Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องย่อนวนิยายโรแมนติก "ข้างหลังภาพ"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ข้างหลังภาพ

 

หม่อมราชวงศ์กีรติดำรงความเป็นสาวอยู่จนเข้าขีดความสาวทึมทึก   ก็ยังไม่พบรักหรือชายที่สมควรแก่ความรักของเธอมาสู่ขอในขณะที่อายุย่างเข้าปีที่ 35 จึงมีข้าราชการชั้นพระยาอายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อหม้ายมีลูกติด 2 คนมาสู่ขอ ด้วยความหมดหวังที่จะได้พบชายที่ดีกว่านั้น        และนิสัยนักศิลปะของเธอทำให้มีความต้องการจะรู้จักความเป็นไปของโลกให้กว้างกว่าที่ได้พบเห็นอยู่ในวงแคบเป็นเวลาถึง 35 ปี หม่อมราชวงศ์กีรติจึงได้ยอมแต่งงานกับเจ้าคุณผู้นั้น และแล้วก็ได้พบเห็นโลกภายนอกบ้านของเธอสมความปรารถนา เจ้าคุณสามี ( พระยาอธิการบดี ) พาเธอไปเที่ยวญี่ปุ่น ณ ที่นั้นเอง หม่อมราชวงศ์กีรติก็ได้พบกับนพพร  นิสิตหนุ่มแห่งมหาวิทยาลัยริคเคียว  ซึ่งเป็นบุตรชายของเพื่อนสามี  และซึ่งสามีของเธอขอร้องให้ช่วยจัดหาบ้านพักและนำเที่ยวด้วยเป็นครั้งแรก

หม่อมราชวงศ์กีรติยังสาวและสวยสดชื่นอยู่   เช่นเดียวกับสุภาพสตรีสมัยใหม่ที่รู้จักบำรุงรักษาความงามแลวัยไว้ได้    ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของนพพร เด็กหนุ่มผู้ห่างการสมาคมกับสุภาพสตรีไทยถึง 3 ปีเศษแล้วอย่างมากมาย และโดยที่ได้ติดต่อกันอยู่ตลอดเวลาที่หม่อมราชวงศ์กีรติกับสามีพักอยู่ที่ประเทศนั้นจึงทำให้นพพรกับหม่อมราชวงศ์กีรติคุ้นกันจนถึงขีดสนิทสนม ประกอบกับได้อยู่ด้วยกันท่ามกลางภูมิภาพอันสวยงามของประเทศญี่ปุ่น และความงามความเปล่งปลั่งของหม่อมราชวงศ์กีรติเป็นสื่อชักจูงใจด้วยในที่สุดนพพรเด็กหนุ่มผู้ไม่เดียงสาในเรื่องรัก ก็เกิดความรักในหม่อมราชวงศ์กีรติขึ้น

          ความรักอันบริสุทธิ์และร้อนแรงของผู้ที่เพิ่งมีความรักเป็นครั้งแรกนี้ดูเหมือนจะทำให้หม่อมราชวงศ์กีรตินักศิลปะซึ่งไม่เคยได้พบความรักเลยรู้สึกลำบากใจที่จะข่มใจไว้อยู่มากเหมือนหัน แต่หม่อมราชวงศ์กีรติมีอายุมากแล้ว และทั้งได้รับการอบรมศึกษาในทางดีงามในชีวิตเบื้องต้นมาแล้ว ก็ข่มใจไว้อย่างดี จนนพพรไม่สามารถจะทราบได้ว่า หม่อมราชวงศ์กีรติรักตนหรือไม่ ครั้นแล้วทั้งสองก็จากกัน เมื่อกำหนดการเที่ยวญี่ปุ่นของพระยาอธิการบดียุติลง  ความรักของนพพรคงรบเร้าจิตใจให้กระสับกระส่ายจนถึงขีดสุด เมื่อตอนที่จากกันไปใหม่ๆครั้นแล้วก็ค่อยๆอ่อนลงตามธรรมชาติของคนที่มีภาระที่จะต้องใส่ใจมากกว่าความรู้สึกนี้ จนในที่สุดเมื่อสองปีล่วงไปแล้ว นพพรก็รู้สึกในกีรติอย่างมิตรคนหนึ่งเท่านั้น

