คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม Issue 003 week3, April 2010
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
ตอนที่ 3/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง
 
ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย
 
 

        

 

        สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... คณะในฝันประจำเดือนเมษายนก็เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 3 แล้ว
คราวนี้ พี่เป้ มาพร้อมกับรุ่นพี่ที่จบการศึกษาจากด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว พร้อมจะมาเปิดใจถึงชีวิตการทำงาน
จะเป็นยังไงบ้าง ลองอ่านกันได้เลยค่ะ ขอบอกก่อนว่าสุดยอดมากๆๆ เพราะอาชีพของ รุ่นพี่ 2 คนที่จะมาให้สัมภาษณ์วันนี้
เรียกได้ว่าเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ
คนเลยล่ะค่ะ
 

 

     รุ่นพี่ คนที่ 1
กชกร ชอบธรรม(พี่ลี่)
เจ้าของกิจการทัวร์ภายในยุโรป บริษัท Kotchakorn

 
พี่เป้ : ก่อนอื่นอยากให้ช่วยแนะนำตัวเองแก่น้องๆ ด้วยค่ะ
พี่ลี่ : สวัสดีค่ะ พี่ชื่อกชกร ชอบธรรม ศิษย์รุ่นสามการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินท์วิทยาเขตภูเก็ตค่ะ ตอนนี้ทำกิจการ Destination planner ธุรกิจเล็กๆของตัวเองในยุโรปค่ะ เรียกพี่ลี่ก็ได้ค่ะ มันมาจากชื่อ Smiley ฉายาตอนเรียนหนังสือค่ะ

พี่เป้ : ทำไมพี่ลี่ถึงสนใจเรียนการโรงแรมการท่องเที่ยวคะ
พี่ลี่ : พี่ไม่เคยมีชื่อคณะนี้อยู่ในหัวเลยค่ะ จนกระทั่งปิดเทอมตุลาคมของชั้นม.6 คุณพ่อคุณแม่จับส่งไปอยู่กับแกะที่นิวซีแลนด์หนึ่งเดือนเต็ม ต้องไปอยู่ในบ้านเดียวกับคนที่ไม่พูดภาษาไทย ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ และโอกาสที่สำคัญที่สุดคือได้รู้จักความหมายของคำว่า Hospitality ก็เลยเปลี่ยนโผจากที่คิดจะไปเรียนนิเทศศาสตร์มาเลือกการโรงแรมและการท่องเที่ยวคณะเดียวเลยค่ะ ตั้งใจมาเต็มร้อยว่าต้องเข้าไปเรียนให้ได้

พี่เป้ : ได้ยินว่าพี่ลี่เคยจับงานหลายอย่างมาก อยากให้ช่วยเล่าว่าเคยทำอะไรมาแล้วบ้างคะ
พี่ลี่ : การเรียนสาขาวิชานี้สร้างโอกาสในการทำงานให้เราได้เยอะค่ะ โดยเฉพาะเมื่อที่เรียนอยู่ที่ภูเก็ต พี่ก็ทำงานเสิร์ฟในห้องอาหารโรงแรม เพราะปีหนึ่งเรียนด้านอาหาร พอปีสามเรียน front office และบัญชีโรงแรม ก็หางานทำเป็นไนท์เมเนเจอร์ที่โรงแรมเล็กๆ พอปีสี่ลงเรียนวิชาการท่องเที่ยว ก็เปลี่ยนมาทำงานบริษัททัวร์อินบาวด์และก็เป็นเวบมาสเตอร์ออกแบบเวบไซต์โรงแรม เรียกว่าทดลองงานไปเรื่อยๆ ตามวิชาที่เรียน หลังจากนั้นพี่ก็ได้ทุนของสมาคมโรงแรมมาเรียนอาหารและเครื่องดึ่มที่ยุโรป ก่อนกลับไปทำงานสุดท้ายที่เมืองไทยเป็นผู้จัดการร้านอาหารค่ะ

