ ตลอดมา ดัมเบิลดอร์ยอมรับว่า คิดผิดไปที่ไม่ได้เล่าความเป็นมาต่างๆ ให้ฟังเพราะมักคิดว่า แฮร์รี่ยังอายุน้อยเกินไป

ดัมเบิลดอร์เล่าเรื่องตั้งแต่ก่อนแฮร์รี่จะเกิดว่า ในสมัยที่โวลเดอร์มอร์เรืองอำนาจในยุคแรกนั้น มีการพยากรณ์ว่า โวลเดอมอร์จะมีคู่ปรับที่เก่งกว่า และจะรู้ถึงพลังอำนาจที่โวลเดอมอร์ไม่รู้ คำทำนายทั้งหมดถูกบรรจุในลูกแก้วพยากรณ์ ซึ่งเก็บไว้ในห้องหนึ่งของกองปริศนา สายของโวลเดอมอร์รู้แค่คำพยากรณ์ส่วนแรก เป็นเหตุให้โวลเดอมอร์ซึ่งตั้งใจจะไปฆ่าแฮร์รี่ต้องสูญเสียพลังไปในครั้งนั้น การที่ดัมเบิลดอร์นำแฮร์รี่ไปฝากให้ ป้าเพ็ตทูเนียเลี้ยง ก็เนื่องมาจากพลังที่แม่ของแฮร์รี่ใช้คุ้มครองลูกชายก่อนถูกฆ่าตาย พลังที่ทำให้โวลเดอมอร์ไม่สามารถแตะต้องแฮร์รี่ได้ในตอนแรกนั้น ยังอยู่ในสายเลือดของพี่สาวของเธอ คือป้านั่นเอง ส่วนคำทำนายในช่วงหลังก็คือ “คนหนึ่งจะสิ้นชีวิต อีกคนจะคงชีวา” ซึ่งหมายถึงว่า แฮร์รี่และโวลเดอมอร์จะต้องต่อสู้กันจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่งนั่นเอง

ฮอกวอร์ตกลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง ในขณะที่ทุกคนในโลกพ่อมดยอมรับความจริงเรื่องโวลเดอมอร์ในที่สุด แฮร์รี่ซึ่งยังทำใจเรื่องซิเรียสไม่ได้ นั่งรถไฟกลับไปลอนดอน ในครั้งนี้เมื่อถึงสถานีคิงก์ครอส ก็พบกับสมาชิกของ “โองการ” มาคอยรับ และพบกับพวกเดอสลีย์ เพื่อให้ปฏิบัติกับแฮร์รี่ให้ดีก่อนแยกย้ายกันไป


นักแสดง

user posted image
แฮร์รี่ พอตเตอร์
ชื่อ : Daniel Radcliffe
วันเกิด : 23 กรกฎาคม 1989
http://forums.popcornfor2.com/
คงจะไม่ผิดหากจะกล่าวว่าเจ้าหนู แดเนียล แร็ดคลิฟฟ์ คือหนุ่มน้อยผู้คว้าบทที่น่าอิจฉาที่สุดบทหนึ่ง ในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ หลังจากที่เขาฉายแววโดดเด่นจากหมู่เด็ก ๆ พรสวรรค์สูงจำนวนมากมาย ที่ใฝ่ฝันอยากจะสวมบท แฮร์รี่ พอตเตอร์ พ่อมดน้อยจากนิยายชุดดังของ เจ เค โรวลิ่ง
แดเนียลเกิดที่ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของตัวแทนซื้อขายบทประพันธ์ ชื่อ อลัน แร็ดคลิฟฟ์ กับตัวแทนคัดเลือกตัวนักแสดง ชื่อ มาร์เซีย เกรแชม หนูน้อยแดเนียลเริ่มรู้ตัวว่ามีใจรักในการแสดงตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ ซึ่งแม้พ่อแม่ของเขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก แต่ท้ายที่สุด ความจริงจังของเขาก็ทำให้พ่อแม่หันมาสนับสนุน เริ่มจากการที่แม่ยอมส่งรูปของเขาไปที่สถานีโทรทัศน์บีบีซี ทำให้เขาได้แสดงเรื่อง David Copperfield (1999) หลังจากนั้นอีกไม่นาน เขาก็ได้แสดงภาพยนตร์จอใหญ่เป็นครั้งแรก โดยได้ร่วมจอกับพระเอก เพียร์ซ บรอสแนน ในหนัง พยัคฆ์ร้าย 007 ตอน The Tailor of Panama (2001)
อย่างไรก็ตาม บทที่ทำให้แดเนียลกลายเป็นดาราเด็กผู้โดดเด่นเป็นที่รู้จักของผู้ชมทั่วโลกนั้น เป็นบทที่เขาได้รับในเรื่องถัดมา ซึ่งเป็นหนังที่สร้างจากนิยายชุดแฟนตาซี ที่สร้างกระแสคลั่งไคล้ไปทั่วโลก นั่นคือบทพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยเวอร์ชั่นที่เป็นภาพยนตร์ภาคแรก คือ Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ศิลาอาถรรพ์) ที่ออกฉายในปี 2001 ได้รับการตอบรับจากผู้ชมอย่างคึกคักเป็นประวัติการณ์ และแดเนียลก็กลายเป็นจุดสนใจ ของสื่อมวลชนทุกสำนักไปในทันที บทนำบทแรกของเขานี้ ก็พาเขาคว้ารางวัลประดับบารมีไว้แล้ว คือรางวัลคนบันเทิงหน้าใหม่ที่โดดเด่นที่สุดในวงการ ประจำปี 2002 จาก วาไรตี้ คลับ (The Variety Club Showbusiness Award For Outstanding New Talent)
ในเวลาว่าง แดเนียลชอบเล่นเกมเพลย์สเตชั่น, ฟังเพลง (ศิลปินสุดโปรดของเขาคือ สเตอริโอโฟนิคส์, อาร์อีเอ็ม และ ยูทู), เขียนหนังสือ และเล่นกีฬาหลาย ๆ อย่าง รวมถึงฟุตบอลด้วย
ชื่อเต็ม : Daniel Jacob Radcliffe
ชื่อเล่น : แดน หรือ แดนนี่
พ่อและแม่ : Marcia Gresham 44,ฝ่ายคัดเลือกนักแสดง และ Alan Radcliffe 46, ตัวแทนขายหนังสือ และพูดได้เลยว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาก และมีข่าวลือว่าพ่อและแม่ของแดนจะอย่ากัน แต่ Dan ก็ไม่เคยพูดอะไรออกมาและคิดว่าเขาคงไม่ต้องการพูดถึงด้วย
สูง : 5 ฟุต 4 นิ้ว ( 159 เซนติเมตร และเขาก็อยากสูงขึ้นอีก)
อายุ : 16
เกิดเมื่อวันที่ : 23 กรกฎาคม 1989
สถานที่เกิด : ลอนดอน ,อังกฤษ ,สหราชอาณาจักร
อาศัยอยู่ที่ : เมืองฟูแล่ม อยู่ทางตะวันตกของลอนดอน ,อังกฤษ, สหราชอาณาจักร
สีตา : สีฟ้า ( เขามีตาที่สวยมากๆ จริงไหม?)
สีผม : น้ำตาล
สีที่ชอบ : เขียว แดง ทอง
หนังเรื่องโปรด: Shakespeare in Love, Appolo 13, Twelve Angry Mens (หนังขาว - ดำ) ,What's eating Gilbert Grape
นักร้องที่ชอบ : R.E.M , U2 , Stereophonics,The Undertones,The Stranglers,The Clash,Iggy Pop
โรงเรียน : โรงเรียนเอกชนในลอนดอน
รายการโทรทัศน์ : The Simpsons, WWF
นักมวยปล้ำที่ชื่นชอบ : The Rock
สัตว์เลี้ยง : บิงก้า (หรือบิงเกอร์) และนักเก็ต (สุนัข)
เพื่อนที่ดีที่สุด : อเล็กซ์ เบอร์แมน
แว่นตา : เขาน่าจะใส่แว่นตาแต่ก็ไม่ได้ใส่เพราะชอบทำหายหรือทำมันแตก
วิชาที่ชอบ : วิทยาศาสตร์,ยิมนาสติก,ศิลปะ (แต่เขาพูดว่าเขาทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่)
เพลงโปรด : Smooth Criminal โดย Alien Ant Farm
เพลงประกอบภาพยนตร์ : Moulin Rouge
นักแสดงชายคนโปรด : Jude Law, Ben Stiler, Tom Hanks, Robert de Niro, Ed Harris
นักแสดงหญิงคนโปรด : Julia Roberts, Cameron Diaz, Catherine Zeta-Jones, Kate Hudson,Kate Winslet,Kristen Dunst
งานอดิเรก : ฟังเพลง, เล่นเกม เพลย์สเตชั่น,ฟุตบอล, กีฬา,วิ่ง
สนใจ : เพลง,เขียนบท,การแสดง,ถ่ายภาพ,กีฬา
สัตว์ที่ชอบ : หมาป่า
เครื่องดื่มสุดโปรด : ไดเอ็ท โค้ก
เลขที่ชอบ : 9
นิสัยแย่ๆ : เคี้ยวแว่นตา แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของเขา
ความต้องการ : เรียนตีกลอง
ราศี : เขาอยู่ระหว่าง กรกกฎและ สิงห์
ดาวประจำราศี : งู
ทีมฟุตบอล : ฟูแล่ม
หนังสือ Harry Potter เล่มที่ชื่นชอบ : หนังสือเล่มที่เขาชอบตอนนี้ก็คือ Harry Potter and the Prisioner of Azkaban
คำที่ชอบ : โวลเดอมอร์ " I like the way it sounds in your mouth, but I really shouldn't say that"
หนังสือที่ชอบ : Harry Potter, Holes โดย Louis Sachar, Cirque Du Freak โดย Darren Shan
ถนัดข้างไหน : ข้างขวา
นักแสดงใน HP ที่ชอบ : แฮกริดและครอบครัววีสลีย์
ฉากใน Hp ที่ Dan ชอบ : ฉากหมากรุก " เป็นฉากที่ยอดเยี่ยมมาก " ฉากกับดักมาร ฉากชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัว และฉากห้องแห่งความลับ
ขนมที่ชอบ : Mars Bars
เขาชอบ : แข่งรถสูตร 1 (Formula 1)
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่าง : เขาเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือของ Robbie Coltrane เป็นภาษาตุรกี และเขาชอบเล่นอะไรพิเรนทร์ๆ (จงระวังตัวถ้าอยู่ใกล้เขา)
ฮีโร่ในดวงใจ : สไปเดอร์ -แมน
เขาหลงใหลอยู่ 2 อย่าง : The Simpsons และภาพยนตร์
เพื่อนที่ดีที่สุดของ Dan : ผู้คลั่งไคล้ Harry Potter
งานแสดงครั้งแรก : เป็นลิงในละครโรงเรียน
ความจริงอีกอย่าง : นอกจากชอบเล่นอะไรแผลงๆแล้ว Dan ยังเป็นนักแต่ง " เพลงสั้นแบบลามก " อีกด้วย ตามที่ Bob Hoskins นักแสดงจากเรื่อง David Copperfield ได้บอกมา เพลงที่หนุ่ม Dan เอามาแปลงใหม่ก็คือ " 'Mary had a little lamb" (หนูแมรี่มีลูกแกะ แต่ถ้าร้องแบบบ้านเราก็คง - หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว) Bob Hoskins ได้ลงความเห็นว่า " มันค่อนข้างหยาบ " และอันที่จริง Dan น่าจะสวมแว่นแต่ก็ไม่ได้สวม และนี่คือสิ่งที่เขาพูด " ผมน่าจะใส่ แต่ก็ไม่ได้ใส่เพราะผมทำมันแตก ฟันผมบิ่นไปกว่าครึ่งตอนที่ผมได้แว่นอันแรกมา ผมเคี้ยวตรงขาแว่นและนั่นก็ทำให้ครึ่งนึงของฟันผมหลุดออกมา "
วันเกิดอายุ 12 ปี : เขาไปที่สเปน
เมื่อโตขึ้นเขาอยากจะเป็น : ผู้กำกับหรือคนเขียนบท
เขาอยากเป็น : นักดับเพลิง แต่มันน่ากลัวเกินไปเพราะคุณอาจจะโดนไฟลวกได้

