ความสำคัญของภาษาไทย ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ ภาษาไทยสำคัญแบบไหน ใครรู้บ้าง??? นิภาวรรณ์ 29 ส.ค. 50 เวลา 19:33 น. 1 like 2,586 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
จิรวรรณ 29 ส.ค. 50 เวลา 19:38 น. 2         เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร   การดำเนินชีวิตประจำวันและในการประกอบอาชีพจะมีการติดต่อสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องราว ความรู้สึก ความนึกคิด ความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งได้แก่ผู้ส่งสาร ซึ่งจะส่งสารโดยแสดงพฤติกรรมในรูปของการพูด การเขียน หรือแสดงด้วยท่าทาง ส่วนผู้รับสารจะรับสารด้วยการฟัง การดู หรือการอ่าน แต่ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารหรือรับสารก็ตาม เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันคือ ภาษา 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
น้ำทิพย์ 29 ส.ค. 50 เวลา 19:41 น. 3           เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้     บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์ สะสม อนุรักษ์และถ่ายทอดเป็นวัฒนธรรมให้เป็นมรดกของชาติโดยใช้ภาษาไทยเป็นสื่อ คนรุ่นหลังจึงใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการศึกษาแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ และรับสิ่งที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการพัฒนาตนเอง ทั้งการพัฒนาสติปัญญา กระบวนการคิด การวิเคราะห์ การวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดความรู้และประสบการณ์ที่งอกงาม กลายเป็นผู้ที่มีชีวทัศน์และโลกทัศน์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย สามารถติดตามความเจริญก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ จึงรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกปัจจุบัน ซึ่งนำมาพัฒนาประเทศชาติได้อย่างดี 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
กฤษดาพร 29 ส.ค. 50 เวลา 19:43 น. 4           เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน   ในประเทศไทยนอกจากจะมีภาษาไทยกลางซึ่งเป็นภาษาประจำชาติแล้ว เรายังมีภาษาถิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาที่ติดต่อกันเฉพาะในกลุ่ม และเมื่อกำหนดให้ภาษาไทยกลางเป็นภาษามาตรฐานเป็นภาษาที่ใช้ร่วมกัน ทำให้การสื่อสารเข้าใจตรงกันทั้งในการศึกษา ในทางราชการ และในสื่อสารมวลชน การใช้ภาษาไทยกลางช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันในสังคมไทยโดยส่วนรวม 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
