รักแห่งสยาม : งดงามและเจ็บปวด
ตั้งกระทู้ใหม่
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ทุกคนได้รับชม รักแห่งสยาม ผลงานชิ้นใหม่ของเขาจบแล้ว คงจะไม่มีท่าทีคัดค้าน หากจะบอกว่านี่คือคนทำหนังไทยอีกคนหนึ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจ
รักแห่งสยาม มีโครงสร้างคล้ายๆ กับหนังรักทั่วๆ ไป แต่หนังก็พาตัวเองให้ไปไกลกว่านั้นมาก กล่าวคือ หนังไม่ได้เพียงบอกเล่าเรื่องราวความรักของวัยรุ่นแค่ชั้นเดียว หากเต็มไปด้วยเงื่อนไขรายรอบตัวละครหลักที่ซับซ้อน และคลายปมเหล่านั้นอย่างเต็มไปด้วยชั้นเชิง
หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในวัยเด็กของมิวและโต้ง เด็กชายที่บ้านอยู่ตรงกันข้ามกัน มิว (วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล) อาศัยอยู่กับอาม่าที่ไม่ยอมย้ายตามครอบครัวไปต่างจังหวัด ในขณะที่บ้านของโต้ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) อบอุ่นและสมบูรณ์ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพ่อ แม่ พี่สาวและตัวโต้งเอง
เด็กทั้งสองผูกพันและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว แต่จุดหักเหก็เกิดขึ้นและเปลี่ยงแปลงชีวิตทั้งสองคนไปตลอดกาล แตง-พี่สาวของโต้งหายตัวไปอย่างลึกลับขณะไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อนๆ และพ่อก็โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ทุกคนเจ็บปวดจนกว่าจะอยู่ในบ้านหลังเดิมได้ จึงตัดสินใจย้ายออก พร้อมๆ กับในเวลาเดียวกันนั้น อาม่าของมิวก็จากโลกนี้ไป ทิ้งเด็กชายให้ใช้ชีวิตเพียงลำพัง
ไม่กี่ปีต่อมามิวและโต้งเจอกันโดยบังเอิญที่สยามสแควร์ มิวมีวงดนตรีที่กำลังจะได้ออกอัลบั้มกับค่ายเทปชื่อดัง ส่วนโต้งก็เหมือนเด็ก ม.6 ทั่วๆ ไป มีเพื่อน ไปเรียนพิเศษ และมีแฟน ความห่างเหินไม่มีผลอะไรกับเด็กหนุ่มทั้งสองคน เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ทั้งคู่ก็สนิทกันเหมือนแต่ก่อน
แต่ไม่นานนัก หนังก็เผยให้เห็นว่าบาดแผลบางอย่างในช่วงต้นเรื่องไม่ได้หายไป ครอบครัวของโต้งบอบช้ำจากความสูญเสียในครั้งนั้น และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น พ่อกลายเป็นคนที่ติดสุราเรื้อรัง และแม่ก็หวาดระวังไปเสียทุกอย่าง เพราะเธอไม่อยากทำผิดพลาดอะไรอีก
มิวเป็นเด็กหนุ่มที่ปิดตัวเงียบ บ่อยครั้งที่เราเห็นว่าเขาร่าเริงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานเกินไป และอีกส่วนหนึ่งเขาเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขารู้สึกกับโต้ง
