(สาระ มั้ง... - - ) ว่าด้วย Climax ทั้ง 4 ขั้น 5 แบบ , Climax ของเพื่อนๆเป็นแบบไหนเอ่ย...?
ตั้งกระทู้ใหม่
พูดถึง Climax แน่นอนเพื่อนๆต้องรู้อยู่แล้วว่า เป็นช่วงที่เนื้อหาของนิยายหรือภาพยนตร์ดึงอารมณ์ผู้อ่านหรือผู้ชมจนถึงที่สุดของที่สุด ถ้าเศร้าก็เศร้าอย่างที่สุด จนคนบ่อน้ำตาลึกยังร้องไห้ เช่น ฉากโกโบริตาย หรือ เรียมตายตามขวัญ (หรือถ้าเอานิยายของชาวเด็กดีก็ เช่น ไวท์โรด ภาคแรกที่มิไลก้าสละชีพตัวเองเพื่อฆ่าโอมาห์ - - ) ถ้าเฮก็เฮกันสนั่นโรงพอๆกับเชียร์บอล เช่น ฉากตอนที่แคทวูแมนน่าจะแพ้ชารอนสโตนแล้ว แต่กลับพูดออกมาว่า " This is over time...!!! " แล้วก็กลับกระโจนขึ้นมาข่วนชารอนซะหน้าเละ ซึ่งคนดูบางคนก็อาจจเชียร์แคทวูแมนว่า เอามันเลยๆๆๆๆ พอๆกับเชียร์มวย - - เป็นต้น
ซึ่ง Climax มักจะเกิดในช่วงที่ปมปัญหาต่างๆของเรื่องถึงจุดวิกฤติที่จะต้องคลี่คลายแล้ว เพียงแต่ว่าจะคลายแบบไหน (ธรรมะชนะอธรรม หรือ อธรรมชนะธรรมะ) ก็เท่านั้น
และงานที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือหนังจะประสบความสำเร็จหรือไม่ กินใจผู้ชมแค่ไหน ก็อยู่ที่ Climax ด้วยว่าโดนใจคนดูหรือคนอ่านไหม
แล้ว Climax 4 ขั้น 5 แบบ นี่มันมีไรบ้างเอ่ย
1. Climax ธรรมดา ขออนุญาตเรียก Normal Climax นะครับ ก็คือ Climax ของเรื่องแหละ เป็นจุดสูงสุดของเรื่องที่ตัวเอกสองฝ่ายกำลังตัดสินกันเพื่อคลายปมปัญหาหลัก ซึ่งอารมณ์คนดูจะถึงจุดตึงเครียดที่สุด แน่นอนส่วนใหญ่ทุกๆคนต่างลุ้นเอาใจช่วยตัวละครเอกฝ่ายดี เช่น
1.1 ฉาก Lion king ตอนซิมบ้า ต่อสู้กับสการ์ ถ้าซิมบ้าแพ้ ผาหินทระนงก็จะกลายเป็นของสการ์และไฮอีน่าต่อไป (คนดูก็คงเศร้าเดินเตะหินออกจากโรงหนังกันเป็นแถว) แต่แน่นอนซิมบ้าชนะ และสการ์ก็ตายเพราะความปลิ้นปล้อนกับปากพล่อยๆของตัวเอง
1.2 ฉาก Brother bear ตอนที่คินไน ตามหาโคด้าไปจนเจอ เดนาฮี แล้วต่อสู้กันจนเดนาฮีหอกหลุด โคด้าที่กลับมาช่วยคินไน จึงรุดไปที่หอก เดนาฮีก็ตามไปแย่งหอกคืน คินไนก็ตามไปช่วยโคด้าจากเดนาฮี จึงถูกเดนาฮีแทงด้วยหอก...!!!
ครับ ทุกช็อตที่ผมพูดมาคือ Climax ของ Brother bear ภาคต้นตำรับทั้งสิ้น แต่จุดที่อารมณ์คนดูถึงขีดสุดจนสุภาพสตรีบางท่านอาจเอามือปิดปากและร้องว้าย ก็คือตอนที่เดนาฮีแกจ้วงหอกมาทางอกน้องชายตัวเองแหละ และนั่นคือการคลี่คลายปัญหา เพราะคินไนได้เข้าใจความรู้สึกแท้จริงของแม่หมีที่ตนฆ่าไปแล้ว และไม่ว่าคินไนจะตาย หรือไม่ตาย ปมปัญหาก็จบด้วยดี เพียงแต่จะจบแบบ Happy หรือ Tragic แค่นั้น แต่ทีมงานวอลล์ ดิสนีย์ดูท่าจะไม่ชอบจบเศร้า เลยให้ซิกร้ามาช่วยคินไนได้ทัน
ครับเรื่องที่มี Climax เดี่ยวๆ เพียง Climax เดียวแบบนี้ คือวรรณกรรมและงานประพันธ์ทั่วไป เป็นลักษณะพื้นฐานของงานประพันธ์ทั้งหมดว่าควรจะมีจุดคลายปมที่ดึงอารมณ์คนดูให้รู้สึกตามที่กวีต้องการจูงอารมณ์ให้เป็นไปตามนั้น แต่นอกจาก Climax แบบปกติพื้นฐานดังกล่าวแล้ว ยังมี Climax อีก 3 ขั้น และ Climax แบบไม่ใช่ Climax อีก 1 แบบครับ
ก็คือ
2. Double Climax
ดับเบิล ไคลแมกส์ ชื่อนี้จริงๆครับ แน่นอนแปลตรงตัว คือเรื่องราวที่มีไคลแมกซ์ 2 ขั้น หรือ 2 ไคลแมกซ์ คือปมปัญหาหลักน่ะมีแค่ปมเดียว แต่...มันดันมีปมซ้อนที่เกี่ยวเนื่องกันที่พอปมแรกตาย ปมหลังกลับเด่นขึ้นมาเป็นปมหลักให้พระเอก นางเอกต้องเผชิญต่ออีกรอบ
ชาวเกม RPG คงนึกออกถึงตอนฆ่าบอสใหญ่ของเกมบางเกมได้แล้ว มันโผล่ร่างที่ 2 ออกมาน่ากลัวกว่าเดิม