พิมล 29 ส.ค. 50 เวลา 19:47 น. 5     เป็นเครื่องมือในการบันทึกและถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของบรรพบุรุษในรูปของวรรณคดีและวรรณกรรม การอ่านและการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมแต่ละสมัย ทำให้ชนรุ่นหลังรับรู้และเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้แต่ง เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ เข้าใจเหตุการณ์ เข้าใจลักษณะสังคม และสังคมของผู้คนในสมัยนั้นๆ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ยัยแก่ 29 ส.ค. 50 เวลา 22:35 น. 6 ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการบ่งบอกถึงความเป็นชาติไทย เรายังอยากเรียนรู้ภาษาเกาหลีของพระเจ้าเซจง อยากเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มีตัวอักษรถึงสามแบบ อยากรู้ภาษาจีนที่มีถึงกว่าสามพันคำให้ท่อง แต่ก็อย่าลืมอักษรไทยของพ่อขุนรามคำแหง ช่วยกันรักษาภาษาไทยที่ถูกต้องและไพเราะกันเอาไว้เถิดลูกหลานเอ๋ยรูปแบบของภาษาย่อมต้องมีวิวัฒนาการ เช่น สมัยเจ้าคุณปู่เขียนคำว่า "เป็น" ว่า "เปน"แต่ถ้าจะเขียนคำว่า "กลับ"เป็น "กับ" หรือ "รองเท้า"เป็น"ลองเท้า"อย่างนี้รับไม่ได้ฮ่ะ มันไม่ใช่วิวัฒนาการแต่เป็นการอ่อนด้อยความรู้ สะกดผิดสะกดถูก บางทีกว่าจะอ่านจบต้องแปลไทยเป็นไทย เหมือนนั่งถอดรหัสลับดาวินซียังไงยังงั้นเลยวันนี้บ่นพอแล้ว ขอบคุณค่ะที่เปิดช่องให้ ฮิฮิ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
fuchingi jikara 30 ส.ค. 50 เวลา 00:15 น. 7 คุณ ค.ห.6 พูดเหมือนจารย์ที่โรงเรียนเลยอ่ะ PS. ความรักไม่มีวันตาย มันจะทำให้เรามีความสุขตลอดไป แม้จะโดนหักอกแต่ก็จะจำช่วงเวลาดีๆไปตลอดกาล เข้ามาอ่านนิยายเราบ้างเน้อ ช่วงนี้เงียบเหงาชักกล - -" 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
กัปปะ.บึงปิศาจ 30 ส.ค. 50 เวลา 03:46 น. 8 ถึงความเห็นที่ หก     แล้วอย่างเขียนคำว่า นาที เป็น นาฑี การเมืองเป็น กานเมือง เทคนิค เป็น เฑคนิก นี่เรียกว่าอ่อนด้อยทางภาษาด้วยหรือไม่ นิยามตรงไหนครับว่า "นี่คือความอ่อนด้อย" หรือ "นี่คือวิวัฒนาการทางภาษา"     พจนานุกรมเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อยุคกลางนี่เอง ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าก่อนนั้นมนุษย์แทบจะสะกดคำคำเดียวกันไม่เหมือนกันเลย สะกดตามมีตามเกิดตามที่กรอบสังคมสอนสั่งกันไป     ก็ที่ทำให้มนุษย์สะกดคำอย่างเดียวกันจะใช่อะไรอื่นถ้าไม่ใช่พจนานุกรม     แล้วใครเขียนพจนานุกรม     คนกลุ่มหนึ่งไงครับ นักภาษาศาสตร์ไง     ดังนั้นพอเอาเข้าจริง การเปลี่ยนแปลงทางภาษาถ้าไม่ใช่นักภาษาศาสตร์เขียนลงพจนานุกรมเราก็ตีความว่า "อ่อนด้อยทางภาษา" เช่นนั้นหรือ ผมไม่เห็นว่าการเปลี่ยนการสะกดคำจากเดิมเช่น หมากม่วง เป็น มะม่วง จะต่างจากที่คุณตราหน้าว่าอ่อนด้อยทางภาษาอย่างไรเลย "มะ" มีความหมายว่าอะไร เมื่อเป็นคำโดด "หมาก" มีความหมายนะครับ อนึ่งผมเป็นคนที่สนับสนุนให้สะกดคำไทยถูกต้องเวลาใช้ แต่ผมก็มีความสงสัยอยู่ ว่าระหว่าง "ความอ่อนด้อยทางภาษา" กับ "วิวัฒนาการทางภาษา" มีเส้นกั้นแบ่งจากกันอย่างไร 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ยัยแก่ 16 ก.