Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เบื้องหลังฟาร์มเลี้ยงหมู !!! (ความจริงที่ใครหลายคนอาจไม่รู้)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

!!!เบื้องหลังฟาร์มเลี้ยงหมู !!!
(ความจริงที่ใครหลายคนอาจไม่รู้)
--------------------------------------
ขอให้อ่านความคิดเห็นเหล่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อเนื้อหาในกระทู้นี้

*ด้วยความหวังดีจาก จขกท.*

ความคิดเห็นที่ 65
บทความนี้เป็นการเผยแพร่..............หรือเปล่า
เพราะมีความลำเอียงนำเสนอข้อมูลในแง่ลบมากๆ
สงสัยว่าเจ้าของกระทู้ไม่ใช่คนนับถือพุทธแน่นอน

PS.  ชีวิตนี้เพื่อโลกของทุกชีวิต
Name : juyz < My.iD > [ IP : 125.24.110.68 ]
Email / Msn:
วันที่: 13 กรกฏาคม 2550 / 10:49
ความคิดเห็นที่ 25
นี่คุณ จขกท หมูน่ะ เราเรียกว่าฟาร์มหมูใช่มั๊ย มันก็ต้องดีสิ อาหารน่ะ เค้ามีอาหารของหมูโดยเฉพาะมิใช่ของเหลือจะเป็นอาหารแบบเม็ด  ส่วนข้างในเล้าของมันน่ะไม่ได้สกปรกอย่างที่คิดมีคนที่เป็นคนดูแลอยู่ในนั้นเค้าจะทำความสะอาดแคะอุจจาระของมันทุกวัน คอกอาจมีเหม็นบ้างสาเหตุเพราะขี้ของมันนั่นเอง (หรือว่าคุณคิดว่าขี้ของสัตว์ชนิดใดในโลกนี้หอมบ้างคะ) ส่วนเขี้ยวที่ต้องตัดเพราะว่าถ้าไม่ตัดออกบ้างมันจะทำให้มันกัดกันเอง ทำให้ตัวเป็นรอยและหางที่ตัดก็เพราะถ้าไม่ตัดคุณคิดว่ามันจะยาวได้มั๊ยคะ  ส่วนที่คล้องด้วยโซ่แม่หมูที่ตั้งท้องอ่ะ ไม่จริงเลยมันแค่อยู่ในกรงของมันเท่านั้น ถ้าไม่ขังมันไว้ แล้วจะให้มันไปอยู่ที่ไหนล่ะคะ  ส่วนฟาร์มหมูบางฟาร์มจะทำระบบฟาร์มอีแว๊บเป็นระบบแบบปิดที่ป้องกันเชื้อโรค หรือไวรัสต่างๆ ที่สามารถติดต่อได้ ถ้าคุณเคยเห็นหรือเคยเข้าไปในฟาร์มหมูจริงๆ คุณจะรู้ว่ามันไม่ได้สกปรกอย่างที่คุณคิด เพราะเค้ามีระบบของเค้าก่อนที่จะเข้าข้างในต้องล้างน้ำยาฆ่าเชื้อ ใส่ชุดคลุม สรุปคือมันยังดูดีและสะอาดปลอดภัยมากกว่าที่คุณคิด
Name : เคยเห็นของจริงมาแล้ว [ IP : 222.123.125.251 ]
Email / Msn:
วันที่: 12 กรกฏาคม 2550 / 19:09
ความคิดเห็นที่ 11
หมูอร่อย ให้เลิกกินหมูไม่มีทางหรอก
หมูที่เลี้ยงในฟาร์มเขามีน้ำให้มันกินทางท่ออยู่หรอก ใครว่ามันกินฉี่ตัวเอง เคยไปดูฟาร์มหมูจริงๆหรือเปล่า

สัตว์ทุกอย่างสกปรกหมดแหละ กินอะไรก็ไม่ปลอดภัยหรอก อีกไม่กี่ปีมนุษย์ก็หมดโลกแล้ว เพราะสิ่งแวดล้อมโดนทำลาย

PS.  ชีวิตนี้เพื่อโลกของทุกชีวิต
Name : juyz < My.iD > [ IP : 125.25.187.182 ]
Email / Msn:
วันที่: 12 กรกฏาคม 2550 / 15:31
ความคิดเห็นที่ 26
จริงๆ แล้ว คุณ ก็ไม่ได้รู้ อะไร เลย = =lll

เอาเถอะๆ

ไป ศึกษามาใหม่นะครับ

ออ ก่อน ที่จะ มาเถียงผม นะ

รู้ จัก ระบบการเลี้ยงที่เรียกว่า อีแวป ไหม ครับ?

ทั้งหมูทั้งไก่ ตอนนี้ใช้เหมือนกันหมด ต่างกันแค่เพียงโครงสร้างพื้นฐาน ที่ยืนเท่านั้นเองเพราะ หมู น้ำหนักตัวมากกว่า

ถ้าไม่รู้ ก็ อย่า สู้กับผม ให้เสียเวลานะครับ จะเจ็บตัวเปล่าๆ

ผม มี ความรู้ เกี่ยวกับการเกษตร มาก พอตัวเชียวล่ะ โดยเฉพาะ ปศุสัตว์นี่เอ่อ ดร. คนนี้ มีเอกสาร อ้างอิง ไหม ครับ แล้ว มีภาพ ถ่าย ขนาดไหน โรงฆ่าสัตว์ ของที่ไหน หรือ ? เอ ของ C.P. เขา ฆ่า ยังไง คุณ ทราบไหม เอ่ย หรือ เครือ สห ล่ะ หรือ เบทราโกร คุณ รู้ จักไหม?

