ปาฏิหาริย์รักจากดวงดาวตอนจบ...
เหว่ยอี้นั่งเศร้าอยู่หน้าโบสถ์ที่ฉิงเต้า เขาครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมาของเขากับเซินเซิน ตั้งแต่พบกันอีกครั้งและอยู่ร่วมกันจนถึงวันเลิกรา เหว่ยอี้รำพึงในใจ
"คุณอย่าเสียใจเลยนะ ได้โปรดอย่าเสียใจ ได้โปรดจำไว้ว่าช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ผมมีความสุขมากผมมีความสุขมากจริงๆ"
เหว่ยอี้อยู่บ้านคริสต์มาสเขาปวดท้องอย่างหนัก อาเจียนออกมาเป็นเลือด เหว่ยอี้ทุรนทุรายล้มอยู่หน้าเตียง เขาภาวนาในใจ
" อย่าเพิ่งพาผมไปเลยนะ ขอเวลาให้ผมอีกซักนิด ได้โปรด ขอเวลาผมอีกหน่อย"
ในช่วงเวลาเดียวกัน อาฮั่นที่รู้ว่าเหว่ยอี้มาถึงแล้ว วิ่งเข้าบ้านจะเอาข้าวกล่องมาให้เหว่ยอี้ เห็นสภาพของเหว่ยอี้ก็ตกใจสุดขีด อาฮั่นรีบวิ่งไปตามหมอที่รักษาเซินเซินทันที
หมอกับอาฮั่นช่วยกันแนะนำเหว่ยอี้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วทำการตรวจรักษา อาฮั่นคอยเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดตาให้เหว่ยอี้ หมอจะบอกเรื่องอาการป่วยของเหว่ยอี้กับอาฮั่นแต่เหว่ยอี้ที่นอนหลับตาอยู่เอามือแตะหมอทำนองห้ามไว้ หมอจึงบอกอาฮั่นว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วและให้อาฮั้นไปหาน้ำอุ่นมาให้เขาดื่ม เมื่ออาฮั่นออกไปเหว่ยอี้จึงพูดเบาๆ
"ขอบคุณครับ"
"คุณมาขอบคุณผมทำไม ผมช่วยคุณไม่ได้อีกแล้ว"
"อย่างน้อยก็ช่วยให้ผมได้ดูอาฮั่นแข่งว่ายน้ำจนจบ"
หมอพยักหน้าอย่างเข้าใจเหว่ยอี้หลับตาลง
......................................................................................................................................
ทางด้านเซินเซินเธอตัดสินใจจะไปตามหาเหว่ยอี้ จั่วจินช่วยถือกระเป๋าออกมาจากบ้าน
"เธอเอาตั๋วกับพาสปอร์ตมาแล้วหรือยัง เอาล่ะ"
จั่วจินยื่นกระเป๋าให้
"ไปได้แล้ว เครื่องบินไม่รอเธอหรอก พี่ไม่ไปส่งเธอที่สนามบินนะ เธอก็รู้นี่ว่าพี่ไม่ชอบการจากลาเท่าไหร่เลย...ดูแลตัวเองดีๆนะ"
เซินเซินลากกระเป๋าออกไปจั่วจินมองตามสีหน้าเศร้า....เซินเซินออกมาหน้าบ้านซึ่งแท็กซี่มารออยู่แล้ว เธอหันกลับไปมองบ้านลุงจั่วอีกครั้งอย่างอาลัย ขณะที่เธอกำลังเปิดประตูจะขึ้นรถฝนเริ่มลงเม็ด จั่วจินถือร่มมากางให้
"หลังจากที่เธอไปจากจั่วจินแล้ว เธอเจ้าเซินเซิน จะต้องอยู่บนโลกนี้เป็นคน...เป็นคนที่สองที่มีความสุขที่สุดนะเข้าใจมั๊ย?"