ย. 50 เวลา 22:34 น. 9 ตอบ คห.7 ไม่ได้เป็นคุณครูหรอกนะคะ ความรู้ไม่ถึงขั้นที่จะเป็นคุณครูตอบ คห.8 ขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็น เนื่องจากดิฉันไม่ใช่ผู้ที่เรียนเอกภาษาไทย เพียงแต่เป็นคนหนึ่งที่ใช้ภาษาไทยมาตั้งแต่เกิด คุณปู่เป็นคนไทยสมัยร.5 ท่านเป็นผู้ที่ต้องใช้ภาษาในการเขียนสำนวนคดีความต่างๆ ทำให้ดิฉันได้เห็นเอกสารเก่าๆบ้างสมัยที่ยังเป็นเด็กในความคิดของดิฉัน ความอ่อนด้อยทางภาษาก็คือ การไม่รู้หรือไม่ใส่ใจว่าในขณะนั้น เขาใช้ภาษากันอย่างไรแต่ละคำสะกดอย่างไร เหมือนกับคุณครูให้เขียนตามคำบอกแต่นึกไม่ออกว่าคำนั้นสะกดอย่างไร ก็เขียนส่งไปผิดๆ ลองคิดดูว่าภาษาลาว เขาจะใช้ภาษาที่ตรงๆ เราฟังดูก็รู้สึกว่าเขาซื่อๆดีน่ารักและเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของเขา แต่ภาษาไทยมีการนำคำบาลีและสันสกฤตมาใช้ร่วมด้วยเช่น ถ้าลูกน้องคุณเขียนรายงานมาแล้วสะกดคำว่า ให้ เป็น หัย คุณจะให้เขาเอากลับไปแก้หรือคุณจะส่งไปทั้งอย่างนั้น แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่าพี่ไปอยู่ที่ไหนมา เขาสะกดแบบนี้กันทั้งนั้น เวลาคุณใช้ภาษาต่างประเทศ คุณก็ต้องยึดตามDictionary ภาษาไทยเราก็ต้องยึดตามพจนานุกรมฯ มิฉะนั้นใครใคร่จะใช้แบบไหนก็ใช้ มันก็ไม่ย่งเหยิงไปหมดหรือคะ ไม่อย่างนั้นเวลาที่คุณครูสอนเด็กเล็กๆเขียนหนังสือ คุณจะให้คุณครูบอกว่า เด็กๆขาคุณครูจะอ่านคำให้ฟังแล้วเด็กอยากเขียนแบบไหนก็เขียนมาจะสะกดแบบไหนครูก็ต้องให้ถูกทั้งหมด อย่างนั้นหรือคะ คำว่า หัย อาจจะเป็นคำที่ใช้ในยุคก่อนที่จะมาเป็น ให้ ก็ได้ อันนี้ก็ต้องถามท่านผู้รู้ อย่าใช้คำว่า "ตราหน้า" เลยนะคะ มันไม่สุภาพ สรุป ในความหมายของดิฉันก็คือ สะกดผิดนั่นแหละ นิยามส่วนตัวของความอ่อนด้อยทางภาษารวมทั้งอ่านจับใจความไม่เป็น ย่อความไม่ได้ เรียงความยิ่งแล้วใหญ่ บางที่เขาเขียนย่อกันซะอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าย่อแล้ว รู้ว่าที่ถูกเขียนอย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่สะกดผิดนี่ช่วยๆกันหน่อยเถอะนะคะ คำว่า หมากม่วง เป็นมะม่วง เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงคำนี้จะต้องมีเหตุผลเขียนเอาไว้ แหม จบเอกภาษาไทยมาก็ดีสิการอยู่รวมกันเป็นสังคม ก็ต้องมีการขีดกรอบเอาไว้บ้าง ขนาดในบ้านเองยังต้องมีกฎระเบียบเลยตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็เน่า เอาพอดีๆแล้วกันขอบคุณค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ฟ้า 13 ก.ค. 51 เวลา 09:46 น. 10 เราควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องนะ เพราะว่าเราเป็นคนไทย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เต้ 13 ก.ค. 51 เวลา 09:49 น. 11 เราควรภูมิใจในภาษาไทยของเรา 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
รักภาษาไทย 13 พ.ย. 51 เวลา 21:33 น. 12 เห็นด้วย เพราะเราใช้ทุกวันทั้งภาษาพูดหรือภาษาเขียนก็เป็นภาษาประจำชาติของเรา ควรภูมิใจในภาษาไทยหันมาช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย อย่าเอาไปแฝงภาษาอื่นๆ แค่ภาษาไทยบางคนเขียนอ่านยังไม่ถูกเลย เดี๋ยวนี้ภาษาไทยเริ่มจะวิบัติแล้วยิ่งภาษาวัยรุ่นที่เขียนกันอย่างขี้เกียจ ตัดคำทิ้งให้สั้นลงก็ทำลายภาษาไทยสิ้นเชิง พ่อขุนรามคำแหงเขาคิดภาษาไทยสระ พยัญชนะทั้ง ๔๔ ตัว ให้เป็นภาษาไทยประจำชาติ ใยจึงต้องทำลาย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
