Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ศิลปะการปักผ้าของจีน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 

ศิลปะการปักผ้าในประเทศจีนมีประวัติมาช้านานแล้ว ความเป็นมาในสมัยเริ่มแรกเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเลี้ยงไหมและการสา่วไหม เพราะจีนเ็ป็นประเทศแรกในโลกที่ค้นพบและรู้จักใช้ไหมให้เป็นประโยชน์ เมื่อ ๔ - ๕ พันปีก่้อนโน้น ก็มีหลักฐานว่า ชาวจีนเริ่มรู้จักเลี้ยงไหมและสาวไหมแล้ว ผลิตภัณฑ์จากไหมก็ค่อยๆปรากฏขึ้นพร้อมกัน ต่อจากนั้น ศิลปะการปักผ้าก็ค่อยๆเจริญขึ้นตามไปด้วย การปักผ้าในสมัยนั้นส่วนใหญ่เป็นการปักผ้าแพรต่วนด้วยเส้นไหม ด้วยเหตุนี้ การปักผ้าในสมัยโบราณจึงเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า"ซือซิ่้ว"?ที่แปลเป็นไทยว่า"การปักไหม" หนังสือโบราณจีนบันทึกว่า เมื่อกว่า ๔ พันปีก่อน เมื่อหัวหน้าชนเผ่าต่างๆในประเทศจีนต้องการจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือจัดงานเฉลิมฉลองขนาดใหญ่ต่างๆ หัวหน้าเผ่ามักจะต้องสวมเสื้่อผ้าที่ปักด้วยลวดลายหรือรูปลักษณ์์ต่างๆตามประเภณี เช่น ในปี 1958 ได้มีการขุดค้นพบผ้าปักรูปมังกงกับหงษ์ในหลุมฝังศพโบราณในเมืองฉางซาทางภาคใต้ของจีน เป็นผลงานการปักผ้าในยุค"จั้นกว๋อ"เมื่อกว่า ๒ พันปีก่อนของจีน นับเป็นหนึ่งในผลงานการปักผ้าที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยได้ค้นพบ

ในสมัยราชวงศ์ฮั่นระหว่างปี 206 ก่อนคริสต์ศักราชถึงปีคริสต์ศักราช 220 การปักผ้่าของจีนได้รับการพัฒนาขึ้นถึงขั้นสูงแล้ว สมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ่งระหว่างปีคริสต์ศักราช 618 ถึงปีคริสต์ศักราช 1279 การปักผ้าจีนพัฒนายิ่งขึ้นอีกจนกลายเป็นงานฝีมือที่สตรีทั่วไปต้องมีติดตัว เช่น เวลาจะออกเรือน ฝีมืองานการปักผ้่าของเจ้าหล่อนประณีตเพียงไรหรือหรือไม่นั้นกลายเป็นมาตรฐานที่นำมาประเมินความดีและความขยันของเจ้าสาว ในสมัยนั้น ตามเขตชนบทในเมืองซูโจวซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านแพรไู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนมีสภาพที่เรียกว่า"ทุกครัวเรือนเลี้ยงไหม ทุกครัวเรือนปักผ้า"ซึ่งเป็นสภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก ต่อมา ศิลปะการปักผ้าเริ่มถูกแบ่งเป็นสองประเภทตามประโยชน์ของการใช้งาน ประเภทที่หนึ่ง เ็ป็นผ้าที่นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ประเำภทที่สอง เป็นผ้าที่นำไปใช้เป็นเครื่องประดับหรือเป็นศิลปะเพื่อความงาม ผลิตภัณฑ์ผ้าปักที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีหลากหลายอย่าง อาทิ ปลอกผ้าห่ม และผ้าเช็ดหน้า เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ประเภทศิลปะก็มีศิลปินมากมายพากันออกแบบลวดลายแปลกๆออกมาแข่งกันอย่างแข็งขัน ช่างปักผ้าก็พยายามปักไปตามลวดลายที่ศิลปินออกแบบมา ทำให้ศิลปะการปักผ้ากับศิลปะการเขียนภาพและอักษรศิลป์ของจีนรวมกันเข้าได้อย่างกลมกลืน สิ่งนี้ได้ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาและการประดิษฐ์คิดสร้างเข็มปักผ้าของจีนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย

 

ในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงระหว่างปีคริสต์ศักราช 1368 ถึงปีคริศต์ศักราช 1911 เป็นช่วงเวลาที่ศิลปะการปักผ้าที่มีมาแต่ดั้งเดิมของจีนได้รับการพัฒนาจนถึงจุดสูงสุด และได้ปรากฏสำนักศิลปะการปักผ้าหลายสาขาซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อชนรุ่นหลัง ในจำนวนนี้ รวมถึง"สำนักการปักผ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังสี่แห่ง"

"สำนักการปักผ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังสี่แห่ง"นี้รวมถึง "สำนักผ้่่้าปักซูซิ่ว"ในบริเวณพื้นที่เมืองซูโจวทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน "สำนักผ้่่้าปักเซียงซิ่ว"ตามบริเวณเมืองฉางซาในมณฑลหูนานทางภาคใต้ของจีน "สำนักผ้่่้าปักสู่ซิ่ว"บริเวณพื้่นที่เมืองเฉินตูในมณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและ"สำนักผ้่่้าปักเยี่ยซิ่ว"ในมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีน

 


PS.  หนังสือที่ดี เปรียบดัง คัมภีร์แห่งมิตรภาพ การเรียนรู้ในโลกกว้าง เปรียบดัง ยุทธภพแห่งการผจญภัย

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น