ผมอยากจะบอกว่ามันทำนองนั้นแหละครับ = =
ตัวอย่างก็ เช่น Water boys ปมปัญหาของพระเอกคือไม่เคยได้เป็นที่ 1 และไม่เคยประสบความสำเร็จจากกีฬาทางน้ำที่เขารักเลย จนสุดท้ายความผิดพลาดของ รร ทำให้เขากับพรรคพวกต้องแสดงระบำใต้น้ำ ทั้งๆที่พวกเขาเป็น ชายทั้งแท่ง + + สุดท้ายพอเพื่อนๆทำใจได้และต่างก็หัดกันจนมีทักษะแก่กล้า อีตาพระเอกดันพบรักกับสาวสวยโรงเรียนตรงข้าม แล้วดันไม่อยากให้สาวเจ้ารู้ว่าตนจะแสดงระบำใต้น้ำอีก = =
Climax แรกก็คือว่า พระเอกกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ดันไปเห็นนางเอกมาอยู่รวมกะกองเชียร์ อ้าวเวรรร กูไม่ลงเล่นว้อยยยย เพื่อนๆเกลี้ยกล่อมไงพระเอกก็ไม่ยอม สุดท้ายพอเพลงดังขึ้น เลยมีแต่เพื่อนๆลูกทีมออกมาวาดลวดลาย แต่ฉากก็ตัดกลับไปในห้องเปลี่ยนชุด ให้ โค้ชของพระเอกย้อนถึงคำพูดของพระเอก ที่ว่า ไม่อยากเป็นขี้แพ้ไปตลอดชีวิต ทำให้พระเอกฮึดยอมออกมาแสดง แล้วก็ยอมเข้าไปสารภาพรักกับนางเอกตามจังหวะเพลงที่พาไปให้เขาได้ขยับเข้าไปอยู่ตรงหน้านางเอกพอดีด้วย
(Climax ก็คือตอนที่ พระเอกขึ้นไปบนยอดอัฒจรรย์ แล้วตะโกน ฮึ้ยย กระโดดลงน้ำมาจากตรงนั้นเพื่อไปรวมกับเพื่อนๆ แล้วนางเอกหันไปเห็นก็ยิ้มอย่างไม่รังเกียจ ล่ะครับ ตอนนั้นก็กินใจผู้ดูแล้ว แต่คนเขียนบทเขาคงยังไม่พอ ไม่ก็อยากแสดงสปิริตว่า ผมทำดับเบิลไคลแมกซ์ได้นะ ก็เลย...)
เรื่องน่าจะจบแค่นั้น...แต่พอการแสดงจะมาถึงตอนจบที่ต้องต่อตัวเป็นพีระมิดกัน ตอนกระโดดหมุนตัวพระเอกคงสวิงมากไปหน่อย กกน หลุด + +
ขึ้นจากน้ำไม่ได้ นี่แหละครับปมใหม่ ที่เข้ามาฉวยโอกาสเป็นปมเด่นแทนปมแรกที่ตายไปคือถูกคลี่คลายไปแล้ว - -
เพราะพระเอกจะขึ้นมาจากน้ำทั้งยังงั้นก็คงจะ มะผลึยๆๆๆ
ก็ไม่มีใครคิดออกว่าจะเอาไงดี เพราะการแสดงต้องดำเนินต่อไป (ตอนนั้นคนดูกับตัวละครในจออยู่ในอาการค้าง เหวอ ลุ้น ) พอๆกัน และแล้วนางเอกของเราก็เรียกชื่อพระเอก แล้วขว้างสิ่งๆหนึ่งไปให้
สิ่งนั้นคือ กกน ว่ายน้ำที่เธอทำให้พระเอกกับมือตัวเอง ซึ่งเฉลยว่าที่พระเอกกลัวนางเอกจะรู้ความลับของตนอะ หล่อนรู้มาตั้งนานแล้ว และก็ไม่ได้รังเกียจด้วย และเรื่องก็จบอย่างงดงาม = =
48 ความคิดเห็น
ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 - 3 ช่วงนะครับ ไม่งั้นไม่ผมก็คนอ่านคงตาลายกันไปข้าง เพราะมานยาวววว - -+
3. Triple climax
คงเดาได้จาก Double climax ในหัวข้อก่อนนะครับว่า Triple Climax คือ Climax 3 ขั้นนั่นเอง
โอโห ละคร หรือ นิยายเรื่องไหนเนี่ย มีปมปัญหาแทรกซ้อน 3 ขั้น เหอะๆๆ ตอบว่ามีครับ เช่น
3.1 แดจังกึม
แดจังกึมจะมี Triple ที่ไม่ค่อยชัดเจน แต่ก็พอจะแยกเป็น 3 ขั้นได้ ดังนี้
ปัญหาแรกมาจาก แชซังกุง และ ตะกูลแช ของเธอ ที่ต้องการทำลายนางเอก เพราะนางเอกเป็นลูกของปักเมียงยอ ซึ่งรู้ความลับความผิดพลาดของกิมยอง (หลานสาวแชซังกุง) แน่นอนแชซังกุงจึงใส่ร้ายนางเอกต่างๆนานา แม้นางเอกกลับมาในฐานะหมอ แชซังกุงก็ยังใส่ร้าย แต่สุดท้ายแชซังกุงก็พ่ายแพ้ทั้งความดีของนางเอกและตอที่ผุดขึ้นมา จนต้องตกเหวตายอย่างน่าอนาถ เรื่องก็น่าจะจบแต่...อีตาฮ่องเต้ดันหลงรักนางเอกขึ้นมาซะได้ แต่นางเอกกลับรักพระเอก (มินจุงโฮ) ซึ่งเรื่องตาแก่ฮ่องเต้นี่คือไคลแมกส์ที่สอง เพราะขัดขืนก็อาจเป็นภัย แต่เป็นไคลแมกส์ที่สองที่ไม่สู้จะชัดเจนนัก เพราะฮ่องเต้ดูไม่น่ากลัวไรเลย สำหรับคนดู คนดูจึงคิดว่านางเอกน่าจะหาทางออกได้ง่ายๆโดยไม่เสียเลือดเนื้อ แต่ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อพระมเหสีไม่ได้หึง แต่ดันออกคำสั่งบ้าๆให้แดจังกึมปลงพระชนม์พระโอรส...!!! และไคลแมกส์ที่ 3 นี่แหละครับที่บีบนางเอกกับพระเอกให้ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ชนิดคนดูต้องลุ้นกันต่ออีกรอบว่าแดจังกึมกะมินจุงโฮจะรอดไหม... และแล้วก็จบลงด้วยดี = =
