Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มหัศจรรย์...ฝันรู้ตัว (Lucid Dreaming)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

มหัศจรรย์...ฝันรู้ตัว (Lucid Dreaming)

ในความฝันรู้ตัวนั้น เราจะเห็นสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนแจ่มแจ๋วราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง

ในบรรดาความฝันทั้งมวลนั้น มีความฝันแบบหนึ่งที่น่าประทับใจเหลือเกิน ประทับใจไม่แพ้ฝันร้าย หรือฝันแล้วเป็นจริงเลยทีเดียว ความฝันที่ว่านี้เชื่อว่า คุณผู้อ่านหลายท่านน่าจะเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว นั่นคือ ในระหว่างที่คุณกำลังฝันอยู่นั้น ฉับพลันคุณก็รู้สึกขึ้นมาว่า เอ๊ะ! อย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้นี่หว่า เราต้องฝันอยู่แน่ๆ

ความฝันแบบนี้แหละที่ฝรั่งเรียกว่า lucid dreaming แปลตรงตัวแบบราชบัณฑิตยสถานว่า ความฝันชัดเจน (คำว่า lucid แปลว่า แจ่มชัด) อย่างไรก็ดี ผู้วชาญที่ศึกษาเรื่องนี้ยอมรับว่า คำๆ นี้ไม่ค่อยตรงเท่าใดนัก เพราะสาระสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้ฝันต้องรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ จึงน่าจะเรียกว่า concious dreaming ซะมากกว่า ในบทความนี้ ผมจึงขอใช้คำว่า ความฝันรู้ตัว ก็แล้วกัน

ลองมาดูตัวอย่างประสบการณ์ความฝันรู้ตัวของชายคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า ดี ดับเบิลยู (D.W.) และอาศัยอยู่ที่เอลค์ริเวอร์ (Elk River) มลรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ดังนี้ :

ผมกำลังยืนอยู่ในที่โล่ง ในขณะที่ภรรยาของผมชี้ไปที่ดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังลับขอบฟ้า ผมมองตามไปในทิศทางที่เธอชี้ และคิดว่า “แปลกจริง ไม่เคยเห็นท้องฟ้ามีสีสันอย่างนี้มาก่อนเลย”

จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า “นี่เรากำลังฝันอยู่แน่ๆ!” ผมไม่เคยเห็นสีสันที่สวยสดงดงามและชัดเจนเช่นนั้นมาก่อน แถมยังรู้สึกเป็นอิสระอย่างน่าตื่นเต้นยิ่ง จนทำให้ผมเริ่มออกวิ่งไปในทุ่งข้าวสาลีสีทองอร่ามตา พร้อมๆ กับโบกมือและตะโกนสุดเสียงว่า “ผมกำลังฝัน! ผมกำลังฝัน!”

ทันใดนั้น ผมก็เริ่มสูญเสียความฝันนั้นไป

(ข้อความบางส่วนจากหนังสือ Exploring the World of Lucid Dreaming หน้า 2)

ในความฝันรู้ตัวนั้น เราจะเห็นสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนแจ่มแจ๋วราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ดังตัวอย่างในข้อความข้างต้นที่บอกว่า

“ไม่เคยเห็นสีสันที่สวยสดงดงามและชัดเจนเช่นนั้นมาก่อน”

นี่คือเหตุผลที่ทำให้จิตแพทย์ชาวดัชต์ ชื่อ เฟรเดริก ฟาน อีเด็น (Frederik van Eeden) บัญญัติคำว่า lucid dreaming ในหนังสือชื่อ A Study of Dreams ของเขาที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1913


บางท่านที่เคยฝันรู้ตัวคงจะรู้ด้วยว่า บางครั้งเราสามารถควบคุมเนื้อหาในความฝันได้ด้วย แต่ตัวผมเองนั้น จำได้แม่นว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม้จะรู้ทั้งรู้ว่ากำลังฝันอยู่ (เพราะเห็นสิ่งผิดปกติที่เป็นไปไม่ได้ในความฝัน) แต่กลับทำอะไรไม่ได้ แม้พยายามลืมตาตื่นขึ้นมาก็ยังไม่สำเร็จ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยไปซะงั้น