        พี่ชอบทุกงานเท่าๆ กันค่ะ แต่งานบริษัททัวร์จะเป็นงานที่พี่ชอบที่สุด เพราะท้าทายดีตรงที่มันจะรวมธุรกิจอื่นๆ เช่นโรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน ไกด์ ทุกสายงานมาเพื่อให้บริการลูกค้าหนึ่งคนที่จ่ายเงินเพื่อซื้อวันหยุดพักผ่อนในต่างประเทศ การจะทำให้ลูกค้าคนนี้ได้รับความพอใจแลกกับค่าบริการที่เสียไปตรงนี้แหละค่ะที่มันยาก เพราะลูกค้าแต่ละคนความคาดหวังในตัวสินค้าและการบริการต่างกัน แต่ละวันจะมีปัญหาเข้ามาไม่ซ้ำแบบ ทำให้การทำงานสนุกมากค่ะ

พี่เป้ : แล้วตอนนี้พี่ลี่ทำงานอะไรอยู่คะ
พี่ลี่ : พี่ทำงานขายของหน้าร้านตอนกลางวัน และกลางคืนทำงานประจำเป็นแม่ครัวในช่วงที่อยู่ในต่างประเทศค่ะ(เนเธอร์แลนด์) โดยเก็บงานทัวร์ไว้เป็นงานอดิเรกช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทำสะสมประสบการณ์มาเจ็ดปี ก็ตัดสินใจเปิดกิจการเล็กๆค่ะ ใช้ชื่อตัวเอง Kotchakorn ให้บริการข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวอิสระคนไทยและกลุ่มย่อย จัดแผนท่องเที่ยวในยุโรปตามสไตล์ที่ลูกค้าเลือก

       โดยพี่จะให้ทำโปรแกรมทัวร์ออกมาตามเส้นทางที่ลูกค้าต้องการค่ะ เป็น tailor-made tour จัดหาที่พักและบริการไกด์ด้วยครบวงจรค่ะ โดยเป็นกิจการที่ให้บริการล้วนๆ ไม่ทำกำไรจากตัวสินค้าค่ะ แวะไปอ่านข้อมูลท่องเที่ยวในยุโรปฟรีได้ด้วยค่ะ http://www.ez-travel.info

 

พี่เป้ : ทำไมพี่ลี่ถึงตัดสินใจเปิดเป็นบริษัทของตัวเองเลยล่ะคะ
พี่ลี่ : พี่เป็นคนมากเรื่องค่ะ เมื่อพี่เป็นลูกค้า ก็เป็นลูกทัวร์ที่เรื่องมากสุดๆ เวลาเสียเงินไป พี่ก็ต้องให้คุ้ม เพราะฉะนั้นพอจะมาทำกิจการเพื่อเก็บเงินจากคนอื่น พี่ก็อยากให้แน่ใจว่าลูกค้าตัวเองได้บริการที่ดีที่สุดไป เลยตัดสินใจว่าทำเองคนเดียวแก้ปัญหาความขัดแย้งในองค์กร อยากนำเสนอแนวทางแบบของเราเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่ชอบแบบเดียวกันค่ะ ถึงแม้จะทำคนเดียว แต่ก็ร่วมกับเพื่อนๆในวงการทัวร์ สร้างเป็นเครือข่ายส่งต่อลูกค้าให้กันค่ะ เพราะทำงานคนเดียวพี่มีข้อจำกัด บางทียังอยากแยกร่างได้เลยค่ะ อิอิ

