แอบดู 3 ชีวิตในรั้วคณะการโรงแรม และท่องเที่ยว

     รุ่นพี่ คนที่ 1
ณัจปภัสร์ ศิริธัญอนันต์ (ผึ้ง)
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
สาขาวิชาการบริหารอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ชั้นปี 2

พี่เป้ : ทำไมผึ้งถึงเลือกเรียนด้านนี้คะ
พี่ผึ้ง : คณะนี้ ถ้าแปลตรงตัว มันจะคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริง มันก็คือบริหารท่องเที่ยว การโรงแรม และการบริการค่ะ ที่ตัดสินใจเลือกในคณะนี้เพราะสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนแรกก็ลังเลอยู่เหมือนกันระหว่างคณะนี้กับ Social Science International Studies แต่สุดท้ายก็เลือกคณะนี้ เพราะเป็นความชอบส่วนตัว ชอบทำงานร่วมกับผู้คน และอีกอย่างเป็นวิชาที่ไม่ต้องคำนวณเยอะ เน้นภาคปฏิบัติ และก็บังเอิญผึ้งสนใจทางด้านภาษาและถนัดทางด้านนี้ สุดท้ายเลยเลือกคณะนี้ค่ะ

พี่เป้ : ผึ้งสอบเข้ามาคณะนี้ยังไงคะ
พี่ผึ้ง : มหิดลอินเตอร์มีแต่สอบตรงค่ะ ซึ่งจะเปิดรับสมัคร 4 ครั้งต่อปี และเวลาเรียนก็จะมี 3 เทอมต่อปี ไม่รวมซัมเมอร์ ดังนั้นเทอมที่มหิดลอินเตอร์เลยเรียกว่า Trimester ผึ้งเรียนจบจากเมืองนอกมา ดังนั้นก่อนสอบก็นำ IGCSEs กับ GED ไปยื่นแลกวุฒิม.6 ที่กระทรวงศึกษาธิการค่ะ วิชาที่สอบก็คือ TOEFL, Maths, Sciences, Social Sciences ใครที่มี IELTS 6 ขึ้นไปแบบ Overall กับ Writing หรือ TOEFL 550 ก็ไม่ต้องสอบค่ะ ผึ้งยื่น IELTS ได้ 7 ก็เลยไม่ต้องสอบตรงนี้ ไปสอบแต่พวก Maths, So-sci แล้วก็ Sciences แทน ที่นี่ไม่เน้นไรมาก พอสอบข้อเขียนเสร็จ ก็ต้องไปสอบสัมภาษณ์ ก่อนสอบก็ไปติวพวกเลขมานิดนึง ส่วนวิชาอื่นไม่ได้ซีเรียส ที่นี่เค้าเน้นภาษาอังกฤษมาเป็นอันดับหนึ่ง เลขอันดับสอง (ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคณะ)

พี่เป้ : แล้วเข้ามาเรียนแล้ว ผึ้งคิดว่าอะไรคือจุดเด่นของที่มหิดลคะ
พี่ผึ้ง : จุดเด่นก็คือภาษาอังกฤษที่ยากยังกับหินค่ะ! อ่าน Research กันทีตาแหกแหลกลาน555 มันยากมากนะ เหนื่อยสุดๆเด็กนักเรียนทุกคน ถึงกับเกลียดอังกฤษกันเลยทีเดียว55

พี่เป้ : แล้วปี 1 กับปี 2 ที่ผ่านมา เรียนอะไรมาแล้วบ้าง
พี่ผึ้ง : ปี 1 กับ ปี 2 ก็ไม่ได้เรียนอะไรมากค่ะ ก็คือ General Education ธรรมดา ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คณะกำหนดว่า Required เท่าไหร่กันบ้าง จากนั้นถึงจะขึ้น Core Subject ได้ค่ะ วิชาที่ผึ้งเีรียนมา ก็มี English Communication ซึ่งจะมีถึง 4 ตัว (อันนี้บังคับทุกคณะ!) แล้วก็เลข แล้วก็ภาษาที่ 3 ค่ะ สำหรับคณะผึ้งบังคับว่าต้องเรียน แล้วก็วิชาที่บังคับของคณะใน General Education เช่น Introduction to Economics, Tourism Geography, Computer