การฝันรู้ตัวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะมีบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจนในจดหมายที่เขียนโดย เซนต์ออกัสตินแห่งฮิปโป (Saint Augustine of Hippo) ในราวปี ค.ศ. 415 หรือ พวกเงาะซีนอย (Senoi) ในมาเลเซียก็ใช้การฝันรู้ตัวในการดูแลรักษาสุขภาพจิตของตนเอง

นอกจากนี้ พระธิเบตก็มีการฝึกที่น่าจะเรียกได้ว่าความฝันรู้ตัวมาตั้งนานแล้ว ฝรั่งเรียกการฝึกนี้ซะน่ารักว่า dream yoga แปลตรงตัวว่า โยคะความฝัน

ตามประวัติระบุว่า ศาสนาพุทธในธิเบตมีการฝึกโยคะความฝัน (dream yoga) ที่เรียกว่า Zhine มานานกว่า 1,300 ปีแล้ว คำว่า Zhine ในภาษาธิเบต หมายถึง การตั้งมั่นอยู่ในความสงบ (calm abiding)

โยคะความฝันต้องการให้ผู้ฝึกได้เรียนรู้บทเรียนทางจิตวิญญาณที่สำคัญ 5 ประการ ได้แก่

1. ความฝันสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความปรารถนาและความใส่ใจของเรา
2. ความฝันเป็นสิ่งไม่จีรังและไม่เที่ยงแท้ เปรียบเสมือนภาพลวงตาหรือภาพหลอน
3. การรับรู้ในชีวิตประจำวันในขณะที่เราตื่นอยู่นั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่จริงแท้เช่นเดียวกัน
4. ชีวิตทุกชีวิตที่ดำรงอยู่วันนี้และจากไปในวันพรุ่งนี้ก็เปรียบเสมือนดั่งความฝัน ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
5. การฝึกความฝันแบบรู้ตัวสามารถช่วยให้ผู้ฝึกตระหนักถึงสิ่งต่างๆ ทั้งมวล ความสมดุลอย่างสมบูรณ์ และความเป็นหนึ่งเดียวกันของสรรพสิ่ง


เคยมีนักปรัชญาบางคนให้เหตุผลว่าการฝันแบบรู้ตัวนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะคำว่า “ฝัน” กับ “รู้ตัว” นี่มันขัดกันเองอยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ ขณะกำลังฝันก็คิดว่าฝันนั้นเป็นเรื่องจริง จะรู้ตัวว่าเป็นฝันได้ยังไง

แต่หากคนที่เคยฝันรู้ตัวได้ยินคำพูดแบบนี้เข้า ก็คงจะหัวเราะดังๆ แล้วบอกว่าท่านนักปรัชญาคนนี้คงจะใช้แต่ตรรกะทางภาษา ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงเป็นแน่แท้

อย่างไรก็ดี ในทางวิทยาศาสตร์ ได้มีการพิสูจน์ให้เห็นกันจะๆ แล้วว่า คนที่กำลังฝันอยู่นั้นรู้ตัวว่ากำลังฝันจริง โดยในช่วงปลายของทศวรรษที่ 1970 นักปรจิตวิทยา (parapsychologist) คนหนึ่งชื่อ คีท เฮิร์น (Keith Hearne) ได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครชื่อ อลัน วอร์สลีย์ (Alan Worsley) โดยใช้เครื่องโพลิซอมโนกราฟ (polysomnograph) ตรวจจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของลูกนัยน์ตา กล่าวคือ ได้มีการซักซ้อมกับอลัน วอร์สลีย์ ผู้ที่จะไปผจญภัยในความฝันว่า หากรู้ตัวว่ากำลังฝันอยู่ ก็ให้ขยับลูกนัยน์ตาตามรูปแบบที่ตกลงกันเอาไว้ก่อน

ต่อมา สตีเฟน ลาเบิร์จ (Stephen Laberge) ก็ได้ทำการทดลองในลักษณะเดียวกันนี้ โดยเป็นงานส่วนหนึ่งในวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของเขาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ทั้งนี้ ลาเบิร์จไม่ได้รับทราบเกี่ยวกับการทดลองก่อนหน้านั้น เนื่องจากคีท เฮิร์น ไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาเอาไว้


Stephen Laberge

น่ารู้ด้วยว่า ดร. สตีเฟน ลาเบิร์จ คงจะหลงใหลในความฝันรู้ตัวนี้มาก เพราะนอกจากจะพัฒนาเทคนิคที่ช่วยให้สามารถฝันรู้ตัวแล้ว ยังได้ศึกษาเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขนาดเขียนหนังสือออกมาหลายเล่ม และตั้ง The Lucidity Institute ขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

เนื้อหาของความฝันรู้ตัวส่วนใหญ่เกี่ยวกับอะไร?