เขาแต่งเรื่องเพียงเรื่องเดียวและขี้เกียจเกินกว่าจะเขียนไออารี่ของตัวเอง

บุคลิก - นิสัย : ซื่อสัตย์,ขี้อาย,รื่นเริง มีชีวิตชีวา,ติดดิน,ค่อนข้างลึกลับ
ประเทศที่ชอบ : สหรัฐอเมริกา
อาหารที่ชอบ : McDonald (และการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม มิฉะนั้นจะอ้วน)
Daniel คิดว่า : ในหนังสือเล่มต่อไปของ Harry Potter รอนและเฮอร์ไมโอนี่จะเป็นแฟนกัน

จากการสัมภาษณ์ในโทรทัศน์ Dan พูดว่า : เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบสาวๆที่มีลักษณะแบบชาวคอเคเชียน ผมบลอนด์ ตาสีฟ้าหรือเขียว ผิวขาว สูง และ การพูดสำเนียงแบบเน้นเสียง แต่เขาชอบสาวแบบละติน ผมสีดำหรือน้ำตาล ตาสีน้ำตาลหรือดำ และผิวสีแทน
สาวๆในแบบที่เขาชอบ : เล่นกีฬา, โรแมนติก,ดวงตาเป็นประกาย,เป็นแฟนฟุตบอล, หญิงสาวที่ชอบเดินชายหาด,หญิงสาวที่จะไม่ตามติดเขาไปทุกที่ (อย่างเช่นคอยตามติดตัวเขา และส่งจดหมายหาเขาจำนวนมาก ทั้ง อีเมลล์ โทรศัพท์และตามล่าเขาทุกแห่งหน)
ของหวาน : ไอศกรีมวานิลลาราดช็อกโกแลต
ทีมฮอกกี้ : Phoenix Coyotes

I สิ่งที่ไม่ชอบ I

อาหาร : เค้ก
วิชาเรียน : คณิตศาสตร์และภาษาฝรั่งเศส
| ข้อมูลที่น่าสนใจ |

- Enlightning Emma ได้แสกนนิตยสาร BRAVO ในนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับความรักในกองถ่าย PoA และ Daniel Radcliffe กับ Emma Watson จะกลับมาแสดงภาค 4 The Goblet of Fire
- นักแสดงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา Dan ชอบ Haley Joel Osment นักแสดงจาก The Sixth Sense และเคยมีข่าวว่าเขาจะแสดง Harry Potter
- เมื่อถามว่าเขาจะใช้รถเหาะไปไหน "New York City"
- มีภาพ Daniel จับคาง Emma แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่กำลังเดทกัน Dan เคยพูดว่าเขายังไม่มีแฟน และพ่อกับแม่ของเขาไม่อนุญาตให้มีแฟนจนกว่าอายุ 15!
- ประเทศที่เขาเคยไปเที่ยวมาแล้ว อเมริกา, ฝรั่งเศส, ปานามา , สเปน, อิตาลีและ สวีเดน

- Dan ชอบผู้หญิงลักษณะดังต่อไปนี้ : ลักษณะแบบสาวละติน ผมสีน้ำตาลหรือดำ ตาสีน้ำตาล ผิวสีแทน และเขายังเคยพูดว่า เขารักหญิงสาวที่ชอบเดินบนชายหาด เล่นกีฬา ไม่มีทิฐิ เป็นแฟนฟุตบอล ไม่ติดตามมากเขาเกินไป มีสายตาเป็นประกาย และใครก็ตามที่เดินแบบ C-walk ได้ (เรื่องนี้อาจจะไม่เป็นความจริงก็ได้นะคะ เพราะเรายังหาไม่เจอว่าพ่อหนุ่มน้อย เขาพูดไว้รายการอะไร) แต่หากสาวคนไหนต้องการเดิน C Walk?! ได้ ต้องทำดังต่อไปนี้ค่ะ