พี่เป้ :แล้วผึ้งชอบเรียนวิชาอะไรมากที่สุด
พี่ผึ้ง : ชอบภาษาสเปนกับฝรั่งเศสมากที่สุด! เพราะอย่างที่บอก ถนัดทางด้านภาษา555 ผึ้งเป็นคนที่ไม่ชอบคำนวณ และก็หัวไม่อาร์ตพอ นั่นก็คืออีกสาเหตุที่เลือกคณะนี้ด้วย คณะนี้เน้นภาษา ภาคปฏิบัติมากกว่า ้

พี่เป้ : ความยากง่ายของการเรียนด้านการท่องเที่ยวคืออะไร
พี่ผึ้ง : ความยากง่ายมันไม่มีหรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับความพยายามของเราเท่านั้น จริงๆมันไม่มีอะไรยากเลยนะ ทุกวิชาทุกตัว ถ้าเราฝึกไปเรื่อยๆ เราก็จะเรียนรู้ได้มากขึ้น และจะเป็นความเคยชินความถนัดเรา (แต่ผึ้งยังติดขี้เกียจอยู่ไง555) ความยากของมันก็คือ ความพยายามของเราว่าเราจะผลักดันตัวเราเองได้มากแค่ไหน ส่วนความง่ายมันก็จะตามมาเมื่อเราผ่านความยากจุดนั้นมาค่ะ

พี่เป้ : แล้วอนาคตอยากทำอะไรคะ
พี่ผึ้ง : อนาคตยังไม่ได้แพลนเลย อยากเรียนต่อโทนะ เพราะวางแผนไว้แล้วว่าอยากไปเรียนการโรงแรมต่อที่ประเทศสวิสฯ ซึ่งคิดว่าคงเรียนต่อก่อน และทำงานทางด้านนี้ไปเลย แต่ไม่แน่อาจพลิกผัน อนาคตยังไม่แน่นอน :))

พี่เป้ : สุดท้ายนี้อยากให้ช่วยฝากข้อคิดถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้
พี่ผึ้ง : น้องๆที่อยากเข้าคณะนี้ ไม่ว่าจะที่มหิดลอินเตอร์ หรือมหา'ลัยอื่นๆ คงแนะนำว่า ความพยายามของเราสำคัญที่สุดค่ะ คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งมาตั้งแต่กำเนิด ไม่มีใครเพอร์เฟคต์ เชื่อว่าทุกคนทำได้ถ้ามีความพยายามมากพอ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกๆคนนะคะ

   รุ่นพี่ คนที่ 2
ธราธร รักจำรูญ (ต้อง)
มหาวิทยาสงขลานครินทร์
วิทยาเขตภูเก็ต คณะการบริการและการท่องเที่ยว
สาขาการจัดการการท่องเที่ยว ชั้นปี 2  

พี่เป้ : ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวด้วยค่ะ
พี่ต้อง : สวัสดีครับ “ต้อง” ธราธร รักจำรูญ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่คณะการบริการและการท่องเที่ยว (Faculty of Hospitality and Tourism: FHT) สาขาการจัดการการท่องเที่ยว (Tourism Management: TRM) กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต หรือ ม.อ.ภูเก็ตครับ :)

พี่เป้ : ทำไมถึงเลือกเรียนด้านการท่องเที่ยวคะ
พี่ต้อง : เป็นคนชอบเที่ยวมากๆ จะใกล้จะไกลขอให้ได้เที่ยวซักครั้งหนึ่ง เคยมีโอกาสทำงานเป็นล่ามในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดนานาชาติ รู้สึกว่าทำแล้วไม่เหนื่อย ทำแล้วเราเต็มใจทำ จำได้ว่านักกีฬาเวียดนามจะส่ง sms กลับบ้านแต่เขาส่งกลับไม่ได้ เราเองไม่รู้เรื่องโทรศัพท์ระหว่างประเทศเลย ก็ลองเปลี่ยนเบอร์ศูนย์ข้อความโน้นทีนี้ที...จนเขาส่งกลับได้ ก็เลยรู้สึกว่าชอบการทำงานด้านนี้ อีกอย่างคือคณะที่กำลังเรียนคือคณะในฝันตั้งแต่ม.4 แต่กลัวเรียนไม่ได้คิดว่ามันยาก ก็เลยไปสนใจคณะอื่นแทน ลืมคณะนี้ไป 2 ปี แต่สรุปคือเอาเข้าจริงก็ได้เรียนคณะนี้ และมันก็ยากอย่างที่คิดครับ :’(

