Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตำนานของซานตาคลอส

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



     เมื่อเอ่ยถึงซานตาคลอส  เราก็จะนึกถึงภาพของชายชราอ้วนหน้าตาใจดี  มีหนวดเครายาว  สวมหมวกแต่งชุดสีแดง  นั่งมาบนเลื่อนหิมะเทียมด้วยกวางเรนเดียร์  พร้อมกับถุงของขวัญเพื่อนแจกเด็กๆ  ในคืนวันคริสต์มาสเด็กๆจะนำถุงเท้ามาแขวนบนเตาพิง  ด้วยเชื่อว่าตอนดึกซานตาคลอสจะปีนปล่องไฟลงมาเพื่อนำของขวัญมาใส่ไว้ในถุงเท้า  ที่มาของซาตาคลอสนั้นได้เล่ากันเป็นตำนานไว้ว่า
     เมื่อพันกว่าปีมาแล้วที่เมืองปาตาราอันเก่าแก่ของประเทศตุรกี  เด็กชายคนหนึ่งชื่อว่านิโคลาส  ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวชาวคริสต์ที่ร่ำรวย  ต่อมาได้เกิดโรคระบาดบิดามารดาเขาเสียชีวิตและทิ้งมรดกมหาศาลไว้ให้  แต่แทนที่นิโคลาสจะใช้ชีวิตเช่นเศรษฐีหนุ่มทั่วๆไป  เขากลับฝักใฝ่คิดจะช่วยเหลือผู้คนที่ยากจน  แต่การช่วยเหลือของนิโคลาสนั้นจะทำแบบลับๆไม่เปิดเผย  เช่น  นำถุงเงินโยนไปให้บ้านที่กำลังเดือดร้อนแล้วแอบหลบไป  ชาวบ้านต่างพากันอยากรู้ว่าผู้ที่ช่วยเหลือตนนั้นเป็นใคร  และในที่สุดก็สืบรู้ว่าผู้ใจบุญนั้นคือนิโคลาส  เรื่องราวของเขาจึงถูกเปิดเผยและเล่าลือกันไปทั่ว  ด้วยความเป็นผู้ฝักใฝ่ในศาสนา  เขาจึงหันชีวิตไปเป็นนักบวชที่เมืองมายรา  อุทิศตนให้กับคริสต์ศาสนาในเมืองนั้นจนเจริญรุ่งเรือง  และยังคงให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เดือดร้อนสม่ำเสมอ  เมื่อสิ้นชีวิตศพของท่านถูกนำไปเก็บไว้ที่สุสานภายในโบสถ์  จนเวลาล่วงเลยไปหลายปีจึงมีผู้แสวงบุญไปเคารพศพท่าน  แล้วต้องพากันตกตะลึงที่พบว่ากระดูกของท่านนั้นมีน้ำไหลซึมออกมา  ด้วยความศรัทธาพวกเขาได้นำน้ำที่ไหลจากกระดูกนั้นไปทำเป็นยารักษาโรค  ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่อัศจรรย์เลื่องลือไปทั่ว  จึงยกย่องท่านให้เป็นนักบุญเซนต์นิโคลาส  ต่อมากลุ่มพ่อค้าจากเมืองบาริของอิตาลี  ต้องการให้ผู้คนหลั่งใหลมายังโบสถ์ที่พวกตนสร้าง  จึงลักลอบขโมยกระดูกของเซนต์นิโคลาสจากเมืองมายราไปไว้ยังโบสถ์ของตน  เพื่อให้ผู้คนตามมาเคารพ  และได้กำหนดวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปีซึ่งตรงกับวันมรณภาพของเซนต์นิโคลาส  เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ทำการเฉลิมฉลอง  แจกสิ่งของแก่ผู้ยากไร้ดังเช่นที่เซนต์นิโคลาสเคยทำมา  แม่ชีในฝรั่งเศสได้คิดวิธีการแจกสิ่งของในวันนี้โดยนำขนมหวานห่อเป็นของขวัญใส่ในถุงเท้าแล้วไปแขวนตามบ้านเด็กยากจน  เด็กๆต่างดีใจที่มีขนมกินกันอย่างเอร็ดอร่อย  แต่นั้นมาเมื่อถึงวันฉลองเซนต์นิโคลาส  เด็กๆก็จะพากันแขวนถุงเท้าไว้คอยขนมหรือของขวัญจนกลายเป็นประเพณี  และได้เลื่อนงานนี้ไปฉลองพร้อมกับเทศกาลคริสต์มาสในภายหลัง  ต่อมามีจิตรกรของอเมริกาชื่อว่า"โธมัส  นาสด์"ได้วาดภาพเซนต์นิโคลาสขึ้นมาเป็นบุรุษชราร่างอ้วนหนวดยาวใส่ชุดสีแดง  เรียกชื่อใหม่ว่า"ซานตาคลอส"และได้กลายเป็นภาพสัญลักษณ์ของซานต้าที่รู้จักกันมาจนทุกวันนี้