ตึกแถวที่เคยเป็นบ้านของโต้งเมื่อตอนเด็กๆ มีครอบครัวคนจีนย้ายเข้ามาอาศัย และหญิง (กัญญา รัตนเพชร์) - ลูกสาวของบ้านนั้นก็มาตกหลุมรักมิวอย่างหัวปักหัวปำ เธอคลั่งไคล้มิวเหมือนเด็กสาวชื่นชอบนักร้องวัยรุ่น ทั้งๆ ที่ฝ่ายชายแสดงท่าทีเมินเฉยกับเธอตลอดมา
จุดขัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้งในขณะที่ปมที่ผูกไว้ตั้งแต่ต้นยังไม่ได้รับการสะสาง มันมาพร้อมกับหญิงสาวที่ชื่อจูน (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เจ้าหน้าที่ประสานงานของค่ายเทปที่มาทำหน้าตาดูแลวงดนตรีของมิว เธอหน้าตาคล้ายกับแตง - พี่สาวที่หายตัวไปของโต้ง - เหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน มิวพาโต้งและแม่ของโต้งมาพบจูน ทันทีที่แม่ของโต้งเห็น เธอตัดสินใจว่าจ้างจูนให้ปลอมตัวเป็นลูกสาวของตนเอง เพื่อหวังว่าอาการป่วยของสามีจะดีขึ้น
ราวกับว่าปมปัญหาแค่นั้นยังไม่พอ ถัดจากนั้นโต้งก็ตัดสินใจถอยตัวออกจากแฟนสาว (ที่เพื่อนๆ ให้คำจำกัดความว่า เขาน่ะสวยเลือกได้ แต่เขาเลือก) และเบนความสนใจไปที่มิว
แม้ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งขมวดเกลียวเข้าด้วยกันจะมีตัวละครอย่างน้อยๆ 5-6 ตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หนังก็เฉลี่ยความนึกคิดและพื้นที่ให้แต่ละตัวอย่างสมน้ำสมเนื้อ หย่อนและตึงในระดับพอดี หลายฉากหลายตอนที่หนังพาตัวเองเข้าไปเฉียดใกล้ความซ้ำซาก แต่ผู้กำกับก็ดึงกลับมาให้เหตุการณ์ดำเนินไปในวิถีทางที่มันควรจะเป็นจริงๆ
ตัวอย่างของการตบฉากบีบคั้นให้อยู่ในระดับพอดีมีอยู่หลายตอนด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ ตอนที่คุณสุนีย์ (สินจัย เปล่งพานิช) แม่ของโต้งคอยลูกชายกลับบ้าน เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมานานแล้ว เธอจึงขับรถออกไปตามหา ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหน
เธอเคว้งคว้างไปตามที่ต่างๆ อารมณ์จวนจะระเบิดอยู่ทุกเมื่อ แต่ทันทีที่รู้ว่าลูกกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยและนอนหลับอยู่บนเตียง สิ่งที่เธอทำก็คือ วางโทรศัพท์มือถือของลูก ที่ตนพกไปด้วย- อย่างเบามือ และยับยั้งตัวเองไม่ให้ปล่อยความคับแค้นใจกับลูก
หรือในอีกฉากหนึ่งที่สุนีย์ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายและเพื่อนสนิท เธอขับรถไปหามิวในวันรุ่งขึ้นและพยายามบอกให้อีกฝ่ายเข้าใจ ทั้งคำพูดและการแสดง เสียดแทงเข้าไปในใจของคนดู ทั้งๆ ที่ไม่มีช่วงไหนเลยที่เธอระเบิดอารมณ์ออกมา