          6 ปีล่วงไป นพพรสำเร็จการศึกษาและฝึกหัดงานที่ญี่ปุ่นพอสมควรแก่การแล้วก็กลับสยาม ในขณะนี้หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นหม้ายแล้ว และบำเพ็ญชีวิตอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เขาทั้งสองคนได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นการพบที่นพพรรู้สึกเหมือนพบพี่สาวที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น เวลา 6 ปีในญี่ปุ่นได้เปลี่ยนจิตใจของนพพรเด็กหนุ่มผู้อ่อนแก่ความรักให้เป็นชายหนุ่มญี่ปุ่นที่ไม่ใคร่จะคิดถึงใครจะคิดถึงอะไรนอกจากงานและการตั้งตัวเท่านั้น ครั้นแล้วนพพรก็แต่งงานกับคู่หมั้นที่บิดาหาไว้ไห้เมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ในญี่ปุ่น เมื่อแต่งงานแล้วได้สองเดือน นพพรได้ทราบว่าหม่อมราชวงศ์กีรติได้เจ็บหนักด้วยโรควัณโรค และอยากพบเขา จนแพทย์และพยาบาลรู้สึกว่าควรจะมาตามเขาให้ไปพบ เพื่อให้คนไข้ได้สงบจิตใจในวาระสุดท้าย นพพรก็ไปเยี่ยมและหม่อมราชวงศ์กีรติก็ให้ภาพเขียนที่ระลึกถึงสถานที่ให้กำเนิดความรักแก่เขาทั้งสอง  ซึ่งเป็นภาพวาดโดยฝีมือของเธอเอง พร้อมด้วยคำตัดพ้อบางประโยคเป็นที่สะกิดใจนพพรให้ระลึกถึงความหลังและหวนคิดเสียดายอาลัยคนรักคนแรกของตน ครั้นแล้วหม่อมราชวงศ์กีรติสตรีผู้อาภัพในเรื่องรักก็ถึงแก่กรรมใน 7 วันต่อมา และเรื่องก็จบลงเพียงเท่านี้

 

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องข้างหลังภาพ

 

1.ชีวิตของคนเราที่สมบูรณ์หรือดีพร้อมก็พบกับความเศร้าได้ เช่น

ชีวิตของท่านหญิงกีรติที่ดูเหมือนจะสมบูรณืหรืองามพร้อมก็พบกับความเศร้าได้ เพราะสิ่งที่เป็นจริงแท้ก็คือ “สิ่งที่มีชีวิตจะต้องรู้จักเจ็บปวดเหมือนกันหมด ไม่เลือกเชื้อชาติ วรรณะ เพศ สัตว์ มนุษย์”

2.ความแตกต่างระหว่างความรักที่มีสตินำ  ได้แก่ความรักของคุณหญิง กับความรักที่มีอารมณ์นำ ซึ่งก็คือนพพร เช่นคำพูดที่นพพรพูดไว้ว่า “ความรักมีอำนาจเหนือผม ความรักตรึงใจผม ทำให้ผมหมดสติ”

3.รู้จักสถานะแห่งตนเอง  เมื่อครั้นเจ้าคุณตายไป คุณหญิงก็ไม่เคยปริปากพูดตรงๆอีกเรื่องความรัก แต่จะใช้คำพูดที่มีความหมายล้ำลึกภายใน เช่น “ฉันก็อิ่มใจว่าฉันมีคนที่ฉันรัก”

4.หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นแบบหนึ่งของสุภาพสตรีไทยสมัยสังคมของเรา  คือไม่ปล่อยให้ความปรารถนาเป็นใหญ่ในใจเมื่อมีโอกาสจะทำได้