พี่เป้ : แล้วต้องสอบเข้ามาคณะนี้ด้วยวิธีไหนคะ
พี่ต้อง : ต้องสอบเข้าคณะนี้โดยระบบ Admission ตอนนั้นยื่นคะแนน O-NET อย่างเดียวครับ ก่อนยื่นก็เปิดเว็บมหาวิทยาลัย “www.phuket.psu.ac.th” ดูโครงสร้างหลักสูตรว่าเป็นอย่างไร ต้องก็ไม่รู้มาก่อนนะว่าเรียนมาจะได้หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต ซึ่งต้องเรียนวิชาพวกบัญชี การตลาด เศรษฐศาสตร์และแน่นอน เพราะเป็นคนไม่ชอบวิชาคำนวณเลย จะว่าสมองไม่รับก็ว่าได้...แต่พอได้มาเรียน ก็คิดได้ว่าเราจำเป็นต้องรู้เรื่อง เหล่านี้เพื่อการทำงานครับ

พี่เป้ : แล้วตอนปี 1 ได้เรียนวิชาอะไรไปบ้างแล้วคะ
พี่ต้อง : หลักสูตรของทางคณะจะให้นักศึกษาเป็นผู้เลือกวิชาเรียนเองทั้งหมดครับ ตัวพี่ต้องเองปี 1 ก็ลงเรียนวิชาพื้นฐานอย่างภาษาอังกฤษ ลงภาษาฝรั่งเศสเป็นวิชาเลือก ลงโยคะเป็นวิชาพลศึกษา และนอกจากนั้นก็เป็นวิชาดนตรีไทยและศิลปะการแสดง วิชานี้จะค่อนข้างหนักหน่อยเพราะต้องเรียนทั้งรำและดนตรีไทย ปลายภาคอาจารย์ก็จะให้เราจัดการแสดงของเราเอง พร้อมทั้งเล่นดนตรีไทยให้เพื่อนรำ
วิชาอื่นๆก็มี การตลาด เศรษฐศาสตร์ สหวิทยาการเบื้องต้น สหวิทยาการด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ส่วนวิชาสาขาก็ลงวิชาการบริการและการท่องเที่ยวเบื้องต้นไปแค่วิชาเดียวครับ โดยมากแล้ววิชาสาขาจะไปเรียนตอนเราเลือกเอกตอนปี 2 เทอม 2 เป็นต้นไป ซึ่งสาขาการจัดการการท่องเที่ยวก็มีเอก 2 เอก คือการจัดการการเดินทางและจัดนำเที่ยวกับการจัดการบริการการขนส่งครับ

พี่เป้ : จุดเด่นของคณะบริการและการท่องเที่ยวที่ ม.อ.คืออะไรคะ
พี่ต้อง :คณะการบริการและการท่องเที่ยว จัดการเรียนการสอนเป็นหลักสูตรนานาชาติทั้งหมด มีทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท นักศึกษาที่เรียนก็มีทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จริงและรู้ลึกทางสาขาที่สนใจโดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการจากโรงแรมชั้นนำเป็นวิทยากรพิเศษ รวมถึงมีทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่เรียนดีอีกด้วยครับ

พี่เป้ : หลักสูตรเป็นภาษาอังกฤษอย่างนี้ ถ้าคนไม่เก่งอังกฤษจะเรียนไหวมั้ย
พี่ต้อง : คิดว่าถ้ามีความขยัน+ความกล้าที่จะใช้ภาษา เรียนได้แน่นอน จะเก่งมากเก่งน้อยก็ไม่สำคัญ เพราะสภาพแวดล้อมจะทำให้เรามีความกล้า ในการใช้ภาษามากขึ้นเรื่อยๆ