รายละเอียดที่หนังวางไว้อย่างมีชั้นเชิง ทำให้คนดูได้เห็นและเข้าใจสุนีย์มากกว่าจะมองเธอเป็นตัวร้าย เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวของเธออยู่กันอย่างปกติ เหมือนคนที่ประคับประคองแก้วที่แตกร้าวอยู่แล้ว ไม่ให้ตกหล่นหรือแตกกระจายมากไปกว่านี้ แน่นอน หลายครั้งที่แก้วนั้นบาดมือเธอ
ในส่วนของตัวละครวัยรุ่น หนังก็คานน้ำหนักได้เท่าๆ กัน การคลี่คลายของตัวละครหลักทั้ง 4 ตัว ได้แก่ มิว โต้ง หญิง และโดนัท (อธิชา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) - แฟนสาวของโต้ง ลงเอยด้วยความผิดหวัง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเจ็บปวดที่จะต้องเก็บมาทำร้ายตัวเอง ตรงกันข้าม เด็กๆ ทุกคนกลับรู้ดีว่า พวกเขาจะก้าวผ่านมันไปได้ในที่สุด
บทสรุปของหนังบอกเล่าอย่างแกนๆ และไม่ได้รวบยอดชัดเจนว่าตัวละครทุกตัวจะผ่านอุปสรรคของตัวเองไปได้ เหนือสิ่งอื่นใด หนังพยายามจะบอกใบ้กับคนดูว่า ไม่ว่าเราจะเจอกับเรื่องร้ายๆ มามากมายแค่ไหน ขอแค่ยังมีความรักและความหวัง ปัญหาต่างๆ ก็คงไม่สาหัสเกินไปนัก
ยังมีรายละเอียดและลูกเล่นอีกมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความแยบยลในการเขียนบทและกำกับของคุณชูเกียรติ และเชื่อว่าผู้ชมจะได้รับอรรถรสในส่วนนี้อย่างเต็มที่
คงจะไม่มากเกินไปนอกจากจะบอกว่ามันเป็นหนังไทยที่คนไทยควรภูมิใจแล้ว มันยังเป็นงานที่คนดูหนังต้องสนับสนุน
พี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์
134 ความคิดเห็น
อยากดูจัง...........แต่มันเป็นหนังเกย์หรือเปล่า
อะไรอ่า จบแบบให้คนดูคิดเองจิงดิ อะไรว้า ไม่เอาอ่ะ
ว้าวววววววววววววว น่าสนใจจังเลยนะคะ
เราดูจากไตเติ้ลหนังในทีวี ไม่มีความน่าสนใจเท่าไหร่เลย
แต่พอมาอ่านเนื้อเรื่องย่อแล้วน่าจะโอเคเลยทีเดียวค่ะ
แบบว่า แหะๆ แต่เราก็ยังไม่ดูในโรงอยู่ดี รอเช่าแผ่นแล้วกัน
ก็แหงล่ะ เศรษฐกิจแบบนี้ เอาตังค์ 120 บาท ไปกินข้าวดีกว่า
น่าดูดีอะ...แต่ไม่ค่อยมีเวลา
ดูมาตั้งแต่วันแรก
ชอบมากๆๆๆ
เป็นที่ดีมาก
สนับสนุนหนังเรื่องนี้กันเถอะ
ยังไงก็เป็นฝีมือของคนไทย
ไปดูมาแล้วครับ...ผิดคาดเหมือนกัน...นับเป็นหนังอีกเรื่องที่ พี่ลาเต้ ประทับใจมากเลยหละครับ....ขอชื่นชมนักแสดงทุกคนเล่นได้ดีมากๆ...ชอบหลายฉากเลย...ทั้งฉากที่แม่ของโต้งนั่งกินพะโล้กับข้าวที่แข็งๆ ฉากโต้งต้องย้ายบ้านตอนเด็กแล้วมิวมาส่งไม่ทัน...จนเมื่อโต้งหันไปก็เห็นมิวเดินมาพร้อมกับปาดน้ำตาตัวเอง ฉากที่แต่งต้นคริสต์มาสกันแล้วแม่ให้โต้งเลือกตุ๊กตา และก็ฉากสุดท้ายที่มิวนั่งร้องไห้...เพลงประกอบหนังก็น่าฟังนะครับ...ยังไงน้องๆคนไหนที่ไปดูมาแล้ว...มีความคิดเห็นยังไงมาบอกกันได้ครับ...จะรออ่านนะคับ...อิอิ...
