~~~~~เมื่อแม่รู้....ว่าผมขายตัว~~~~~~~
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่สำหรับผมนั้นมันก็ไม่แน่ใจว่าทำเพราะมันหรือเปล่า?
ตอนนี้ผมอายุ 20 แล้วแหละ อยู่ ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน กรุงเทพ
ผมจำได้ วันแรกที่ขายตัว แต่ก่อนที่ผมจะเล่าผมขอเล่าถึงเรื่อง ราวเกี่ยวกับครอบครัวของผมก่อนนะคับ
ผมเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายหนึ่งคน พ่อผมเสียไปไม่นาน แต่แยกทางกับแม่ตอนที่ผมเล็ก ๆ แม่มีพ่อใหม่ เป็นคนจีนอะคับ แม่ทำธุรกิจส่วนตัว เลยไม่มีเวลาให้ทางบ้าน ส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานธุรกิจเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฐานะทางบ้านผมจึงเป็นครอบครัวที่มีฐานะ แม่ผมซื้อ คอนโดมิเนียมสองห้อง(ตีทะลุเข้าเป็นห้องเดียวกัน) ให้กับพี่ชายของผม ส่วนตัวผมแม่ซื้อ บ้านจัดสรรให้ ส่วนแม่ก็อยู่ที่บริษัทของเขา พ่อก็มีบริษัทเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้น ครอบครัวผม สี่คน ต่างคนต่างอยู่ พี่ชายผมก็ทำงานแล้ว
ผมกับแม่ จะเจอกันก็ประมาณ เดือนหนึ่งครั้งหนึ่ง เจอกันก็แค่ สามสี่ชั่วโมงแม่ก็ต้องไปทำงานต่อ ส่วนพี่ชาย ก็นาน ๆ หลาย ๆ เดือนกว่าจะมาหาผมทีหนึ่ง ส่วนพ่อเลี้ยงก็ คล้าย ๆ กับแม่ ผมจึงอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ ม 3 ตอนนี้ก็ยังอยู่บ้านคนเดียวอยู่
ส่วนเรื่องเงินผมก็จะใช้บัตร โดย มีสามบัตร 1 บัตรเอทีเอ็ม เดบิท 2. บัตรเอทีเอ็ม 3.บัตรเครดิต(บัตรอันที่ 3 นี้แม่ตั้งกฎว่าห้ามใช้เด็ดขาด จนจะมีเหตุจำเป็นจริง ๆ) อันที่จริงสองบัตรแรกก็ใช้พอแล้วแหละนะ
วันหนึ่งแม่จะโอนให้วันละ 500 จนถึง 1000 แล้วแต่ ถ้าวันเสาร์ อาทิตย์ก้ให้ปรกติ แต่ถ้าไปเที่ยวหรือว่าไปไหน(ที่ไม่ได้ไปเรียน) แม่จะโอนให้ 1000-2500 ต่อวันอะ ส่วนพ่อเลี้ยง ด้วยที่เขาเป็นคนจีนและผมเป็นผู้ชายเขาจึงรักมากกกกกก(ขอย้ำ) พอถึงเทศกาลสำคัญของจีนละก็ ผมแทบจะนับเงินไม่ไหวเลยแหละ
แต่ก็น่าแปลก มีเท่าไร ผมก็ใช้หมดแหละ (ยังไม่รู้แหละว่าใช้อะไรหนักหนา) แต่ก็อย่างว่า จะใช้เท่าไร ก็ขอแม่แม่ให้เสมอ (เลี้ยงลูกด้วยเงินงะ เพื่อน ๆ คงเข้าใจนะ)