พี่เป้ : เรียนท่องเที่ยวอย่างนี้ คงต้องเที่ยวมาเยอะแล้วแน่ๆ ว่าแต่ชอบที่ไหนมากที่สุดคะ
พี่ต้อง : ก็ไม่เยอะมากครับ ส่วนตัวแล้วชอบจังหวัดที่มีอารยธรรมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสมัยใหม่ อย่างเช่นเชียงใหม่และภูเก็ต รู้สึกว่ามันลงตัวครับ มีความทันสมัยผสานกับวัฒนธรรมอันสวยงามที่มีมาแต่โบราณ เพราะเหตุนี้แหละครับ ชาวต่างชาติถึงได้หลงใหลในความงามของประเทศเรา

                               


       

พี่เป้ : แล้วอนาคตอยากทำงานอะไร
พี่ต้อง : สนใจทำงานเกี่ยวกับสายการบินครับ รู้สึกว่าเป็นงานที่ต้องเร่งรีบและท้าทาย เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาหมดเลย...

พี่เป้ : สุดท้ายนี้ อยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้
พี่ต้อง : ถึงน้องๆที่สนใจอยากเข้าคณะนี้ทุกๆคน... ศาสตร์ทางด้านการบริการและการท่องเที่ยว พี่มั่นใจว่าประเทศไทยนี่แหละคือชั้นแนวหน้าในทวีปเอเชีย แต่ละปี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำรายได ้ให้กับประเทศเป็นอย่างมาก ฉะนั้นแล้วความต้องการของตลาดแรงงานทางด้านนี้จึงมีเยอะมากขึ้นไปด้วย อยากให้น้องๆค้นหาตัวเอง และถามตัวเองว่าเราชอบอะไรและอยากเรียนอะไร...ให้ลองปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ด้วย และถ้าเราค้นพบตัวเองเจอแล้วก็จงตั้งใจที่จะสอบเข้าที่แห่งนั้น ไม่เฉพาะน้องๆที่อยากเข้าคณะนี้นะ น้องๆทุกคนเลยที่จะสอบเข้าไม่ว่าคณะไหนก็ตาม ความขยันและตั้งใจจะพาน้องไปสู่หนทางของความสำเร็จ พี่เป็นกำลังใจให้ และหวังว่าเราคงจะได้เจอกันที่คณะ...บ๊ายบาย!

รุ่นพี่ คนที่ 3
ฉัตรสุดา ปานประเสริฐ(เมย์)
วิทยาลัยดุสิตธานี สาจาการจัดการโรงแรม ชั้นปี 3 

พี่เป้ : ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ
พี่เมย์ : สวัสดีค่ะ ชื่อฉัตรสุดา ปานประเสริฐ ชื่อเล่นชื่อเมย์ เป็นนักศึกษาปีที่3 วิทยาลัยดุสิตธานี สาขาการจัดการโรงแรมค่ะ

พี่เป้ : ทำไมถึงสนใจเลือกเรียนในด้านการโรงแรมนี้คะ
พี่เมย์ : สนใจด้านการโรงแรมมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ เป็นงานที่ชอบ จริงๆชอบการบริการที่จะทำให้ผู้อื่นทีความสุขด้วยค่ะ

พี่เป้ : แล้วตอนสอบเข้ามาเรียนที่ดุสิตธานีนั้น สอบอะไรบ้างคะ
พี่เมย์ : มีการสอบวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษค่ะ 2 วิชา หากไม่ผ่านสองวิชานี้จะต้องมีเรียนปรับพื้นฐานก่อนถึงจะลงเรียนวิชาที่ต่อจากนี้ได้ค่ะ ส่วนการสัมภาษณ์เป็นการสัมภาษณ์ทั่วๆไปเลย อย่าง ถามเกี่ยวกับเพื่อนๆของเรา ชื่ออะไรบ้าง มีกี่คน อาชีพของผู้ปกครอง การเตรียมตัวคือพกความมั่นใจไปเลยค่ะ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ยากเลยค่ะ

พี่เป้ : แล้วพอมาเรียนจริงๆ เหมือนหรือต่างจากที่คิดตอนแรกยังไงบ้างคะ
พี่เมย์ : ตอนแรกคิดว่าก็คงมีแต่วิชาที่ปฏิบัติ แต่พอมาเรียนแล้วเราเริ่มรู้สึกสนุกมากเพราะมีการเรียนทั้งทฤษฏีและปฏิบัติจริง ไปฝึกงานในโรงแรมจริงๆ เป็นการเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจ การเรียนก็ค่อนข้างจะยากเหมือนกัน แต่ถ้าเราตั้งใจและสนุกไปกับมัน เราจะต้องทำได้ดีแน่นอนค่ะ