(ผมว่าที่คนไทยกว่า 60% ไปนิยมละครญี่ปุ่น / เกาหลีแทน เพราะมันมีไคลแมกซ์ซับซ้อนกว่าไทยนี่ละมั้ง มีให้ลุ้นหลายชอต เลยเหมือนน่าติดตาม แต่จริงๆ Climax ซ้อนนี่ ถ้าพูดทางการแพทย์มีผลให้ร่างกายเกิดความเครียดโดยไม่จำเป็นนะครับ ถ้านานๆทีไปดูหนังหรือซื้อนิยายมาแล้วเจอทีนี่ไม่เป็นไร แต่เจอเอาบ่อยๆไม่มีการพักฟื้นนี่ โรคประสาท หรือโรคเครียดอาจถามหาได้นะ อิอิ )
3.2 รามเกียรติ์ (สำนวนไทยเท่านั้น) ไหนๆก็เชียร์พี่ไทยเรามั่งดีกว่า ไทยเราก็มีงานประพันธ์ที่มี Triple Climax นะครับ แต่คนไม่ค่อยสังเกต เพระโขนนี่ เขาเล่นแบ่งเป็นตอนๆ ไม่ได้เล่นรวดเดียวจบ คนก็ไม่ค่อยอยากอ่านพรวดเดียวจบ เลยไม่ได้สังเกตว่ามันมี Triple
Climax แรก ไม่ต้องบอกคงรู้ แน่นอนตอนล้มทศกัณฐ์
แต่ล้มทศกัณฐ์ไปแล้วดันไม่จบ ดันมีนางกำนัลคนหนึ่งที่ภักดีต่อทศกัณฐ์มาก และนางสีดาดันพานางนี่กลับไปเมืองอโยธยาด้วย - -
ครับ นางอดุลยปีศาจนั่นเอง พอนางได้ทีก็ลวงให้นางสีดาวาดรูปทศกัณฐ์ให้ดู พอนางสีดาหลงกลก็เข้าไปสิงรูปให้ลบไม่ออก - -+ พระรามมาเห็นก็.... เฮ้อ โกรธแค่ไหนก้ไม่น่าสั่งประหารเมียตัวเองน้า น่าจะสอบสวนก่อน ตอนสีดาจะโดนพระลักษณ์ประหารแหละครับ ไคลแม็กซ์ที่สอง ซึ่งเข้ามาแทรกหลังจากที่ปมปัญหาหลักคือทศกัณฐ์ตายไปแล้ว (จะไม่กล่าวถึงศึกไพนาสุริยวงศ์ซึ่งเป็นลูกทศกัณฐ์ก่อกบฏนะครับ เพราะไม่อาจถือเป็นไคลแม็กว์ได้ เนื่องจากไม่สะเทือนตัวละครหลักคือพระราม / สีดาโดยตรง เพราะไพนาสุริยวงศ์แค่จับพิเภกไปขังรออาญา ซึ่งสำหรับพระราม พิเภกไม่สำคัญเท่าสีดา และสำหรับความรู้สึกของนางสีดา พิเภกก็แทบไม่ได้สำคัญอะไรอยู่แล้ว ศึกไพนาสุริยวงศ์จึงเป็นเพียง Rising action เล็กๆ ที่เกิดจากขั้นตอนการยืดเรื่องเท่านั้น)
ทีนี้ Climax ที่สาม ก็คือหลังจากพระรามทำพิธีอัศวเมธแล้วให้หนุมานตามม้าไป จนไปเจอพระมงกุฏและพระลบ โอรสนางสีดากับพระรามนั่นแหละ พอพระรามรู้ว่าเมียไม่ผิดและยังไม่ตายก็ขอคืนดี แต่นางสีดาดันไม่ยอมคืนดี พระรามอุตส่าห์แกล้งตายให้นางสีดามางานศพ พอมาถึงงานศพรู้ว่าสามีหลอก ก็โกรธอีก งานนี้หนีลงไปใต้บาดาลเลย - - คนดูก็...เมื่อไหร่จะแฮปฟะเนี่ย... - -+ ลุ้นกันว่าพระเอกจะทำไงดีให้นางเอกยอมหันกลับมามอง (ทำนองนั้น) สุดท้ายนางสีดาก็ยอมคืนดีกับพระราม (ต้องให้พระอิศวรมาช่วยไกล่เกลี่ย) เรื่องถึงได้จบ
* * Triple Climax ที่ผมยกตัวอย่างมา ในความรู้สึกผม ยังไม่ค่อยชัดเจน...เพราะในสายตากวีระดับครู 2 เรื่องนี้ยังจัดเป็นแค่ เรื่องที่มี Climax แบบ 2.5 (คือก้ำๆกึ่งว่าจะ 3 แต่ไม่ 3 ขั้นเต็ม) ถ้าใครรู้จักเรื่องที่มี Climax แบบ Triple เต็มๆ จะนำมาเล่าแบ่งปันกันก็เป็นพระคุณอย่างสูงครับ
คงแบบแรกมั้งครับ แหะๆ
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ ว่าแต่ท่านยังไม่บอกผมจากกระทู้เก่าเลย จบKUรุ่นไหน ปีอารายย
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
เอาล่ะ ท่อนสุดท้าย...