ระดับพื้นฐาน - BASIC C WALK
1. วางเท้าสองข้างไว้ติดกัน 2. วางส้นเท้าด้านขวา ยกนิ้วหัวแม่เท้าด้านขวาขึ้นมา 3. งอเข่าเอียงไปด้านขวา (อย่าลืมยกนิ้วเท้าไว้ด้วยนะคะ) 4. ยังวางส้นเท้าซ้ายอยู่ และยกนิ้วโป้งเท้าด้านซ้ายไว้ 5. งอเข่าและเอียงไปด้านซ้าย
ระดับสุดยอด - ADVANCED
1. วางเท้าสองข้างไว้ด้วยกัน และยืนด้วยส้นเท้า 2. ยกนิ้วเท้าขึ้นมา 3. ขยับขาซ้ายและกระโดด 4. ขยับขาซ้ายกลับมาด้วยนิ้วเท้า 5. ก้าวขาขวาไปข้างหน้าด้วยส้นเท้า 6.ทำตามข้อ 1-4 ใหม่แต่สลับข้างกัน
ถ้าหากถามว่าเต้นออกมาแล้วเป็นอย่างไร ก็คงบอกได้ว่า พิลึกที่สุด หนุ่ม Dan ชอบผู้หญิงทำแบบนี้จริงหรือ?
- เขาคงไม่จริงจังกับความรักจนกว่าจะอายุ 17
- เขากังวลเรื่องการบ้านของเขา เพราะไม่ได้ไปโรงเรียนมา 2 ปีแล้ว แต่คุณแม่ของเขาออกมาพูดถึงข่าวลือเรื่องที่ Dan จะเลิกรับบท พ่อมดแฮร์รี่ หลังจากภาค 3 " เป็นเรื่องเหลวไหล ผลการเรียนของเขาไม่เคยดีขนาดนี้มาก่อน เขาเป็นเด็กที่ทำงานหนักมาก "
- ไม่เคยเข้าเชคข่าวลือในอินเตอร์เนท เพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก
- พ่อและแม่มักจะสอนเขาเสมอ " จงเป็นตัวของตัวเอง ให้ความเคารพทุกคนไม่ว่าเขาจะเป็นใคร และพูดคุยอย่างเสมอ เท่าเทียมกัน "
- Dan ไม่สนใจผู้หญิงลักษณะแบบคอเคเซียน (คนผิวขาว) ซึ่งหมายถึงคนที่สูง ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า/เขียว ผิวขาว และการพูดสำเนียงแบบเน้นเสียง ลักษณะผู้หญิงคอเคเซียนที่เขาพูดถึงก้อย่างเช่น Cameron Diaz และ Kirsten Duntz
- เพื่อนๆและคนในกองถ่ายรู้จักเขาดีในฐานะจอมก่อกวน เขาเคยขโมยโทรศัพท์มือถือของ Robbie Coltrane (แฮกริด) และเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นภาษาตุรกี แม่ของเขาจึงบอกให้เขียนจดหมายไปขอโทษ "น่ารักจริงๆครับ" Coltrane กล่าว , และโทรศัพท์ของเขาก็เปลี่ยนกลับให้เป็นภาษาอังกฤษโดยแฟนของเพื่อนซึ่งเธอเป็นชาวตุรก
ี ครั้งหนึ่งเขาเคยเอารีโมทที่บังคับหมอนลมมาเล่น มันได้ผลดีกับบรรดาตัวประกอบและนักแสดงคนอื่นๆ แต่ไม่ได้ผลเท่าไหร่กับ Emma และเมื่อ Chris ยืนอยู่ตรงกลางในฉากการถ่ายทำ ไฟก็ดับอีกครั้ง Chris หยุดถ่ายทำแล้วถามว่า " นี่มันอะไรกันน่ะ? " ขณะที่ทุกคนเริ่มหัวเราะ หนุ่ม Dan ที่ขอให้ช่างแต่งหน้า แต่งให้เขาเหมือนคนได้รับบาดเจ็บ พอเขาเดินไปที่ฉากถ่ายทำ ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า " ตายแล้ว!! Dan เกิดอะไรขึ้น? " และเมื่อทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หนุ่มน้อยก็โดนปืนฉีดน้ำไล่ฉีดทั่วกองถ่าย และอีกครั้ง เขา Emma และ Rupert ทำป้ายเล็กๆ แปะไว้ข้างหลังช่างแต่งหน้า เขียนไว้ว่า " เตะฉัน " และ " ต่อยฉัน "
- Coltrane อธิบายถึงตัว Dan ไว้ว่า " เด็กน้อยน่ารัก ตรงข้ามกับ Rupert เหมือนดนตรีร็อคแอนด์โรลล์ " เขาพูดว่า Emma, Dan และ Rupert " เป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ใช่คนดูถูกเหยียดหยามคนที่ด้อยกว่า เหมือนกับดาราในฮอลลีวูดคนอื่น "
- เกลียดเค้ก
- วิชาที่ชอบน้อยที่สุดก็คือ คณิตศาสตร์ ( "มันช่างซับซ้อนและเต็มไปด้วยตัวเลข" ) และวิชาภาษาฝรั่งเศส
- เขาเกลียดงานบ้าน ( " ใครที่ไม่เกลียดบ้างล่ะ? ) แต่เขาก็ยังต้องทำความสะอาดห้องและจัดเตียงเอง
- เลขนำโชคของเขาคือเลข 9
- เขาไม่มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง ( " มันไม่จำเป็น" )
- อยากเป็นพนักงานดับเพลิง แต่เขาพูดว่า " มันน่ากลัวเพราะคุณอาจจะโดนไฟตลอกได้ "
- " ผมอาจจะแต่งเรื่องแค่หน้าเดียว " และ " ผมขี้เกียจเกินกว่าจะเขียนไดอารี่ "
- เขาแอบชอบ Cameron Diaz และ Kirsten Duntz เขาชอบหญิงสาวคนอื่นอีก และเธอเหล่านั้นก็ชอบเขาเหมือนกัน แต่สาวๆที่เขาพูดถึงนั้น พ่อกับแม่ไม่อนุญาตให้ออกเดทจนกว่าจะอายุ 15
- มีรางวัลที่เรียกว่า " Dan Radcliffe Cup" ของสมาพันธ์คริกเก็ต เวลล์ตอนใต้ (South Wales Cricket Association)
- เคยแสดงภาพยนตร์ 2 เรื่อง David Copperfield (แสดงเมื่ออายุ 5 ขวบ) Tailor of Panama (ไม่เคยได้ดูเรื่องนี้สักที)
- ตอนที่เขาเข้าฉากเรื่อง David Copperfield นักแสดงเกือบทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาคิดว่าเด็กๆคงทรมานน่าดู แต่ Dan ก็ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ โปรดิวเซอร์ได้พูดถึงเขาไว้ว่า " เขาเป็นเด็กฉลาด แม้ว่าเขาจะแต่งเพลง 'Mary Had a Little Lamb' (หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว) เวอร์ชั่นหยาบคาย "
- Dan คิดว่าหนังสือเล่มต่อไปของ Harry Potter รอนและเฮอร์ไมโอนี่ จะเป็นแฟนกัน
- ชื่อเล่นในกองถ่าย : Do-it-again-Dan (ทำอีกครั้งสิ Dan)
- เขาชอบแข่งเกม Medal of Honor (วีดีโอเกมที่ Rupert ชอบ) กับ Rupert แต่ " Rupert ชนะผม "
- เขาเก็บเงินไว้เพื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ตอนอายุ 17
- ชอบการ์ตูนญี่ปุ่น ที่พวกเรารู้จักกันดี Pok-e-mon
- ความคิดที่จะทำให้คนอื่นหัวเราะของ Dan " พูดบทอย่างเคร่งเครียดเท่าที่จะทำได้ มันค่อนข้างตลกเหมือนกันนะ โดยพื้นฐานแล้ว คุณไม่ควรหัวเราะ และพูดอย่างซีเรียส ก็เลยทำให้ดูเหมือนมันเป็นเรื่องจริง "
- เคยทดลองกิน Yakitori (ไก่ย่าง) ซาชิมิ และซูชิ
- ที่โรงเรียนของเขาจะมีวันที่อนุญาตให้นักเรียนมาโรงเรียนแต่งตัวอะไรก็ได้ตามที่พวกเ
ขาชอบ Dan เลยแต่งตัวเป็นพังค์ ทรงผมพังค์ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกจริงๆ
- ยืนยันแล้วว่า เขาจะมารับบท แฮร์รี่ พอตเตอร์ในภาค 4 (แต่หลังจากนี้เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น)
- PS2 หรือ XBox: PS2
- บางครั้ง Dan ก็จะมีปาร์ตี้พิซซ่ากับเพื่อนๆ นั่งเล่น ดูหนัง กินพิซซ่า และเล่นวีดีโอเกม "พวกเราขี้เกียจกันจริงๆ"


user posted image
รอน วีสลีย์
ชื่อ : Rupert Grint
วันเกิด : 24 สิงหาคม 1988
รูเพิร์ท กรินท์ รับบทเป็นน้องชายคนเล็กสุดของครอบครัววีสลีย์ และเพื่อนรักของแฮร์รี่ พอตเตอร์ อีกครั้ง ถึงแม้ว่าเรื่อง Harry Potter and the Sorcerer’s Stone จะเป็นการกระโจนเข้าสู่โลกของอาชีพการแสดงของรูเพิร์ทครั้งแรกก็ตาม แต่พรสวรรค์โดยธรรมชาติของเขา ก็ทำให้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล British Critic’s Circle สาขา Best Newcomer
ต่อจากการถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter ตอนแรก เขาก็ได้กลายเป็นดาราในการแสดงคู่กับไซมอน คอลโลว์ และสตีเฟน ฟราย ในบทศาสตราจารย์น้อยที่ไม่ค่อยยั้งคิด ในหนังของปีเตอร์ โฮวิท เรื่อง Thunderpants
รูเพิร์ทอายุ 17 ปี และเป็นลูกคนโตของพี่น้องห้าคน ก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกให้เป็น รอน วีสลีย์ เขาเคยแสดงละครโรงเรียน และคณะละครท้องถิ่น โดยเคยรับบทเป็นหัวหน้าแกงค์ในเรื่อง Annie และละครเรื่อง Peter Pan และ Rumplestiltskin in the Grimm Tales
| ข้อมูลทั่วไป |

