Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

12 วิธีมัดใจชายไม่ให้นอกใจ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
12 วิธีมัดใจชายไม่ให้นอกใจ (PERFECT WOMAN)

1.ดูแลตัวเองตลอดเวลา ตั้งแต่หัวจรดเท้า >>> ผู้ชายส่วนใหญ่อยากอยู่กับผู้หญิงที่ดูดี เพราะมันทำให้เค้ากระชุ่มกระชวยตลอดเวลา อย่างน้อยมันก็ทำให้ลดโอกาสที่เค้าจะมองผู้หญิงอื่นได้มากขึ้นเยอะเลยเชียวล่ะ

2.ขี้อ้อน >>> ความขี้อ้อน เป็นเสน่ห์ของผู้หญิงมากๆ แต่ควรรู้จักอ้อนให้พอดีและให้ถูกกาลเทศะ

3.เอาใจเก่ง >>> แต่ไม่ใช่ว่าเอาใจเกินเหตุนะครับ หมายถึง ตลอดเวลาที่คบกัน จะรู้ว่าแฟนเราชอบทำอะไร ชอบกินอะไร ประทับใจอะไร ควรจะมีสมุดไดอารี่ จดไว้บ้าง

4.ดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี >>> ตัวอย่างเช่นเวลาตากพัดลม ก็เตือนเค้าว่าเดี๋ยวไม่สบาย ,อย่านอนดึกนะเด๋วทำงานไม่ไหว หรือเวลาเค้าไม่สบายก็ดูแลเค้าเป็นอย่างดี, ดูแลเรื่องการแต่งตัว, การกิน ฯลฯ ทุกสิ่งที่ทำไปยิ่งทำให้เค้าไม่อยากที่จะไปจากคุณเลย

5.ซื้อของเซอร์ไพส์ให้บ้างบางโอกาส >>> ที่น่าสนใจก็มี นาฬิกา , เสื้อผ้า , กางเกงยีนส์ เป็นต้น แต่ก็ต้องเลือกไซด์ให้พอดีกับที่เค้าใช้ด้วยนะ คุณจะเห็นรอยยิ้มแบบเขินๆอย่างผู้ชาย แต่ก็อย่าเซอร์ไพส์บ่อยละกาน

6.เป็นผู้หญิงทำงาน >>> เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิงในยุคนี้ ผู้หญิงที่ไม่ทำอะไรเลย ทำให้ผู้ชายรู้สึกไม่มั่นใจในอนาคตของชีวิตคู่ แต่แฟนเราก็ต้องทำงานเหมือนกันนะ คือไม่ใช่ฝ่ายใดเกาะอีกฝ่ายหนึ่งกิน

7.คุยกับผู้ชายคนอื่นบ้าง >>> ไม่ใช่หมายความว่าคบหลายคนนะ แต่หมายถึงคุยกันแบบเพื่อนมากกว่า เหมือนเป็นการให้รู้ด้วยว่า ฉันไม่ใช่ของตายแน่นอน และคนที่พร้อมจะต่อคิวก็ยังมี ผู้ชายที่ไม่ให้แฟนคุยกะคนอื่นเลย ถือเป็นคนใจแคบมาก

8.หยิ่งในศักดิ์ศรี >>>  ผู้หญิงบางคนยอมให้ผู้ชายข่มอยู่ตลอดเวลาบางครั้งเวลาทะเลาะกันหรือโดนทำร้ายเราไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายง้อหรือขอโทษ  แต่ควรจะตอบโต้อะไรที่มันทำให้เค้ารู้ว่า ไม่มีเธอฉันก็หาใหม่ได้นะ  มันจะทำให้ ผู้ชายรู้สึกว่าเค้าไม่มีค่า และความเย่อหยิ่งในตัวเค้าจะลดลง

9.ไม่ยอมเสียตัวให้ก่อนเวลาอันสมควร >>> ข้อนี้สำคัญมากครับ อะไรๆที่ได้มาง่ายๆ มันมักจะจบลงง่ายๆ ผู้ชายบางคนเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ้าเค้าทนไม่ไหวหรือไม่มีความอดทนมากพอ ก็ปล่อยเค้าให้ไปหาผู้หญิงที่ให้ง่ายๆแล้วกัน

10.ไม่มองชายอื่น >>> ถือเป็นการให้เกียรติแฟนเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาเจอคนที่หล่อดูดีมากๆ แต่เราก็ไม่เคยที่จะมองเลย

11.คำว่า"รัก"ไม่ใช่สิ่งที่พูดง่าย >>> ยิ่งพูดคำว่า “รัก” มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แฟนเราได้ใจ แต่กลับกันเมื่อใดที่ยังไม่ได้พูดคำว่า “รัก” ออกไป ผู้ชายย่อมรู้สึกว่า ยังเล่นเกมส์ไม่ชนะ

12.ให้อภัยเสมอเมื่อผิดครั้งแรก >>> การให้อภัยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคู่ เมื่อใดที่ทำผิดครั้งแรก เราควรให้อภัยเค้า แต่ถ้าผิดเรื่องเดิมในครั้งต่อๆไป อันนี้ก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจละกัน

แสดงความคิดเห็น

>

40 ความคิดเห็น

ปราย 31 มี.ค. 51 เวลา 11:38 น. 6

การเอาใจผู้ชายทุกวันนี้เห็นที่จะไม่ได้หรอกนะเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงที่สวยอย่างเดียวไม่เกี่ยวกับนิสัย&nbsp น่าจะบอกว่าต้องทำตัวให้สวยเลือกได้ค่อยจะถูก8

0
ภัทจัง 22 ต.ค. 51 เวลา 20:15 น. 8

11 ข้อ ถูกต้องหมดเลย .. เราเป็นอย่างงี้ละ แฟนเราตามแจเลย .. ตามเราตลอด .. ลองทำดู.แล้วจะภูมิจัย มั๊ก มาก

0
ยีนส์ 15 พ.ย. 51 เวลา 18:05 น. 9

ผู้ชายบางคนเค้าไม่ได้ดูกันที่นิสัยหรอก เค้าดูที่หน้าตามากกว่า ขนาดเรายังไม่มั่นใจเลยว่าเค้าชอบเราหรือชอบคนอื่น

0
แมงโง่ 27 ม.ค. 52 เวลา 12:11 น. 11

จาลองไปทำดู แต่ว่า เรามีรัยกะแฟนแล้วนะ ไม่รู้เค้าคิดงัย คัยรู้วิธีอ่านใจช่วยบอกที101

0
n0name 3 ก.พ. 52 เวลา 14:52 น. 12

ไม่รู้สิ ถ้าไม่รัก ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ก็ไม่ควรยื้อ

เหนื่อยเปล่าๆ&nbsp ถ้าคนรักยังไงก็รัก แล้วความรักก้จะเปลี่ยนทุกอย่างให้ดีขึ้นเอง(ถ้ามันคือรักจริงๆ)&nbsp ลองถามตัวเองว่าใช่ไหม???

ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อย

ทำวันนี้ให้ดีที่สุดและกัน107

0
โอ้โห 18 ก.พ. 52 เวลา 16:19 น. 14

ใครเคยอกหัก ลองอ่านดูนะ
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก&nbsp คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย&nbsp ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า&nbsp คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ&nbsp ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว&nbsp เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน&nbsp ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป&nbsp ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น&nbsp มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน&nbsp แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า&nbsp เป็นพระ&nbsp จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย&nbsp อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา&nbsp ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว&nbsp ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา&nbsp พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้น&nbsp นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี&nbsp จึงกล่าวว่า&nbsp โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ&nbsp ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ&nbsp แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น&nbsp ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น&nbsp มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า&nbsp มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ&nbsp แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา&nbsp เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น&nbsp แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่&nbsp จึงเปิดออกดู&nbsp เมื่อพบว่า&nbsp เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร&nbsp จึงจะฝังให้เรียบร้อย&nbsp แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น&nbsp พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป&nbsp เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า&nbsp ทีนี้เข้าใจรึยัง&nbsp ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ&nbsp ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า&nbsp โยมรอดแล้ว&nbsp เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

^_^ คนเราเจอกัน&nbsp ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

0
นู๋แปลง 16 มี.ค. 52 เวลา 14:56 น. 16

ชอบข้อที่ 11 เพราะทำอยู่ตลอกเวลาค่า&nbsp  ไม่ชอบพูดคำว่ารัก&nbsp และไม่อยากฟังแบบมากเกินอ่ะ&nbsp มันเบื่อ

0
เด็กดี 30 เม.ย. 52 เวลา 09:35 น. 17

ใครเคยอกหัก ลองอ่านดูนะ
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก&nbsp คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย&nbsp ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า&nbsp คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ&nbsp ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว&nbsp เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน&nbsp ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป&nbsp ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น&nbsp มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน&nbsp แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า&nbsp เป็นพระ&nbsp จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย&nbsp อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา&nbsp ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว&nbsp ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา&nbsp พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้น&nbsp นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี&nbsp จึงกล่าวว่า&nbsp โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ&nbsp ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ&nbsp แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น&nbsp ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น&nbsp มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า&nbsp มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ&nbsp แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา&nbsp เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น&nbsp แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่&nbsp จึงเปิดออกดู&nbsp เมื่อพบว่า&nbsp เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร&nbsp จึงจะฝังให้เรียบร้อย&nbsp แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น&nbsp พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป&nbsp เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า&nbsp ทีนี้เข้าใจรึยัง&nbsp ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ&nbsp ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน

เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า&nbsp โยมรอดแล้ว&nbsp เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

