Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สรุปเรื่องย่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค3

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เรื่องย่อภาคที่3 เรื่องพระนเรศวรทรงแผ่อาณาเขต

-----ตอนที่6-----

สมเด็จพระนเรศวรทรงทราบดังนั้นจึงตรัสปรึกษานายทัพผู้ใหญ่ว่า กองทัพพระยาศรีไสยณรงค์เข้ารับมือกับทัพข้าศึกโดยพละการเช่นนี้และเห็นท่าจะเพลี่ยงพล้ำจะทำอย่างไรดี พวกนายทัพทั้งปวงเห็นพ้องต้องกันว่า ควรให้ทัพหลวงตั้งมั่นรอรับข้าศึกอยู่ก่อน และขณะเดียวกันก็ควรส่งกองทัพหนุนออกไปช่วยพระยาศรีไสยณรงค์รับมือข้าศึกให้อยู่ โดยให้กองทัพหลวงออกไปสู้ในภายหลังสุด สมเด็จพระนเรศวรไม่ทรงเห็นด้วย ตรัสว่ากองทัพข้าศึกกำลังถาโถมเข้าใส่เราด้วยกำลังที่เหนือกว่าถึงจะส่งกองทัพหนุนออกไปรับมือก็คงจะพ่ายแพ้เสียรี้พลและกระบวนรบหนักยิ่งขึ้น สุดท้ายทัพหลวงก็จะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน ควรที่จะล่อให้กองทัพข้าศึกบุกเข้ามาถึงที่นี่แล้วตีกระหนาบด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อชิงความได้เปรียบในทางกลยุทธ์ ขณะที่ข้าศึกรุกเข้ามามากจริงแต่ไม่เป็นระเบียบ ทั้งนี้เราจะอาศัยทัพพระยาศรีไสยณรงค์ที่แตกร่นลงมาเป็นตัวล่อ จึงรับสั่งให้กองทัพทั้งหมดแปรกระบวนทัพออกทั้ง2 ด้าน แล้วตรัสสั่งให้จมื่นทิพเสนา จมื่นราชามาตย์ขึ้นม้าเร็วรีบไปประกาศแก่พวกกองทัพพระยาศรีไสยณรงค์ ไม่ต้องรอทัพหนุนแล้ว แต่ให้ทั้งหมดถอยทัพกลับมาและให้ไปบอกนายทัพทั้งหมดในที่นี้ให้เตรียมตัวประจัญบานข้าศึกที่ตำบลหนองสาหร่ายแห่งนี้ ฝ่ายพวกกองทัพพระยาศรีไสยณรงค์เมื่อได้ทราบกระแสรับสั่งดังนี้จึงต่างถอยหนีออกมาจากสมรภูมิกลับมาที่หนองสาหร่ายแบบไม่เป็นกระบวน ข้าศึกเห็นกองทัพไทยแตกฉานได้ทีก็รีบเดินถาโถมกำลังติดตามทั้งทัพหน้าและทัพหลวงของพระมหาอุปราชาไล่มาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

สมเด็จพระนเรศวรสงบทัพหลวงรออยู่จนเวลาเช้า 11 นาฬิกา เห็นข้าศึกไล่ตามมาไม่เป็นกระบวนอย่างที่ทรงวางแผนไว้ ก็ตรัสสั่งให้สัญญาณแก่กองทัพทั้งปวงให้เตรียมพร้อมรบและในขณะนั้นพระองค์ก็เสด็จขึ้นทรงช้างชนะงาพร้อมกับสมเด็จพระเอกาทศรถ นำกองทัพหลวงเข้าตีโอบกองทัพหน้าข้าศึกในทันที แต่ฝ่ายกองทัพท้าวพระยาต่างๆได้รับสั่งให้เปลี่ยนกระบวนรบกะทันหันก็ปฏิบัติตามรับสั่งช้าบ้างเร็วบ้าง ส่วนใหญ่จะยกไปไม่ทันเสด็จ มีแต่กองทัพพระยาศรีหราชเดโชชัยกับกองทัพเจ้าพระยามหาเสนาปีกขวาเท่านั้นที่ตามกองทัพหลวงเข้าจู่โจมตีข้าศึกได้ทันตามแผน ฝ่ายกองหน้าข้าศึกซึ่งกำลังรุกไล่มาเป็นจำนวนมาก ปะทะกับกองทัพไทยซึ่งกำลังน้อยกว่าแต่ได้เปรียบในเชิงกลยุทธ จึงเข้าต่อสู้โรมรันกันอย่างดุเดือด ชุลมุนกันไปหมด(ตอนต่อไปนี้ขอนำเนื้อหาของคำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับหลวง ซึ่งสอดคล้องกับ Chronicle of Ayutthaya by Tun Aung Chain เข้ามาเรียบเรียงเสริม เนื่องจากมีการพรรณนาไว้อย่างละเอียด ตื่นเต้น)

 

ขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถทรงช้างอยู่กลางกองพลก็ส่งสัญญาณถาโถมเข้าใส่ เหล่าทหารต่างโห่ร้องกึกก้อง ทั้งเสียงฆ้องและกลองชัยดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วป่า กำลังพลทั้งสองต่างก็ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ทัพหน้าของพม่ามอญขี่ช้างเข้ามาสู้ สมเด็จพระนเรศวรจึงเอาช้างเข้าไล่แทงจนช้างข้าศึกถอยหนี พระองค์จึงตีด้วยพระแสงของ้าว ถูกนายท้ายช้างของพระยามอญตายตกหลังช้างลงมา ขณะนั้นมีพระยามอญอีกช้างหนึ่งวิ่งเข้าใส่สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเอกาทศรถจึงขับช้างเข้าไปช่วยต่อสู้กับพระยามอญผู้นั้นและเอาทวนแทงถูกนายกลางช้างตกลงมาตายอีกหนึ่งคน ขณะนั้นกองทัพหลวงของทั้งสองฝ่ายก็รุกโรมรันเข้าใส่กันเป็นพัลวัน ฝ่ายพม่าเองก็โจมตีถาโถมกันเข้ามาไม่ลดละ ฝ่ายไทยเองก็ไม่ยอมถอย โดยเฉพาะทัพหลวงของสมเด็จพระนเรศวรนั้นรุกคืบหน้าเข้าไปไกล ซึ่งขณะนั้นมีการตะลุมบอนกันโกลาหลฝุ่นฟุ้งตลบจนมืดฟ้ามัวดินไปทั่วสารทิศ มองไม่เห็นว่าใครเป็นใคร จนกระทั่งช้างของสมเด็จพระนเรศวรรุกเข้าไปถึงหน้าช้างพระมหาอุปราชา ฝ่ายพระมหาอุปราชาเห็นดังนั้นจึงใช้ลูกคลี(ลูกตุ้มมีหนามแหลม)ขว้างใส่สมเด็จพระนเรศวรทันทีแต่ทรงหลบทัน สมเด็จพระนเรศวรจึงร้องตะโกนไปว่า “ดูก่อนเจ้าพี่ ท่านกับเราต่างก็เป็นกษัตริย์ด้วยกันทั้งคู่ ใยท่านขว้างลูกคลีมาใส่เราเช่นนี้ทำเหมือนเด็กเล่น บัดนี้ทหารของท่านและเราทั้งสองก็ล้มตายกันมามากแล้ว ควรที่จะมาชนช้างทำยุทธหัตถีกันให้เป็นเกียรติยศเถิด กษัตริย์ภายหน้าที่จะชนช้างได้อย่างเราจะไม่มีอีกแล้ว”

 

-----จบตอนที่6-----


สำหรับเรื่องย่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคที่ 3 ฉบับสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพนี้มีเรื่องที่น่าติดตามอ่านมากมายหลายเรื่องราวด้วยกันได้แก่

-สงครามยุทธหัตถีในปี 2135 ซึ่งเป็นไฮไลท์ของภาคที่3เลยทีเดียวเพราะถึงขั้นรบกันสะบั้นหั่นแหลก ตะลุมบอนกันทั้ง2ฝ่ายก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรจะทรงชนช้างกับพระมหาอุปราชและได้ชัยชนะอย่างงดงาม

-การบุกโจมตีเขมรซึ่งผู้ที่สร้างผลงานโดดเด่นที่สุดในสงครามครั้งนี้คือพระราชมนูและทำให้ท่านได้เลื่อนขั้นเป็นถึงเจ้าพระยาอัครมหาเสนาบดี และเป็นเหตุที่ทำให้พระศรีถมอรัตน เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจถึงกับเป็นขบฏต่อสมเด็จพระนเรศวร

-การยกกองทัพมหึมาของสมเด็จพระนเรศวรไปบุกหงสาวดีในปี2142 ซึ่งทำให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงถึงกับทิ้งบ้านทิ้งเมืองหนีไปอยู่เมืองตองอูและปล่อยให้กองทัพยะไข่ถือโอกาสเข้ามาปล้นและเผาเมืองหงสาวดีเสียวอดวาย

รายละเอียดเพิ่มเติมและภาพต่างๆ หนังตัวอย่าง รวมทั้งตอนเก่าๆดูได้ที่นี่นะครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=oillover&group=7

 

หมายเหตุ –พอดีที่ Bloggang ยังใช้งานไม่ได้เลยยังอัพตอนใหม่ไม่ได้แต่สามารถอ่านตอนเก่าๆได้เหมือนเดิมนะครับ ความจริงอ่านในบล็อกจะตื่นเต้นกว่าเพราะผมจะใส่Soundtrack ประกอบครับ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

มุก 25 ธ.ค. 52 เวลา 20:53 น. 1

มันเยอะเกินง่ะเอาน้อย ๆ หน่อยซี&nbsp ! ! ! ! แต่ก็เยี่ยมมาก ๆ เลยค่ายกมือให้เลย7

0