แล้ว นะ พยาธิที่คุณ กล่าวอ้าง มีนม มานานเป็น พันล้านปีแล้วนะครับ แค่ ทำให้ มัน สุก เสียมันก็ตายหมดแล้ว หรือไม่รู้จัก คำว่าสุขอนามัย?

แค่ไม่ล้างมือก่อนหยิบอะไรเข้าปาก พยาธิมันก็ยิ้มแล้วไม่ต้องมองไปถึงเนื้อ สัตว์หรอกครับ

เอา ล่ะ ผม อยู่ ตรงนี้ไม่ไป ไหน และ ลังรอดู คุณ ว่าจะออกมาตอบยังไง


PS.  เพียง ลิ้น พลิกฟ้า กลืนสวรรค์ เกี่ยว กระหวัด ฉุดท่าน สู่นรก อเวจี
Name : Abyss of hell < My.iD > [ IP : 125.27.248.60 ]
Email / Msn:
วันที่: 12 กรกฏาคม 2550 / 19:17
ความคิดเห็นที่ 44
บ้านเราก้เป็นหนึ่งในผู้ที่เลี้ยงหมู  แต่ไม่ได้เลี้ยงแบบที่บทความนี้บอกเลยซักนิด
น้ำเค้าก็มีให้กิน  ได้ให้หมูกินฉี่ตัวเองซะหน่อย  คอกก็ทำความสะอาดตลอดไม่มีให้หมูอยู่บนกองอุจจาระ ปัสสาวะ ของมันหรอก  เรื่องที่ว่าอยู่บนพื้นซีเมนต์  ถ้าไม่ให้เลี้ยงบนซีเมนต์  เลี้ยงบนพื้นดิน ก็ทำความสะอาดลำบาก  เพราะเค้าไม่ได้เลี้ยงกันแค่ไม่กี่สิบตัว  สารเร่งเนื้อแดงฟาร์มใหญ่ๆ เค้าก้เลิกใช้กันหมดแล้ว  เค้ารณรงค์กันมาตั้งนานจนเกษตรกรเค้ารู้ดี (เค้าก็กินหมูเมือนกันหนิ)  เด๋านี้เค้าควบคุมคุณภาพแล้วความสะอาดของฟาร์มดีจะตาย  มีฆ่าเชื้อทุกครั้งที่เข้าคอกหมู มีสัตวแพทย์ควบคุม   เรื่องที่ว่าตัดเขี้ยว ตัดหาง  เค้าก็บอกว่า  ถ้าไม่ตัด มันก็จะกัดหางกัน  แล้วก็หางจะเน่าด้วย  เค้าก็เลยตัดปัญหาเรื่องนี้ไป  
สัตว์ทุกชนิดมันก็มีพยาธิ  มีเชื้อโรค กันทั้งนั้นแหละ  แล้วแต่ว่าใครจะเลือกได้ดีหรือ ไม่ดี
เราว่า การจะมาตัดสินว่า หมูเป็นเนื้อที่อันตราย  มีแต่สารเคมี เชื้อโรค น่ะ  คงเป็นสมัยที่เค้ายังไม่มีการควบคุม  สมัยนี้ส่วนใหญ่ไม่มีแล้วแหละ
Name : doremepha < My.iD > [ IP : 125.26.111.220 ]
Email / Msn:
วันที่: 12 กรกฏาคม 2550 / 21:40
ความคิดเห็นที่ 53
ไม่จิงนะ เราขอยืนยันเพราะเราไปฝึกงานที่ฟาร์มเลี้ยงหมูมา (เราเรียนด้านสัตวบาล)
จิงๆแล้วหมูเปงสัตว์ที่สะอาดนะ จะถ่ายเป็นที่ในที่ที่เปียกอ่ะ แต่ที่ทุกคนเหงว่ามานเปือ้นอ่ะ
จาไม่ให้เป็นได้ไง ก็เลี้ยงซะมากมายจนไม่เป็นส่วน อึดอัดแบบไม่มีที่อ่ะ แล้วจาให้พวกมานไปนอนที่ไหนอ่ะ  ในฟาร์มเค้าก้มีน้ำให้ดื่มแบบเปงระบบท่อนะ  เราไม่รู้จาอธิบายยังไงอ่ะ
พวกเธอต้องไปสัมผัสกันเอง แต่คงยากเพราะถ้ามีคนเข้าไปภายในฟาร์มคนจะเป็นพาหะนำเชื้อเข้าไปไหนฟารืมอ่ะ
แล้วที่เราต้องตัดเขี้ยวหมูทันทีเพราะมันจะต้องดูดนมแม่ ถ้สไม่ตัดจะทามให้หัวนมแม่หมูเปงแผลได้
ส่วนที่ต้องตัดหางเนื่องจากว่าหมูมานจะกัดกันเองซึ่งเป็นเพราะการจัดระดับทางสังคมว่าใครเป็นพี่ใหญ่ แล้ะเค้าจาตัดเมื่อหมุอายุ 3-7 วัน

หมูเป้นสัตว์กินไม่เลือกก้จิง แต่หมูที่เราเลี้ยงไว้ขายตามฟารืมนะเค้ามีอ่าหารของมันนะ และเหมาะสมกับชนิด น้ำหน้ก และอายุมันด้วย บางที่อาจจะดีกว่าที่เรากินอีก
หมุแต่ละตัวมีการทำวัคซีนและตรวจโรคประจำทุกเดือนหรือตามรอบกำหนด