คนรักภาษาไทย 13 พ.ย. 51 เวลา 21:45 น. 13 ขอระบายต่ออีกนิดนะ สงสัยว่าทำไมจึงไม่ค่อยใช้ ฤ ฆ ฏ ฎ ฑ ฌ ฃ ที่สำคัญ ฅ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ฅ ฅน  เหตุใดปัจจุบัน ฅน ถึงได้กลายเป็น คน จาก ฅน เป็น ควาย กันหมด แค่เพิ่มหยักเดียวแค่นั้น บรรพบุรุษสร้างมาให้แท้ กลับละทิ้งของเขา เนรคุณกันจริงๆ เลย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เเตงกวา 19 ก.ค. 53 เวลา 19:43 น. 14 คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่มีภาษาของตนเอง เเละมีอักษรไทย เป็นตัวอักษร ประจำชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ซึ่งเป็นเครื่องเเสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมาเเต่โบราณกาลเเละยั่งยืนมาจนปัจจุบัน คนไทยผู้เป็นเจ้าของภาษา ควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติ เเละจะยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทยแต่ถ้าคนไทยเราเองไม่คิดที่จะหวงแหนภาษาประจำชาติของเราไว้แล้วใครละที่จะรักษาภาษาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ให้สืบสานแก่รุ่นหลังหากแต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างมาก ความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการใช้ภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้ถูกต้อง อีกทั้งวัยรุ่นกลับมองว่าการใช้ภาษาที่ผิดกลายเป็นเรื่องของแฟชั่นที่ใคร ๆ ก็ทำกันทำให้เกิดภาษาใหม่ที่เป็นที่แพร่หลายบนโลกอินเตอร์เน็ตหรือเรียกว่าภาษาแชท ขึ้นเช่น หวัดดี-สวัสดี และถ้าหากคนในสังคมไทยยังคงใช้ภาษาไทย เขียนภาษาไทยแบบผิดๆ ถ้าคิดอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ภาษาไทย 1คำ สามารถเขียนได้หลายแบบ เพราะภาษาไทยมี พยัญชนะที่ออกเสียงเหมือน ๆ กัน มีสระที่เสียงคล้าย ๆ กัน จึงทำให้สามารถเขียนออกมาได้หลายแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยนั้นสามารถดัดแปลง เปลี่ยนแปลงคำได้หลากหลาย โดยที่ความหมายเหมือนเดิม แต่ลักษณะการเขียนผิดออกไป และไม่คิดใส่ใจที่จะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ต่อไปอาจทำให้เกิดความเคยชินจนติดนำมาใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน จนทำให้ภาษาไทยที่เป็นรากเหง้าของคนไทย ความภาคภูมิใจในภาษาที่บรรพบุรุษคิดค้นขึ้นมา ภาษาที่มีความสวยงาม ก็คงต้องเลือนหายไป ในเมื่อการใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องแล้ว เลยทำให้การอ่านและการเขียนผิดเพี้ยนไปด้วย รูปแบบของภาษาย่อมต้องมีวิวัฒนาการ เช่น เขียนคำว่า "เป็น" ว่า "เปน"แต่ถ้าจะเขียนคำว่า "กลับ"เป็น "กับ" หรือ "รองเท้า"เป็น"ลองเท้า" หากเรายังอ่านเขียนและใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เราจะเผยแพร่วัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ ให้กับชาติอื่นได้ไม่ถูกต้อง และในปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งที่เผยแพร่คำภาษาต่างประเทศ คนไทยที่ใช้ส่วนใหญ่ก็นำภาษาต่างประเทศมาใช้แทนการใช้ภาษาไทยแบบผิดๆ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