5.ความรักของสตรีและบุรุษนั้นต่างกัน เช่น เมื่อเวลาผ่านไป 6 ปี ความรักของนพพรก็จืดจางลงกลับกลายเป็นความรักแบบมิตร แต่คุณหญิงยังรอความรักจากนพพรตลอดมาจนสิ้นชีวิตก็ยังรัก ดังนั้นเวลารักใครจึงไม่ควรทุ่มเทให้ทั้งชีวิต ควรเผื่อใจไว้ให้ตัวเองบ้าง

6.ความคิดค่านิยมที่ผิดๆของสังคมชั้นสูงที่วิจารณ์สถานะนักเรียนนอกที่ทุกคนพากันคิดว่า จบจากนอกแล้วต้องเก่งกว่า ดีกว่าซึ่งเป็นความคิดที่ผิดๆ  ถึงเป็นนักเรียนนอกถ้าไม่รู้จักแสวงหาโอกาสทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองก็จะกลายเป็นคนไร้ค่า เช่น

“เราจะมีวุฒิพิเศษอะไรเล่า สิทธิพิเศษอะไรที่จะไปเดินเชิดหน้าทำทีว่าเรามีวุฒิพิเศษกว่าใครๆในวงสมาคมเมืองไทย”

7.การแบ่งเพศทางสังคม สังคมที่ผู้ชายเป็นผู้นำ และผู้หญิงเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ตน ดังตอนที่คุณหญิงกล่าว “เธอจงเห็นใจฉันเถิด เราเกิดมาโดยเขากำหนดให้เป็นเครื่องประดับโลก ประโลมโลก มันเป็นหน้าที่ของเรา ยิ่งกว่านั้น บางทีคุณงามความดีของสตรีก็ถูกมองข้ามไปเลย ถ้ามิได้อยู่ในความงาม”

8.ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ดังเช่นการกระทำของนพพรตัดสินใจอยู่เรียนที่ญี่ปุ่นจนจบ โดยไม่ได้ตามคุณหญิงกลับมาเมืองไทยแล้วละทิ้งการเรียนที่ญี่ปุ่น

 

 www.mp3-down.th.gs โหลดเพลงฟรี มากมาย ไทย เทศ มีหมด

แสดงความคิดเห็น

>

39 ความคิดเห็น

PUPPii_CHiiWA 8 ก.ค. 51 เวลา 20:37 น. 1

ขอบคุณมากๆๆเลยจ้า

น่าสงสารกีรติจัง


PS.  ราชันย์อารมณ์ดี ราชินีอารมณ์ขัน เฮฮามันส์ทั้งวัน เพราะฉันคือ"ราชันย์อารมณ์ดี"
0
View 5 ม.ค. 53 เวลา 18:51 น. 9

นิดนึง

&nbsp  ก่อนที่นพพรจะทราบความในใจของคุณหญิงในวันที่เขาไปเยี่ยมคุณหญิงและรับของขวัญแต่งงานจากเธอ ซึ่งคือ ภาพวาดสีน้ำที่มิตาเกะ ซึ่งคุณหญิงบอกว่าเป็นที่ที่ “ความรักของเราเกิดขึ้นที่นั่น” ก่อนที่จะตอกย้ำนพพรว่า “ความรักของเธอเกิดที่นั่น และก็ตายที่นั่น แต่ของอีกคนหนึ่งยังรุ่งโรจน์อยู่ในร่างที่กำลังจะแตกดับ&nbsp &nbsp &nbsp 
&nbsp  ก่อนสิ้นใจคุณหญิงเขียนลงกระดาษเพื่อพูดกับนพพรในสภาพที่เธอไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะพูดว่า “ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก”
&nbsp &nbsp 

&nbsp  --- http://lepidopterans.blogspot.com/2007/03/blog-post_19.html ---10

0
JAMJIAKK 7 ก.พ. 53 เวลา 14:38 น. 11

ขอบคุณมากจ้าา

เราเอาไปใช้ทำงานได้เยอะเลยย ^^


PS.  แจมรักหมียุนนนนนนนนนนนนนนนน >O< อยากกอดหมีจัง >///////<
0
YJ_YS_M 31 ส.ค. 53 เวลา 01:53 น. 13