ส่วนเรื่องหน้าตา ผมก็ขอพูดตรง ๆ เลยว่า ผมหน้าตาค่อนข้างจะดีทีเดียว โดดเด่นมากในห้อง และสายชั้น ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไง(เขินคับ) ง่าย ๆ ผมได้เป็นเดือนของคณะตอนปี 1 แต่ไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยเพราะว่าความสามารถไม่เด่นพอ
เข้าเรื่องเลยนะคับ
ด้วยความที่ผมอยู่บ้านคนเดียวจะกลับกี่โมงก็ได้ ไม่มีใครสน แต่แม่จะโทรมาเช็คกับผมตลอดว่าอยู่ไหน
ผมก็เลยเที่ยวไปเรื่อย ๆ (คนเดียว)ตามห้าง บ้าง ตามที่ต่าง ๆบ้าง จนผมรู้จักคน  ๆ หนึ่งโดยบังเอิญ ไม่รู้ว่าบังเอิญเปล่านะ เพราะว่ามันมาขอเบอร์ผมอะ ผมก็ให้
มันชื่อ ปิง เป็นลูกครึ่งไทยจีน ขาวตี๊ หล่อที่เดียวแหละ(มาขอเบอร์ผม เหอะเหอะ) ผมกับมันก็คบกันเป็นเพือ่น ที่ไม่ธรรมดา มันอายุ 20 ตอนนั้นผม อายุ 17 เอง
แรก ๆ ก็คบไปเรื่อย ๆ แต่พอหลัง ๆ มันเริ่มโผล่หางของมันออกมา มันบอกว่ามัน ขายตัวคับพี่น้อง (ตอนแรกฟังก็อึ้ง ๆ เหมือนกัน) แต่พอมันเล่าให้ฟังก็ ตลกดี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
มันบอกว่า ขายตัวมีหลายแบบ จะมีขายตามข้าง ๆ ถนน(ฟังดูไม่ดีเลยอะ) แถว ๆ สนามหลวงอะ เพื่อน ๆ คงรู้ดีนะ และก็ตามผับบาร์เกย์ เหมือนนั่งในตู้กระจกแล้วให้แขกมาเลือก และที่สุดท้ายคือ แบบไซ้ไลน์(ไม่รู้เขียนถูกเปล่านะ) คือ จะมีนายหน้าแล้วเมื่อมีแขกก็จะโทรมาตามเรา โดยเราต้องถ่ายรูปให้เขา อะ ส่วนมากวิธีนี้จะมีแต่พวกเด็ก ๆที่อายุไม่ถึงจะที่เข้าไปในผับบาร์ได้ และเป็นที่นิยมเลยทีเดียวเพราะว่าจะมีแต่เด็ก ๆ อายุ 15-20 อาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้นะ เพราะข้อมูลผมก็ไม่รู้มากเท่าไร
ครั้งแรกที่ผมขายตัวนะคับ(ฟังดูน่าตื่นเต้น)
ผมก็กลัวมากและตื่นเต้น(แต่ก็ทำท่าทางเหมือนไม่เป็นอะไร)
นายหน้าโทรให้ไปที่ ๆ หนึ่ง(เป็นบริษัทของนายหน้าอะ ฟังดูดีปะละ)
แล้วสักพักก็มีแขกมารับตัวไป (แรก ๆ ก็แบบคิดว่า กรูมาทำอะไรที่นี้เน่ยะ)
คนแรกของผม ก็เป็นผู้ชายวัยกลางคน อะ หน้าตา ดีทีเดียว
คำถามแรกของเขาที่ถามผมคือ จะให้เขารับหรือว่าให้เขารุก (ผมก็ งง อะ เพราะว่า ปิงไม่ได้บอกว่ามันคืออะไร)
ผมก็บอกว่ามันคืออะไรเหรอ? รุก รับ พี่เขาได้ยินก็หัวเราะ เขาบอกว่าใจจิงอยากให้ผมรุกเขา แต่ดูแล้วคงทำไม่เป็น ก็เลยให้ผมเป็นฝ่ายรับ 
ผมก็โอเค โดยไม่รู้หรอกว่ามันเป็นแบบไหน หลังจากมีอะไรกันเสร็จก็เพิ่งจะรู้ แต่ที่รู้ ๆ คือ เจ็บชะมัดเลยแหละ