ชื่อเต็ม : Rupert Michael Grint
วันเกิด : 24 สิงหาคม 1988
ราศี : สิงห์/กันย์
ผู้ปกครอง : Nigel (38 ,ผู้จัดจำหน่ายรถแข่ง ของที่ระลึก) และ Jo (34, แม่บ้าน)
เกิดและอาศัยที่: Hertfordshire, England
พี่น้อง : James, Georgina, Samantha และ Charlotte (Rupert เป็นพี่ชายคนโตของพี่น้องทั้ง 5 คน และเท่าที่เราทราบ เขาเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวที่ผมแดง)
สีผม : แดง (น้ำตาลแดง)
สีตา : เขียว
ชื่อเล่นในกองถ่าย HP : Ginger, Carrot Top, หรือ Go-Again-Grint (อีกครั้งสิ กรินต์)
เขาทราบเรื่องการคัดเลือกนักแสดงได้อย่างไร : จากทางโทรทัศน์ช่อง (BBC), และเขาก็เขียนจดหมายไปว่าเขาต้องการเข้าทดสอบบทของ รอน แต่เมื่อเขาไม่ได้รับจดหมายตอบกลับ จึงไปที่เวบไซต์ BBC เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงแต่งเพลงและเต้นแร็พ และยังแต่งตัวเป็นอาจารย์สอนวิชาการละครของเขาด้วย
| สิ่งที่ชอบ |
กีฬา : ว่ายน้ำ, ฟุตบอล, กอล์ฟ และ พูล
นักแสดง : Jim Carrey
ภาพยนตร์ : ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ Jim Carrey แสดง (Dumb and Dumber, the Mask) และ Shrek
วิชาที่ชอบ : วิชาเคมี และศิลปะ
ตัวละครใน HP ที่ชื่นชอบ : รอน วีสลีย์ (เพราะเราเหมือนกันมาก)
หนังสือ HP : เขาชอบหนังสือทุกเล่ม แต่เล่ม 4 เป็นเล่มที่น่ากลัวและทำให้เขาตกตะลึง และที่เขาชอบ HP3 ก็เพราะเรื่องต่างๆที่เกี่ยวหนูแสคบเบอร์เป็นแอนนิเมจัสและรอนก็มีนกฮูกเป็นของตัวเอ

สี : เขียว
ของกระจุกกระจิก : Didgeridoo (?)
สิ่งที่ชื่นชม : Spongebob Squarepants
รถ : Lotus Elise
นักประพันธ์ : J.K. Rowling
วิดิโอเกมส์ : Medal of Honor
เครื่องเล่นเกมส์ : PS2, Xbox และ Gamecube
| ข้อมูลน่าสนใจ |
- เขาเล่นกีตาร์
- เขาเชื่อเรื่องเวทมนตร์ ( " ด้วยเหตุผลบางอย่าง อย่างน้อย เชื่อสักนิดก็ยังดี.." )
- บทอื่นใน HP ที่เขาอยากเล่นก็คือบทของ เดรโก มัลฟอย ( "มันคงสนุกที่ได้เป็นคนไม่ดี เห็นแก่ตัว และมันคงเจ๋งน่าดูที่ทุกคนต่อต้านผม" )
- เขากลัวแมงมุมและความมืด
- เขาเคยกลัวความสูง
- Rupert ซื้อบ้านบนเกาะส่วนตัวให้ครอบครัวด้วยเงินของเขาเองทั้งหมด
- เขาชอบ แฮมแซนวิช มากกว่าชีส ("ชีสเหม็น") ไข่ ("ไข่ก็เหม็น") หรือแซนวิชเนยถั่ว และเขาก็ชอบกินช็อกโกแลตกับลูกอม (เหมือนรอน)
- สิ่งที่เขาเหมือนรอน (นอกจากผมแดง) ก็คือเขาชอบขนมหวาน มีพี่น้องหลายคน " ในหัวมีแต่เรื่องเหลวไหลเหมือนกับผม"
- เขาใช้คอมพิวเตอร์ Hewlett-Packard
- เรื่องที่ทำให้เขาโมโห ก็คือ การบ้าน สอบ และโรงเรียน
- จะเป็นคนขายไอศกรีม
- Britney หรือ Christina?
- สิ่งที่เขาชอบเมื่อเขามีชื่อเสียงไม่ใช่กองทัพสาวๆที่ติดตามเขาทุกย่างก้าว หรือเชคเงินที่ได้รับจากการแสดงหรือทุกคนจำเขาได้ในทุกแห่งที่เขาไป แต่สิ่งที่เขาชอบก็คือ ไม่ต้องไปโรงเรียน ก็ยุติธรรมดี
- เขาซื้อโทรศัพท์มือถือ (โนเกีย พร้อมกล้อง) ด้วยเงินก้อนแรกจากการแสดง HP
- เขากลัวใยแมงมุม และคนขายไอศกรีม
- เขาจะแสดงภาพยนตร์เรื่อง "The Cinderella Story" กับ Hillary Duff



user posted image
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
ชื่อ : Emma Watson
วันเกิด : 15 เมษายน 1988
http://forums.popcornfor2.com
เอ็มม่า วัตสัน ถ่ายทอดฝีมืออันยอดเยี่ยมของเธอในบทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ผุ้เป็นหนอนหนังสือ แต่จิตใจงาม
การเล่นเป็น เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ในภาพยนตร์เรื่องแรก นับเป็นการเข้าสู่โลกของอาชีพการแสดงของเอ็มม่า แม้ว่าความสามารถโดยธรรมชาติของเธอจะมีหลักฐานให้เห็นตั้งแต่ครั้งวัยเด็ก กับฝีมือการแสดงในละครโรงเรียนที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก
การแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในบทเฮอร์ไมโอนี่ มีผลอันมหาศาลที่ตามมาทั่วโลก และรางวัล AOL อันทรงเกียรติสาขา Best Supporting Actress จากเรื่อง Harry Potter and the Chamber of Secrets
เอ็มม่ายังคงรักษาสมดุลย์ระหว่างความรักในการแสดงกับการเรียนและกิจกรรมโรงเรียนของเ
ธอ เป็นนักกีฬาที่มีฝีมือทั้งฮอกกี้ เน็ตบอล เทนนิส และราวน์เดอร์ (คล้ายเบสบอล) รวมทั้งกรีฑา เธอยังเป็นผู้ X วชาญงานศิลป์ และคุยฟุ้งว่ามีห้องแต่งตัวที่มีสีสันและตกแต่งอย่างสร้างสรรค์มากที่สุดในสตูดิโอ!
งานอดิเรกอื่นๆ ของเธอ ได้แก่ สังสรรค์กับเพื่อนๆ , ฟังเพลงโปรดอย่าง อลานิส มอร์ริเซ็ท และจัสติน ทิมเบอร์เลค; เต้นรำโมเดิร์น, เต้นบัลเล่ต์ และเต้นแท็ป..และ ดาราโปรดของเธอคือ แบรด พิตต์!
| ข้อมูลทั่วไป |

ชื่อเต็ม : Emma Charlotte Duerre Watson
ชื่อเล่น : Em, Emmy
เกิดวันที่ : 15 เมษายน 1990
ราศี : เมษ
ผู้ปกครอง : คุณแม่ (Jackie Duerre -- เล่นให้กับทีม East England Field Hockey), และคุณพ่อ (Chris Watson) แยกทางกันเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และเป็นทนายทั้งคู่
เกิดและอาศัยที่ : Oxfordshire, England
พี่น้อง : Alex Duerre Watson (9 ขวบ ไม่ชอบการแสดงเหมือนพี่สาว แต่เล่นเกมส์เพลย์เสตย์ชั่นเก่งมาก)
สีผม : ตามธรรมชาติแล้วเป็นสีบลอนด์ แต่ขณะนี้ผมสีน้ำตาล เป็นลอนยาว
สีตา : น้ำตาล
งานอดิเรก : ซื้อของ ออกไปกับเพื่อนๆ และเล่นกีฬา
ชื่อเล่นในกองถ่าย HP : 'One-Take Watson' (" เพราะฉันจะแสดงได้ในเทคเดียว")
เธอทราบเรื่องการคัดเลือกนักแสดงได้อย่างไร : อาจารย์สอนวิชาการละครถามเธอว่าต้องการลองคัดเลือกตัวนักแสดงรึปล่าว และเธอก็ไปทดสอบบทกับเพื่อน เพื่อความสนุกเท่านั้น และเธอก็ต้องเครียดมากขึ้นเมื่อถูกเรียกไปคัดเลือกนักแสดงมากขึ้น
| สิ่งที่ชอบ |