พี่เป้ :แล้วปัญหาที่เจอบ่อยๆ ในการทำงานคืออะไรคะ
พี่ลี่ : ปัญหาส่วนใหญ่ของงานนี้จะอยู่ที่ตัวลูกค้าเองค่ะ เนื่องจากเป็นทัวร์ตามใจท่าน ดังนั้นลูกค้าแต่ละกลุ่ม จะมีแผนการเดินทางและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ข้อมูลที่ใช้กับอีกกลุ่มแม้ว่าจะเป็นเส้นทางเดียวกัน ก็จะนำมาใช้ซ้ำไม่ได้ การวางแผนเส้นทางของแต่ละงานจะกินเวลาเยอะค่ะ บางครั้งเวลาเจอลูกค้าที่มีเวลาในการวางแผนล่วงหน้าจำกัด อย่างอีกอาทิตย์หนึ่งจะเดินทางแล้ว เราก็จะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ทำแผนนำเสนอลูกค้า รวมทั้งต้องอัพเดทในเรื่องราคา รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวด้วยค่ะ

พี่เป้ : แล้วพี่ลี่คิดว่าคุณสมบัติของคนที่จะทำงานด้านนี้คืออะไรคะ
พี่ลี่ : ต้องรักที่จะบริการคนอื่นค่ะ งานทัวร์ของพี่หลายๆคนจะคิดว่าน่าสนุกจัง ได้ไปเที่ยวตลอดแถมได้เงินอีก จริงๆแล้วไปที่เดิมซ้ำๆ ก็น่าเบื่อค่ะ แต่โชคดีที่ลูกค้าไม่เคยซ้ำหน้ากัน ปัญหาฉุกเฉินที่เข้ามาก็จะมีแตกต่างกัน ทำให้ต้องกระฉับกระเฉงตลอดเวลา นอนก็น้อยค่ะ เพราะต้องดูแลตั้งแต่ตื่นเช้ากันจนถึงเข้านอน ต้องมีความขยัน อดทน และที่สำคัญที่สุดคือต้องละเอียด เอาใจใส่ค่ะ และอัพเดทกับเหตุการณ์รอบตัวตลอดค่ะ

พี่เป้ : ว่าแต่จัดทริปในยุโรปมาเยอะขนาดนี้ พี่ลี่ประทับใจที่ไหนมากสุดคะ
พี่ลี่ : สถานที่ที่ประทับใจที่สุด ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเปิดทริปในเส้นทางนี้ค่ะ คิดว่าจะเปิดในเร็วๆนี้ คือโครเอเชีย เพราะว่าเป็นประเทศที่สวยบริสุทธิ์จริงๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหารอร่อย และเมืองเก่าอารยธรรมเวเนเชี่ยน คนท้องถิ่น และบ้านเมืองน่ารักมากค่ะ ตอนนี้พี่ก็เลยทำงานหนักเตรียมข้อมูลส่วนของที่พักและข้อมูลวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยค่ะ แน่ใจว่าถ้าทำทริปพาลูกทัวร์ไป ทุกคนจะไม่ผิดหวังกับ destination นี้แน่ๆ

พี่เป้ : แล้วพี่ลี่คิดว่าบริษัททัวร์ของพี่ลี่มีจุดเด่นที่ต่างจากที่อื่นยังไงคะ
พี่ลี่ : ที่แน่ๆ เลยคือตอนนี้เกือบทั้งร้อย ทัวร์คนไทยในยุโรปส่วนใหญ่ จะเป็นคนไทยที่ย้ายตามสามีมาอยู่ต่างประเทศ มีประสบการณ์จากการเที่ยวของตัวเองแล้วเปิดกิจการ แต่ของพี่ พี่ได้เปรียบตรงที่เรียนมาสายตรงการโรงแรมและการท่องเที่ยว ก็จะมีความรู้ลึกและประสบการณ์ตรงเฉพาะด้านไปเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน การจองที่พัก ตั๋วรถไฟ และตั๋วเดินทางชนิดต่างๆ อีกทั้งเราได้เรียนประวัติศาสตร์ ภาษาและสถานที่ท่องเที่ยวของยุโรปมาก่อนแล้ว และเพราะเป็นกิจการของตัวเอง พี่ก็จะบริหารค่าใช้จ่ายและทำราคาให้ถูกลงได้เพราะกำหนดราคาค่าบริการเป็นราคาไทยค่ะ แล้วสามารถให้บริการได้ครอบคลุมยุโรปเลย ไม่เฉพาะแต่เนเธอร์แลนด์เท่านั้น ตรงนี้ก็จะทำให้เรามีคู่แข่งในตลาดน้อยลงค่ะ