ขอบคุณมากๆค่ะ

พอดีต้องทำรายงานส่ง


PS.  alway keep faith.... I ♥ TVXQ.... เทพจะไม่กลับมาหาแคสเพราะเทพจะไม่จากแคสไปไหน เทพจะมีแค่ 5 คนตลอดปัย Yunho Jaejung Yoochun Junsu Changmin
0
นิรนาม 31 ส.ค. 53 เวลา 18:31 น. 14

คุณความคิดเห็นที่ 12 มีปัญหาไรกะชีวิตหรือทางครอบครัวรึเปล่า ??&nbsp ไม่ทราบว่าที่พูดมาเนี่ย เคยอ่านของจริงรึยัง ว่าของจริงเค้ามีความยาวขนาดไหน
แล้วที่ว่าเค้าไม่มีหัวสมอง เราว่าคุณนั่นแหละ ที่ไม่มีหัวสมองจะคิดทำประโยชน์อย่างอื่น นอกจากมาด่าว่าคนนู้นคนนี้ แล้วขอฝากอีกอย่างนึง ไม่ทราบว่าเกิดเป็นคนไทยจริงรึเปล่า พิมพ์ภาษาไทยยังผิดแล้ว แล้วยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่นเค้าไม่มีหัวสมอง แค่นี้แหละ (ด้วยความหวังดี อยากให้ระดับความคิดของคุณสูงขึ้นกว่านี้นิดหน่อย) ขอบคุณ
.. .

0
AEED 19 ก.ย. 53 เวลา 18:33 น. 18

คนที่&nbsp ด่า&nbsp อ่ะ&nbsp แหละ&nbsp ไม่&nbsp มี&nbsp สมอง

เรา&nbsp เข้า&nbsp มา&nbsp เนีย&nbsp ได้&nbsp ประ&nbsp โยชน์&nbsp ตั้ง&nbsp เยอะ

โง่&nbsp เอง&nbsp เปล่า&nbsp ถึง&nbsp ไม่รู้&nbsp เรื่อง&nbsp อ่ะ

0
คีย์ 13 พ.ย. 53 เวลา 21:09 น. 19

ความคิดเห็นที่ 12 .. อ่านแล้วรู้สึกถึงความต่ำทางความคิดและการมีสมองไว้ขั้นหู+เติมเต็มกะโหลกไม่ให้กลวงได้เลยนะเนี่ย.. ขอแนะนำให้ไปเรียนภาษาไทยมาใหม่นะ พอแค่นี้ละกัน เสียเวลา ไม่อยากจะพิมพ์ เดี๋ยวติดนิสัยบัฟมาีอีกคนจะแย่.. หึ

ขอบคุณสำหรับเรื่องย่อนะคะ ตอนนี้เรากำลังอ่านฉบับจริงอยู่ เพราะงานโรงเรียนห้องเราคิดกันไว้ว่าจะแสดงเรื่องนี้ เป็นประโยชน์มากมายเลย ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ^^


PS.  ความรัก เป็นสิ่งเลอค่า และอาจจะด้อยค่าได้ในคราวเดียวกัน เราควรรักให้ถูกวิธี ไม่อย่างนั้นความรักนั่นแหละที่จะเป็นตัวย้อนมาทำร้ายเรา.....
0
Onlyonew 23 ธ.ค. 53 เวลา 10:21 น. 20

ขอบคุง คร้าบ~ พรุ่งนี้จะสอบด้วย T^T


PS.  รักเฮียหู้ แคร์เป็ดจง คิดถึงมินโฮ มีใจให้มักเน่ ยอมพลีกาย(เป็นคนใช้ - -**)ให้คีย์!! อ๊ากกกกกกก ไอ้บ้าาา
0