แล้วแม่หมูนะที่ท้องนะ ไม่มีการล่ามโซ่นะ จะบอกให้... และที่ต้องแยกเลี้ยงเพราะปกกันการแท้งเนื่องจากการทำร้ายกาน  แม่หมู่ที่ท้องนะเค้าจาดูเเลเป็นพิเศษจิงๆๆ และคุณรู้ไหมว่าก่อนที่คุณจาเข้าไปได้นะ เค้ามีระบบของเค้าก่อนที่จะเข้าข้างในต้องล้างน้ำยาฆ่าเชื้อ ใส่ชุดคลุม
แล้ววิธีเข้าไปดูหมูนะต้องเริ่มจากลูกหมูก่อนแล้วจึงไปจบที่หมูสำหรับขาย
และอีกอย่างนะ ถ้าเค้าเลี้ยงกานยังงี้จิง แล้ว cp เบทาโกร จาส่งหมูออก ตปท .ได้ยังไง

มีเรื่องอีกมากมายที่คุณไม่เคยสัมผัส จงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
Name : เด็กสัตวบาล ปี4 [ IP : 161.246.1.34 ]
Email / Msn:
วันที่: 12 กรกฏาคม 2550 / 23:29
ความคิดเห็นที่ 61
*****ช่วยอ่านด้วยนะคะอยากจะอธิบายให้เข้าใจ*****
อยากจะขออธิบายและแสดงความคิดเห็นจากบทความเบื้องต้น
    ฟาร์มที่ดีน่าเชื่อถือการจัดการฟาร์มของเขาก็จะดีเป็นระบบ โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ อาหารสัตว์ทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ วัคซีน การเลี้ยงย่อมดีด้วย และยังมีสัตวแพทย์ประจำฟาร์ม และยังมีคนจากกรมปศุสัตว์ไปรับเนื้อหมูมาตรวจหาเชื้อทุกอาทิตย์(คุณพ่อเป็นคนสั่งให้ลูกน้องไปเก็บตัวอย่างกับมือ)
    แม่สุกรที่คลอดลูกได้1สัปดาห์ ไม่สามารถนำไปผสมได้เนื่องจากอยู่ในช่วงการให้นมบุตร ต้องรอจนกว่าลูกจะหย่านม(ลูกอายุประมาณ 4 สัปดาห์ ) และหลังจากลูกหย่านมแล้ว5-7วัน แม่สุกรจึงกลับ (เป็นและสามารถผสมได้อีกครั้ง)
    การตัดหางลูกสุกรตั้งแต่เล็ก เพราะว่าเวลามันโตขึ้นลูกสุกรจะไล่งับหางกันเองทำให้เกิดเป็นแผลอักเสบและอาจลามจนทำให้ต้องตัดหางไปในภายหลัง จึงจำเป็นต้องตัดหาง และที่ตัดแต่อายุน้อยเพราะจะเป็นการง่ายต่อการตัด และเป็นอันตรายต่อสัตว์น้อยกว่าตอนโตเพราะจะต้องเสียเลือดมาก
    การตัดเขี้ยวแต่กำเนิดเพราะว่าลูกสุกรเวลาเกิดจะมีเขี้ยวและฟัน8ซี่ทั้งบนและล่างเวลาดูดนมแม่สุกรจะเจ็บและไม่ยอมให้ดูดนม ลูกจะอดนม ขาดสารอาหาร และตายในที่สุด
    แม่หมูที่อยู่ในช่องเพราะกำลังอยู่ในช่วงให้ผลผลิต(ตั้งครรภ์) จะต้องอยู่ในกรงตับเพื่อการดูแลได้อย่างทั่วถึง ทั้งอาหาร น้ำ ยา(กรณีเจ็บป่วย)สามารถรักษาได้ทันและหากเป็นโรคจะได้คัดออกทันไม่ลามไปทั่วอย่างการเลี้ยงปน และอาหารที่ให้ก็จะได้ครบตามที่ร่างกายและลูกในท้องต้องการ อีกทั้งยังเป็นการลดการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างแม่หมูด้วยกันเอง ซึ่งอาจจะทำให้บาดเจ็บและแท้งลูก
    ฟาร์มในปัจจุบันเลี้ยงหมูบนพื้นสแล็ก(ที่เป็นพื้นที่มีช่องว่างเป็นเหมือนตาข่าย) เพราะจะสะอาด แห้ง ระบายอากาศดี ทำความสะอาดง่าย ปัสสาวะและอุจจาระจะลงไปด้านล่าง ล้างทำความสะอาดได้ง่าย อยู่สบาย เพราะถ้าอยู่แฉะจะทำให้เป็นปอดบวมและเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ถ้าปล่อยเลี้ยงตามดินเหมือนก่อน หมูจะกินดินและทำให้เป็นพยาธิ   พื้นซีเมนต์เองจะช่วยเรื่องการกันน้ำไหลย้อนกลับ น้ำขัง แห้งไง ทำความสะอาดง่าย และถูกสุขอนามัยสัตว์
    ทั้งพ่อและแม่หมุก่อนนำมาผสมพันธุ์จะได้รับวัคซีนครบถ้วน ทั้งการกำจัดพยาธิทั้งภายในและการฉีดพ่นยาภายนอกทุก6เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาห์สุกร วัคซีนปากเท้าเปื่อย วัคซีนพาร์โวไวรัส วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า (เทียม เชื้อเป็น เชื้อตาย) ตามเพศและอายุสุกร
    ในลูกสุกรเกิดใหม่เมื่ออายุได้4สัปดาห์หรือหลังหย่านม ผ่านไป 1สัปดาห์จะได้รับการถ่ายพยาธิ 1สัปดาห์ต่อมาจะรับวัคซีนอหิวาห์สุกร 1สัปดาห์จากนั้นจะได้รับวัคซีนปากเท้าเปื่อยตามลำดับ
    หมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงถูกกรมปศุสัตว์และกระทรวงสาธารณสุขห้ามจำหน่ายตั้งแต่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2546แล้ว
   หากคุณคนที่ยังไม่ทราบก็ทราบได้แล้ว แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ทราบเรื่องนี้ และถ้าคุณกลัวว่าเนื้อหมูที่คุณบริโภคจะมีเชื้อโรคหรือพยาธิก็ควรจะปรุงให้สุกซะก่อน(ก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว) หรือถ้ายังกลัวก็ควรจะเลือกบริโภคจากแหล่งที่มาที่ไว้วางใจได้ หรือได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ซะก่อน(เพราะคุณพ่อก็เป็นคนตรวจอยู่ ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่คะ) อาทิเช่น สุกรจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือจากบริษัทเบทาโกเป็นต้น และยังมีอีกหลายบริษัทที่ผ่านการรับรอง ทุกขั้นตอนการผลิตมาแล้ว แต่ถ้ายังกลัวอีกก็ควรจะหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆแทนได้แล้วล่ะค่ะ
   แล้วที่ทราบเรื่องราวต่างๆมาพอควรเพราะว่าคุณพ่อก็เป็นปศุสัตว์อยู่ เพื่อนๆที่คณะก็ทำฟาร์มสุกรอยู่หลายคน และเทอมนี้ก็เรียนเรื่องสุกรและการจัดการฟาร์มสุกรอยู่ด้วยค่ะ
   เด็กสัตวแพทย์ ปี2
Name : เด็กสัตวแพทย์ ปี2 [ IP : 124.120.61.82 ]
Email / Msn:
วันที่: 13 กรกฏาคม 2550 / 04:08
ความคิดเห็นที่ 67
ถึงเจ้าของกระทู้
การที่คุณนำเสนอความรู้ย่อมเป็นสิ่งที่ดี หากว่ากระทู้อาจบิดเบือนความเป็นจริงไปบ้าง ควรศึกษาและรวบรวมข้อมูลตลอดจนวิเคราะห์ผลที่ตามมาให้มากกว่านี้ ในสถนะการณ์ปัจจุบันประเทศไทยยังต้องนำเข้าเนื้อสัตว์จากต่างประเทศในหนึ่งปีต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านบาท หากคุณต้องการที่จะได้เนื้อหมูที่มีคุณภาพสูงออกวางจำหน่ายคุณอาจจะหาซื้อได้จากในห้างเท่านั้นซึ่งก็คือกิจการของคนต่างชาติ หากคุณอยากให้หมูมีความสบายตลอดชั่วชีวิตก่อนมาเป็นอาหารคนแล้ว(ก่อนโดนฆ่า) คุณต้องสร้างกระแสผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบการเลี้ยงแบบ"แอนนิมอล เวลแฟร์" จะเป็นการฆ่าเกษตรกรรายเล็กอย่างสมบูรณ์แบบ บริษัทต่างชาติจะได้เข้ามายำยีประได้เต็มที่ ไปเรียนก่อนมีโอกาสจะมาใหม่
ด้วยความนับถือ
Name : มาราศ [ IP : 203.158.140.133 ]
Email / Msn:
วันที่: 13 กรกฏาคม 2550 / 11:03
ความคิดเห็นที่ 66
เห็นด้วยกับข้อความที่ 26  นะค่ะ  ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็อย่ามาพูดเงียบๆ ดีกว่า
เนื้อวัว เนื้อหมูนะมันมีพยาธิทั้งนั้นแหละแต่พอลงหม้อแล้วมันก็ตายรวมถึงเชื้อโรคต่างๆด้วย แล้วมันก็ไม่ได้กินฉี่ด้วย น้ำเขาก็มีให้กิน แล้วขอถามหน่อยเหอะ ไปเห็นที่ไหนมาที่เขาเอาโซ่ล่ามหมูนะ หมูนะไม่ใช่หมามันไม่ดุหรอก ที่เขาตัดห่างก็เพราะหมูมีพฤติกรรมที่ชอบกระดิกหางเวลามันกระดิกไปโดนเพื่อนมันเพื่อนก็รำคาญแล้วก็กัดกัน  ก็ต้องเสียค่ายาค่ารักษามันอีก  และที่ตัดเขี้ยวเพราะ ไม่ให้มันกัดหัวนมแม่มันเวลาดูดนม  เข้าใจไว้ด้วยนะคะนี่หรือค่ะทรมานสัตว์  มันมีอีกหลายอย่างที่คุณไม่รู้  แต่ขอบอกว่าข้อมูลที่เขียนมามันทำร้ายเกษตรกรหลายคนยิงตอนนี้ราคาหมูไม่ดีด้วย  
Name : สัตวบาล [ IP : 203.158.140.133 ]
Email / Msn:
วันที่: 13 กรกฏาคม 2550 / 11:00
ความคิดเห็นที่ 57
นี่คือการเผยแพร่ศาสนาอิสลามหรือป่าว????
Name : Emo [ IP : 124.121.5.230 ]
Email / Msn:
วันที่: 13 กรกฏาคม 2550 / 00:03