ส่วนเรื่องเงินนั้นจะตกลงกับนายหน้าแล้วก็หักค่าตัวผมให้นายหน้าอีกต่อ แต่ทิปที่แขกให้นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง ตกรายหนึ่งก็ประมาณ 4000 อาจจะน้อยหรือมากก็แล้วแต่ทิปด้วยแหละนะคับ
แต่มีพี่บอกผมว่า หน้าตาอย่างผมน่าจะได้เยอะ ถ้าหากปากหวานสักหน่อย แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะว่าผมได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลยไม่ค่อยสนใจเท่าไร
หลังจากนั้นผมก็ขายตัวเป้นฝ่ายรุกมาตลอด 555+ ตลกตัวเองจิง ๆ
ส่วนทางบ้านผมก็ยังคงทำงานข้ามวันข้ามคืนอยู่เหมือนเดิม
ผมขายตัวตอนอายุ 17 จนถึง 19 มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เพิ่งจะรู้ในอาชีพนี้ มีคนมาซื้อบริการหลากหลายรูปแบบ บางคนเป็นคนรวยมาก เป็นนักธุรกิจ บางคนก็เป็น นักการเมือง บางคนเป็นดาราก็มี แต่พวกนี้จะไม่มาซื้อด้วยตัวเองหรอก แต่จะมีคนซื้อติดต่อและก็ส่งตัวให้
แต่ผมคงบอกไม่ได้ว่าเป็นใครหรอกนะ ดาราก็ยังคงมีผลงานอยู่ในตอนนี้ เป็นพระเอกซะด้วย
ผมขายจนอายุ 18 ก็เจอ คน ๆ หนึ่ง เขาเป็นผู้ชายอายุ ประมาณ 35-40 เขาซือ้ผมไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นคนแรกที่ผมเจอแล้วไม่มีอะไรกัน ทั้ง ๆ จุดประสงค์ของเขาคืออะไร เขามองหน้าผมในตอนแรก และถามอายุ ผม ผมก็บอกว่า 18 เขาก็ถามเรื่อย ๆ (แรก ๆ ก็กลัวว่าเป็นพวกนักข่าวซะอีกที่มาถามข้อมูลจากผม) ตอนนั้นเพิ่งเข้ามหาลัยได้ไม่กี่เดือน และมีตำแหน่งเดือนพ่วงท้ายอีกต่างหาก หลัง ๆ เลยเริ่มกลัว เพราะว่าเดี๋ยวเจอกับเพื่อน ที่ มหาลัย ซวยอีก คงได้ย้ายมหาลัยหนีแน่ ๆ แถมเป็นเดือนอีก ยิ่งเด่นไปใหญ่เลย จำได้ง่ายอีกต่างหาก
เขาก็บอกให้ผมเลิกทำงานนี้ แล้วเขาจะเลี้ยงผมเอง(อย่างไงมันก็ขายตัวอยู่ดีละวะ) โดยจะให้เงินผม(อันนี้ผมไม่เห็นเดือดรอ้นเพราะที่บ้านก็ให้อยู่แล้ว) ผมก็ลังเล อะ ที่จริงก็อยากจะเลิกอยู่แล้วเพราะเซ้งมาก ทำไปเหมือนไร้ศักดิ์ศรี ทำไปเพื่ออะไรก็ยังไม่รู้ ไร้เหตุผล คนอื่นทำเพราะเงินก็น่าเข้าใจ แต่ผมทำเพราะว่าอยากรู้อยากเห็นหรอืว่าอยากสนุกเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็คงเพียงพอแล้วสำหรับปีหนึ่ง
ผมก็โอเคเลิก ก็เลิก เขากับผมก็แลกเบอร์กัน แล้วเขาก็พาผมไปกินข้าวไปเที่ยว ดูภายนอกเหมือนพ่อกับลูกเลยละ