^_^ คนเราเจอกัน&nbsp ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

0
แฟนเจ้าชู้ 29 ส.ค. 52 เวลา 20:16 น. 19

ข้อ11 อ่ะ เราก้อเจอแฟนเราบอกรักบ่อยมาก
เราเรยบอกไปว่าบอกทุกวันมันไม่มีความหมายนะ

อิอิ

เด๋วจะลองทำดูนะค่ะ

0
ยุวดี 18 ก.ย. 52 เวลา 16:05 น. 20

ข้าพเจ้าเคยเป็นคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยี่อของการแสวงหาความรัก&nbsp แต่แล้วก็ไม่เคยเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าคาดหวัง รักแรกนั้นก็ถูกทรยศ เป็นรักสามเส้า เมื่อเค้าเบื่อก็ คบอีกคนเพราะสงสาร มันเจ็บปวดมาก ข้าพเจ้านอนร้องให้ทั้งน้ำตามาปีกว่า จบเรียนจบป.ตรี&nbsp วันที่ 28 ก.พ. 46 คนรักเก่าก็กลับมาหา ข้าพเจ้าก็ดีใจ แต่ก็ไม่ได้ออกอาการมาก นิ่งและก็เงียบ ไม่พูดเรื่องเก่า ไม่พูดเรื่องอนาคต แต่สิ่งข้าพเจ้าได้จดจำไว้ คือสาปแช่ง คนที่เค้ารัก และวันหนึ่งแม่เค้าก็เป็นเนื้องอกในสมอง ข้าพเจ้าซะใจมาก ข้าพเจ้ามีจิตใจที่ผูกอาฆาตมาดร้าย ขั้นจะปล่อยให้ท้องแล้วผูกคอตาย ที่บ้านของฝ่ายชาย ข้าพเจ้าเคยคิดสาระตะ เพียงเพื่อซะใจและอย่างเอาชนะ&nbsp แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าจะได้รับตอนนั้นก็คือความสูญเสีย....

หลายปีผ่านไป 2548 ข้าพเจ้าได้รู้จักกับพี่น้องคริสเตียน มองเห็นความรักและความอบอุ่น ที่ข้าพเจ้าเคยแสวงหาได้ก็ไม่เคยได้รับ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจรับเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า ..รอดจากหลุมนรกทั้งเป็นที่คอยตามกัดกินใจของข้าพเจ้า&nbsp และข้าพเจ้าก็ได้สัมผัสถึงสันติสุขที่ มากกว่าความสุขธรรมดา&nbsp และข้าพเจ้าก็ติดตามพระเยซูตลอดจนถึงวันนี้&nbsp ข้าพเจ้าก็ได้เริ่มต้นชีวิตในกับสามีคนเชียงใหม่ 14 สค. 50 ปี&nbsp มีบุตรชาย 1 คน ตอนนี้อายุ 9 เดือนกว่า แล้ว&nbsp เพราะพระเจ้าแท้ที่ข้าพเจ้าติดตามนั้นประทานทุกสิ่งที่ดีนี้ให้กับข้าพเจ้า พอได้เห็นกระทู้นี้แล้ว ก็สะกิดใจข้าพเจ้าอยากมาก เลยอยากร่วมเป็นพยานและเล่าให้ฟัง&nbsp ถ้าหากใครที่คิดว่าตัวนั้นไร้ค่า..โปรดหยุดคิดสักครู่&nbsp ก่อนตัดสินใจ&nbsp ข้าพเจ้ามีตัวตนจริง ติดต่อได้&nbsp didiyuwadee@hotmail.com

โปรดได้อ่านดูและ ใช้หัวใจของท่านตรองดูสักนิดเถอะว่า บทความด้านล่างนี้ มันคือความจริงที่สามารถช่วยคุณได้????


13:4 ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ความรักไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
13:5 ไม่ทำสิ่งที่ไม่บังควร ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
13:6 ไม่ชื่นชมยินดีในความชั่วช้า แต่ชื่นชมยินดีในความจริง
13:7 ไม่แคะไค้คุ้ยเขี่ยความผิดของเขา และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และเพียรทนเอาทุกอย่าง
13:8 ความรักไม่มีวันสูญสิ้น แม้คำพยากรณ์ก็จะเสื่อมสูญไป แม้การพูดภาษาต่างๆนั้นก็จะมีเวลาเลิกไป แม้ความรู้ก็จะเสื่อมสูญไป
13:9 เพราะที่เรารู้นั้นก็รู้แต่ส่วนหนึ่ง และที่เราพยากรณ์นั้นก็พยากรณ์แต่ส่วนหนึ่ง
13:10 แต่เมื่อความสมบูรณ์มาถึงแล้ว ความบกพร่องนั้นก็จะสูญไป
13:11 เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย
13:12 เพราะว่าบัดนี้เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจก แต่เวลานั้นจะได้เห็นหน้ากันชัดเจน เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แต่ส่วนหนึ่ง แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนได้รู้จักข้าพเจ้าแล้วด้วย
13:13 ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ ความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด

ที่มาต้องขอบคุณ www.holyzone.net&nbsp จาก&nbsp คอลัมล์ Bible centre พระสัญญาใหม่ พระธรรมโครินท์ บทที่ 13 ข้อที่ 4-13
ฤทธิ์อำนาจของความรักสามารถเปลี่ยนคนได้8

0