fon 30 ก.ค. 53 เวลา 15:26 น. 15 คนไทยเราชั่งโชดดีที่มีภาาาเป็นของตนเองเพราะบางคนล้วนเเต่ใช้ภาาาอื่นหมดเพราะมันดุเท่ดก้เก๋ดีเเต่ไม่เลยเพราะนั้นไม่ใช้ภาาาของเราเลยคะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
malemelon 5 ก.ค. 61 เวลา 18:58 น. 20 คห.15 คุณยังเขียนคำผิดๆถูกๆเลย แล้วคุณจะมาเตือนคนอื่นได้อย่างไรกันปล.ถ้าคำใน dek-d นี้อนุญาต เพราะมันไม่รองรับตัวอักษรชั้นที่ 3ไม่ได้ เช่นคำว่า กั้น มั่น เป็นต้น 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
21 ความคิดเห็น
เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย
        เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร
  การดำเนินชีวิตประจำวันและในการประกอบอาชีพจะมีการติดต่อสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องราว ความรู้สึก ความนึกคิด ความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งได้แก่ผู้ส่งสาร ซึ่งจะส่งสารโดยแสดงพฤติกรรมในรูปของการพูด การเขียน หรือแสดงด้วยท่าทาง ส่วนผู้รับสารจะรับสารด้วยการฟัง การดู หรือการอ่าน แต่ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารหรือรับสารก็ตาม เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันคือ ภาษา
          เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้
    บรรพบุรุษไทยได้สร้างสรรค์ สะสม อนุรักษ์และถ่ายทอดเป็นวัฒนธรรมให้เป็นมรดกของชาติโดยใช้ภาษาไทยเป็นสื่อ คนรุ่นหลังจึงใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการศึกษาแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ และรับสิ่งที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการพัฒนาตนเอง ทั้งการพัฒนาสติปัญญา กระบวนการคิด การวิเคราะห์ การวิพากษ์วิจารณ์ การแสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดความรู้และประสบการณ์ที่งอกงาม กลายเป็นผู้ที่มีชีวทัศน์และโลกทัศน์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย สามารถติดตามความเจริญก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ จึงรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกปัจจุบัน ซึ่งนำมาพัฒนาประเทศชาติได้อย่างดี
          เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน
  ในประเทศไทยนอกจากจะมีภาษาไทยกลางซึ่งเป็นภาษาประจำชาติแล้ว เรายังมีภาษาถิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาที่ติดต่อกันเฉพาะในกลุ่ม และเมื่อกำหนดให้ภาษาไทยกลางเป็นภาษามาตรฐานเป็นภาษาที่ใช้ร่วมกัน ทำให้การสื่อสารเข้าใจตรงกันทั้งในการศึกษา ในทางราชการ และในสื่อสารมวลชน การใช้ภาษาไทยกลางช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันในสังคมไทยโดยส่วนรวม
    เป็นเครื่องมือในการบันทึกและถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของบรรพบุรุษในรูปของวรรณคดีและวรรณกรรม
การอ่านและการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรมแต่ละสมัย ทำให้ชนรุ่นหลังรับรู้และเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้แต่ง เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ เข้าใจเหตุการณ์ เข้าใจลักษณะสังคม และสังคมของผู้คนในสมัยนั้นๆ
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการบ่งบอกถึงความเป็นชาติไทย เรายังอยากเรียนรู้ภาษาเกาหลีของพระเจ้าเซจง อยากเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มีตัวอักษรถึงสามแบบ อยากรู้ภาษาจีนที่มีถึงกว่าสามพันคำให้ท่อง แต่ก็อย่าลืมอักษรไทยของพ่อขุนรามคำแหง ช่วยกันรักษาภาษาไทยที่ถูกต้องและไพเราะกันเอาไว้เถิดลูกหลานเอ๋ย
รูปแบบของภาษาย่อมต้องมีวิวัฒนาการ เช่น สมัยเจ้าคุณปู่เขียนคำว่า "เป็น" ว่า "เปน"
แต่ถ้าจะเขียนคำว่า "กลับ"เป็น "กับ" หรือ "รองเท้า"เป็น"ลองเท้า"อย่างนี้รับไม่ได้ฮ่ะ มันไม่ใช่วิวัฒนาการแต่เป็นการอ่อนด้อยความรู้ สะกดผิดสะกดถูก บางทีกว่าจะอ่านจบต้องแปลไทยเป็นไทย เหมือนนั่งถอดรหัสลับดาวินซียังไงยังงั้นเลย
วันนี้บ่นพอแล้ว ขอบคุณค่ะที่เปิดช่องให้ ฮิฮิ
คุณ ค.ห.6 พูดเหมือนจารย์ที่โรงเรียนเลยอ่ะ
PS. ความรักไม่มีวันตาย มันจะทำให้เรามีความสุขตลอดไป แม้จะโดนหักอกแต่ก็จะจำช่วงเวลาดีๆไปตลอดกาล เข้ามาอ่านนิยายเราบ้างเน้อ ช่วงนี้เงียบเหงาชักกล - -"
ถึงความเห็นที่ หก
    แล้วอย่างเขียนคำว่า นาที เป็น นาฑี การเมืองเป็น กานเมือง เทคนิค เป็น เฑคนิก นี่เรียกว่าอ่อนด้อยทางภาษาด้วยหรือไม่ นิยามตรงไหนครับว่า "นี่คือความอ่อนด้อย" หรือ "นี่คือวิวัฒนาการทางภาษา"
    พจนานุกรมเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อยุคกลางนี่เอง ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าก่อนนั้นมนุษย์แทบจะสะกดคำคำเดียวกันไม่เหมือนกันเลย สะกดตามมีตามเกิดตามที่กรอบสังคมสอนสั่งกันไป
    ก็ที่ทำให้มนุษย์สะกดคำอย่างเดียวกันจะใช่อะไรอื่นถ้าไม่ใช่พจนานุกรม
    แล้วใครเขียนพจนานุกรม
    คนกลุ่มหนึ่งไงครับ นักภาษาศาสตร์ไง
    ดังนั้นพอเอาเข้าจริง การเปลี่ยนแปลงทางภาษาถ้าไม่ใช่นักภาษาศาสตร์เขียนลงพจนานุกรมเราก็ตีความว่า "อ่อนด้อยทางภาษา" เช่นนั้นหรือ ผมไม่เห็นว่าการเปลี่ยนการสะกดคำจากเดิมเช่น หมากม่วง เป็น มะม่วง จะต่างจากที่คุณตราหน้าว่าอ่อนด้อยทางภาษาอย่างไรเลย "มะ" มีความหมายว่าอะไร เมื่อเป็นคำโดด "หมาก" มีความหมายนะครับ อนึ่งผมเป็นคนที่สนับสนุนให้สะกดคำไทยถูกต้องเวลาใช้ แต่ผมก็มีความสงสัยอยู่ ว่าระหว่าง "ความอ่อนด้อยทางภาษา" กับ "วิวัฒนาการทางภาษา" มีเส้นกั้นแบ่งจากกันอย่างไร
ตอบ คห.7 ไม่ได้เป็นคุณครูหรอกนะคะ ความรู้ไม่ถึงขั้นที่จะเป็นคุณครู
ตอบ คห.8 ขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็น เนื่องจากดิฉันไม่ใช่ผู้ที่เรียนเอกภาษาไทย เพียงแต่