พี่เป้ : อยากให้ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้
พี่ลี่ : จริงๆแล้ว การโรงแรมและการท่องเที่ยว หรือที่บางคณะจะรวมกันเป็น Hospiality หรือ Service industry เนี่ย ในช่วงที่เรียนจะเป็นช่วงที่สนุกมาก วิชาที่เรียนจะเกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตจริงในสังคม เพียงแต่ว่าเมื่อเราเรียน เราจะยืนอยู่ในตำแหน่งของผู้ให้บริการ พอจบออกมา ความรู้ในด้านนี้ มันจะสอนเราโดยไม่รู้ตัวในเรื่องของทักษะในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นรากฐานของงานในสาขาธุรกิจอื่นๆด้วย

         ดังนั้นเมื่อเราเรียนจบ จึงมีตัวเลือกการงานอาชีพให้เราเยอะกว่า ไม่จำเป็นที่ว่าจบแล้วจะต้องทำงานโรงแรม ร้านอาหารหรือบริษัททัวร์แต่เท่านั้น น้องๆที่คิดว่าตัวเองชอบท่องเที่ยว ชอบงานโรงแรม ต้องถามตัวเองให้ดี ว่าเรามีความอดทนสูงแค่ไหน เรามีความสุขไหมเวลาที่อยู่ภายใต้ความกดดัน ทำงานแข่งกับเวลาเพื่อความพอใจของคนอื่น ถ้าเข้าใจตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เหมาะกับเรา พี่ก็อวยพรให้มีความสุขกับการเรียนและอาชีพการงานในสายงานด้านนี้ต่อไปในอนาคตค่ะ

 


 



 



 









 

 

 

   รุ่นพี่ คนที่ 2
บัว (พี่บัว)  Reception บริษัท L'OREAL
 

พี่เป้ : ก่อนอื่นอยากให้ช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ
พี่บัว : สวัสดีค่ะ ชื่อบัวค่ะ อันนี้ชื่อจริงตามบัตรประชาชนแล้วนะ คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นชื่อเล่นแล้วก็ชอบถามชื่อจริงตลอด ^^ จบจากคณะวิทยาการการจัดการ สาขาการท่องเที่ยว ที่สวนดุสิตค่ะ

พี่เป้ : ทำไมถึงเลือกเรียนด้านการท่องเที่ยวล่ะคะ
พี่บัว : ตอนนั้นอยากเที่ยวฟรีแบบไม่เสียตังค์อ่ะค่ะ^^ เหตุผลหลักจริงๆก็คือคิดว่างานทัวร์เป็นงานที่มีรายได้เยอะและยังได้เที่ยวไปเรื่อยๆด้วย คือมันเป็นงานอิสระที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองจะทำไม่ทำ จะได้เงินไม่ได้เงิน จะเหนื่อยจะสบาย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรา

พี่เป้ : แล้วตอนนี้ทำงานอะไรอยู่คะ
พี่บัว : ในช่วงที่เรียนก้อทำงานทัวร์ที่ตัวเองกำลังเรียนไปด้วย ก็เริ่มทำตั้งแต่ช่วงปีหนึ่งปลายๆแล้วล่ะค่ะ ทำเรื่อยๆจนเรียนจบ แต่พอจบแล้วก็อยากหางานประจำทำ แต่งานทัวร์ที่เป็นงานประจำมันได้เงินค่อนข้างน้อย เลยอยากเอาดีด้านการออกทัวร์ ซึ่งถ้าไปเป็นไกด์ดีกว่าจะได้เงินมากกว่า ทำได้ซักพักก็ลองสมัครงานด้านโรงแรมไปเรื่อยๆ เพราะค่อนข้างใกล้เคียงกับที่เรียนมา น่าจะมีโอกาสได้มากกว่า ไม่นานก็ได้เข้าทำงานที่โรงแรม Sofitel Centara Grand Bangkok ทำได้เกือบสองปีก็เปลี่ยนงานใหม่ เนื่องจากโรงแรมต้องทำงานเป็นกะ ถ้าช่วงไหนต้องทำ เช้า-บ่าย-ดึก พร้อมกันในสัปดาห์เดียว ร่างกายจะค่อนข้างแย่ เลยหางานใหม่ และในที่สุด ปัจจุบันนี้ก็ได้เข้ามาทำงานเป็น Reception ที่บริษัท L'OREAL (ลอรีอัล) ทำงานเป็นเวลาและรายได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจค่ะ