สัตว์ : แมว
อาหารที่ชอบ : อาหารอิตาเลียนอย่างเช่นพิซซ่าหรือพาสต้า ข้าวและไก่(อันนี้ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่)
นักแสดง ชาย&หญิง : Julia Roberts (ชอบมาโดยตลอด), John Cleese, Sandra Bullock และ Goldie Hawn
ยี่ห้อเสื้อผ้า : Gap, DKNY และ Harvey Nichols (ตอนนี้ไม่ทราบว่าเธอจะเปลี่ยนยี่ห้อรึยัง เพราะเธอพูดเรื่องนี้ไว้จากการสัมภาษณ์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว)
ดนตรี : Pop และ Rock
นักร้อง : Samantha Mumba, Bryan Adams, Suzanne Vega, Dido และ Kelly Osbourne
กีฬา : ราวเดอร์ และเนทบอล (กีฬา 2อย่างนี้คล้ายๆกับบาสเกตบอล) ฮอคกี้, เทนนิส, สกี, วิ่ง, ไอซ์เสก็ต, ตกปลา, พายเรือกรรเชียง
ของขวัญ : เครื่องเล่นซีดี
เพลง : "Papa Don't Preach" ของ Kelly Osbourne
ถั่วเบอร์บอตต์ รสที่ชอบ : เชอร์เบท มะนาว
ของหวาน : รสมะนาว
วิชาที่ชอบ : ดนตรี
หนังสือ : Harry Potter and the Prisoner of Azkaban
นักแสดงใน HP : แฮกริด
ตำแหน่งควิดดิช : เชสเซอร์
ฉากใน HP : ฉากโทรลล์ ,ฉากสุดท้ายใน Chamber, และฉากกิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต
คาถา : "Petrificus Totalus!"
กลอุบายในภาพยนตร์ : " ในภาพยนตร์ (ภาคแรก) ฉันชอบฉากที่ไปอยู่ใช้แสตนด์เชียร์และจุดไฟใส่เสนป "
ของกระจุกกระจิก : iPod
บทพูดที่ชอบ : " ฉันจะไปนอนแล้ว ก่อนที่เธอทั้งสองจะมีความคิดให้เราถูกฆ่า หรือแย่ยิ่งกว่านั้น ถูกไล่ออก "
โทรศัพท์มือถือ : โนเกีย 3330
| ข้อมูลน่าสนใจ |

- เมื่อถามว่าถ้าอยู่บนรถเหาะ เธอจะไปไหน คำตอบของเธอก็คือ "ออสเตรเลีย"
- สีห้อง : สีชมพูอ่อนๆ ขอบสีฟ้า
- เธอไม่กัดเล็บ
- เธอเคยพาเพื่อนไปที่ฉากถ่ายทำ เธอคิดว่ามันสนุกมาก
- เธอไม่ต่อยผู้ชายที่หน้า ถ้าเขาพูดว่าเธอมีหน้าอกสวย
- สัตว์เลี้ยงของ คือแมว 2 ตัว (Bubbles กับ Domino) กระต่าย (Rosetta),หนู Gerbil(Jeremy)
- ถ้าเธอเป็นเอลฟ์ เธอจะใช้ชื่อ Gilraen Carnesir
- เธอเป็นฮอบบิท เธอคงมีชื่อว่า Pansy Loamsdown of Deephallow
- มีญาติชื่อ Hannah เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อเธออายุ 7 ขวบ
- ครั้งแรกที่ไปอเมริกาก็คือ ไปร่วมงาน พรีเมียร์ Harry Potter ที่นิวยอร์ค
- รายการสัมภาษณ์ที่อเมริกา The Rosie O'Donnell Show, The Today Show, Live on Regis and Kelly, Oprah, Jay Leno, The Wayne Brady Show, The Early Show, The View, MTV TRL (Total Request Live) และ The Caroline Rhea Show
- Tom บอกว่า " เธอมีเสน่ห์และนิสัยดีมาก " แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกัน เมื่อถามถึงความเป็นได้ เธอตอบกลับมาว่า " ไม่มีทาง!! "
- คุณย่าของเธอชื่อ Freda Watson สนิทกับ Emma มาก ตอนเธออายุ 4 ขวบ เธอบอกกับคุณย่าว่าอยากเป็นเจ้าหญิง, นางฟ้า และนักแสดง คุณยายเลยคิดว่าโตขึ้นมาเธออาจจะได้เป็นนักแสดง
- บทสัมภาษณ์แรกของเธอก็คือ งานแถลงข่าวนักแสดง เดือนกันยายน 2000
- เธอชอบอ่านหนังสือของ Roald Dahl และชอบอ่านไดอารี่ และแน่นอนที่สุดหนังสือ Harry Potter แต่คุณจะไม่ค่อยได้เห็นเธอนั่งอ่านหนังสือบ่อยเท่าไรนัก
- คุณพ่ออ่านหนังสือ Harry Potter ทั้งหมดให้เธอฟัง
- หนังสือเล่มแรกที่คุณพ่ออ่านให้เธอฟังคือเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory
- Emma ไม่เคยปฏิเสธทุกคนที่มาขอลายเซ็นของเธอ
- เธออาจไม่รับงานแสดงตลอดเวลา เธอพูดไว้ในรายการ on Regis and Kelly เธอต้องการไปเรียนในมหาวิทยาลัยมากๆ
- หลังจากภาพยนตร์ Harry Potter เธออยากจะเล่นเป็นนักเรียนไฮสคูลในอเมริกา " ฉันต้องการแสดงเป็นใครก็ได้ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จะไม่มีใครเดาออกเลยว่าฉันเคยแสดงเป็นเฮอร์ไมโอนี่ "
- เธอยังคงรักซานตาครอส
- รายการวันคริสต์มาสของ Emma : ต้องการเสื้อผ้า
- ความปรารถนาในช่วงวันหยุด (2001) " ฉันหวังว่าจะเกิดสันติภาพระหว่างอเมริกาและอัฟกานิสถาน " (จากรายการ AOL Live)
- นักแสดงที่หลงใหล " มากจนนับไม่ไหว "
- ลิปกรอสที่เธอชอบ : Stila
- ยี่ห้อเสื้อผ้าที่ชอบ : Deisel และ Miss Sixty
- วันเกิดครบ 12 ปี เธอฉลองที่กองถ่าย CoS (ข้อมูลเล็กๆน้อยทีเราหาเจอ) " ไฟดับลงขณะที่เธอกำลังพูดบทของเธอ ทุกคนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และคิดว่านี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะร้องเพลง 'Happy Birthday' เธอเขินเล็กน้อย " Chris Rankin (เพอร์ซี่) กล่าว
- ได้ไปเทียวที่ Universal Studios กับน้องชายและคุณพ่อ พฤศจิกายน 2002 หลังจากงานพรีเมียร์ที่ ลอส แองเจลิส
- เธอมีอาจารย์พิเศษสอนการออกเสียงในภาคแรก เพื่อจะได้ออกมาเป็นเฮอร์ไมโอนี่ที่สมบูรณ์แบบ
- Rupert และ Dan ชอบทำหน้าตาตลก เวลาที่เธอกำลังถ่ายทำอยู่
- เธอเรียกตัวเองว่า ยายจู้จี้
- การที่คนจำเธอได้ เป็นเรื่องที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน
- เธอจะไม่จูบเด็กผู้ชายที่ถ่ายภาพยนตร์ด้วยกัน และไม่ออกเดทกับใครด้วย
- เมื่อเธอเสร็จสิ้นการถ่ายทำภาคแรก พ่อกับแม่จัดงานปาร์ตี้ให้เธอและเพื่อนๆ
- ฉากที่เธอชอบน้อยที่สุดคือฉากที่ต้องเขาไปกอดแฮร์รี่ (Dan) " ตอนเริ่ม มัน 'น่ากลัว ' แต่หลังจากนั้นก็ดีค่ะ "
- เธอจะใช้ผ้าคลุมล่องหนเวลาไปโรงภาพยนตร์หรืองานคอนเสิร์ต
- Emma ไม่ชอบ ผัก , เพลงแนวคลาสิคหรือโอเปร่า วิชาคณิตศาสตร์ ละติน ภูมิศาสตร์ ไม่ชอบเวลาที่คนพูดว่าเธอน่าจะออกเดทกับ Dan หรือ Rupert หรือล้อเธอ เวลามีคนจำเธอได้มากๆ เวลาที่มีคนเข้ามาหาเธอ เข้ามาทำร้ายเธอ
- Emma ชื่นชอบ เพลง กีฬา ทอล์คโชว์ สวนสนุก การแสดง ร้องเพลง ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ช็อปปิ้ง พูดคุย ฟังเพลง อีเมลล์ และสินค้าคิทตี้ทุกอย่าง
- คำพูดติดปาก : "Dwarling!"
- สิ่งกวนใจเธอ : " เวลาที่สถานีวิทยุพูด ขณะที่เพลงยังไม่จบ "
- หน้าห้องแต่งตัว มีป้ายแปะไว้ว่า BEWARE: BABE INSIDE (ระวัง : เด็กอยู่ข้างใน)
- การถ่ายทำภาพยนตร์ภาค 3 เธอได้พูดว่า “ฮอร์โมนที่น่ารื่นรมย์ทั้งหมดจะปรากฏออกมา