จาก จขกท. : ถ้าข้อมูลเหล่านี้บิดเบือนจากความจริงก็ต้องขออภัย ณ ที่นี้
ขอบคุณสำหรับ เจ้าของความคิดเห็นที่ถูกตรง ข้าน้อยไม่ได้มีเจตนาที่ต้องการจะบิดเบือนแต่อย่างใด ต้องขออภัยจริงๆ (แต่ข้าน้อยคงจะยังไม่ลบกระทู้นี้ เพราะเหตุผลอันใดหวังว่าพวกท่านจะเข้าใจ) แล้วอีกอย่างข้าน้อยไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม (คือ อย่าโยงไปเกี่ยวกับเรื่องศาสนา มันจะไม่ดีกับพวกท่านเปล่าๆ)

ต้องขออภัยจริงๆที่การแก้ไขกระทู้ล่าช้า เพราะเมื่อวานข้าน้อยติดสอบ +.+"
-----------------



หมูจะถูกขังอยู่ในคอกที่สกปรกโสโครก มันจะดื่มน้ำปัสสาวะของตัวเอง เพราะเป็นแหล่งน้ำแหล่งเดียวของมัน หมูเหล่านี้จึงมีกลิ่นเหม็นติดตัว หมูที่เลี้ยงในฟาร์มจะเป็นโรคปอดอักเสบ 80 % แล้วคุณมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ได้รับเชื้อเหล่านี้เข้าไปด้วยในขณะที่คุณบริโภค

หมูกินของเหลือที่สกปรก จึงป็นแหล่งหมักหมมของพยาธิและเชื้อโรคมากมาย เพราะฉะนั้น มนุษย์ก็กินเนื้อหมูต่ออีกที จึงเป็นสาเหตุของการติดเชื้อพยาธิ ก็คือกินเนื้อที่ไม่สุก พยาธิยังไม่ตาย เมื่อกินเข้าไปก็ติดเชื้อ ถ้าไม่เสียชีวิตก็จะทำให้เจ็บป่วยเรื้อรัง

ผู้เลี้ยงสุกรจะใช้วิธีหยุดการแพร่ระบาด ของเชื้อโรคด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน ยาเร่งการเติบโตสารกันบูด สารสังเคราะห์ ยาดับกลิ่น ผสมกับอาหาร ดังนั้น เนื้อสัตว์เหล่านี้จึงเปรียบเหมือนคลังกักตุนเชื้อโรคและสารเคมีที่เป็นพิษมากที่สุด

  
 
หมูตัวเมียหรือแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง หลังคลอดลูกหมูได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ มันก็จะถูกนำไปผสมพันธุ์ใหม่ให้ตั้งท้องครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อเนื่องไปตลอดจนกระทั่งไม่สามารถเกิดลูกหมูได้อีก ถึงตอนนั้นแม่หมูเหล่านี้ก็จะถูกนำไปฆ่าเป็นอาหาร

ลูกหมูที่เกิดใหม่จะถูกหักเขี้ยวและตัดหาง ทันทีที่คลอดออกมา ทั้งที่มันยังลืมตาดูโลกได้ไม่ถึงวัน วิธีการเช่นนี้ ทุกคนต่างยอมรับว่าเป็นการกระทำที่ทารุณ แต่ก็ยังไม่วายกินกันได้ลงคอ

แม่หมูจะถูกขังอยู่ในคอกเล็กๆ พอที่จะให้มันลุกขึ้นยืนกับนอนได้แค่นั้น ตั้งแต่เกิดจนตายต้องทนอยู่ในกองปัสสาวะและอุจจาระที่สกปรก ช้ำยิ่งไปกว่านั้นแม่หมูเหล่านี้จะถูกคล้องด้วยโซ่เหล็กรอบตัวตลอดเวลา 4 เดือนที่มันตั้งท้อง

หมูเหล่านี้จะถูกเลี้ยงอย่างผิดธรรมชาติ ปกติมันจะหากินและใช้ชีวิตอยู่บนพื้นดิน แต่ในฟาร์มฯ พวกมันมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน เนื่องจากต้องยืนบนพื้นซิเมนต์ที่แข็งทำให้กีบเท้าของมันถ่างออกเป็น 2 แฉก ทว่าน้ำหนักตัวยิ่งมากเท่าใด มันจะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
 
 
เพื่อเป็นการบรรเทาความเจ็บปวด มันจะทรงตัวอย่างไม่สมดุลย์ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้มีผลกระทบต่อระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อโดยตรง ดังนั้น หมูที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มฯ ที่เป็นพื้นซิเมนต์ ในจำนวนนี้เกือบ 100 % ที่เป็นโรคพิการ

บันทึกโรคแทรกซ้อน ดร.นิมิตร มรกต

พยาธิตัวแบน พยาธิตัวตืดหมู พยาธิตัวตืดวัว ติดจากการกินเนื้อหมู และนื้อวัวดิบๆ อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กตัวยาว 1.5-12 มตร ส่วนใหญ่จะมี 1-2 ตัวในคนคนหนึ่งอายุจะยาวมาก ตัวตืดวัวอายุ 30-40 ปี ถ้าอยู่ในเนื้อหมูจะเป็นเม็ด คล้ายสาคูเม็ดใหญ่

ภาวะแทรกซ้อนของตัวตืดหมู คือตัวอ่อนขึ้นสมองได้ ทำให้เกิดอาการชัก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอัมพฤกษ์ พฤติกรรมเปลี่ยน คล้ายคนจะเป็นบ้า แต่ที่จริงแล้วเกิดจากพยาธิตัวนี้

เพราะฉะนั้น การกินเนื้อสัตว์นอกจากจะมีสารพิษสารเคมีตกค้าง ไขมัน คอเลสเตอรอล กรดยูริคแล้ว ยังมีโอกาสจะได้รับตัวเชื้อพยาธิ หรือไข่ของมันที่ทนต่อการปรุงอาหาร และขยายตัวออกลูกหลานในร่างกายของเรา ทำให้เกิดโรคภัยได้ง่ายเสมอ