เซนเซินมองหน้าจั่วจินอย่างไม่เข้าใจเธอจึงส่งภาษาใบ้ถาม
"ทำไมต้องเป็นคนที่สองด้วยล่ะ"
จั่วจินยิ้มนิดๆ
"เพราะพี่รักเธอมาตั้ง 13 ปี แล้วพี่จะรักเธอต่อไป.....พี่ได้รักเธอมาตั้ง 13 ปี คนที่มีความสุขที่สุดในโลกก็เป็นพี่สิ่ จำไว้นะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น สัญญากับพี่ว่าเธอจะเป็นคนที่เข้มแข็ง ตกลงไหม"
เซินเซินพยักหน้ารับ จั่วจินยิ้มให้ เซินเซินยิ้มให้เขาพร้อมกับขึ้นรถแท็กซี่ไป จั่วจินปิดประตูให้.....รถแท็กซี่เคลื่อนตัวออก เซินเซินน้ำตาใหลออกมาจั่วจินมองรถที่แล่นออกไปอย่างใจหายเหมือนสูญเสียสิ่งที่รักที่สุดไป เขาทิ้งร่มแล้วผวาวิ่งตาม แต่ก็ต้องหยุดชะงักแล้วตะโกนไล่หลัง
"เซินเซิน....เธอต้องรักษาความสุขของเธอไว้ดีๆนะได้ยินที่พี่พูดไหม"
เหว่ยอี้อาการเจ็บปวดของเขาทุเลาลงบ้าง และวันนี้ก็ถึงวันที่อาฮั่นต้องลงแข่งว่ายน้ำ เหว่ยอี้พยายามฝืนสังขารลุกขึ้นแต่งตัวเพื่อไปเป็นกำลังใจให้อาฮั่น
.......................................................................................................................................
เหว่ยอี้พยายามฝืนเดินมาถึงสระว่ายน้ำที่ใช้เป็นสนามแข่ง ตาของเขาเริ่มพร่ามัวเห็นไม่ชัดเจน
"ความจริงแล้วการที่ไม่ได้ยินเสียง ในโลกแห่งความเงียบ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน มันทำให้เรารู้สึกสิ้นหวัง"
เหว่ยอี้รำพึงในใจพยายามใช้ราวบันไดประคองเดินขึ้นไป
อาฟู่ที่มานั่งดูอยู่ก่อนแล้วเหลือบเห็นเหว่ยอี้เดินเข้ามารีบวิ่งไปหา
"ผู้จัดการทางนี้ครับ"
อาฟู่เห็นเหว่ยอี้ดูเบลอๆจึงถามอย่างสงสัย
"คุณไม่สบายเหรอ"
เหว่ยอี้พยายามเพ่งมองแกล้งโกหก
"ผมลืมใส่คอนแทคเลนส์น่ะ"
อาฟู่พาเหว่ยอี้ไปนั่งกับพวกเขา อาฮั่นลงแข่งว่ายน้ำและเป็นผู้ชนะ ทุกคนดีใจมากรีบวิ่งไปหาอาฮั่น เหว่ยอี้ดีใจพยายามฝืนตัวลุกขึ้นเดินตามไป
เซินเซินมาถึงฉิงเต้า เธอเดินออกมารอแท็กซี่ที่หน้าสนามบิน สีลี่ขับรถมาจอดให้เซินเซินขึ้นแล้วพามาส่งที่สระว่ายน้ำ เซินเซินรีบวิ่งเข้าไปทันที
เหว่ยอี้เดินเกาะราวเหล็กมาแล้วอาการปวดท้องของเขาก็กำเริบขึ้น เหว่ยอี้อาเจีนยออกมาเป็นเลือดเขาค่อยๆทรุดลง อาฮั่นมองมาด้วยความเป็นห่วง เซินเซินกวาดตามองหาเหว่ยอี้ แล้วเธอก็ตะโกนขึ้น ปรากฏว่าเสียงของเธอดังก้องออกมา
"ฉีเหว่ยอี้...."
ทุกคนได้ยินเสียงหันมามองเห็นคนที่ตะโกนเป็นเซินเซินก็ตะลึง เหว่ยอี้ค่อยยันกายลุกขึ้นมองเซินเซินอย่างแปลกใจ
"ฉีเหว่ยอี้...ฉันชอบคุณ"
เหว่ยอี้ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เขาใช้ราวเหล็กพยุงพยายามเดินมาหาเซินเซิน....เซินเซินรีบเข้าไปหาเขายืนมองเขานิ่ง เหว่ยอี้เดินเซมาหา ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันที่ริมสระ เซินเซินยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา
"ฉันรักคุณ"
เซินเซินพูดเบาๆ
"ผมรู้แล้วล่ะ"
เหว่ยอี้พยายามฝืนยิ้มร่างกายโงนเงนแทบยืนไม่ไหว
ทุกคนได้ยินอย่างนั้นก็ปรบมือให้ทั้งสองคนดังลั่น...ทันใดนั้นเหว่ยอี้ก็ทรุดแล้วล้มลงร่วงไปในสระ เซินเซินตกใจสุดขีดร่างที่ไร้สติของเหว่ยอี้ดำดิ่งสู่ก้นสระ เสี้ยววินาทีนั้นเซินเซินพุ่งลงสระทันที เธอเข้าไปคว้ามือของเขาดึงขึ้นมาจากผืนน้ำได้สำเร็จ
.....................................................................................................................................
หลังจากเหว่ยอี้ได้รับการปฐมพยาบาล ลุงเปี่ยนโต้ว อาฟู่ และเสี่ยวหง ได้ช่วยเซินเซินพาเหว่ยอี้มาที่บ้านคริสต์มาส เซินเซินได้เดินออกมาส่งทั้งสามคน และขณะที่เธอจะเข้าบ้านฮั่นซินก็มาถึง เซินเซินยิ้มให้จำได้ว่าเขาเพื่อนของเหว่ยอี้ที่เคยมาดูอาการป่วยของเธอที่บ้านเหว่ยอี้ เซินเซินกับฮั่นซินจึงนั่งคุยกันที่หน้าบ้าน
"คุณรู้มั๊ย ทำไมเขาถึงยอมผ่าตัด.....เพราะคุณ เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อคุณ แต่โชคชะตาไม่ให้โอกาสกับเขาเลย เพราะฉะนั้นเขาถึงได้ปิดบังความรู้สึก และพยายามที่จะอยู่ห่างจากคุณมากที่สุด ถึงขนาดไม่ยอมที่จะเจอคุณ"
เซินเซินร้องไห้อย่างเสียใจ เมื่อรู้ความจริงทั้งหมดว่าเหว่ยอี้จะจากไปอีกไม่ช้า...ฮั่นซินมองอย่างสงสาร
"เขาไม่อยากใช้เวลาสามเดือนของเขามาใช้เติมเต็มความสุขของตัวเอง"
เซินเซินน้ำตาใหลพราก นึกถึงคำพูดเหว่ยอี้ที่เจอกันในห้องลับ
"มันเป็นแค่เพียงเกมๆหนึ่งเท่านั้น คุณทำแบบนี้ คุณไม่คิดว่ามันโง่เกินไปหน่อยเหรอไง ผมมีคู่หมั้นแล้ว แล้วผมก็เคยมีแฟนมาตั้งหลายคน คุณอยากเป็นหนึ่งในนั้นหรือไง"
เซนเซินนึกถึงตอนที่เขาจูบเธออย่างหยาบคาย
"คุณอยากให้ผมทำแบบนี้ใช่มั๊ย"
"จริงๆไม่ใช่แค่สามเดือน แต่เป็น 13 ปี เขารักคุณทา 13 ปี ตั้งแต่เขาได้พบกับคุณในตอนนั้นจนถึงตอนนี้"
เซินเซินไม่สามารถเก็บความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจไว้ได้อีกเธอร้องไห้โฮออกมา
"ตอนนี้เหว่ยอี้ไม่มีเวลาเหลือแล้ว คุณกลัวหรือเปล่า"
ไม่มีคำตอบจากเซินเซิน มีแต่สายตาที่เข้มแข็งพร้อมยอมรับทุกอย่างได้ ฮั่นซินยิ้มให้กำลังใจ
.....................................................................................................................................
เซินเซินเดินเข้ามามองเหว่ยอี้ที่นอนนิ่งสงบอยู่บนเตียงอย่างสงสาร น้ำตาของเธอใหลพร่างพรู เซินเซินเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งข้างๆเตียง จับมือของเขามากุมไว้แล้วรำพึงในใจ
"ฉันไม่มีเวลาที่จะต้องกลัวอีกแล้ว ฉันต้องใช้เวลาอยู่กับเขาทุกๆนาทีทุกๆวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด แล้วทำให้พวกเราเป็นคู่รักที่มีความสุขที่สุดในโลก"
เซินเซินจ้องมองหน้าเขาอย่างมุ่งมั่นแล้วหลับตาฟุบหลับลงไปตรงนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาเซนเซินก็ไม่เห็นเขาอยู่บนเตียงแล้ว เธอตกใจจึงกวาดตามองหา เมื่อเธอลุกขึ้นจึงพบว่าเขาเปลี่ยนชุดใหม่รออยู่หน้าห้อง ซักครู่เขาหันมามองเอ
"คุณกล้าไปผจญภัยกับผมในที่ไกลๆมั๊ย"
เซินเซินนิ่งคิดแล้วยิ้มตอบเขาทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
ทั้งสองพากันออกมาจากบ้านมานั่งเล่นกันในทุ่งหญ้าบนเนินเขา เหว่ยอี้นั่งพิงไหล่เซนเซินหลับตาอย่างมีความสุขซักครู่จึงพูดออกมาเบาๆ
"จริงๆแล้ว สำหรับมนุษย์ต่างดาว การอยู่หรือตายมีค่าเท่ากัน แต่คนที่จากโลกนี้ไป ทุกคนก็จะไปอยู่ที่นั่น"
เหว่ยอี้เหลือบตาขึ้นมองบนท้องฟ้า เซินเซินมองตาม ซักครู่เขาหลับตาลงอีกครั้ง
"คนที่จากโลกนี้ไป พวกเขาจะไปอยู่ที่ ลักกี้ สตาร์ อยู่บนท้องฟ้า ส่องแสงประกายเหมือนกับว่ากำลังกระพริบตาให้คุณอยู่"
เหว่ยอี้เหลือบตามองเซินเซิน แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ชาติหน้า...ผมจะคิดถึงคุณ เซินเซิน ชาติหน้าผมสัญญา ผมจะไม่จากคุณไปเร็วแบบนี้ ผมสัญญา"
เหว่ยอี้และเซนเซิน ทำท่า ลักกี้ สตาร์ ด้วยกัน เหว่ยอี้หลับตายิ้มอย่างมีความสุข ทันใดนั้นมือที่คล้องเกี่ยวกับมือของเซนเซินก็ค่อยๆหลุดร่วงหล่นลง เซินเซินมองมือของตัวเองที่ค้างอยู่อย่างเศร้าเสียใจ เซินเซินร้องไห้น้ำตาใหลพรากค่อยๆประคองให้เหว่ยอี้นอน เอาหูฟังเครื่องเล่นเพลงข้างหนึ่งเสียบที่หูเขา แล้วเอาอีกข้างหนึ่งเสียบกับหูตัวเองพร้อมกับทรุดตัวลงนอนเคียงข้างเขา เซินเซินเอื้อมมือไปจับมือเหว่ยอี้ทำท่า ลักกี้ สตาร์ แล้วหลับนอนฟังเพลงร่วมกันอย่างมีความสุข
......................................................................................................................................
แม่เหว่ยอี้นั่งดูวีดีโอที่เหว่ยอี้อัดไว้อย่างตะลึงงัน เมื่อเห็นภาพของเหว่ยอี้กำลังพร่ำบอกอย่างทรมาน
"แม่ ผมไม่ยินยอม ผมไม่อยากตาย ผมไม่อยากตายจริงๆ"
ภาพบนจอดับวูบไป ทันใดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แม่มองโทรศัพท์อย่างกังวลใจ เธอค่อยๆเอื้อมมือที่สั่นเทาไปหยิบมารับสาย
"ฮัลโหล...."