user posted image
จินนี่ วีสลีย์
ชื่อ : Bonnie Wright
วันเกิด : 17 กุมภาพันธ์ 1991
http://forums.popcornfor2.com/i
บอนนี่ ไรท์-Bonnie Wright ชื่อเต็มคือ Bonnie Kathleen Wright เกิดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1991 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในจอ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นน้องของพี่รอน ในชีวิตจริงเป็นน้องคนเล็กของพี่ลูอิส ตอนนี้สูง 165 เซนติเมตร ถนัดมือขวา ผมสีน้ำตาลแดง นัยน์ตาสีฟ้า
สามารถทางเปียโนและแซกโซโฟน กีฬาก็เล่นได้หลากชนิดทั้งจักรยาน ว่ายน้ำ เทนนิส สเกตน้ำแข็ง ที่โปรดปรานและไปได้ดีคือฟุตบอลกับกระดานโต้คลื่น ดาราคนโปรด นิโคล คิดแมน ชอบเพลงและดนตรีแนวฮิพ-ฮอพ นักร้องขวัญใจคือ เดสตินีย์"ส ไชล์ด งานอดิเรกเต้นบัลเลต์ โมเดิร์นแดนซ์ และแอฟริกันแดนซ์ วิชาที่ชอบ ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ชอบการเดินท่องเที่ยว ไปมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส
ปี 2001 อายุ 11 ขวบ เข้าทดสอบบท จินนี่ วิสลีย์ ใน Harry Potter and the Philosopher"s/Sorcerer"s Stone แล้วก็สมใจ ครองบทนี้ตลอดทั้งใน Harry Potter and the Chamber of Secrets(2002) Harry Potter and the Prisoner of Azkaban(2004) และ Harry Potter and the Goblet of Fire(2005)
เส้นทางนักแสดงของบอนนี่ ไรท์ เริ่มตั้งแต่วัยน้อยนิดเพียง 2 ขวบ ในเรื่อง V(1993) ตามด้วย Speechless(1994) Shiloh(1997) Eden(1998) Crime & Punishment in Suburbia(2000) ยังมีผลงานทางโทรทัศน์เรื่อง Stranded และ Agatha Christie ตอน A Life in Pictures ฉายทางเคเบิลทีวีในอังกฤษและอเมริกา
ข้อมูลที่น่าสนใจ
ชื่อ : Bonnie Kathleen Wright
อายุ : 15 ปี
วันเกิด : 17 กุมภาพันธ์ 1991
สีผม : น้ำตลาแดง
สีตา : ฟ้า
สูง : 155 เซน
บ้านเกิด : ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พ่อกับแม่ : Gary Wright และ Sheila Teague Wright
พี่น้อง : มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ Lewis
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ : เปียโนและแซกโซโฟน
การเต้น : บัลลเลต์, โมเดิร์น และ เต้นแบบอัฟริกัน
ฮีโร่ : นิโคล คิดแมน
สิ่งที่ชื่นชอบ
วิชาที่ชอบ: ศิลปะกับวิทยาศาสตร์
งานอดิเรกที่ชอบ : เต้นและฟังเพลง
กีฬาที่ชอบ : ฟุตบอล
ประเทศที่ชอบ : ฝรั่งเศสและอิตาลี
สถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบ : ออสเตรเลีย
วงดนตรีที่ชอบ : The Killers
Random Facts
- เธอเคยไปเที่ยวที่ อเมริกา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, สเปน, อิตาลี่ และ ฝรั่งเศส
- ชอบศิลปะ
- ชอบที่จะทำงานด้วยดินเหนียว
- เธอเล่นกระดานโต้คลื่นมาได้ประมาณปีนึงแล้ว
- ถ้าหากเธอสามารถใช้เวทมนต์ เธอจะเสกให้คนหายตัวไปอีกสถานที่นึง
- อาชีพที่สองที่จะทำหลังจากเป็นนักแสดงคือเป็นเจ้าของรีสอร์ทในประเทศออสเตรเลีย
- สถานที่ที่เธอจะเดินทางไปด้วยฟรายอิ้งคาร์ก็คืือแอฟริกา
- แนวดนตรีที่ชอบคือฮิพฮอพ
- ตัวแทนของเธอเคยบอกว่าเธอร้องเพลงเพราะ
- เธอชำนาญในการว่ายน้ำ, ตีเทนนิส, ขี่ม้า, สเก็ตน้ำแข็ง, ขี่จักรยานและเล่นกระดานโต้คลื่น
- เธอถนัดมือขวา

user posted image


เดรโก มัลฟอย
ชื่อ : Tom Felton
วันเกิด : 22 กันยายน 1987
ชื่อเต็ม : Thomas Andrew Felton
อายุ : 18
สีผม : น้ำตาลอ่อน
สีตา : ฟ้า
เกิดวันที่ : 22 กันยายน 1987
เมืองเกิด : เอฟฟิ่งแฮม เซอร์เลย์ ประเทศอังกฤษ
พี่น้อง : ทอมมีพี่ชาย 3 คน คือ Chris (18) Ashley (21) และ Jonathan (22)
หนังเรื่องโปรด : Titanic
ถนัดใช้มือ : ข้างขวา
สีที่ชอบ : ฟ้า
รายการโทรทัศน์ที่ชอบ : The Simpsons
กีฬาที่ชอบ : ตกปลา
Tom Felton แสดงภาพยนตร์มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เขาก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมด้านบันเทิง จากการชักชวนของนักแสดงหญิง ซึ่งเธอเป็นเพื่อนของครอบครัว Felton เธอคนนี้ได้เล็งเห็นถึงคุณสมบัติด้านการแสดงของพ่อหนู Tom Felton หลังจากนั้น Tom จึงไปพบกับตัวแทนของเขา 2 อาทิตย์ต่อมา หลังจากที่ต้องไปคัดเลือกกับเด็กๆมากกว่า 400 คน Tom จึงได้งานชิ้นแรกซึ่งเป็นงานระหว่างประเทศ ทำให้เขาต้องเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ
Tom Felton รับบทเป็น เดรโก มัลฟอย นักเรียนบ้านสลิธีริน คู่อริของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในภาพยนตร์ Harry Potter ภาพยนตร์ที่ Tom Felton เคยแสดงไว้ "The Borrowers" (1998, แสดงกับ John Goodman) และ "Anna and the King" (1999, แสดงกับ Jodie Foster)
Tom ปรากฏตัวในเรื่อง Bugs แสดงเป็น James และยังมีงาน TV series เรื่อง Second Sight เกี่ยวกับตำรวจที่สูญเสียการมองเห็น ทางสถานีตำรวจก็ไล่ล่าหาผู้ต้องสงสัย Thomas Ingham แสดงโดย Tom พยานสำคัญของคดี และจากเรื่องนี้ทำให้ทอมได้เล่นบทเดรโกมัลฟอยตอนที่ไปออดิชั่นบทแฮร์รี่พอตเตอร์ เพราะไปเข้าตาผู้กำกับเข้า
Tom ยังมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลง เขาเริ่มร้องเพลงในโบสถ์ตอนอายุ 7 ขวบ เป็นนักร้องของในโบสถ์ที่โรงเรียน และเคยได้รับข้อเสนอให้ไปร้องเพลงที่ Guildford Cathedral Choir นอกจากนี้ยังเล่นกีฬาเก่งอีกด้วย เขาชอบเล่น ฟุตบอล, ไอซ์สเกต, โรเลอร์เบลด, บาสเกตบอล, คริกเก็ต, ว่ายน้ำ และเทนนิส
ข่าวล่าสุดจากทอม เฟลตัน เขาได้เขียนข้อความในเว็บไซต์ไว้ว่า
20 มกราคม 2548
ขอบคุณมากนะครับสำหรับของขวัญและการ์ดที่ส่งให้ผมเมื่อวันคริสมาสต์ ผมประทับจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของพวกนั้นมาจากประเทศที่อยู่ไกล อย่างเช่น อเมริกา ออสเตรเรีย และญี่ปุ่น แต่ผมก็ไม่ลืมแฟนๆที่ประเทศอังกฤษหรอกนะครับ
ผมถ่ายหนังส่วนใหญ่เสร็จไปแล้ว ตอนนี้กำลังพักผ่อนจากโลกภาพยนต์อยู่ครับ กำลังกลับมาเป็นเด็กอายุ17ธรรมดาคนหนึ่งที่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ กินพิซซ่า และที่เบสิกๆเลยก็คงจะเป็นฟังเพลงกับพักผ่อนน่ะฮะ
ยังไงก็ให้อภัยผมด้วยนะครับที่ผมจะไม่อัฟเดทไดอารี่อีกแล้วจนกว่าหนังเรื่องต่อไปจะอ
อกมา บางครั้งมันก็ยากเหมือนกันนะครับกับการที่จะเป็นคนของประชาชน ตอนที่ตากล้องสุดสยองคนหนึ่งพุ่งเข้าหาผมที่สนามบินที่เยอรมณีน่ะ เขาทำให้ผมเสียเวลาจนทำอะไรไม่ได้เลย แต่ถึงยังไงผมก็รู้ว่าแฟนๆตัวจริงของผมไม่ใช่พวกที่ก้าวร้าว และยอมให้ผมสนุกกับชีวิตของตัวเองไปสักพักหนึ่งแน่ๆ
ผมรู้ว่าผมเตือนพวกคุณไปแล้วล่ะเรื่องนี้ แต่อย่าซื้ออะไรก็ตามที่ออกมาจากเวบอีเบย์เลยนะ "เราซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง รับรองเป็นของแท้" พวกรูปภาพที่มีลายเซ็นต์ของผมน่ะ ทุกอย่างเป็นของปลอมทั้งนั้นแหละครับ
ยังไงก็หวังว่าคุณคงจะมีปี2005ที่สุดแสนวิเศษณ์และมีสุขภาพที่ดี มีความสุขกันทุกคนนะครับ
ตอนนี้บ๊ายบายก่อนแล้วครับ
รัก จากทอม x