4. Quadruple Climax คือ ไคลแมกซ์ 4 ขั้นนั่นเองครับ
เป็นอะไรที่คิดว่ายากสุดๆ ใครเขียนได้คงพูดภาษาวัยรุ่นออนไลน์ว่า เทพ!!! ได้เลย เพราะขนาด Triple ยังยากแล้ว
และเพราะความยากของขั้น Quadruple ทำให้ไม่มีนักประพันธ์คนไหน ในวงการหนังและนิยาย เขียน ไคลแมกซ์ 4 ขั้นนี้ได้มานานแล้ว
ตัวอย่างของ Quadruple Climax ที่ผมหามาได้ มีเพียงภาพยนตร์เรื่องบูเช็กเทียนครับ (จำไม่ได้ว่าเวอร์ชั่นไหน) แต่รู้บท และแน่นอนมันเป็น ตย ของ Quadruple ดังนี้
Climax หลักก็คือนางเอกถูกพระมเหสีขององค์ชายหลีจื้อ (รัชทายาท) ระแวงมาตลอดว่าอาจมาแย่งตำแหน่ง (เพราะนางเอกสวยกว่า แถมมีไหวพริบเข้าตาฮ่องเต้และองค์ชายมากกว่า หารู้ไม่ว่าคนที่นางเอกรักคือ แม่ทัพหลี่) พระมเหสีจึงพยายามใส่ร้ายนางเอกว่าเป็นกบฏ แต่สุดท้ายนักปราชญ์หนุ่ม (จำชื่อไม่ได้ - - ) ศิษย์เอกของมหาอำมาตย์ที่เมตตานางเอกมากๆ ก็ช่วยให้ทุกคนรู้ความจริงว่า กบฏตัวจริงก็คือ พระมเหสีเองนั่นแหละ !
ฉากไต่สวนนางเอก หากเราอยู่ในโรงหนัง คงลุ้นตาตั้งแน่ นางเอกจะรอดไหม จะถูกตัดหัวไหม ทั้งๆที่สมองเราก็สั่งการอยู่ว่า เฮ้ยเขาต้องได้เป็นฮ่องเต้หยิงคนแรกของจีน ยังไงก็ต้องรอดอยู่แล้วน่า แต่ก็อดไม่ได้ว่า รอดยังไงๆ เพราะสภาพนางเอกตอนนั้นก็ไม่น่ารอด ไม่มีไรสู้พระมเหสีได้เลย...
จบปมปัญหาหลักไปนึกว่าเรื่องจะแฮป (นึกว่านางเอกสุดท้ายก็ยอมรับรักองค์ชายแล้วครองรักกันไปตาองค์ชายป่วยตายก่อนนางเอกมีลูก และไม่มีรัชทายาทอีก นางเอกเลยเป็นฮ่องเต้แทน - - ) ที่ไหนได้ องค์ชายยังมีเมียเก็บอีกคนคือพระสนมเซียว - -+
และพอพระสนมเซียวรู้ว่าพระมเหสีโดนประหารไปแล้ว ก็คิดว่าเก้าอี้พระมเหสีต้องเป็นของตัวเอง แต่ก็ได้รู้ว่านางเอกกำลังเป็นที่โปรดปราน เหอะๆๆ นางเอกเลยเจอคลื่นสึนามิระลอกสอง (ร้ายกว่าเก่าอีก - - ) กว่าที่เพื่อนๆจะรวบรวมหลักฐานมาช่วยให้นางเอกไม่ต้องโดนประหาร และพระสนมเซียวโดนประหารแทนแบบกรรมสนอง คนดูก็ลุ้นแทบหัวใจวาย
อ้าวยังไม่จบ แม่ทัพหลี่คนรักของนางเอก เกิดถูกจับได้ว่าเป็นสายเลือดกบฏอีก...องค์ชายหลีจื้อซึ่งอ่อนแอและเพิ่งเป็นฮ่องเต้ก็ระแวงเกินเหตุคิดจะฆ่าแม่ทัพหลี่ตัดไฟแต่ต้นลม นางเอกเลยต้องสวมบทนางร้ายจับสามีตัวเองเป็นตัวประกันเพื่อช่วยคนรัก (Triple climax ของเรื่องนี้โดนใจมากครับ ชัดเจนดีด้วย ตอนนางเอกเอาดาบจ่อคอฮ่องเต้ นี่ผมว่า คนดูเฮกันลั่นโรงพอๆกะบอลทีมที่ตัวเองเชียร์ยิงลูกได้) แต่สุดท้ายไคลแมกซ์ที่ 3 นั้นก็จบแบบเศร้าๆ เพราะแม่ทัพหลี่รักนางเอกมาก ไม่อยากให้นางเอกต้องมีโทษไปเพราะตัวเอง เลยฆ่าตัวตายต่อหน้านางเอกกะฮ่องเต้ + +
นางเอกกะฮ่องเต้ที่ละเ่ยใจกลับมาวัง นึกว่าเรื่องจะจบ ที่ไหนได้ ระหว่างที่ไปผจญภัยกันมา พระสนมอิ๋งอิ๋ง พี่น้องร่วมสาบานของนางเอกเองที่มักใหญ่ใฝ่สูงมานานแล้ว กลับลอบแทงข้างหลังนางเอกอย่างจัง เพื่อนร่วมสาบานคนอื่นของนางเอก , แม่นางเอก และลุกนางเอกที่เกิดจากฮ่องเต้ ถูกอิ๋งอิ๋งฆ่าหมด... + + นางเอกต้องร่วมมือกับนักปราชญ์หนุ่มคนเดิมรับมืออิ๋งอิ๋ง จนอิ๋งอิ๋งยอมตัดสินกันด้วยเดิมพันชีวิตและตายไปด้วยยาพิษที่เดิมพันชีวิตกับนางเอก Climax ที่ 4 อยู่ตรงการเดิมพันชีวิตแหละครับ ทั้งอิ๋งอิ๋งและนางเอกต่างรู้แล้วว่ากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนวันเก่าๆไม่ได้แล้ว และนางเสือสองตัวอย่างพวกตนไม่มีทางอยู่วังเดียวกันได้ ต้องมีใครสักคนตายไปเรื่องถึงจบ ไม่งั้นก็นองเลือดกันไม่หยุด จึงเสี่ยงกินเหล้ากันใครหยิบได้ถ้วยที่มียาพิษคนนั้นตาย อีกคนที่เหลือก็อยู่เป็นพระมเหสีต่อไป