จากนั้นผมก็ไม่ได้ขายตัวอีก เพราะว่าเซ็งแล้ว และก็งานที่มหาลัยเรียนหนักมาก เหนื่อย จริง ๆ และที่สำคัญที่สุดคือ เงินที่แม่กับพ่อเลี้ยงให้นั้นเพิ่มเป็นเท่าตัวเพราะอยู่มหาลัยแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม
ส่วนคน ๆ นั้น ก็ยังคบอยู่ ผมกับเขาก็มีอะไรกันตามระเบียบโดยผมรุกเขารับ และเงินเขาก็ให้ผมทุก ๆ วัน ไปเที่ยวหลังเลิกเรียนก็ได้อีก แต่เรื่องของเขาเขาไม่เคยบอกผมว่าเขาทำงานอะไร แต่ดูจากภายนอกน่าจะเป็นนักธุรกิจแหละ แต่ไม่รู้ว่าทำอะไร
จนผมกับเขาคบกันนานนนหลายเดือน เขาซื้อโน๊ตบุคให้ผม ในวันเกิด และหลังจากนั้นเขาก็ซื้อรถ มือสองให้ผม เป็น city Zx แต่เป็นชื่อเขานะขับ แต่ผมเป็นคนขับ 5555+
จนแม่ผมรุ้สึกแปลกใจว่า ลูกชายทำไมมีของใช้ ราคาแพง แถมมีรถขับอีก เลยถาม ผมก็บอกว่า โน๊คบุค และของใช้ก็เก็บเงินซื้อ ส่วนรถ ก็เป็นของเพื่อน เพื่อนให้ยืมมาขับ (เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลยยย) แม่ผมก็ไม่เชื่อไง เพราะโน๊คบุครุ่นนั้นมันแพงมาก จนผมไม่มีความสามารถเก็บเงินซือ้เองได้หรอก ถ้าได้ก็ต้องประหยัดจริง ๆ อะ ส่วนเรื่องรถ ถึงมหาลัยผมจะไฮโซแค่ไหน เพื่อนจะรวยแค่ไหน คงไม่ให้รถมายืมขับเป็นแน่ แม่ก็ซักไซร้ผม ถามอยู่นั้นแหละ จนผมเล่าความจริงให้แม่ฟัง (ไม่รู้ดิ ผมว่าผมไม่อายนะ เพราะว่ามันไม่เสียหายอะไรนิ ผมเป็นผู้ชายเรือ่งแบบนี้ผมไม่อายหรอก)แต่แม่ผมสิฟังแล้ว ร้องไห้จนผมตกใจเลยอะ น้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะว่าผมกับแม่นาน ๆ เจอกันทีก็เลยไม่สนิทอะ หลังจากนั้น แม่ผมก็ขอร้องไม่ให้ผมทำอีก ผมก็โอเค แม่บอกว่าอยากได้อะไรแม่จะหามาให้ แต่ไม่ให้ผมทำเรือ่งแบบนั้น
ผมก็เลยไปบอกผู้ชายคนนั้น พี่เขาก็ดีนะ เข้าใจผม ผมก็เลยคืนของที่เขาซื้อมาให้ พวกนาฬิกา สร้อย โนคบุค ของอื่น ๆ อีก แต่พี่เขาก็ยกให้แต่รถนั้น เอาคืนอะ(แน่จริงก็ให้ดิ)
ตอนนี้ก็เลิกแล้วอะ ผมว่าผมทำไปเพราะว่าเหงา อยากรู้อยากเห็น และมั่นใจในตัวเองมากเกินไป จนทำให้ทำเรื่องบ้า ๆ แบบนั้นไป ตอนนี้ก็ได้ประสบการณ์ที่ไม่สมควรได้ เป็นคติประจำใจ
อันที่จริงมีอะไรเยอะแยะทีอยากจะเล่า แต่ขี้เกียจจะพิมพ์ อะ
18 ความคิดเห็น
แล้วตอนนี้นายยังอยากมีอะไรแบบที่เคยบ้างป่าวคับ ผมก็อยากจะเจอกับนายจัง เมล์มานะคับที่ Ton_Nawapat@hotmail.com  จะรอคับ
^
^
^
^
^
^ ข้างบนเอาจิงเปล่าเนี่ย กึ๋ยส์สสสสสสสสสสสส....................