user posted image
เฟร็ดและจอร์จ วีสลีย์

Oliver Phelps
ชื่อ : Oliver Martyn John Phelps
ชื่อเล่น : Oliver
เกิดเมื่อ : 25 กุมภาพันธ์ 1986
เกิดที่ : Sutton Coldfield, England
สูง : 190 ซม.
สิ่งที่ชอบ
วงดนตรี : Creed, Foo Fighters, Bon Jovi, Red Hot Chili Peppers, Eagles, and Queen.
เพลง : Rock
หนังสือ Harry Potter : ถ้วยอัคนี
ภาพยนตร์ : The Mummy Returns
สี : น้ำเงิน
ทีมฟุตบอล : Aston Villa
วิชาที่ชอบ : ภูมมิศาสตร์
สิ่งที่สนใจ : เพลงร็อค, X Box, Playstation, การแสดง และ กีฬากอล์ฟ
นิสัย : พูดเก่ง, มนุษยสัมพันธ์ดี, เคารพผู้อาวุโสกว่า, ตื่นตัวตลอดเวลา

James Phelps
ชื่อ : James Andrew Eric Phelps
ชื่อเล่น : James
เกิดเมื่อ : 25 กุมภาพันธ์ 1986
เกิดที่ : Sutton Coldfield, England
สูง : 190 ซม.
สิ่งที่ชอบ
วงดนตรี : Foo Fighters, Bon Jovie, Red Hot Chili Peppers, Eagles, Queen, and recently, R&B
เพลง : Rock
หนังสือ Harry Potter : นักโทษแห่งอัซคาบัน
ภาพยนตร์ : Pearl Harbor
สี : แดง
ทีมฟุตบอล :Birmingham Blues
วิชาที่ชอบ : ภาษาอังกฤษ
สิ่งที่สนใจ : กอล์ฟ, เพลงร็อค, X Box, Playstation และ การแสดง
นิสัย : เป็นนักกีฬา, ตื่นตัวตลอดเวลา และ มนุษยสัมพันธ์ดี

เกี่ยวกับ โอลิเวอร์ และ เจมส์

- โอลิเวอร์เป็นพี่เจมส์ เขาเกิดก่อนเจมส์ 13 นาที
- เจมส์อยากเป็นผู้ร้ายใน เจมส์ บอนด์ และเขาก็อยากเล่นเป็น เจมส์ บอนด์ เองด้วย
- ทั้งโอลิเวอร์และเจมส์เป็นนักร้องด้วยละ!!
- พวกเขามีสุนัขพันธ์ คอลลี่ 1 ตัว ชื่อ เอเวน (มันตัวใหญ่แล้วก็เต็มไปด้วยขน)
- ตอนที่พวกเขาถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ในลอนดอน พวกเขาได้ไปเที่ยวที่ Madame Tussauds
- พวกเขาชอบแกล้งเพื่อนๆที่โรงเรียนด้วยการสลับตัวกัน
- พวกเขาชอบหิมะ

ผลงานที่ผ่านมา

-Harry Potter and the Prisoner of Azkaban(2004) Fred and George Weasley
-Harry Potter and the Chamber of Secrets(2002) Fred and George Weasley
-Harry Potter and the Sorceror's Stone(2001) Fred and George Weasley
-Harry Potter And The Goblet Of Fire <2005> Fred and George Weasley
ที่อยู่
JOP Project
PO box 9765
Sutton Coldfield
West Midlands
B75 5XB
England




user posted image
โชแชง
Katie Leung (เคธี่ เหลียง)
ชื่อเต็ม : Katie Liu Leung (เคธี่ หลู เหลียง)
ชื่อเล่น : Katt= แคท
วันเกิด : 8 สิงหาคม 2530
สถานที่เกิด : ประเทศอังกฤษ
สัญชาติ : สก๊อต
เชื้อชาติ : จีน(ฮ่องกง)
ส่วนสูง : 5' 6&frac12;" (169 cm)

หนังสือที่ชอบ : The Curious Incident of the Dog in the Night-Time
ภาพยนต์ที่ชอบ : The Incredibles
งานอดิเรกที่ชอบ : ดนตรี , ใช้เวลาอยู่ครับครอบครัวและเพื่อนๆ , ชอปปิ้ง
ดนตรีที่ชอบ :อาร์แอนด์บี ป็อบร็อก ฮิพฮอบ
วงดนตรีที่ชอบ : Damien Rice, Red Hot Chili Peppers, Lauryn Hill

ดวงตา : สีน้ำตาลเข้ม
ผม : สีดำ
พี่น้อง: พี่ชาย 2 คน และ น้องสาว 1 คน
บิดา-มารดา : Peter(คุณพ่อ) และ Kar Wai Li(มารดา)
บ้าน : ราคา 400,000 ปอนด์(ประมาณ 28,000,000 บาท)
ในย่านคนรวยในเมืองมาเธอเวลล์ ใกล้เมืองกลาสโกว์
โรงเรียน : วิทยาลัยแฮมิลตัน


มีพี่ชาย 2 น้องสาว 1 เป็นลูกของหม่าม้าหลี่เจียเว่ย กับป่าป๊าปีเตอร์ เลียง ซึ่งทุกวันนี้แยกทางกันแล้ว

พ่อเหลียงเป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกง ที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในสกอตแลนด์นานกว่า 20 ปี ครอบครัวดาราสาวน้อยมีฐานะมั่งคั่งระดับเศรษฐี เป็นเจ้าของภัตตาคารในเมืองกลาสโกว์ และธุรกิจขายส่งอาหารจีน ครอบครัวพักอยู่ในบ้านสุดหรูย่านมาเธอร์เวลล์ในเมืองกลาสโกว โกวเนี้ยเหลียงเป็นศิษย์วิทยาลัยแฮมิลตัน โรงเรียนเอกชนชื่อดังของสกอตแลนด์ คิดค่าเล่าเรียนสูงถึง 5,000 ปอนด์ (คูณ 75 เป็นเงินไทย) ชอบวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา และศิลปะ ตั้งใจจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้านศิลปะการดีไซน์และการแสดง