ตอนนางเอกดื่ม คนดูทั้งโรงถึงจะเรียนประวัติศาสตร์มาจนรู้ว่ายังไงบูเช็กเทียนก็รอด ก็คงหายใจไม่ทั่วท้อง พอเห็นนางเอกหน้าซีด + อิ๋งอิ๋งยิ้มทำตาวาวหัวเราะหึๆๆ ก็เริ่มใจเสียแล้ว พออิ๋งอิ๋งกระอักเลือดออกมา คนดูทั้งโรงคงถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมๆกัน + +
นั่นแหละครับ Quadruple อันเดียวที่ผมเคยเจอ...(ถ้าใครเคยเจองานประพันธ์ที่มีไคลแมกซ์ 4 ขั้นอีกก็แนะนำด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณมากๆ)
ทีนี้คือไคลแมกซ์แบบที่ 5 ที่ไม่จัดเป็นขั้น แต่จัดเป็นเรื่องของไคลแมกซ์ ก็คือ Anti climax ครับ
ก็คือเหมือนๆจะมีไคลแมกซ์แต่ดันไม่มี เช่นเรื่อง ชีวิตของ Queen Mum ที่ตอนนี้คงหา DVD ดูได้บ้างแล้ว ซึ่งเล่าเฉพาะชีวิตของควีนมัม หลังจากอังกฤษสูญเสีย เลดี้ไดอาน่า ไป ซึ่งไม่มีส่วนใดของเรื่องที่ดึงอารมณ์คนดูได้จากปกติเลย เนื้อเรื่อง Plain เป็น Falling action ที่ต่อเนื่องทั้งเรื่อง แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีไคลแมกส์ครับ ซึ่งจริงๆงานประพันธ์ควรจะมีจุดสุดยอดแต่เมื่อไม่มีก็ถือเป็น Anti climax
แอนตี้ไคลแมกซ์ถ้าโผล่ในงานปกติที่มีไคลแมกซ์เดียว เรื่องจะจืดไปเลย เพราะไม่มีจุดเร้าอารมณ์ขั้นสุดยอด แต่แอนตี้ไคลแมกซ์จะให้รสชาติมากๆ หากเกิดในเรื่องราวที่มีไคลแมกซ์มากกว่า 1 ตัวอย่างเช่น Batman Return ภาคศึกมนุษย์เพนกวิน + นางแมวป่า
ที่พอแบดแมนซัดเพนกวินตกน้ำพิษไปแล้ว และนางแมวป่าก็แก้แค้นเจ้านายตัวเองสำเร็จและหายสาบสูญไปแล้ว เรื่องน่าจะจบ แต่เอ๊ะ ข้างหลังของแบดแมนเจ้าเพนกวินขึ้นจากน้ำมาเงียบๆ แววตาถทึงพร้อมหันปืนร่มมาทางแบดแมน แต่แล้วยังไม่ทันได้ฆ่าแบดแมนเพนกวินก็ขาดใจตายไปเสียก่อน...
นั่นคือแอนตี้ไคลแมกซ์ ที่เหมือนจะมีไคลแมกซ์ซ้อน ให้คนดูคิดว่า เฮ้ย แล้วแบดแมนจะทำไงดีวะ หรือ เฮ้ย แคทวูแมนจะกลับมาช่วยหรือตายแทนไหม
แต่แล้วก็ไม่มีไคลแมกซ์เกิดขึ้นอีก เพราะเพนกวินดันขาดใจตายไปเอง...คนดูก็โล่งอกกันทั่วโรง แอนตี้ไคลแมกซ์ให้รสชาติที่ดีในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ครับ...
แหะๆเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ เพื่อนๆคนไหนมีไคลแมกซ์ 1 ใน 5 แบบนี้ ที่น่าสนใจเอามาแบ่งปันกันบ้างก็ดีนะครับ
แล้วก็ไหนๆก้ไหนๆ ตั้งกระทู้แล้วก็แอบถามด้วยเลยว่า นิยายเพื่อนๆวางแผนไว้ว่า จะใส่ไคลแมกซ์แบบไหนลงไปครับ (ของผมมีแค่ดับเบิลก็ปลื้มแล้ว แต่ต้องลองดูก่อนว่าไหวไหม อิอิ )
ชอบใจที่เอารามเกียรติ์มายกตัวอย่างจังเลย นี่แหละ สุดยอดวรรณกรรมของไทยเรา
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ มีประโยชน์มากมายทีเดียว ~
PS. "...ไม่จำเป็นต้องหลอกตัวเองอีกต่อไป... ...เพราะแม้เราจะล้มลงดิ้นทุรนทุราย ก็ไม่มีใครเหลียวแล ...ไม่มีใคร สักคน..." >>>[ THE HERO OF INFALRIN ] แฟนตาซีอีกเรื่องที่อยากให้คุณสัมผัส !!