...  ทำไร  ต้องนึกถึงคนที่เรารักก่อนก็ดีนะคับ 
แต่ก็  นานาจิตตัง   
เรื่องทุกเรื่องที่ทุกคนทำ  ย่อมมีเหตุผลของตัวเอง  ไม่ว่าจะทำผิดหรือถูกก็ตาม  เราเชื่ออย่างนั้นอ่ะนะ
ปล.  เพื่อนๆๆๆ  ไม่ได้ใช้เมลล์นี้แร้วเน้อ  เข้าไปมายไอดีนะวุ้ยเขียนฝากไว้  แล้วเด๋วส่งเมลล์อันใหม่กลับ
เห้ย ค.ห.1 เค้าเลิกแล้วนะ เค้าไม่ได้มาโฆษณาตัวเองนะ
เค้าเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง
มันเป็นวงจรที่ไม่ดีอ่ะ นายออกมาได้ก็ดีแล้ว
อีกอย่างอนาคตนายมันก็อีกไกล ไกลมาก
ถ้ามีคนขุดคุ้ยแล้วเอามาแบล็คเมล์คงจะแย่
อืม..สุดท้าย เจ้าของกระทู้ "เราว่านายไม่เคารพตัวเองเลย สงสารแม่นาย"
ชีวิตนายต้องมีเป้าหมายดิ ไม่ใช่เงินก็มีอยู่แล้วทำไรก็ทำได้หรือไม่ได้เงินก็ไม่เดือนร้อน
นายยังต้องอยู่อีกนานโลกใบนี้น่ะ
5555+
พี่อะเลิกแหละดีแล้วคะทำไปไม่มีไรดีหรอกนะ
PS. When I wipe your tears so don't your hand seems never let it go
-*- กำ อ่านแล้วก็งงๆ
ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำ ?
แล้วทำเพื่อ ?
เพราะเหงาหรอไง
ในโลกนี้มันไม่ไรมากกว่าคำว่าเหงานะ
หัดสงสารแม่ตัวเองบ้างดิ
เค้าทำงานก้เพราะอยากให้นายสบาย
เรื่องแค่นี้ไม่รู้เหรอ หัดมองคนที่ไม่มีจะกินบ้างเหอะ - - *
แม่เคยเสียใจเพราะเรากี่ครั้ง........แต่....เราเคยเสียน้ำตาเพราะแม่สักครั้งหรือป่าว
อือ  เป็นเกย์ซะงั้น  = =
แต่เนอะ  อะไรๆ  มันก็คือสีสันของโลก  ฮ่าๆๆ
แต่พี่  ไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะคะ 
"น่าสงสารแม่พี่มากๆๆ"  แต่ที่น่าสงสารที่สุด    """คือตัวพี่นั่นแหละ"""
อยากรู้ดาราอะ
โชคดีนะคะที่หลุดออกมาได้
โชคดีจังที่คุณแม่ของพี่ใจดี มีอะไรก็หาให้ ขอบคุณสำหรับประสบการ(หยึย~)ที่เล่าสู่กันฟัง
สงสารคุณแม่ของพี่จัง แล้วคุณพ่อ(เลี้ยง)เค้าไม่ว่าอะไรเหรอ
เห็นด้วยกะคห.8ว่าเป็นสีสันของโลก..ว่าแต่เคยไปตรวจร่างการบ้างมั้ยอ่ะ ไม่กลัวติดโรคเหรอ
PS. Me? Full time Harry Potter fan! A Harry-Potteraholic girl.
ตีค่าตัวเองต่ำจัง.....ไอควาย
ขอแช่งให้เป็นเอดส์.........ว้าย
ดีแล้วที่พี่เลิกทำ...สงสารคนเป็นแม่
แต่ผู้ชายนี่ก้อดีเนอะ...ไม่เหมือนผู้หญิง...
PS. อย่าปล่อยให้โชคชะตาลิขิตชีวิตเราทั้งหมด ...แต่จงใช้มันเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต
อืม... สงสัยคงเหงาจริง  ลองทำบลอกดูดิ เล่าเรื่องของตัวเอง จะได้เข้าไปอ่านอย่างน้อยก็จะได้มีเพื่อน แล้วก็จะไม่เหงาอีก
                         
8
ถ้าพี่หล่อจิงๆน่ะ
ไม่น่าเปนเกเล้ย
เสียดายคนหล่อง่ะ
ถามจิง
ตอนเเรกเพ่ไม่เสียดายเวอร์จิ้นมั้งเหรอ
ที่ให้กับ  .. ผ.. ..ผู...ผู้ชายดว้ยกานอ่ะ
หนูชอบรุ่นเพ่คนนึงเเหละ
เเต่ทุกคนหาว่าเปนเก
เซ็งชะมัดเลย
หล่อ  น่ารักด้วย
พี่อ่ะเลิกก็ดีเเล้ว
บาย
เออนายแน่มาก.....
บริการคับ สูง181 หนัก 73 อายุ27 0847672352
พี่เขาน่าจะรวยนะ เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่ ก็มักจะแถมทองให้ด้วยละมั้ง 555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?