เป็นวัยรุ่นขี้อาย ขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องแสดงหน้าห้องเรียน ชอบแต่งตัวแบบเด็กผู้ชายหรือชุดยีนส์ ว่างจากงานชอบฟังเพลง อยู่กับครอบครัวและเพื่อนๆ ช็อปปิ้ง ฟังดนตรีแจ๊ซ ฮิป-ฮอป และร็อก วงโปรด Damien Rice, Red Hot Chili Peppers, Lauryn Hill หนังสือที่ชอบ The Curious Incident of the Dog in the Night-Time ภาพยนตร์ The Kung Fu Hustle (คนเล็กหมัดเทวดา)

เส้นทางดาราเริ่มเมื่อวันหนึ่งพ่อเลียงเห็นโฆษณาทางโทรทัศน์ช่องภาษาจีน ประกาศหาสาวน้อยเอเชียรับบท โชแชง ใน Harry Potter and the Goblet of Fire แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี จึงสนับสนุนให้ลูกสาวไปเทสต์หน้ากล้องที่กรุงลอนดอน ลูกสาวก็ว่าง่ายเพราะอยากไปช็อปปิ้งในเมืองหลวงอังกฤษ ส่วนเรื่องงานไม่ได้คาดหวังเพราะรู้ว่าไม่มีพื้นฐานมาก่อน

บรรดาสาวน้อยๆ เข้าเทสต์หน้ากล้องกว่า 4,000 คน เหลียงต้องรอ 4 ชั่วโมง เพื่อเข้าไปสัมภาษณ์เพียง 5 นาที ที่สุดเธอได้รับบท โชแชง ด้วยเหตุผลพูดภาษาอังกฤษสำเนียงสกอตได้ดีมาก เจ้าตัวบอกว่างานการแสดงเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่คิดว่าจะส่งผลดี เพราะได้รับพื้นฐาน มีความเข้าใจมากขึ้น มั่นใจในตัวเอง สามารถที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างได้ดี คือเวลาที่จะบรรลุนิติภาวะ ได้รับอิสระอย่างเต็มที่ สนุกกับตัวเอง และต้องพึ่งพิงตัวเองให้มากขึ้นด้วย

แคทีพูดภาษากวางตุ้งได้ และอยากเรียนภาษาจีนกลาง ถ้ามีโอกาสก็อยากแสดงภาพยนตร์จีน ดาราจีนคนโปรดคือโจวซิงฉือ ประทับใจว่ายามเขาเป็นนักแสดงก็เก่ง เป็นผู้กำกับฯก็ยอดเยี่ยม


user posted image


user posted image

ลูน่า เลิฟกู๊ด
Evanna Lynch

Biography
We don't currently have a lot of information on Evanna Lynch. What we do know is that she has always been a huge fan of the Harry Potter books (she's read them over 6 or 7 times). "Sometimes I'm stressed and I'm sick of things... in Harry Potter you're taken to this wonderful imaginary world where everything is so different." At the release of the fifth installment, Harry Potter and the Order of the Phoenix, Evanna - who was in hospital at the time - begged her mum to let her queue up for the book. She managed to get it signed by JK Rowling and was first in line.

Evanna heard about the open Luna Lovegood auditions for the Harry Potter and the Order of the Phoenix movie, and knew that if she didn't go, she'd regret it for the rest of her life. Evanna is an absolute Harry Potter fanatic who has dreamed of playing the role of Luna in the Potter films. She and her friends even created a recording of her acting out the part and sent it to Warner Brothers but without any success. She coaxed her dad to take her to London and she managed to win the role, beating over 15,000 other hopefuls.

Some other facts about Evanna:

Full name: Evanna Lynch
Age: 14
Birthday: August 16th, 1991
Hometown: Termonfeckin (a small seaside town), Louth, Ireland
Height: 5 ft.
Hair: Brown
Eyes: Blue
School: Cartown National School
Parents: Marguerite and Donal Lynch
Siblings: Emily, older sister, and two other siblings
Pets: Cats: Luna who recently had kittens, one of them named Dumbledore. Crookshanks, unfortunately, is now dead. None of her cats or kittens act like thier characters at all.
Starsign: Leo
Bedroom: Orange and has turquoise quotes from the books.



ลอร็ดโวลเดอมอร์
Ralph Fiennes


user posted imageuser posted image
Arabella Figg
Kathryn Hunter

user posted imageuser posted image
Nymphadora Tonks
Natalia Tena



Dolores Umbridge emotion_061.gif
Imelda Staunton

user posted image
Bellatrix Lestrange
Helena Bonham Carter
c/http://telemundo-foros.kcl.net


user posted image
Kingsley Shacklebolt
George Harris


user posted image
Lily Evans
Susie Shinner

user posted image
James Potter
Robbie Jarvis


user posted image
Amelia Bones
Sian Thomas

user posted image
Magorian
Michael Wildman

user posted image
Albus Dumbledore
Michael Gambon


user posted image

Minerva McGonagall
Maggie Smith


user posted image
Argus Filch
David Bradley


user posted image
Severus Snape
Alan Rickman

user posted image
Sybill Trelawney
Emma Thompson


user posted image
Alastor 'Mad-Eye' Moody
Brendan Gleeson

user posted image
Neville Longbottom
Matthew Lewis

user posted image
Seamus Finnigan
Devon Murray

user posted image
Molly Weasley
Julie Walters


PS.  ใครชอบนิยายแฟนตาซีก็เข้ามาอ่านกันนะค่ะรับลองความสนุก(มั้ง) http://my.dek-d.com/36751/story/view.php?id=200638

แสดงความคิดเห็น

>

35 ความคิดเห็น

+เด็กวุ่นวาย+ 31 ต.ค. 49 เวลา 16:30 น. 1

ลูน่าเลิฟกุ๊ดออกจะเพี้ยนๆหน่อยหนิ
แต่ดูในหนังน่ารักจัง ชอบๆ ^^


PS.  อกหักไม่ว่า ถ้าไม่ได้รักคงบ้า ก็คนอย่างเธอมันน่าน่าได้เป็นเจ้าของ ~~
0
คุณllwsวบ้าบอ 31 ต.ค. 49 เวลา 17:32 น. 2

ข้อมูลเยอะดีจังไปหามาจากไหนหรอบอกกันมั่งดิ


PS.  เรารักคนอ่านนะอย่าลืมไปเยี่ยมเราบ้างละกันต้อนรับทุกคนเลยนะสุดท้ายอยากบอกว่า รักมากมาย
0
ปอยคุง 4 ม.ค. 50 เวลา 21:26 น. 10

อยากดูอ่ะภาค5อ่ะ แหมๆๆนัยหนัง มีแฮร์รี่กะโชแชงจูจุ๊บกันด้วยนะ ต๊ายเหนอย่างเน้แร้วเรายิ่งอยากดูเข้าปัยใหญ่ กรี๊ด อยากดู ๆ ๆ ๆ มาก ๆ

0
แสนสุข 7 ม.ค. 50 เวลา 17:26 น. 11

ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากๆเลยอ่ะค่ะ&nbsp โดยเฉพาะดิฉันชอบพี่เคที่ เหลียง มากเลยอ่ะค่ะ&nbsp นักแสดงคนอื่นๆก็ชอบนะคะ น่ารักดีอ่ะค่ะ&nbsp พี่เคที่น่ารักมากเลยค่ะ&nbsp อยากดูภาค5เร็วๆอ่ะค่ะ&nbsp ภาค4ที่ดูมาเนี่ย&nbsp ติดใจมากๆเลยนะคะ&nbsp แสง สี เสียง เยอะมากเลยอ่ะค่ะ สวยอ่ะค่ะ&nbsp ยังไงยังไงก็ยังขอติดตามผลงานของพี่เคที่ เหลียง นะคะ ขอบคุณค่ะ

0
เพื่อนๆหรรษา 10 ม.ค. 50 เวลา 12:38 น. 14

สวัสดีทุกๆคน คือว่าเพื่อนๆ และดิฉันชอบภาพยนตร์เรื่องแฮรี่ พอตเตอร์มากๆเลยอ่ะค่ะ โห อยากดูภาค5 6 และ ภาค7จังเลยอ่ะค่ะ อยากจะทราบว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้าง&nbsp อยากจะติดตามทุกๆคนเลยอ่ะค่ะ&nbsp ขอบคุณค่ะ

0
!เจ้าหญิงของเคตะ! 30 พ.ค. 50 เวลา 15:23 น. 19

ขอบคุณนะชอบมากมาย


PS.   w-inds.] :: Baby Maybe :: [บางทีอาจรักเธอ] http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=298995 - แล้วคุณจะได้รู้ว่าความรักไม่จำกัดรูปแบบจริงๆ
0