คงแบบแรกมั้งครับ แหะๆ
ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันครับ ว่าแต่ท่านยังไม่บอกผมจากกระทู้เก่าเลย จบKUรุ่นไหน ปีอารายย
PS. "You who go where others dare not; Will you be my God? The architect of my house?"
Ku 57 ครับ จบปี 2544 แล้วต่อในปี 2546 จบ ปี 2549 ครับผม
มีแค่ 4เองเหรอ - -"
PS. ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ดี๊ด่าด้า ใจเย็นก็กลัวว่าหมา อา อา จะคาบไป ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ก็หวั่นไหว~
โอ....ไคลแมกซ์สี่ชั้น o__O อะไรมันจะลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศขนาดนี้เนี่ย
PS. You may call me a freak, Or someone like me for that matter, But in our eyes, You are a freak too.
แง่ว มี 5 คร้าบ แบบที่ 5 สามารถนำไป Edit กับอีก 4 ให้มี Vibration ที่หลากหลายขึ้นได้  ( เรียกง่ายๆมุขหลอกคนดูหรือคนอ่านนั่นแหละ ฮี่ๆๆๆ )
เอ ตามพล๊อตโดยไม่ตั้งใจ ก็คง ดับเบิ้ล ล่ะครับ
PS. who say i can't
คงดับเบิ้ลครับ
PS. people=shit
เหอๆ
งั้น...ขอแต่งเรื่องแบบไคลแมกซ์ซัก 7 ชั้นก็พอ...ฮ้า...ให้มันได้ยังเน้ !
+++++++
สึงหลึง = ='
PS. สึงหลึง(ก.) แปลว่า งงงัน = =' (ในภาษาอีสาน)
ของผมเท่าที่ดูมีแค่สองครับ ทั้งสองภาคเลย (แต่ภาคสองยังไม่ถึงไคลแมกซ์สักจุด)
คือช่วงงานประจำปีของสถานศึกษาตัวเอก และช่วงจบ
PS. Boeing 747-4D7 GE CF6-80C2B1F HS-TGX "Sirisobhakya" ความทรงจำแสนดี ณ สหพันธสาธารณรัฐเยอรมนี.... จะไม่มีวันลืมเลือน จะคิดถึงตลอดไป....
ขอศึกษาแล้วกันครับ ..... เยี่ยม จริงๆ
PS. http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=296721 นิยายอิปิคแฟนตาซีผสม ที่อยากแนะนำและอยากให้ติดตามครับ...ขอบคุณมาก
ไคลแมกซ์เยอะกลัวจะทำให้คนอ่านหัวใจวายจังเลย (จะมีปัญญาทำให้ได้อย่างงั้นหรือเปล่านะเรา...)
ป.ล. การ์ดใบนั้นดูเผินๆแล้วเหมือนจะโกงนะ แบบว่าลงมาร่ายฟรี (ชุดLegacyมีแบบนี้เยอะพอสมควร)
PS. ช้าๆพร้าขึ้นสนิม ไปก่อนผ่อนที่หลัง
ไคลแมกซ์เยอะกลัวจะทำให้คนอ่านหัวใจวายจังเลย (จะมีปัญญาทำให้ได้อย่างงั้นหรือเปล่านะเรา...)
ป.ล. การ์ดใบนั้นดูเผินๆแล้วเหมือนจะโกงนะ แบบว่าลงมาร่ายฟรี (ชุดLegacyมีแบบนี้เยอะพอสมควร)
PS. ช้าๆพร้าขึ้นสนิม ไปก่อนผ่อนที่หลัง
5555 ก็โกงพอควรครับ เพราะนอกจากร่ายฟรี พอจะตายหรือโดนอัดถึงตายก็หนีกลับเข้ามือได้อีก แต่เขาก็ไม่แบน เพราะค่าร่ายมันทำให้มันเกิดยากพอควร เอ...แต่มันไม่เกี่ยวกะไคลแมกซ์เลยนะ หรือว่าเกี่ยวเอ่ย
สาระดีจัง ^^ ชอบ ๆ
ยาวไปปวดตา = =" เดี๋ยวเซฟไว้อ่านต่อนะ
PS. วิถีโอตาคุ : บ้าคลั่งการ์ตูน เทิดทูนสองมิติ ลัทธิคือสังกัด กอดรัดกับโดจิน นั่งจิ้นกับแฟนอาร์ต ขยาดกับคนจริง อย่างปิ๊งต้องสาวแว่น!!! [แน่ใจนะว่านี่คล้องจองแล้ว]
ผมสังเกตดูเล่นๆ พบว่า...
จำนวนไคลแม็กซ์จะแปรผันตามความยาวของเรื่อง
...จะว่าไป ผมยังไม่เคยเห็นเรื่องสั้นเรื่องไหนที่มีไคลแม็กซ์ถึงสามจุดเลยนะ เต็มที่แค่สอง
-----------------------------
ว่าด้วยการ์ดใบนั้น...
ถ้าเอา Palinchron มาเล่นในบล็อคหลังๆนี่สิครับ ถึงจะโกง
เพราะการ์ด counter spell เป็นของหายากไปแล้ว
ว่าแล้วก็หวนนึกถึงตอนที่ตัวเอง counter palinchron อย่างเมามัน -.-
PS. ย่อมาจาก Play Station...?