จากการศึกษาพบว่า คนที่ฝันรู้ตัวมักจะชอบฝันว่าบินได้อิสระดั่งใจนึก นี่คงเป็นความต้องการที่ฝังอยู่ลึกๆ ในใจของคนเรานั่นเอง ส่วนเนื้อหาความฝันที่พบบ่อยไม่แพ้กันก็คือเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ หรือ เซ็กซ์ นั่นเอง


รู้อย่างนี้แล้ว ก็คงจะไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมฝรั่งถึงได้มีการจัดคอร์สเพื่อฝึกการฝันรู้ตัวกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ออกหนังสือ ผลิตอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ มาเยอะแยะ เพราะผู้วชาญบอกว่า ความฝันรู้ตัวเรท R หรือ เรท X นี่ ไม่มีพิษมีภัย ยิ่งถ้าฝึกจนควบคุมความฝันได้แล้วละก็จะยิ่งหนุกใหญ่ จะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ (ว่าเข้าไปนั่น)


เรื่องนี้เคยมีกรณีศึกษาหนุกๆ เล่าว่า พ่อหนุ่มคนหนึ่งฝันว่าโดนสิงโตไล่ล่า เมื่อจนตรอกก็รู้สึกตัวว่านี่มันฝัน ไม่ใช่เรื่องจริงนี่หว่า จึงตะโกนท้าทายสิงโตตัวนั้นว่า “เข้ามาเลย!”

ปรากฏว่าสิงโตกระโจนเข้ามาหมายจะขย้ำ แต่พอปลุกปล้ำกันไปได้แค่แป๊บเดียว เจ้าสิงโตนั่นก็พลันกลายเป็นสาวสุดเซ็กซี่แทน! (อย่างไรก็ดี แหล่งข้อมูลไม่ได้แจ้งผลของการต่อสู้ครั้งนี้เอาไว้)



ดร. ลาเบิร์จ บอกว่า ความฝันรู้ตัวนี่ไม่ได้มีประโยชน์แค่เอาไว้หัดบิน หรือผจญภัยในแดนหฤหรรษ์เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง เช่น

* หากคุณฝันร้ายซ้ำๆ กันบ่อยๆ วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือ เผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำให้คุณกลัวในความฝันน่าจะดีกว่า ซึ่งจะทำแบบนี้ได้ก็ควรฝันแบบรู้ตัว เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
* หากคุณต้องไปพูดเป็นการเป็นงานต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วยังไม่มั่นใจ ก็อาจซ้อมพูดในความฝันรู้ตัวก่อนได้
* หากคุณมีปัญหาที่แก้ไม่ตก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางเทคนิค หรือเรื่องทางศิลปะ ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจคิดหาคำตอบได้ในความฝันแบบนี้
* หากคุณต้องการมีความรู้สึกเป็นอิสระ แบบหลุดโลก ความฝันรู้ตัวอาจจะเป็นทางออก เพราะมีหลายคนที่ฝันรู้ตัวบอกว่า ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นราวกับประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาตลอดไปเลยทีเดียว และความฝันรู้ตัวยังสอนด้วยว่า โลกที่เราเห็นอยู่นี้เกิดจากจิตของเราสร้างขึ้นมานั่นเอง (คล้ายๆ The Matrix อะไรทำนองนั้น)


ขุมทรัพย์ทางปัญญา
ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ขอแนะนำ

* เรื่อง Lucid dreaming ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Lucid_dreaming
* เรื่อง Lucid Dreaming FAQ ที่ http://www.lucidity.com/LucidDreamingFAQ2.html
* เรื่อง What is Lucid Dreaming? an illustrated guide ที่ http://www.lucidcrossroads.co.uk/how.htm
* เรื่อง Zhine Tibetan Dream Yoga ที่ http://www.plotinus.com/zhine_tibetan_dream_yoga.htm ()