อ้างอิงที่มา
http://thai.mindcyber.com/modules.ph...id=136&page=12

--------------------------------------------------------------------------------
คำเตือนถึงคนกินหมูไทย ไฉน....ต่างชาติเมิน

(คัดจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ-สกู๊ปหน้า 1)



ปัญหาเนื้อหมูไทยอันดับแรกที่ต่างประเทศรังเกียจคือ การเลี้ยง เลี้ยงให้อาหารเร่งเนื้อแดงสารเร่งเนื้อแดงที่เกษตรกรไทย ส่วนใหญ่นำมาผสมในอาหารสุกร มีชื่อตัวยาว่า ซัพบิวตามอล สารตัวนี้จริงแล้วเป็นสารที่ใช้ในการผสมตัวยา เพื่อแก้โรคหอบหืดสำหรับคนแต่พ่อค้าคนไทยมาประยุกต์ให้เป็นสารเร่งเนื้อแดง และเอามาแนะนำให้เกษตรกรผสมลงในอาหารหมู

" บ้านอื่นเมืองอื่นเขาสั่งห้ามใช้สารตัวนี้กันทั่วโลก มีแต่ประเทศไทยที่ยังอนุญาตให้ใช้กันอยู่อีก มีการใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งมีผลตามมาว่าสารตัวนี้ตกค้างอยู่ในเนื้อหมูของไทย " สารเร่งเนื้อแดงตัวนี้ รศ.ดร. ชัยณรงค์ อ้างการวิจัยในประเทศสเปน พบว่าเป็นสารก่อมะเร็ง สิ่งที่น่ารังเกียจอันดับต่อไป โรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบหมู วัว ควาย ที่ยังมีการพบอยู่ในเมืองไทยยังกวาดล้างได้ไม่หมด ประเทศที่เจริญแล้วไม่ต้องการนำเข้าสัตว์จากประเทศที่มีโรคนี้ระบาด เพราะเกรงเนื้อสัตว์ติดเชื้อเหล่านี้จะนำโรคไปแพร่ในบ้านเมืองเขา

วิธีการฆ่าชำแหละสุกร ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่อาจจะทำให้คนไทยได้คิด เนื้อหมูสะอาด ปลอดภัยจริงหรือ ??? 100 ปีที่ผ่านมา เราชำแหละเนื้อหมูแบบไหน วันนี้ก็ทำอย่างนั้น จะทารุณโหด สะอาดหรือไม่ พิจารณาเอาตามขั้นตอนต่อไปนี้


ขั้นตอนชำแหละ เริ่มจากพ่อค้าคนกลางไปติดต่อซื้อหมูจากเจ้าของฟาร์ม จับหมูยัดใส่ซองเหล็กขนาดพอดีตัว ขนใส่รถกระบะหรือไม่ก็รถบรรทุก 6 ล้อ มุ่งหน้าไปโรงฆ่าสัตว์ประจำอำเภอหรือจังหวัด ถึงที่หมายถ่ายหมูไว้ในคอกพัก 4-5 ทุ่ม ได้เวลาต้อนหมูเข้าห้องฆ่า ในจังหวะที่หมูกำลังเดิน มือเพชรฆาตไม้หน้าสาม เงื้อไม้ทุบลงบนหน้าผากหมูอย่างแรงให้สลบ เสียงหมูกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

เรื่องนี้จริงไม่จริง บ้านใครอยู่แถวโรงฆ่าสัตว์ไปถามดูได้ เสียงเสียดแทงใจแค่ไหน หมูสลบนอนอยู่บนพื้น

คราวนี้ถึงขั้นตอนใช้มีดคล้ายปังตอ แต่ปลายแหลมแทงเข้าที่ยอดอก ระหว่างซี่โครงคู่แรก ..... เลือดไหลออกมา เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่สู่หัวใจถูกตัดขาด คนงานจะใช้กะละมังรองเลือดไว้เพื่อส่งไปทำเลือดหมูต่อ ....เสร็จแล้วช่วยกันยกซากหมูไปแช่ในกระทะใบบัว ต้มน้ำร้อนใช้มีดขูดขนทั่วทั้งตัว ก่อนจะลากลงกองกับพื้น ..... ใช้มีดเลาะตัดแยกหัวออกจากซาก ...... จากนั้นใช้มีดฟันเปิดซากจากยอดอก เรื่อยไปจนผ่าท้องถึงสะโพกที่หว่างขาหลัง ....... เปิดซากแล้วเลาะอกอวัยวะภายในทั้งหลาย ออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ

ขั้นตอนทำความสะอาด ใช้น้ำฉีดล้างไล่สิ่งสกปรก อวัยวะภายในทั้งหลายทำกันบนพื้น ใกล้ซากหมู การปนเปื้นของจุลินทรีย์แบคทีเรียทั้งหลายจะมีสิทธิ์เข้าไปสิงสถิตย์ในเนื้อหมูหรือไม่ ลองคิดดูเอาเอง .... แต่เรื่องราวไม่ได้จบแค่นั้น ยังมีอีกหลายขั้นให้คิดถึง คิวใช้ปังตอเฉาะผ่าครึ่งซากหมูเป็น 2 ซีกตามแนวกึ่งกลางกระดูกสันหลัง ใช้น้ำล้าง แล้วลากซากทั้ง 2 ซีกรอขนขึ้นรถกระบะไปส่งตลาดสด แบกซากหมูเดินอวดโฉมไปทั่วตลาด มุ่งหน้าสู่เขียงหมู เหตุการณ์ช่วงนี้จะมีอะไรตัวเล็กจิ๋วขนาดตาเปล่ามองไม่เห็น โฉบมาติด แหมะอยู่หรือไม่..นี่แหละความสะอาดของเนื้อหมู ....