เป็นคนหนึ่งที่ใช้ภาษาไทยมาตั้งแต่เกิด คุณปู่เป็นคนไทยสมัยร.5 ท่านเป็นผู้ที่ต้องใช้ภาษาในการเขียนสำนวนคดีความต่างๆ ทำให้ดิฉันได้เห็นเอกสารเก่าๆบ้างสมัยที่ยังเป็นเด็ก
ในความคิดของดิฉัน ความอ่อนด้อยทางภาษาก็คือ การไม่รู้หรือไม่ใส่ใจว่าในขณะนั้น เขาใช้ภาษากันอย่างไรแต่ละคำสะกดอย่างไร เหมือนกับคุณครูให้เขียนตามคำบอกแต่นึกไม่ออกว่าคำนั้นสะกดอย่างไร ก็เขียนส่งไปผิดๆ ลองคิดดูว่าภาษาลาว เขาจะใช้ภาษาที่ตรงๆ เราฟังดูก็รู้สึกว่าเขาซื่อๆดี
น่ารักและเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของเขา แต่ภาษาไทยมีการนำคำบาลีและสันสกฤตมาใช้ร่วมด้วย
เช่น ถ้าลูกน้องคุณเขียนรายงานมาแล้วสะกดคำว่า ให้ เป็น หัย คุณจะให้เขาเอากลับไปแก้หรือคุณจะส่งไปทั้งอย่างนั้น แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่าพี่ไปอยู่ที่ไหนมา เขาสะกดแบบนี้กันทั้งนั้น เวลาคุณใช้ภาษาต่างประเทศ คุณก็ต้องยึดตามDictionary ภาษาไทยเราก็ต้องยึดตามพจนานุกรมฯ มิฉะนั้นใครใคร่จะใช้แบบไหนก็ใช้ มันก็ไม่ย่งเหยิงไปหมดหรือคะ ไม่อย่างนั้นเวลาที่คุณครูสอนเด็กเล็กๆเขียนหนังสือ คุณจะให้คุณครูบอกว่า เด็กๆขาคุณครูจะอ่านคำให้ฟังแล้วเด็กอยากเขียนแบบไหนก็เขียนมา
จะสะกดแบบไหนครูก็ต้องให้ถูกทั้งหมด อย่างนั้นหรือคะ คำว่า หัย อาจจะเป็นคำที่ใช้ในยุคก่อนที่จะมาเป็น ให้ ก็ได้ อันนี้ก็ต้องถามท่านผู้รู้
อย่าใช้คำว่า "ตราหน้า" เลยนะคะ มันไม่สุภาพ
สรุป ในความหมายของดิฉันก็คือ สะกดผิดนั่นแหละ นิยามส่วนตัวของความอ่อนด้อยทางภาษา
รวมทั้งอ่านจับใจความไม่เป็น ย่อความไม่ได้ เรียงความยิ่งแล้วใหญ่
บางที่เขาเขียนย่อกันซะอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าย่อแล้ว รู้ว่าที่ถูกเขียนอย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่สะกดผิดนี่
ช่วยๆกันหน่อยเถอะนะคะ คำว่า หมากม่วง เป็นมะม่วง เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงคำนี้จะต้องมีเหตุผลเขียนเอาไว้ แหม จบเอกภาษาไทยมาก็ดีสิ
การอยู่รวมกันเป็นสังคม ก็ต้องมีการขีดกรอบเอาไว้บ้าง ขนาดในบ้านเองยังต้องมีกฎระเบียบเลย
ตึงไปก็ขาด หย่อนไปก็เน่า เอาพอดีๆแล้วกัน
ขอบคุณค่ะ
เราควรใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องนะ เพราะว่าเราเป็นคนไทย
เราควรภูมิใจในภาษาไทยของเรา
เห็นด้วย เพราะเราใช้ทุกวันทั้งภาษาพูดหรือภาษาเขียนก็เป็นภาษาประจำชาติของเรา ควรภูมิใจในภาษาไทยหันมาช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย
อย่าเอาไปแฝงภาษาอื่นๆ แค่ภาษาไทยบางคนเขียนอ่านยังไม่ถูกเลย เดี๋ยวนี้ภาษาไทยเริ่มจะวิบัติแล้วยิ่งภาษาวัยรุ่นที่เขียนกันอย่างขี้เกียจ
ตัดคำทิ้งให้สั้นลงก็ทำลายภาษาไทยสิ้นเชิง พ่อขุนรามคำแหงเขาคิดภาษาไทยสระ พยัญชนะทั้ง ๔๔ ตัว ให้เป็นภาษาไทยประจำชาติ
ใยจึงต้องทำลาย
ขอระบายต่ออีกนิดนะ
สงสัยว่าทำไมจึงไม่ค่อยใช้ ฤ ฆ ฏ ฎ ฑ ฌ ฃ
ที่สำคัญ ฅ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ฅ ฅน 
เหตุใดปัจจุบัน ฅน ถึงได้กลายเป็น คน
จาก ฅน เป็น ควาย กันหมด แค่เพิ่มหยักเดียวแค่นั้น