พี่เป้ : ว่าแต่งานรีเซปชันที่เคยทำที่โรงแรมนั้น หน้าที่หลักๆ มีอะไรบ้างคะ
พี่บัว : แต่ละโรงแรมก็อาจะมีรายละเอียดไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็คือ
1. Check-In พยายามหาห้องที่ให้ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ เพราะบางครั้ง
2. Check-Out ดูรายละเอียดการใช้จ่ายทั้งหมดภายในโรงแรมของแขกและให้แขกชำระเงินให้ครบถ้วน ตามรายการทั้งหมด
3. Give Information ให้รายละเอียดต่างๆทั้งในส่วนของโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงการเดินทางต่างๆด้วย ส่วนคุณสมบัติหลัก คือ ต้องรักการบริการ, รู้จักแก้ไขสถานกาณ์, เคารพกฎการทำงาน ค่ะ

พี่เป้ : พูดถึงการทำงานเป็นรีเซปชันที่โรงแรมนั้น ตอนไปสมัครเจอสัมภาษณ์ยังไงบ้างคะ
พี่บัว : ค่อนข้างยากค่ะ เพราะสอบข้อเขียนเหมือนสอบ TOEIC ย่อยๆนั่นเอง ทั้งฟังและเขียน ถ้าสอบผ่านแล้วเค้าก็จะเรียกมาสัมภาษณ์อีกทีค่ะ ตอนสัมภาษณ์ก็ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะเพิ่งสัมภาษณ์งานี้งานแรกเหมือนกัน สัมภาษณ์ตั้งแต่ฝ่ายบุคคล, หัวหน้าแผนกที่ไปทำ, Front Office Manager แล้วก็ GM ค่ะ กว่าจะสัมภาษณ์เสร็จก็หมดวันพอดี^^ แต่รู้ผลว่าได้งานในวันนั้นเลยนะคะ ถ้าถึง GM แล้วแสดงว่าได้แน่นอนค่ะ

พี่เป้ : ว่าแต่คำถามที่เจอตอนสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้างคะ
พี่บัว : ให้แนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าได้ภาษาที่สามก็ต้องลองพูดแนะนำเพิ่มเติมจะได้ดูมีคุณสมบัติมากกว่าคนอื่น การเดินทางมาทำงานว่ามันไกลบ้านมากไหม, ประสบการณ์งานที่เคยทำมาเกี่ยวข้องกับงานที่จะทำรึเปล่า ส่วนใหญ่จะคุยเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยนะคะ ทำไมถึงอยากมาทำงานที่นี่ เป็นต้น

พี่เป้ : แล้วเพื่อนคนอื่นๆ ที่จบไปทำงานด้านไหนกันบ้างคะ
พี่บัว : ส่วนใหญ่ก็ทำทัวร์กับโรงแรมนี่แหละค่ะ