ที่มา
http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=139&page=8 

-----------------------------------------------------------------------------


---------------------------------------------




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 กรกฏาคม 2550 / 14:41
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 13 กรกฏาคม 2550 / 14:51
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 13 กรกฏาคม 2550 / 15:00
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 13 กรกฏาคม 2550 / 20:48

PS.  [- -] " ถ้ายังไม่มีความรัก เรารู้แน่ว่าจะต้องอยู่อย่างเหงา แต่ถ้าจะฝืนมีความรักให้จงได้ เราไม่รู้เลยว่าจะต้องทุกข์แบบไหน" ด้วยความเป็นห่วง-- วาทะดังตฤณ http://www.dungtrin.com/

แสดงความคิดเห็น

>

146 ความคิดเห็น

croel 11 ก.ค. 50 เวลา 16:17 น. 1

>>ความรู้เพิ่มเติม<<
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                  ตัวตืดหมู และ ตัวตืดวัว

                                                                                                    ผศ.เอื้อมพร  รัตนชาญพิชัย 

การกินลาบ แหนมดิบอร่อยแต่ระวังเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิ     

อาการหิวบ่อย รับประทานอาหารมาก แต่ร่างกายผอมลง รู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อาการเหล่านี้เป็นอาการแสดงว่า อาจมีพยาธิตัวตืด (Taenia spp.) อยู่ในร่างกาย เนื่องจากคนถูกตัวตืดแย่งอาหาร หรืออาจมีอาการทางประสาท นอนไม่หลับหรือเวียนศีรษะได้้

  พยาธิตัวตืดมีลักษณะอย่างไร?

       พยาธิตัวตืดเป็นพยาธิตัวแบน สีขาวขุ่น มีอยู่ 2 ชนิดที่เป็นพยาธิของคน คือ ตัวตืดวัว (Taenia saginata) และตัวตืดหมู (Taenia solium) ลักษณะลำตัวของตัวตืด เป็นเส้นแบนคล้ายเส้นข้าวซอย มีความยาวหลายเมตร ลำตัวเป็นปล้องๆ (รูปที่ 1) ส่วนปล้องท้ายสุด (รูปที่ 2) จะหลุดปนออกมากับอุจจาระคน หรืออาจจะคืบคลานออกมาจากทวารหนัก ภายในปล้องมีไข่พยาธิ (รูปที่ 3) อยู่มากมาย วัวควายหรือหมูกินไข่พยาธิเข้าไปแล้ว ไข่จะโตเป็นระยะตัวอ่อนเรียก เม็ดสาคู โดยมากพบอยู่ในกล้ามเนื้อหมู (รูปที่ 4) หรือวัวควาย มีขนาดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

tsolium tsolium tsaginata
ตัวตืดหมู
ตัวตืดวัว
tsaginata
  ปล้องสุกตัวตืดวัว (ประยงค์ ระดมยศ และคณะ)
ตัวตืดวัว

             

         

รูปที่ 3 ไข่พยาธิตืดหมู ตืดวัว             รูปที่ 4 เม็ดสาคูในเนื้อหมู

 (ที่มา: http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/cestode/frame_tr.htm-T. solium, T. saginata)

 bullet คนเป็นพยาธิตัวตืดได้อย่างไร?

       เมื่อคนกินอาหารที่ประกอบจากเนื้อหมู วัว ควายที่มีตัวอ่อนพยาธิอยู่ โดยกินดิบหรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ (รูปที่ 5) แหนม ตัวอ่อนก็จะโตเป็นพยาธิตัวแก่ในลำไส้เล็กของคน และจะมีอาการดังกล่าวได้ แต่อันตรายที่รุนแรงกว่าเกิดจากพยาธิตัวตืดหมู เนื่องจากคนอาจกินไข่พยาธิเข้าไปโดยปะปนกับอาหารหรือน้ำดื่ม ไข่พยาธิก็จะโตเป็นระยะตัวอ่อนเม็ดสาคูในร่างกายคน โดยไปอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง ตา หัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการรุนแรง ภาวะที่มีตัวอ่อนเม็ดสาคู cysticercus ในร่างกาย เรียกว่า ซิสติเซอร์โคซิส (cysticercosis) เมื่ออยู่ในอวัยวะที่สำคัญๆ เช่น ในสมองและไขสันหลัง (neurocysticercosis) บางทีรุนแรงอาจถึงตายได้ (รูปที่ 6) หรือ ตาบอดเมื่ออยู่ในตา (ซิสติเซอร์โคซิสของนัยน์ตา ocular cysticercosis)

lahb       

รูปที่ 5 ลาบดิบ                                 รูปที่ 6 เม็ดสาคูในสมองคน

        (ที่มา: ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)

 bullet การป้องกันและควบคุมโรคพยาธิตัวตืดหมูและตืดวัว

        ไม่กินอาหารที่ประกอบจากเนื้อวัวควาย หรือหมูดิบ หรือ สุกๆ ดิบๆ และควรจะซื้อเนื้อดังกล่าวที่ผ่านการตรวจจากโรงฆ่าสัตว์แล้วเท่านั้น คนที่มีพยาธิต้องรักษาให้หายขาด และไม่ถ่ายอุจจาระเรี่ยราดตามพื้นดิน หรือสนามหญ้า ควรถ่ายอุจจาระลงในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และไม่ใช้อุจจาระคนเป็นปุ๋ยรดผัก และอาหารที่กินต้องปรุงสุกจริงๆ หรือถ้าเป็นพวกผักสดต้องนำมาล้างให้สะอาดจริงๆ