ประวัติของบทความ

* ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นิตยสาร สารคดี ฉบับเดือนมกราคม 2550
* กำลังรวมเล่มในหนังสือชุด Mind & Creativity ของสำนักพิมพ์สารดคี ภายใต้ชื่อ มหัศจรรย์แห่งจิต
* ดัดแปลงเพื่อนำลงใน GotoKnow.org เนื่องจากมีเพื่อนๆ หลายท่านสนใจประเด็นนี้

โดย ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ
http://gotoknow.org/blog/science/91443

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

คนกลัวฝัน 17 พ.ย. 54 เวลา 18:20 น. 2

เคยฝัน..ในความฝันนั้นได้เดินอยู่บนถนนสายหนึ่ง&nbsp สายนี้เป็นเส้นทางดินแดง(สีของดินที่แดง)
เดินอยู่กับยาย..พอเดินไปได้สักพักหนึ่งหันกับมาดูยายกลายเป็นเด็ก (ผีเด็ก..) ในความฝันตกใจ
จึงรีบวิ่งไปในป่ากล้วย..ที่เต็มไปด้วยต้นกล้วยแล้วก็ร้องออกมาว่า...."นี้มันไม่ใช่เรื่องจริง..ตื้นๆๆๆ)
วิ่งฝ่าต้นกล้วย..พร้อมกลัว...(กลัวภาพในความฝัน..หน้ากลัวมาก)

&nbsp ผู้เจอเหตุการณืด้วยคน

0
บัสซ่า 26 มี.ค. 55 เวลา 16:06 น. 3

เป็นบ่อยนะ ประมาณว่าบินได้ พอฝันไม่ดีหรืออะไรก็สามารถย้อนตัวเองหรืออกจากฝันได้ ชอบๆ

0
เหมียวๆ 27 เม.ย. 55 เวลา 01:26 น. 4

ตอนเป็นเด็กมักจะฉี่รดท่ีนอนแทบทุกคืน แต่ก่อนจะฉ่ีนั้นก็มักจะฝันว่าปวดท้องฉี่แทบอั้นไม่อยู่ทุกครั้ง
แต่มีคืนหนึ่งชึ่งจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้ ....ฝันว่าปวดฉ่ีมาก(เหมือนเคย)แต่ปรากฎหาห้องน้ำไม่เจอ
เลยวิ่งเข้าพุ่มไม้เตี้ยๆข้างทางซึ่งปกปิดอะไรก็ไม่มิดพร้อมกันนั้นก็มีคนเดินผ่านไปมาด้วย
อายก็อายฉ่ีก็กำลังจะราดคิดว่าไม่มีทางเลือกคงต้องปล่อยมันตรงนี้ล่ะ,แต่ทันใดนั้น..ก็คิดขื้นมาได้ว่า ปกติเราต้องไม่กล้าทำแบบนี้ในท่ีสาธารณะแน่
ดังน้ันเป็นไปได้ทางเดียวเราอยู่ใน" ความฝัน!" คิดได้อย่างนั้นแล้วก็ไม่รอช้ารีบหยิกแขนตัวเอง,ตบหน้าตังเอง,แหกปากตะโกนให้ตัวเองตื่นก่อนท่ีจะ"ฉ่ีรดท่ีนอนอีกคืน"&nbsp ในท่ีสุดก็เป็นผล ลืมตาตื่นขื้นมาวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน..จาก"ความฝันรู้ตัว"ในคืนน้ันนั้นฉ่ีรดท่ีนอนก็กลายเป็นแค่"ความฝัน"ในอดีต
&nbsp  ต้องขอบคุณสมอง(ท่ีมีรอยหยักเพียงน้อยนิด)ของฉันท่ียังคงตื่นเพื่อแก้ไขปัญหาของเราแม้ในยามท่ีฉันหลับไหล.....