พี่เป้ : การทำงานสายนี้ ภาษาสำคัญมากแค่ไหนคะ
พี่บัว : ถ้าเป็นทัวร์สำหรับคนไทยก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้าทำทัวร์ทั้ง In Bound, Out Bound ก็ต้องใช้ภาษาเยอะเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เค้าดูจากประสบการณ์มากกว่า ต่อให้คุณได้ TOEIC เยอะ แต่อธิบายลูกค้าไม่ได้เค้าก็คงไม่เลือกคุณแน่ๆ เพราะฉะนั้นตอนที่เรียนภาษาอังกฤษของการท่องเที่ยวนั้นเป็นการฝึกอธิบายสถานที่สำคัญๆเป็นภาษาอังกฤษก่อนที่เราจะได้ทำงานจริง แต่ถ้าเป็นโรงแรม ภาษาสำคัญมากๆ ยิ่งถ้าได้ภาษาที่สามจะได้พิจารณาเป็นพิเศษแน่นอน เค้าจะดูการใช้ภาษาในการพูดคุยสื่อสาร และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเราด้วย

 

 

พี่เป้ : ปัญหาที่เจอในการทำงานมีอะไรบ้างคะ
พี่บัว : -ปัญหาจากคนที่ทำงานร่วมกัน การทำงานควรให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พยามยามพูดคุยกันด้วยเหตุผล ปัญหาก็คงไม่เกิดมากนัก หากทำงานเอาแต่ใจ ทำไปวันๆ คนที่ทำงานด้วยก็จะเหนื่อย และเกิดการทะเลาะได้ง่าย
        -ปัญหาเนื้องาน บางครั้งงานบางอย่างค่อนข้างละเอียดและต้องรอบคอบ ด้วยเวลาที่เร่งรีบก็อาจทำให้งานเราผิดพลาดได้ ต้องลองผิดลองถูกทำไปเรื่อยๆ เพราะการรีบเกินไปมักเกิดความผิดพลาดเสมอ

พี่เป้ : แล้วเวลามีปัญหาสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แก้ปัญหายังไงคะ
พี่บัว : พยายามใช้ทั้งภาษามือ การเขียน วาด ทุกอย่างเลยค่ะ อาจจะพูดเป็นคำง่ายๆที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย แขกจะได้ไม่งง แต่หากว่าเรารับมือไม่ไหวจริงๆก็เรียก ผู้ช่วยผู้จัดการมาช่วยเราได้ เป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากที่พยามสุดๆแล้ว เพราะหากยืนคุยต่อไป แขกท่านอื่นก็จะรอนานค่ะ

พี่เป้ : สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนด้านนี้ด้วยค่ะ
พี่บัว : ถ้าคิดว่าเรียนแล้วมีความสุข คงสนุกกับการได้เลือกเรียนคณะนี้แล้วก็เรียนเลยค่ะ อาชีพที่แต่ละคนอยากทำไม่เหมือนกัน หากใครคิดว่าอยากทำงานที่ตัวเองเป็นคนเลือกล่ะก็ต้องทัวร์เลยค่ะ ได้ทำทุกอย่างจริงๆ สนุกดีค่ะถ้าได้ลองทำ

 
 
 

       เป็นยังไงบ้างคะ คนนึงก็เป็นเจ้าของทัวร์ อีกคนก็เป็นรีเซปชั่น จะเก่งกันไปไหนเนี่ย !!!
ส่วนสัปดาห์หน้า คณะในฝันจะกลับมาพบกับน้องๆ พร้อมกับคำถามคาใจของคนอยากเข้าการโรงแรมและการท่องเที่ยว
ใครมีข้อสงสัยอะไรก็บอกได้ที่คอมเมนท์ข้างล่างเลยนะคะ ^^

เด็กดีดอทคอม :: เกาหลีและสวิสฯ ก็มีสงกรานต์ ! ; tags: สวิสเซอร์แลนด์, บาเซิล, ประเพณี, โคลน, เกาหลี, สงกรานต์, เทศกาล