พี่เป้ : แล้วชอบวิชาอะไรมากที่สุดคะ
พี่เมย์ : วิชา FOOD AND BEVERAGE OPERATIONSค่ะ เป็นวิชาที่ต้องเรียนปฏิบัติด้วย เกี่ยวกับการเสิร์ฟอาหารให้ห้องอาหารค่ะ การบริหารจัดการทุกอย่าง ได้ทำทุกตำแหน่งที่มีเลยค่ะ ทั้งผู้จัดการ เสิร์ฟ บาร์ สจ๊วต ได้เรียนรู้จริงๆ เป็นวิชาที่ชอบมากที่สุดค่ะ อีกวิชาคือวิชาที่เกี่ยวกับบาร์เทนเดอร์ค่ะ สอนเกี่ยวกับการทำเครื่องดื่ม สนุกมากๆค่ะ

พี่เป้ : มีคำถามนึงที่คนสงสัยเยอะมาก คนจะเรียนด้านนี้ต้องสวยมั้ยคะ
พี่เมย์ : จริงๆแล้วที่สำคัญที่สุดคือบุคลิกภาพที่ดีมากกว่าค่ะ หากเรามั่นใจและมีบุคลิกภาพที่ดี ก็ทำให้ดูดีค่ะ

พี่เป้ : คุณสมบัติที่สำคัญของคนที่จะเรียนด้านนี้คืออะไรคะ
พี่เมย์ : สำหรับเมย์คิดว่าเป็นใจรักในการบริการค่ะ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

พี่เป้ : เมย์คิดว่าที่วิทยาลัยดุสิตธานีมีจุดเด่นอะไรบ้าง
พี่เมย์ : วิทยาลัยดุสิตธานีเป็นสถาบันการศึกษาเอกชน ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มีหลักสูตรทันสมัยเพื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ  คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นอาจารย์ประจำผู้มีประสบการณ์โดยตรง   พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและห้องปฏิบัติการอันทันสมัย  ได้รับการรับรองและความร่วมมือในการส่งเสริมทักษะความรู้จากสถาบันต่างๆ ในระดับนานาชาติ  มีการฝึกงานในสถานประกอบการที่ได้มาตรฐานทั้งในและต่างประเทศ

พี่เป้ : แล้วในอนาคตอยากทำงานอะไรคะ
พี่เมย์ : ทำงานในโรงแรมตามที่เรียนมาค่ะ เพราะว่าถ้าเราทำอะไรในสิ่งที่เราชอบมันจะต้องไปได้ดีแน่นอน หลังจากที่ได้ไปฝึกงานในโรงแรมระดับ5ดาวก็รู้สึกประทับใจมาก สังคมดีและน่าอยู่มากๆค่ะ พี่ๆให้คำแนะนำดีมาก ทำให้อยากเข้าไปทำงานจริงๆ ตำแหน่งที่อยากทำคือแผนกต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรมค่ะ เพราะเป็นส่วนแรกที่จะได้เจอกับแขก และทำให้แขกเกิดความประทับใจ^^

พี่เป้ : สุดท้ายอยากให้ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่สนใจด้านการโรงแรมด้วยค่ะ
พี่เมย์ : อยากฝากน้องๆที่อยากเรียนด้านนี้นะคะ หากน้องสนใจและชอบในการบริการ และมีความสุขที่จะทำก็เข้ามาเรียนได้เลยค่ะ ยิ่งถ้าหากเราหมั่นฝึกฝนบ่อยๆจะต้องเก่งแน่นอนค่ะ

       เป็นยังไงบ้างคะกับรุ่นพี่ทั้ง 3 คน เปิดเผยชีวิตการเรียนกันลึกขนาดนี้ คิดว่าน้องๆ คงพอจะเห็นภาพกันมากขึ้น^^ สำหรับสัปดาห์หน้า พี่เป้ ก็จะกลับมาพร้อมกับพี่ๆ ที่เรียนจบจากด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวและตอนนี้ก็กำลังทำงานทางสายนี้อยู่ ใครอยากรู้ว่าจบคณะนี้แล้วทำงานอะไรได้บ้าง ต้องติดตามในพุธหน้านะคะ