บรรพบุรุษสร้างมาให้แท้ กลับละทิ้งของเขา
เนรคุณกันจริงๆ เลย
คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่มีภาษาของตนเอง เเละมีอักษรไทย เป็นตัวอักษร ประจำชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ซึ่งเป็นเครื่องเเสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมาเเต่โบราณกาลเเละยั่งยืนมาจนปัจจุบัน คนไทยผู้เป็นเจ้าของภาษา ควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติ เเละจะยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทยแต่ถ้าคนไทยเราเองไม่คิดที่จะหวงแหนภาษาประจำชาติของเราไว้แล้วใครละที่จะรักษาภาษาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ให้สืบสานแก่รุ่นหลังหากแต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างมาก ความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการใช้ภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้ถูกต้อง อีกทั้งวัยรุ่นกลับมองว่าการใช้ภาษาที่ผิดกลายเป็นเรื่องของแฟชั่นที่ใคร ๆ ก็ทำกันทำให้เกิดภาษาใหม่ที่เป็นที่แพร่หลายบนโลกอินเตอร์เน็ตหรือเรียกว่าภาษาแชท ขึ้นเช่น หวัดดี-สวัสดี และถ้าหากคนในสังคมไทยยังคงใช้ภาษาไทย เขียนภาษาไทยแบบผิดๆ ถ้าคิดอีกแง่มุมหนึ่ง การที่ภาษาไทย 1คำ สามารถเขียนได้หลายแบบ เพราะภาษาไทยมี พยัญชนะที่ออกเสียงเหมือน ๆ กัน มีสระที่เสียงคล้าย ๆ กัน จึงทำให้สามารถเขียนออกมาได้หลายแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาไทยนั้นสามารถดัดแปลง เปลี่ยนแปลงคำได้หลากหลาย โดยที่ความหมายเหมือนเดิม แต่ลักษณะการเขียนผิดออกไป และไม่คิดใส่ใจที่จะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ต่อไปอาจทำให้เกิดความเคยชินจนติดนำมาใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน จนทำให้ภาษาไทยที่เป็นรากเหง้าของคนไทย ความภาคภูมิใจในภาษาที่บรรพบุรุษคิดค้นขึ้นมา ภาษาที่มีความสวยงาม ก็คงต้องเลือนหายไป ในเมื่อการใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องแล้ว เลยทำให้การอ่านและการเขียนผิดเพี้ยนไปด้วย รูปแบบของภาษาย่อมต้องมีวิวัฒนาการ เช่น เขียนคำว่า "เป็น" ว่า "เปน"แต่ถ้าจะเขียนคำว่า "กลับ"เป็น "กับ" หรือ "รองเท้า"เป็น"ลองเท้า" หากเรายังอ่านเขียนและใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เราจะเผยแพร่วัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ ให้กับชาติอื่นได้ไม่ถูกต้อง และในปัจจุบันโลกอินเตอร์เน็ตเป็นแหล่งที่เผยแพร่คำภาษาต่างประเทศ คนไทยที่ใช้ส่วนใหญ่ก็นำภาษาต่างประเทศมาใช้แทนการใช้ภาษาไทยแบบผิดๆ
คนไทยเราชั่งโชดดีที่มีภาาาเป็นของตนเองเพราะบางคนล้วนเเต่ใช้ภาาาอื่นหมดเพราะมันดุเท่ดก้เก๋ดีเเต่ไม่เลยเพราะนั้นไม่ใช้ภาาาของเราเลยคะ
-v.shm6d8of=8fuiot
ไม่รุ้เหมือนกัน555
คห.15 คุณยังเขียนคำผิดๆถูกๆเลย แล้วคุณจะมาเตือนคนอื่นได้อย่างไรกัน
ปล.ถ้าคำใน dek-d นี้อนุญาต เพราะมันไม่รองรับตัวอักษรชั้นที่ 3ไม่ได้ เช่นคำว่า กั้น มั่น เป็นต้น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?