---- www.med.cmu.ac.th/.../public/Taeniasis.htm


PS.  [- -] " ถ้ายังไม่มีความรัก เรารู้แน่ว่าจะต้องอยู่อย่างเหงา แต่ถ้าจะฝืนมีความรักให้จงได้ เราไม่รู้เลยว่าจะต้องทุกข์แบบไหน" ด้วยความเป็นห่วง-- วาทะดังตฤณ http://www.dungtrin.com/
0
++เบียงกี้++แช้บ!! แช้บ!! 11 ก.ค. 50 เวลา 16:54 น. 2

จะประกาศไม่ให้กินกันเลยใช่มั้ยย อิอิ
ต่างชาติก็กินหมูเยอะไม่ใช่หรอ เพียงแต่ที่เห็นกินไก้กันเยอะเพราะเนื้อไก่เป็นโปรตีนที่ถูกที่สุดแล้วในบรรดาหมูกะปลา

ยังไงข้อมูลก็มีประโยชน์ แต่ยังจะกินหมูต่อไป โฮะๆๆๆ

0
กำลังจะไป 11 ก.ค. 50 เวลา 17:50 น. 4

อืมขอบคุณค่ะที่นำความรู้ดีๆมาฝาก น่ากลัวมากเลย -*-

แต่มันก็หนีมะได้อ่ะมันก็ต้องกินอยุ่ดีอ่ะ แหะๆ แต่ก็ต้องระวัง

0
~OJค์XญิJจOมป่วu~ 11 ก.ค. 50 เวลา 19:31 น. 5

กินหมูก้อพยาธิ กินไก่ก้อไข้หวัดนก กินปลาก้อมีก้าง โหยยย กินเจไปเรย ง่ายดี


PS.  ~รักดงบัง กิ๊กเอสเจ แฟนBATTLE เอ็นดู SS501 ชอบ PARAN ปลื้ม BABY VOX.~ รักนายที่สุดซางมิน & คิฮยอน
0
แนนนี่ 11 ก.ค. 50 เวลา 21:35 น. 6

สงสารหมู T_T
อยากให้เลี้ยงให้ดีกว่านี้น่ะ
อย่างน้อยในชีวิตอันแสนสั้นของพวกมันก้ออยากจะให้มันสบายบ้างอ่ะ
แค่สักครั้งหนึ่งได้กินอาหารดีๆ ดื่มน้ำสะอาด นอนหลับเพียงพอ ได้สัมผัสหญ้า
ได้สูดอากาศ

ก่อนที่มันจะถูกฆ่า

T_T แงง เราอินมากนะเนี่ย สงสาร แต่ก้อต้องกิน ไม่งั้นไม่โต
น่าจะไปเปิดฟาร์มหมูซะเอง

0
+ดาวเสาร์&lt;&lt;&lt; 12 ก.ค. 50 เวลา 13:12 น. 7

ง่ะ....................เราเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยกินหมูแล้ว
กินแต่ปลา.............
อ่านแล้วยิ่งไม่อยากกินใหญ่ สงสารมันอ่ะ
หมูไม่ผิด...........TT^TT

แต่คนเลี้ยง เลี้ยงมันไม่ดีทั้งที่มันเป็นอาหารสำคัญสำหรับเลี้ยงประชาการมนุษย์


PS.  อ่าน+เม้นท์กันหน่อยนะคะ...ให้กำลังใจนักเขียนและคนตั้งกระทู้
0
juyz 12 ก.ค. 50 เวลา 15:31 น. 10
หมูอร่อย ให้เลิกกินหมูไม่มีทางหรอก
หมูที่เลี้ยงในฟาร์มเขามีน้ำให้มันกินทางท่ออยู่หรอก ใครว่ามันกินฉี่ตัวเอง เคยไปดูฟาร์มหมูจริงๆหรือเปล่า

สัตว์ทุกอย่างสกปรกหมดแหละ กินอะไรก็ไม่ปลอดภัยหรอก อีกไม่กี่ปีมนุษย์ก็หมดโลกแล้ว เพราะสิ่งแวดล้อมโดนทำลาย

PS.  ชีวิตนี้เพื่อโลกของทุกชีวิต
0
Nuddss 12 ก.ค. 50 เวลา 17:05 น. 13

แล้วเราควรทำไงล่ะ เซงเครียด เวงกำ ทำไงดี


PS.  ถึงจะร้องไห้ยังไง ซาสึเกะคุงก็ไม่กลับมาหรอก -- ชั้นก็ยังอยู่นะ -- ชั้นเองก็จะเก่งขึ้นด้วย[img]http://img218.imageshack.us/img218/4955/08em3.jpg[/img]
0
+KANGASTORY+ 12 ก.ค. 50 เวลา 17:14 น. 14

งั้นอิสลามก็ดีน่ะสิ =O=!

โฮๆๆๆๆ ช้านกินไม่ลงแล้ว จะอ้วกกกกกกกกกกก


PS.  กุมันก้อแค่... ตัวถ่วง ตัวยุ่ง ตัวกวน � ��แต่ก็เป็น .. ตัวป่วนหัวใจเจ๊เต่า ^^*
0
[[[ Parada ]]] 12 ก.ค. 50 เวลา 17:58 น. 16

น่าสงสาร (แต่เราก็กินแทบทุกวัน)


PS.   แวะมาเยี่ยมกันก็ได้นะ Sorry ถ้าไม่ชอบความคิดเห็นของเรา
0