0
ืniranam 4 มิ.ย. 55 เวลา 23:32 น. 5

เรื่องจริงครับ ผมเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่เด็กๆ เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ พอโตขึ้นได้มาหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตแล้วนำไปอ้างอิงให้พ่อแม่และญาติๆได้อ่าน จนทุกวันนี้ผมเองก็เป็นอยู่ แต่ไม่บ่อยมาก 1 เดือนอาจจะมี 1-2 ครั้ง แต่ผมก็ไม่เคยคุยหรือรู้จักกับคนที่เป็นเหมือนผมเลย ผมคิดว่าโอกาสที่จะมีคนแบบนี้น้อยมากๆครับ

0
niranam 4 มิ.ย. 55 เวลา 23:41 น. 6

วิธีที่ผมใช้ครับ
1.ใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ และมีสติ คิดถึงหลักความเป็นจริง
2.เมื่อเราฝัน ฝันนั้นราบรื่นดี เป็นปกติ จะทำให้เราไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังฝัน ยามใดที่เกิดเรื่องแปลกๆ หรือ ผิดปกติขึ้นในฝัน เราจะรู้ตัวในทันที ** จำไว้ว่าต้องมีสติตั้งมั่น ถ้าหากเป็นคนทั่วไปก็จะตื่นขึ้นโดยขาดสติครับ
3.ข้อนี้ ขำๆ นะ 5555 เมื่อรู้ตัวว่าฝัน ผมจะวิ่งไปหาสาวๆในทันที....อิอิ

0
ErzaApril 4 ก.พ. 57 เวลา 15:53 น. 8

ผมหัดบังคับตัวเองให้ตื่นตั้งแต่สมัยอนุบาลเพราะเป็นคนกลัวผีมากๆ เจอเรื่องผีเมื่อไหร่จะต้องตื่นขึ้นแล้วก็ร้องให้ จนทุกวันนี้ใช้เทคนิคเดิมเพื่อสร้างโลกของตัวเอง ตั้งแต่ทำเรื่องชั่วร้ายที่ในโลกจริงไม่กล้า ไปยันเปลี่ยนโลกทั้งใบ ฟินครับ บอกตรงๆ ...

0
5171 30 ส.ค. 58 เวลา 20:19 น. 9

1 เดือน มี 1-2 วัน ที่ฝันแล้วจำไม่ คิดว่าร่างกายเราเพลียมั้ง แต่ที่เหลือ 20 กว่าวัน ฝันทุกคืนเลย ตื่นขึ้นมา จำความฝันได้แทบทุกตอน รู้สึกร่างกายจะเพลียมากตอนตื่น เหมือนคนไม่นอน ส่วนมากเรื่องที่ฝัน จะแม่น เป็นจริง แทบทุกครั้ง พยานหลักฐาน คือ พ่อ แม่ และจะเขียนโน๊ตไว้ นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าเราฝันเป็นจริง ไม่รู้ว่าเราถึงเหตุการณ์ล่วงได้ยังไง ไม่บอกเยอะ แต่อยากให้ผู้ที่รู้ รบกวนช่วยตอบมาด้วย เผื่อจะมีวิธีไขความลับอะไรหลายอย่างได้ค่ะ เบอร์ติดต่อ 091-4500071

0
เอมมี่ ศวิตา 22 เม.ย. 59 เวลา 23:06 น. 10

เราก้เคยฝันน้ะ ฝันตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ตอนนั้นเรานึกว่าเราบ้าไปแล้ว 555 เพราะฝันแต่รู้ตัวว่าฝัน . เราเคยฝันหลายครั้ง . ครั้งหนึ่ง เราฝันว่า เราถูกผีไล่จับกิน เหมือนผีซอมบี้อ้ะ !! ในฝันน่ากลัวมาก พอสักพักเราเริ่มรุตัวล้ะว่าเราฝันยุ เราก้อเริ่มหลับตา (ในฝันอ้ะน้ะ) แล้วลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พอเราลืมตาปุ้บ เราตื่นขึ้นมา เราก้อ งง นะ ตอนแรก ว่าเราทำแบบนี้ได้ยังไง พอนานๆไปเราก้อเริ่มชินล้ะ . แต่เราก้อยังสงสัย ก้อเลยมาหาในเน้ต ว่ามีใครเป้นเหมือนเราบ้าง..

0