ที่มา::วารสาร เพื่อ เพื่อนรัก


PS.  "ผู้เปรียบความรักว่าคือความงดงาม คือผู้ไม่รู้จักความรัก ผู้เปรียบความรักว่าคือความน่าเกลียด คือผู้โอ้อวดตนว่ารู้จักความรัก... "

แสดงความคิดเห็น

>

29 ความคิดเห็น

เรา 30 พ.ย. 50 เวลา 11:39 น. 2

ยังงี้นี่เอง

แต่ที่เคยรู้ เหมือนกะซานต้าเป็นนักบุญแล้วโดนจับเข้าคุก รึป่าวหว่า
ลืมแล้ววววว

ขอบคุณนะคะที่เอามาเล่าสู่กันฟัง

0
gif_sung 30 พ.ย. 50 เวลา 12:00 น. 3

ขอบคุงคร่า เอ แล้วเรื่องกวางเรนเดียอารายอย่างงี้แต่งขึ้นเองเหรอ
อยากรู้อ่ะ

0
Chesser Cat 30 พ.ย. 50 เวลา 19:32 น. 6

นิโคลาสเป็นซานต้าครอส

เหอๆ


PS.  ยามมีชีวิตก็คิดอยากตาย... ยามจะได้ตายสมใจก็มาร้องขอชีวิต... นี่แหละความงี่เง่าซึ่งเป็นควาจริงของสิ่งมีชีวิต
0
~๐สุดสายป่าน_มะขามเปียก๐~ 3 ธ.ค. 50 เวลา 17:00 น. 8

บ้านหนูไม่มีปล่องไฟ...แต่หนูเคยแอบดูซานต้า 

แล้วผลก็คือ...

คึคึ...


PS.  จะผูกอสรพิษท่านให้ผูกด้วยมนตรา ผูกไอยราท่านให้ผูกด้วยสายบาศ แต่ถ้าจะผูกคนท่านให้ผูกด้วยสายใยแห่งไมตรีจิต ด้วยไม่มีความเหนียวแน่นใดๆจะทรงพลังเท่า ...
0
Mewa-Meaw★~ 3 ธ.ค. 50 เวลา 17:58 น. 9

อืม ก็ดีนะค่ะ

เราเคยอ่านอยู่เว็บนึง จำไม่ได้แล้วอะ อ่านนานมากแล้ว

เขาบอกว่า ซานต้า เป็นพี่น้องกับ ซาตาน อะ =O=

เราก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าจริงรึเปล่า -.-


PS.  ...You say it best, when you say nothing at all*~
0
777777 19 ธ.ค. 50 เวลา 18:37 น. 12

ซานตร้าครอสใจดีเนอะ อยากเห็นจังเลย&nbsp ก็ดีนะเอามาเล่าให้ฟังได้ความรู้ด้วยเป็นความรู้ทั่วไปค่ะ

0