 
 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

31 ความคิดเห็น

:: わたし:: Member 20 เม.ย. 53 17:54 น. 1
ว๊าววววว

เลือกไปเเล้ว คณะการจัดการ การโรงเเรมการท่องเที่ยว มข.
เเอบหวั่นๆไม่รู้จะติดหรือป่าว??? 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PIMMY 21 เม.ย. 53 13:32 น. 10
อยากเป็นไกด์ค่ะอาชีพในฝันของหนูเลย
อยากทำทัวร์ถูกๆพาคนไทยที่ไม่รวยมากไปยุโรปค่ะ ทุกวันนี้ทัวร์ราคาเกือบแสน
อยากทำถูกๆต่ำกว่าห้าหมื่น(ไม่รู้จะได้มั้ย) อยากให้คนไม่รวยมากก็มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนอกค่ะ
0
กำลังโหลด
หนูขี้สงสัย 21 เม.ย. 53 18:51 น. 11
อยากเรียนด้านนี้มากค่ะแต่ที่บ้านไม่สนัลสนุนเพราะบอกเศรษฐกิจไม่ดี กลัวตกงาน
อยากเป็นไกด์มากๆค่ะ อยากเที่ยว อยากทำให้คนอื่นมีความสุข
หนูสงสัยว่าถ้าเป็นไกด์หรือรีเซฟชั้นแต่ถ้าลูกค้าถามในสิ่งที่เราตอบไม่ได้ เราจะทำไง
0
กำลังโหลด
maumi 22 เม.ย. 53 01:40 น. 12
น้องความเหนที่1

พี่เรียนคณะวิทยาการจัดกร การโรงแรม มข. ปีสองนะค๊ะ

ก้อขอให้น้องติดแล้วกันนะจ๊ะ แล้วพี่จะรอ
0
กำลังโหลด
แป้งโกกิ Member 22 เม.ย. 53 09:08 น. 13

เรียนอยู่คณะศิลปศาสตร์สาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรมเหมือนกันค่ะ

กำลังจะปี 4 แล้ว แต่ยังไม่รู้จะฝึกงานที่ไหนดีเลย TT^TT

พวกพี่ๆ เก่งจังเลยค่ะ ^ ^

0
กำลังโหลด
@deksuan@ Member 22 เม.ย. 53 11:48 น. 14
ไนซ์ก็เรียนสาขานี้นะค่ะ
แต่ภาษาอังกฤษยังไม่มั่นใจเลยอ่ะ
กลับว่าจะมีปัญหาตอนทำงานอ่ะค่ะ

0
กำลังโหลด
AMMY 22 เม.ย. 53 14:47 น. 15
แต่ยังไงก็อย่าลืมนะค่ะว่าสิ่งที่รักที่ชอบอาจไม่ได้นำมาซึ่งสิ่งที่เราชอบ
แต่สิ่งที่ที่เราไม่ชอบอาจให้ในสิ่งที่เราชอบตลอดไป

ถ้าคิดจะเรียนท่องเที่ยงก็ขอให้เรียนด้วยใจรักจิงๆๆ อย่าเรียนตามกระแสนะค่ะ สู็ๆๆนะค่ะ มีอะไรก็เมลล์มาปรึกษาพี่ได้ค่ะ พี่เรียนท่องเที่ยวม.รังสิตนะค่ะ
0
กำลังโหลด
5656 22 เม.ย. 53 18:35 น. 16
โอ้ เริ่ด
เราเรียนคณะวิทยาการการจัดการ เอกการท่องเที่ยว
ม.สวนดุสิตเหมือนกัน
อิอิ
หนูอยากเป็นไกด์
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
KORO Member 24 เม.ย. 53 09:16 น. 19
 ผม พูด ภาษา จีน กะ อังกฤษ ได้ แต่ดับ สอบทีไรได้มาก ตลอด แต่ ดันไป ตกไทย 555+  ก็คนมันไม่ชอบ อ่ะน่ะ

ผมว่าผมอยากเป็น tour Guide สุดในที่พูดมา ผมเอง ก็ เป็นคนชอบพูดน่ะ จะแนวๆ พูดมากเลยก็ได้  อิอิ (อยากเที่ยวด้วย อิอิ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด