''นันทขว้าง''จวกใคร ใน''แฟนพันธุ์แท้ทัวร์นรกแตก''

[บูรฉัตร]

หลังจากที่เกิดเหตุชุลมุนเรื่องตั๋วเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ประเทศอังกฤษ ทั้งที่เดินทางไปถึงสนามแล้ว

เจ้าของตำแหน่ง "แฟนพันธุ์แท้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" จากการแข่งขันรายการ"แฟนพันธุ์แท้" อย่าง"เกี๊ยง" นันทขว้างสิรสุนทร ก็ได้คลอดพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเล่มที่ 10 ของเขา โดยใช้ชื่อว่า "แฟนพันธุ์แท้ ทัวร์นรกแตก" ตอนผีกาก้าปะทะ You'll Never Walk Alone 

แหม...แค่เห็นชื่อก็ทำให้หลายคนสนใจแล้ว ว่าพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มดังกล่าว จะมี "การแฉ" หรือ "พาดพิง" ไปถึงบริษัท เวิร์คพอยท์ ของ "เสี่ยตา" ปัญญานิรันดร์กุล หรือไม่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มันมีความจริงที่หลายคนยังไม่รู้ละเอียดเป็นอย่างไรกันแน่ "คม ชัด ลึก" มีคำตอบให้ที่นี่เป็นที่แรกจากปากของ นันทขว้าง หลังจากทีวีนัดสัมภาษณ์เขา...

ที่มาของ"พ็อคเก็ตบุ๊ค"

คือตัวผมเองมีพ็อคเกตบุ๊คมา9 เล่มแล้วทุกปีก็จะเขียนปีละเล่ม และจริงๆ คิดไว้ก่อนเดินทางแล้วว่า จะกลับมาเขียนเรื่องนี้ คือถึงไม่เกิดเรื่องก็จะเขียนอยู่ดี เพราะเตรียมเมโมรีการ์ดไป 5 อัน เตรียมเก็บรูป เพราะตลอดการเดินทางนานเกือบ 3 สัปดาห์ จะมีความแปลก มีเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมหลายอย่าง ทั้งฟุตบอล บันเทิง หนัง ดนตรี มิวเซียม อย่างเช่นความรู้บางอย่างเกี่ยวกับบอลว่า ทำไมถังขยะในเมืองลิเวอร์พูลถึงเป็นสีม่วง คือจะเป็นความรู้ที่สอดแทรกเข้าไปในเกี่ยวกับฟุตบอล

แต่อาจจะเป็นความโชคดี(มั้ง) ที่มีเรื่องตลกเกิดขึ้นหน้าสนามบอล ก็เลยกลายเป็นประสบการณ์ที่ฮาแตก เพราะคนดังหลายๆ คนก็โทรมาแซวว่า โชคดีแล้วที่เกิดเรื่องขึ้น เพราะมันตลกดี แก๊งเรื่องเล่าเช้านี้อย่าง เอกราช เก่งทุกทาง สรยุทธ น้องกุ๊กนี่ แช่งให้ติดคุกด้วย จะได้สัมภาษณ์สดๆ ในคุก (เขาเล่าพลางหัวเราะ)

เนื้อหาหนังสือเกี่ยวกับอะไร

แล้วเนื้อหาในเล่มเกี่ยวกับอะไรหนังสือเล่มนี้ เนื้อหาจะแบ่งเป็น 2 ส่วนส่วนหนึ่งเกี่ยวกับวัฒนธรรมฟุตบอล อีกครึ่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องบันเทิงทั่วไป เช่น ไปเที่ยวเกาะที่เอเธนส์ ไปเยี่ยมสตูดิโอของสี่เต่าทอง (เดอะ บีทเทิลส์) เพราะเป็นความตั้งใจที่จะไม่ให้เกี่ยวกับฟุตบอลล้วนๆแต่อยากให้กระจายไปสู่เรื่องบันเทิงต่างๆ เพราะไม่ต้องการให้หนังสือตัวเองมีแค่เรื่องแบบเดียว มันจะน่าเบื่อ ผมโชคดีอย่างหนึ่งที่เป็นคนเขียนหนังสือค่อนข้างเร็ว เลยลงมือเขียนตั้งแต่กลับมา เพราะคิดว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่ควรจะทิ้งช่วงเวลานานนัก กลับมาเลยลางาน 3-4 วันเขียนจนเสร็จ 4 วัน4 คืนเร็วกว่าทุกเล่มที่ผ่านมา

จะมีแฉไหม

หลายคนมองว่าพ็อคเก็ตบุ๊คประสบการณ์แบบนี้ต้องมีแฉใช่มั้ยแต่ผมไม่เอาด้วยนะ ต้องบอกอย่างนี้ ผมไม่ได้มีอะไรกับคุณปัญญา หรือเวิร์คพอยท์เลย เราเคลียร์กันจบ หลังจากกลับมา คุณปัญญา คุณประภาส ก็ดี มีการเคลียร์เรื่องทั้งหมดจนจบไปแล้ว แต่ในแง่ของหนังสือ ตัวเนื้อหาก็อาจจะมีเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องเล่าประสบการณ์สนุกๆ ในฉากนั้นว่ามันตลกยังไง แต่ไม่มีการแฉใดๆ เลย ขอยืนยัน เพราะตัวเองไม่ชอบอะไรแบบนั้น มีเพียงเนื้อหาประมาณ 2-3 ตอนที่เป็นการเปิดใจคุย ว่าทำไมตัวเองเคลียร์กับทางเวิร์คพอยท์ไปแล้ว

ถึงไม่ยอมกลับไปเล่นแฟนพันธุ์แท้แห่งปี ซึ่งผมไม่เคยบอกกับที่ไหนว่าทำไม ก็เอามาระบายว่าทำไม แต่ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อทางเขาแสดงความเป็นผู้ใหญ่ เราต้องเป็นผู้ใหญ่ด้วย ไม่ใช่งอแง และที่ผ่านมา ปฏิเสธสื่อเรื่องนี้ไปเยอะมาก ไม่พูดเลยเพื่อแสดงสปิริต

คดีนี้ตกลงจบหรือยัง

เรื่องคดีเบี้ยวตั๋วตรงนั้นเราเคลียร์จบแล้วทางเวิลด์แพลนเน็ต ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ กับเวิร์คพอยท์ก็ดี ที่เขาพยายามติดต่อกับเราทันทีที่เป็นข่าว เมื่อเขาพยายามติดต่อขอโทษ เราก็มอง ว่าเขาก็มีความรับผิดชอบระดับหนึ่ง เราก็ต้องแสดงความเป็นผู้ใหญ่ ด้วยการไม่โวยวายไปเรื่อย มันดูเด็ก กลับมาถึงเมืองไทย 3 วันก็มีการนัดกันกินข้าวพูดถึงแนวทางของคดีนี้ว่าจะเป็นยังไง การเรียกร้องค่าเสียหายกันระหว่างทนายความ 2 ฝ่ายก็ให้เขาเรียกร้องกันเอง เรื่องมันก็จบไป เนื้อหาบางส่วนที่พูดถึงความกระจ่างของเรื่องนี้ เพราะมีคนส่วนหนึ่งที่อยากรู้ว่ามันจะจบยังไง

 และผมก็ต้องแคร์แฟนๆ แคร์คนอ่าน เพราะพวกเขามีบุญคุณกับผมตอนเกิดเรื่อง ได้ให้กำลังใจกันเหมือนเพื่อน ตอนนั้นบล็อกคนเข้าเกือบ 8 หมื่นคน เราจะไม่แคร์เขาได้อย่างไร

แต่ขอย้ำว่าคุณปัญญาหรือพนักงานทุกคนในเวิร์คพอยท์ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการว่ากล่าวร้ายอะไรเลย มีนักข่าวถามว่า เวิร์คพอยท์โทรขอไว้ด้วยหรือเปล่าว่าห้ามเขียน ไม่มีครับ คือคนบ้าๆ แบบผม ถ้าจะเขียนซะอย่าง เวิร์คพอยท์ก็ขอไม่ได้หรอก แต่เมื่อเราดูแล้วผู้ใหญ่เขาก็รับผิดชอบแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เราก็ต้องขอบคุณเขาและแฟร์กับเขา แต่จะมีบทหนึ่ง คงต้องมีใครสักคนโดนด่า ผมออกปากว่าขอด่าเลยครับ

เรื่องอะไร

ผมไม่รู้จนวันนี้ว่าใครก็ตามที่ปล่อยข่าวว่าผมหุนหันพลันแล่น ใจร้อนซื้อตั๋วไปก่อน ผมขอด่าตรงนี้เลยว่า เลวมาก ผมไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าว เพราะในความจริง คือไม่มีใครหุนหันพลันแล่นซื้อตั๋วก่อนเลย เพราะผมซื้อตั๋วก่อนแข่ง 10 นาทีบอลเตะบ่ายสาม ซื้อตั๋วได้แบบทุลักทุเล เวลา 14.50 น. คุณสรยุทธ (สรยุทธสุทัศนะจินดา) ยังบอกเลยว่าทำไมซื้อช้ามาก เป็นเขา เขาซื้อตอนเที่ยงแล้ว ทำไมถึงได้ใจเย็นขนาดนี้ คือผมติดใจเรื่องนี้มาก แต่ก็ไม่อยากรู้แล้ว เอาเวลาไปทำงานดีกว่า และมันก็ผ่านไปแล้ว ตั๋วจริงก็ไม่เคยมาถึง จนวันนี้ ไม่มีทั้งนั้น ผมหรืออีกคน ไม่เคยมีใครได้ตั๋วจริงจนวันนี้ แม้แต่คุณสุธน

มีข่าวว่าจะกลับไปเล่นแฟนพันธุ์แท้

มีคนตั้งข้อสังเกตว่าถ้าไม่ใช่ นันทขว้าง สิรสุนทร ทางคู่กรณีอาจจะไม่กระตือรือร้นขนาดนี้เลยหรือเปล่า (เขานิ่งไปนาน) "ไม่รู้นะ คุณต้องไปถามเวิร์คพอยท์เอง แต่ผมไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนยิ่งใหญ่ เป็นลูกชาวบ้านคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถึงเป็นคนธรรมดาแต่ในบ่ายวันที่ 13 พฤษภาคมเวลา 3 ทุ่มเมืองไทยจะเป็นคนธรรมดาหรือเป็นอะไร ผมก็จะโวยอยู่ดี เพราะผมไม่ชอบการถูกเอาเปรียบ เมื่อคุณเอาเขาไปขายในรายการเกมโชว์แล้ว ก็ควรจะต้องดูแลเขาด้วย ทุกคนเลยไม่ใช่ผม แต่มันก็ดีนะ เพราะได้ข่าวว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในบริษัทเขาบางแผนกเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ว่าจะต้องมีฝ่ายติดตามดูแลเดอะวินเนอร์ มันก็ดี เขาก็พยายามจะไม่มีข้อผิดพลาดอีก คนเป็นแชมป์ต่อไป ก็จะได้รับการดูแลมากขึ้น

เข็ดไหมเจอแจ็คพอตทั้ง "มหานคร" และ"แฟนพันธุ์แท้"

ตอนมหานครผมไม่ได้ติดใจอะไร เพราะมันก็เป็นเกมของผม ที่ผมจงใจไปนั่งเงียบๆ ไม่เถียงคุณต้อม (ยุทธเลิศสิปปภาค) ใครอยากจะพูดจาหยาบคายออกทีวีก็เชิญแต่ผมไม่เอาด้วย นั่งด่าแม่กันออกทีวีไม่ยากหรอกครับ สบายมาก แต่คนดูได้อะไรล่ะ เออ ถ้าด่าเขาแล้วเศรษฐกิจดีขึ้น ไฟใต้ดับลง ผมคงจะด่าปู่ย่าตายายเขาด้วย แต่มันได้อะไรหรือเปล่า ก็แค่ความสะใจ แล้วยังไง...ผมเจ็บปวดอะไรหรือ

ส่วนเรื่องแฟนพันธุ์แท้ตอนนี้ในเวบบล็อกผม มีหลายคนเชื่อกัน เวิร์คพอยท์จะมากล่อมให้เล่นแชมป์แห่งปี บางคนบอกนันทขว้างเปลี่ยนใจกลับไปแข่งแน่ๆ เรียนได้เลยว่า ไม่มีทาง ถ้าผมกลับไปเล่น ผมก็หมาแล้ว พูดไม่มาตลอด จะกลับไปได้ยังไง ผมไม่ใช่นักการเมืองนะ เดี๋ยวเปลี่ยนพรรคๆๆ ประเด็นของผมไม่เล่นไม่ใช่ว่าโกรธ แต่ไม่ไปเล่น เพราะไม่อยากจะเล่นแล้ว ผมไม่แฮปกับระบบบางอย่างที่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้ เช่นผมไม่ชอบการผิดเวลา ไม่ชอบไปรอใคร 2-3 ชั่วโมง ผมมีงานเยอะเกินกว่าจะไปนั่งรอใครไม่ว่ากันครับ เกมใหญ่ต้องรอกันหลายฝ่าย เข้าใจแต่ไม่เอาแล้ว

ตอนนี้ของรางวัลได้ครบหรือยัง

(อึ้งไปนาน) มีบางส่วนอยู่ที่คุณสุธน อภินันทเวช แชมป์แฟนพันธุ์แท้อีกคนหนึ่ง เขาก็โทรมาให้ไปแบ่งอยู่ แต่ผมอาจจะยกให้หมด ไม่เอาแล้ว เพราะว่าที่บ้านนี่ ก็มีเพียบแล้ว บางอย่างมันแบ่งไม่ได้ เลยช่างมัน แต่ผมไม่ติดใจเรื่องของรางวัลใดๆ แล้ว ไม่มีอะไรคาใจกับเวิร์คพอยท์แล้ว ทำงานดีกว่าครับ งานเยอะ

เป็นอันว่าหมดข้อสงสัยนะจ๊ะคุณผู้อ่านทั้งหลาย...ยส่วนนักวิจารณ์บล็อกระเบิดจะด่าใครในหนังสือเรื่องนั้นๆ ติดตามกันได้วันที่ 27 มิถุนายนนี้

 ที่มาจาก

---

PS.  ขอทรยศคนทั้งโลกดีกว่าให้ คนทั้งโลกมาทรยศ

Comments

[shiroro]

อืมได้ดูตอนที่คุณสรยุทธ สัมภาษณ์คุณนันทขว้างออกทีวีช่วงข้าวเหมือนกัน  ฟังดูแล้ว ถ้าไม่คิดอะไรมองโลกในแง่ดีสักหน่อย ประสบการณ์ที่ผ่านมันก็ดูฮาอย่างที่คุณนันทขว้างเล่านะ <!--PS-->
<hr width=80% size=1 align=left color=#9E9E9E>
<font color=#6F6F6F>PS. ข้าน้อยคือนักเพนจร ท่องทะยานไปในไดอารี่ของสหายชาวยุทธ ผู้นำกองทัพหมาน้อยพเนจร สหายเอื้ออาทรแห่งเว็บไซต์เอเอสเค www.askmedia.co.th/book  ขอส่งเทียบเชิญแทนเจ้าสำนัก เชิญสหายมาร่วมเป็นหนึ่งในสาวก</font>