ทามไมต้องเอาคนหล่อมาแสดงหนังเกย์ด้วย เสียหมด
ไปดูมาแล้วคับ  พอดูแล้วก็นึกถึงความรักของตัวเองขึ้นมาทันที
บอกให้ตรง ๆ เรยนะคับ  หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเกย์ แต่เป็นหนังที่มีตัวชูโรงเปนหัวใจของคน กลุ่มหนึ่ง
และการเลือกตุ๊กตา  ติดต้นคริสมาสกะคงให้คำตอบแกหลาย ๆ คนแล้วละคับว่า  โต้งเลือกอะไร
ถึงแม้ตอนจบจะผิดคาด  แต่  ไม่ได้เปนแฟน  ไม่ได้หมายความว่าไม่รักใช่ไหม๊คับ
เราปายดูมาแระ หนุกดีง่า มันเปนหนังครอบครัวมากก่า อย่าปัยมองว่ามันเปนหนังเกย์ดี่
ซึ้งมากกกก ลุ้นจนตัวโก่งเปนปลาโลมาแระ55+ (แอบเวอร์) เอาเปนว่าหนุกชัวร์ปัยดูกัลดี่
PS. เก็บตะวันมาให้เทอเชยชมยามเทอรุ้สึกหม่นหมอง เก็บดวงดาวมาให้ในวันที่ เทอรุ้สึกเหงา..ขอให้เทอรุ้ว่าชั้นจะอยู่เคียงข้างเทอตลอดไป..{LoVe ..U FoReVeR}_**
มันออกแนวเกย์นิดๆอะ ไม่น่าไปดูเลย11
ชอบตอนสินจัยพูดกะโต้งว่าทำอะไรผิดถึงได้รับผลแบบนี้
อยากจะกรี๊ดตอนมิวคุยโทรศัพท์กะโต้งมี"จ้ะ"ด้ววย
และอยากกระโดดถีบมิวได้จูบของโต้งไป ไอบ้าเอ๊ย
เราก้อไปดูมาแล้ว
เราว่าหนังเรื่องนี้คงจะเป็นหนังในดวงใจของคนที่ไปดูน่ะ
เกียดมิวทำไมทำกับโต้งได้ ศรีริต้ารับไม่ได้
17
ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่เราคาดว่าอยากดูที่สุดในรอบปีนี้
แต่เค้าบอกว่ามันเป็นหนัง Y
แต่ถึงอย่างไร เราก็มันใจนะ เพราะผู้กำกับคนนี้ ฝีมือจริงๆ
สมควรสนับสนุน มากๆค่ะ
PS. Bad Boy & Sassy Girl 2.10 Pt. 0^o รักแห่งสยาม เป็นหนังที่พลิกล็อคอย่างมากมาย แต่ก็อยากดูนะ o^0
ทามมัยต้องจูบรับไม่ได้ ศรีริต้ารับไม่ได้
ดูแล้ว ชอบมากๆเลยอ่า มิว+โต้งน่ารักมากๆ>_<
ชอบฉากในสยามมากๆเลยค่ะ ถ่ายหามุมวิวได้สวยมากๆ เพลงก็เพราะ
ดูหนังนี้แล้วให้ข้อคิดดีๆมากเลยค่ะ^^
PS. ~~ My Love Is >>You
เราว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่หนังเกย์ นะ แต่เป็นหนังที่มีความรักครบทุกรูปแบบ มันทำให้เรารู้ว่า เรายังรู้จักคำว่า " รัก " ไม่ดีพอ เมื่อเสียตัง + เสียเวลาไปดูแล้ว รู้สึกว่าคุ้มค่านะ รู้สึกถึงความรักของพ่อแม่ ที่มีต่อลูก ความรักของเพื่อนที่มีต่อเพื่อน การที่คนที่เรารักไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังแล้วเรายังรักเข้าอยู่รึป่าว และ หนังเรื่องนี้ มีอะไรที่ต้องทำให้คิดตามเยอะแยะมากมาย ถ้ารู้จักคิดตามให้ดี ๆ ว่าหนังต้องการบอกอะไรแก่เรา ก้อคงไม่มีใครไม่ชอบเรื่องนี้ และคงไม่คิดว่านี้เป็นหนัง เกย์
เราว่าไม่ดีเลยอ่ะ  เพราะเราไม่ชอบหนังแบบนี้ว่ะ  แม่ง ทุ เ ร  ศ  มากมาย  มีบทแบบไม่ดีอ่ะเค้าไม่น่าให้เล่นออกมาเป็นแบบนี้เลย  แต่มันก็น่าลุ้นอยู่หรอกน่ะ  เราไม่ชอบการผิดหวัง
ยังไม่ได้ดูเลย แต่ชอบเพลงประกอบนะ ^^
PS. ปลาดุก ----------> (-,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,-)
ชอบอีกอย่างของเรื่องนี้ว่า เพื่อนของมิวและเพื่อนของโต้งไม่แสดงอาการรังเกียจเกย์เลย หรือว่านี้คือธรรมชาติของโรงเรียนชายล้วน?
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?