จำนวนไคลแม็กซ์จะแปรผันตามความยาวของเรื่อง
...จะว่าไป ผมยังไม่เคยเห็นเรื่องสั้นเรื่องไหนที่มีไคลแม็กซ์ถึงสามจุดเลยนะ เต็มที่แค่สอง
-----------------------------
ว่าด้วยการ์ดใบนั้น...
ถ้าเอา Palinchron มาเล่นในบล็อคหลังๆนี่สิครับ ถึงจะโกง
เพราะการ์ด counter spell เป็นของหายากไปแล้ว
ว่าแล้วก็หวนนึกถึงตอนที่ตัวเอง counter palinchron อย่างเมามัน -.-
PS. ย่อมาจาก Play Station...?
Counter ที่ผมเกลียดมากๆอะคือ Force of will ครับ
รองลงมาก็ Foil กับ Thwart เรียกได้ว่าโกงมากๆเลย
อันดับสามก็ Absorb , Undermine และ Mystic snake (โดยเฉพาะ Mystic Snake ที่ลงมาโดยมี Elvish Piper กับ Temporal Adept ยืนก๋าอยู่ก่อนแล้ว - -+) เอ๊ะ แต่นี่ไม่ใช่กระทู้คุยกันเรื่องการ์ดนี่หน่า = =
เรื่องสั้นที่มี Triple Climax พอจะมีนะครับ แต่ไคลแมกซ์ขั้นที่ 3 มันจะไม่ค่อยชัดเจนแค่นั้นเอง เพราะความสั้นของเรื่องและเพราะระดับความยากของการใส่ Triple ให้ไม่กระทบกระเทือน Treatment และ Vibration ของเรื่องนั่นเองที่เป็นอุปสรรคทำให้เราเล่นกับ Triple ได้ยากกว่า Double ครับ
ไหนๆก็ไหนๆ หาเรื่องสั้นของ (ไทยเรา ^ ^) ที่มี Triple มาให้ดูด้วยเลย
เรื่อง ตึกกรอส ไงครับ เคยอ่านกันไหมเอ่ย
ไคลแมกซ์ที่ 1 ของเรื่องอยู่ตรงไหน...?
ถ้าอ่านกันเพียงรอบแรก อาจจะเข้าใจตรงกันได้ว่าคือตอนที่เจษวีนใส่พวกรุ่นน้องเฟรชชี่ที่อาจล่วงเกินศพที่ 11 (ศพของวิทยาซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง) และกล่าวสรรเสริญวิทยา เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าวิทยาจะมีอดีตอย่างไร เป็นลูกนักโทษอุฉกรรจ์ และได้หัวใจของต้อย (นางเอก) ไป แต่เจษก็ยังคงรักและนับถือวิทยาไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าวิทยาจะตายไปแล้วก็ตาม ดังนั้น Climax ที่สอง ก็คือกระดาษปริศนาที่ ต้อย และ เจษ ได้มาจากวิทยาตั้งกะต้นเรื่อง ที่ในตอนจบต้อยและเจษตัดสินใจทำลายมันทิ้งเสีย เพื่อให้วิทยาได้เป็นฮีโร่แห่งวงการนักเรียนแพทย์ต่อไปตลอดกาล ซึ่งการเปิดเผยข้อความในกระดาษนั้นคืออีกปมหนึ่งซึ่งละทิ้งไม่ได้ เพราะถ้าไม่กล่าวถึงข้อความนั้น คนอ่านก็จะคาใจว่ามีอะไรกันแน่ การเผยข้อความนั้น ทำให้รู้ว่า วิทยาเป็นลูกนักโทษคดีอุฉกรรจ์ และไม่รู้ความจริงนั้นมาตลอด ไม่รู้กระทั่งว่าพ่อตัวเองอุทิศศพตนให้ตนเองได้ผ่าเพื่อจะได้จบเป็นแพทย์อย่างเต็มภาคภูมิ และพอวิทยารู้ความจริงข้อนั้นด้วยความประมาทของผู้เป็นอา เขาก็ช็อคจนป่วยและตายไปตามที่รู้ๆกัน
ทว่า หากเราอ่านย้อนอีกสัก 2 - 3 ครั้ง เราจะพบ Anti climax ที่เนื้อเรื่องจุดดังกล่าวนี้
ด้วยอาการของคนบ้า วิทยาดึงดวงไฟลงมาจนชิดท้ายทอยของศพ และก้มลงจ้องดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไฝสามเม็ดซึ่งเรยงอยู่เป็นแถวที่ท้ายทอยอันมีผมเกรียนของศพนั้นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน วิทยาร้องเสียงแหลมคล้ายสัตว์ที่เจ็บปวด เขาล้มลงอย่างแรงหัวฟาดโต๊ะชำแหละตัวซึ่งอยู่ติดๆ กันนั้นเสียงสนั่นมันก้องไปในความเงียบและสะท้อนกลับมา เสียงกึงกังเหมือนจะหลอน
นั้นเองคือคืนอวสานแห่งชีวิตนักเรียนแพทย์ของวิทยาไม่มีใครพบเขาที่มหาวิทยาลัยอีกนับแต่วันนั้น เขาหายไปจากมหาวิทยาลัยและเตลิดไปจากบ้านคล้ายกับจะหลีกลี้ต่อทวารปรภพ ไม่มีใครทราบว่าทำไมวิทยาไปที่ตึกกรอสในคืนนั้น ไม่มีใครทราบว่าทำไมวิทยาจึงต้องหายหน้าไปจากมหาวิทยาลัยและเตลิดไปจากบ้าน ไม่ยอมให้ใครเห็นหน้าแม้แต่คนที่เขารักอย่างสุดสวาทขาดใจเช่นต้อย ทุกอย่างยังคงเป็นเรื่องลี้ลับกระทั่งสองปีต่อมา-ขณะที่เพื่อนและคนรักของเขาเป็นนักเรียนแพทย์ปีที่ ๓ ขณะที่เขากำลังจะตายเช่นในขณะนี้เอง เขากลับมาศิริราชอีกครั้งหนึ่งด้วยหวังจะเห็นคนที่เขารักเป็นครั้งสุดท้าย และในวินาทีเหล่านี้เอง ความลับเหล่านั้นคลี่คลายออกด้วยเพียงกระดาษชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียวที่เขาส่งให้หญิงที่เขารักด้วยสมัครใจ
เสียงพูดปนเสียงหอบดังขึ้นจากเตียง เจษ, นั่นแกหรือ?
จะเห็นว่าเนื้อหาส่วนที่ผมเน้นด้วยสีแดงนั้น ตึงเครียดจนเกินจะเป็น Rising action เพราะเกี่ยวข้องกับพระเอกของเรื่องโดยตรง โดยเฉพาะตอนวิทยาล้มหัวฟาดพื้น บางคนอาจตกใจ (ถ้าทำเป็นหนัง) และคิดว่าวิทยาอาจบ้าหรือตายหรือเพี้ยนไปเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้
แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกสกัดเป็น Anti climax ไปด้วยการตัดฉากโดยฉับพลันมาที่เหตุการณ์ที่ผมเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแทน
แต่แน่นอน...หากเราอ่านช่วงนั้นซ้ำๆ เราจะรู้ได้ถึงความทรมานของวิทยา และแน่นอนถ้ามันออกมาในรูปของหนังหรือละคร ผู้ชมโดยเฉพาะสตรีที่เป็นแฟนคลับวิทยา หลายๆคนจะถูกกดดันอารมณ์เข้าขั้น Climax ทีเดียว ตอนที่เขาล้มลงหัวฟาด หลายๆคนก็อาจจะเผลอร้อง ว้าย...!! พี่วิทยา...!!! ก็ได้
แต่เพราะเหตุการณ์ตึงเครียดนั้นถูกตัดขาดไป โดยการตัดฉากกลับมายังปัจจุบัน มันจึงกลายเป็น Anti climax ไป
และไม่หมดแค่นั้น เรื่องตึกกรอสนี้ไม่ได้มีเพียง 2 ไคลแมกซ์ กับ 1 Anti climax แต่ยังมี Anti climax เล็กๆอีกจุด คือในช่วงเนื้อหาสีน้ำเงิน 3 พารากราฟสุดท้าย เมื่อเพื่อนๆอ่านย้อน ผมมั่นใจว่าจะต้องรู้สึกว่า
เสียงพูดปนเสียงหอบดังขึ้นจากเตียง เจษ, นั่นแกหรือ?
ณ จุดนี้สามารถขยายเป็นไคลแมกซ์ได้อีก 1 จุด ไม่ว่าจะให้วิทยาแสดงอะไร พูดอะไรก็เป็นไคลแมกซ์ได้หมด เพราะอารมณ์ผู้อ่าน (หรือผู้ดู) ตอนนั้น จะสามัคคีกันโฟกัสมาที่วิทยาหมด แต่...ผู้ประพันธ์กลับข้ามมายังฉากต่อมาเลย ซึ่งสันนิษฐานว่าเขาอาจกลัวว่าเรื่องจะยาวเกินเรื่องสั้น ( ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรื่องสั้นมีไคลแมกซ์ซ้อนได้ยากกว่านิยาย เพราะคนเขียนจะกังวลกับความยาวของเรื่องอยู่เกือบตลอดเวลา ) หรือเขาอาจจะอยากรีบจบเรื่องก็ได้...(ถ้าคิดในอีกแง่ นะครับ) และเพราะมันถูกปิดผนึกไปด้วยการตัดฉาก จึงเป็น Anti climax เล็กๆ อีกจุด
และเมื่อเทียบอัตราส่วน Double Climax ที่เห็นได้ชัดเจน = 2 + Anti Climax 2 จุด เราจะเห็นว่าเรื่องนี้สามารถมี Triple ได้ เพราะมีจุดที่สามารถพัฒนาเป็นไคลแมกซ์ได้เกินกว่า 1 จุด เพียงแต่ว่าจุดเร้าอารมณ์ 2 จุดนั้น ถูก Anti ไป เราจึงพบไคลแมกซ์เพียง 2 ตัว
ลักษณะแบบตึกกรอส อาจจะเรียกว่า Shadow Triple ได้ คือเห็นเป็นดับเบิล แต่จริงๆมี Triple ถูกซ่อนอยู่หรือถูกลบไปแต่ยังปรากฏร่องรอยให้คนอ่านตรวจพบได้...
อีกเรื่องที่มี Triple ที่เป็นของไทย คือ เวลาในขวดแก้วครับ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จอาจเอามาให้ดู ขอตัวก่อนนะครับ
เวลาในขวดแก้วมาตามสัญญาแล้วครับ
ไคลแมกซ์แรกอยู่ที่ ป้อมไปประท้วง จนบาดเจ็บสาหัส และตายที่ รพ
ไคลแมกซ์ที่ 2 ก็ตอนแม่จ๋อมตาย + มณฑิราชนะคือได้สมบัติไปทั้งหมด (เป็นแก้คลายปมปัญหาของครอบครัวจ๋อมแบบ Evil win ซึ่งเป็นเพราะคุณประภัสสร ต้องการสะท้อนภาพลักษณ์ของสังคมที่หัวหน้าครอบครัวไร้ความรับผิดชอบรักเมียน้อยมากกว่าเลือดในไส้)
ไคลแมกซ์สุดท้าย คือตอนนัท (พระเอก) รับปริญญา แล้วจ๋อมไม่ยอมมางาน (เศร้าอีกละ...เพราะคลายปมว่าสำหรับจ๋อม นัทเป็นแค่เพื่อนที่ดีที่สุดไงครับ...)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?