แม่ฟังเสียงอยู่ครู่หนึ่งก็ช็อกปล่อยหูโทรศัพท์หลุดมือ แม่ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก และดูเทปวีดีโอที่เหว่ยอี้ถ่ายไว้ เป็นภาพของเหว่ยอี้ที่ยิ้มแย้ม
"แม่ ผมเพิ่งรู้ว่า การรักใครอย่างไม่มีเงื่อนไข ก็สามารถเป็นยาที่รักษาความเสียใจได้.....แม่ครับผมคิดว่า อาฮั่นคือยาของแม่นะครับ"
เมื่อแม่ได้รู้ความต้องการของเหว่ยอี้ จึงตัดสินใจไปรับอาฮั่นกับอาหลินมาอยู่ด้วยตามที่เหว่ยอี้ต้องการ
......................................................................................................................................
คริสต์มาสปี2006
เซินเซินมาที่ห้องลับ เธอหยิบจดหมายที่เหว่ยอี้เขียนไว้มาอ่าน
"ผมขอโทษ ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจถึงคุณค่าของชีวิต คุณแต่งงานแล้วหรือยัง ทำไมคุณถึงไม่ยอมโทรหาผมเลย วันคริสต์มาสปี 2006 คุณจะมาที่นี่จริงๆรึเปล่า ผมมีคำถามมากมายที่อยากจะถามคุณ แต่ผมมีเหตุผลจำเป็นที่มาที่นี่ไม่ได้ เพราะที่ ลักกี้ สตาร์ ไม่มีตั๋วกลับมาบนดลกใบนี้น่ะสิ"
เซินเซินยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมหยิบสร้อยรูปดาวออกมาดู
"คุณยกโทษให้ผมได้ไหม ผมเดาว่าตอนนี้คุณกำลังพยักหน้าอยู่แน่ๆ แค่นี้แหล่ะ โชคดีนะ....ขาเข้าเฝือก"
......................................................................................................................................
PS. เธอรักใครชอบใครฉันไม่ว่า แต่เธออย่าควงมาให้ฉันเห็น ฉันไม่ไช่ผู้หญิงที่ใจเย็น ตบกระเด็นทั้งคู่ไม่รู้ตัว
10 ความคิดเห็น
จัยนะ แงๆๆๆ เส้ามากมาย
เราดุประจำนะ แต่ไฟดับตลอดวันสุก
55 เรยม่ะค่อยรุเรื่อง
จ๊วบบบ
ชอนเรื่องนี้มากๆๆเลยนะ เค้าได้ดูภาคจีนมาก่อนแล้ว ร้องไห้หลายฉากเลยอ่ะ ฮือๆ ผ่าง!!
ชอบเรื่องนี้มากๆๆเลยนะ เค้าได้ดูภาคจีนมาก่อนแล้ว ร้องไห้หลายฉากเลยอ่ะ ฮือๆ ผ่าง!!
พระเอกน่ารัก นางเอกน่ารัก นางร้ายน่ารัก พระรองน่ารัก ที่สำคัญคือ...คนดูน่ารักมั่กๆ
เราคิดว่าวิกจะไม่ตายในเรื่องอะ แล้วทำไมอยู่ๆเซินๆถึงพูดได้ เอ่า เงงเลย-*- แต่ก็สนุกค่ะ ขอบคุณค่า
ดีจ๊ะ
เรานั่งร้องไห้ด้วยแหละ น่าอายจัง แต่มันซึ้งอะ น่าเสียดายนะ พระเอกตาย ไม่อยากให้ตายเลย น่าสงสารนางเองอะ
เศร้าสุดๆๆอ่า
ตอนจบเค้าก้ออดดูอ่า 
ติดเข้าค่าย
ฮือๆๆๆๆๆๆ
รักไจ่ไจ๋จังอ่า10
ตามหาตอนจบไม่เจอ มาอ่านในนี้ก็ถือว่าโชคดีมาก "Lucky Star"
PS. สาวก คิเฮ LOVE LOVE^^
ไม่อยากได้ตอนจบแบบนี้เลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?