คณะพยาบาล Issue 002 week2, May 2010
 
คณะสหเวชศาสตร์
ตอนที่ 2/4 : เปิดใจชีวิตการเรียนของ "สหเวชศาสตร์"
 
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

        
         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และคอลัมน์คณะในฝันทุกวันพุธอีกเช่นเคย สำหรับเดือนนี้เรายังอยู่กันที่คณะสหเวชศาสตร์ ซึ่งวันนี้ พี่เป้ มาพร้อมกับรุ่นพี่ในรั้วมหาวิทยาลัย ที่กำลังเรียนอยู่ในคณะนี้ พร้อมจะเปิดใจถึงชีวิตการเรียนแล้วล่ะค่ะ


   รุ่นพี่ คนที่ 1      
ณุวดี โอพิทักษ์ชีวิน (ท็อป) คณะสหเวชศาสตร์ สาขากายภาพบำบัด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชั้นปีที่ 3

 
พี่เป้ : สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ ที่กำลังอ่านหน่อยค่ะ
พี่ท็อป :ชื่อพี่ท็อปค่ะ ณุวดี โอพิทักษ์ชีวิน คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 3

พี่เป้ : ทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนคณะนี้ล่ะคะ
พี่ท็อป : ตอบตรงๆ เลยนะคะ คือท็อปเคยอ่านนิยายแล้วนางเอกเป็นนักกายภาพบำบัดค่ะ เลยอยากเป็นบ้าง 5555 ล้อเล่นๆๆ ค่ะ จริงๆ แล้วเหตุผลที่อยากเรียนคณะและสาขานี้ก็คือ รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งวิชาชีพทางสายการแพทย์ที่มี ความน่าสนใจ เมื่อเรียนจบแล้วสามารถใช้ความรู้ในการช่วยเหลือผู้อื่นได้ค่ะ ^^

พี่เป้ : ตอนสอบแอดมิชชั่นเข้ามา เตรียมตัวอะไรยังไงบ้างคะ
พี่ท็อป : เตรียมตัวเหรอคะ ก็มีเรียนพิเศษกวดวิชาบ้างค่ะแต่ไม่เยอะ ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบเรียนพิเศษอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็จะมีอ่านหนังสือ ในช่วงวันหยุด โดยจะเลือกอ่านวิชาที่ชอบก่อน ส่วนวิชาที่เราอ่อนแออย่างคณิตศาสตร์ อิอิ ก็จะอาศัยไปเรียนพิเศษ บวกกับให้เพื่อนช่วยติวให้ค่ะ ตอนสอบก็เลยเลือกสอบแต่วิชาสายวิทย์
เพราะตั้งใจแน่วแน่มากเลยค่ะกับคณะนี้ ^^ สิ่งหนึ่งอยากจะแนะนำน้องๆ คือการทำคะแนน O- Net ให้ได้ดี ท็อปเป็นอีกคนนึงนะคะที่ทำคะแนนเอเน็ทได้ไม่สูงมาก แต่ได้คะแนนโอเน็ทมาช่วยไว้ค่ะ
พอผลสอบออกก็ได้คะแนนรวมประมาณ 6,700 (เต็มหมื่น) ค่ะ

พี่เป้ : พอเข้ามาเรียนจริงๆ คณะสหเวชศาสตร์ต่างจากที่คิดไว้ตอนแรกมั้ย
พี่ท็อป : ต่างพอสมควรเลยนะคะ จากเดิมที่เราเคยคิดว่าการเรียนกายภาพบำบัดเป็นการเรียนธรรมดา ที่ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่เมื่อเข้ามาเรียนจริงๆ จึงทำให้ได้รู้ว่า ไม่มีคำว่าง่ายสำหรับวิชาชีพใดๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตของคน

กายภาพบำบัดก็เช่นเดียวกัน การเรียนในสาขานี้หนักหนาสาหัสพอสมควร นิสิตกายภาพบำบัดทุกคนต้องเจอกับวิชาพื้นฐานวิชาชีพและวิชาที่เป็นวิชาชีพทางคลินิค และต้องเรียนรู้สิ่งแหล่านี้ให้ได้ภายใน 4 ปี แต่การเรียนที่ว่ายากแล้วก็ยังไม่ยากเท่ากับการประยุกต์ ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมากับคนไข้จริงๆ ฟังอย่างนี้แล้วน้องๆ ที่อยากเรียนกายภาพบำบัดก็อย่าเพิ่งตกใจหนีกันไปก่อนนะคะ TT จริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าน้องๆ มีความตั้งใจและความพยายามรวมถึงใจรักในอาชีพนี้จริงๆ แล้วอีกอย่างเมื่อเข้ามาเรียนแล้วที่นี่จะมีทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ และอาจารย์คอยช่วยดูและและเอาใจช่วยน้องๆ อยู่ตลอด ไม่ต้องกลัวนะคะ ^^

 









 

พี่เป้ : แล้วมีความภาคภูมิใจต่อคณะและสถาบันยังไงบ้างคะ
พี่ท็อป : ภูมิใจมากกกกกกกกกกกถึงมากที่สุดเลยค่ะ สำหรับคณะนะคะถึงแม้ว่าคณะสหเวชศาสตร์จะเป็นคณะ
ที่มีอายุน้อยๆ ของจุฬาฯแต่ก็เป็นคณะที่อบอุ่นและมีชื่อเสียงมากมายทั้งในด้านกิจกรรมและการเรียนการสอน
และที่สำคัญคณะของเราถึงแม้จะออกแบ่งเป็น 3 สาขาแต่บอกได้เลยค่ะว่า หัวใจของชาวสหเวชศาสตร์ทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวแน่นอน ^^

และสำหรับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ความภาคภูมิใจที่มีต่อสถาบันนี้ คงจะบรรยายไม่หมด ใต้ร่มเงาจามจุรี....
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่มหาวิทยาลัย หากแต่ยังเป็นบ้านหลังใหญ่ที่รวบรวม ความรัก ประสบการณ์และความอบอุ่น
ที่เราเหล่าน้องพี่สีชมพูมีให้แก่กัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ได้เพียงแต่ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถ
ทางวิชาการ หากแต่ยังเป็นบัณฑิตที่มีทักษะในการดำรงชีวิต พร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือและประพฤติตน
เป็นประโยชน์ต่อสังคม ให้สมดังปณิธานที่ว่า “ เกียรติภูมิจุฬา คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน ”

พี่เป้ : แล้วอนาคตจบไปอยากทำงานอะไรเหรอคะ
พี่ท็อป : เรียนกายภาพบำบัด แน่นอนว่า ต้องอยากเป็น......แอร์โฮสเตส 5555 ล้อเล่นค่ะ ก็ต้องอยากเป็นนักกายภาพบำบัดแน่นอนอยู่แล้วค่า ส่วนจะเป็นนักกายภาพบำบัดทางด้านไหนนั้น ขอดูอีกทีนะคะ 555 อยากเป็นนักกายภาพบำบัดที่ดีมีความสามารถในการรักษาและดูแลผู้ป่วยด้วย
วิธีทางกายภาพบำบัดเท่านี้ก็พอแล้วค่า

พี่เป้ : สุดท้ายนี้อยากให้ช่วยฝากกำลังใจถึงน้องๆ ด้วยค่ะ
พี่ท็อป : อยากฝากให้น้องๆ ที่อยากเข้าเรียนในคณะนี้นะคะ ค้นหาตัวเองให้เจอจริงๆ ว่าอะไรคืองานหรืออาชีพที่น้องๆอยากทำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจที่สำคัญให้น้องๆ สามารถสอบเข้าคณะที่ใฝ่ฝันได้ สำหรับน้องๆ ที่ค้นพบแล้วว่า คณะสหเวชศาสตร์คือคำตอบสุดท้าย
พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ อย่างที่พี่บอกไปแล้วว่าไม่มีสิ่งใดอยากเกินจะทำ ขอเพียงเรามีใจรักและมีความพยายาม ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมแน่นอนค่ะ ^_____^

                                    

 

 

   รุ่นพี่ คนที่ 2
พิชิตา สิงห์ลอ (แยม) คณะสหเวชศาสตร์
สาขาโภชนาการและการกำหนดอาหาร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4

พี่เป้ : อยากให้ช่วยแนะนำตัวหน่อยค่ะ
พี่แยม : สวัสดีค่ะ ชื่อพิชิตา สิงห์ลอ ชื่อเล่นชื่อแยม ตอนนี้เป็นนิสิตคณะสหเวชศาสตร์ สาขาโภชนาการและการกำหนดอาหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ค่ะ ^^

พี่เป้ : ทำไมถึงสนใจเลือเรียนในคณะนี้ สาขานี้คะ
พี่แยม : แยมคิดว่าอาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับทุกคน การรับประทานอาหารดีย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพ ดังคำกล่าวที่ว่า
“You are what you eat” กินยังไงก็จะมีผลต่อตัวเราอย่างนั้นค่ะ
และความรู้ทางอาหารและโภชนาการเป็นศาสตร์หนึ่งที่ใกล้ตัว
ถ้าได้เรียนสาขานี้ น่าจะสามารถนำความรู้มาประยุกต์และปรับใช้กับตัวเองได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำความรู้มาดูแลสุขภาพ
คนที่เรารักได้อีกด้วย (ครอบครัว ^^)

พี่เป้ : พูดถึงการเรียนในสาขานี้ เรียนอะไรบ้างคะ
พี่แยม : ช่วงปีแรกๆ เริ่มเรียนวิชาพื้นฐานต่างๆ เพื่อปรับความรู้พื้นฐานของทุกคนก่อน เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา แคลคูลัส สถิติ มาหมดเลยค่ะ แล้วก็จะมีวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กายวิภาคศาสตร์, สรีรวิทยา, การปรับพฤติกรรม, เภสัชวิทยา ฯลฯ ส่วนวิชาสาขาเราหลักๆ จะเกี่ยวกับโภชนาการ เราต้องเรียนรู้การจัดเมนูอาหารสำหรับบุคคลในทุกภาวะ ทุกโรค ทุกวัยค่ะ, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, โภชนบำบัด (ความสัมพันธ์ของโรคกับอาหาร) เพื่อให้คำแนะนำด้านอาหารที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วยโรคต่างๆ

พี่เป้ : แล้วอย่างนี้ต้องมีฝึกงานมั้ยคะ
พี่แยม : ในปีสุดท้ายต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลค่ะ ทั้งด้าน service และ clinical ตอนนี้แหละสำคัญ ใครมีความรู้อะไร แค่ไหน ได้เวลางัดออกมาใช้กันจริงๆ จะบอกว่างานนี้มีแต่กำไรนะคะ คือเราจะได้เรียนรู้งานและเทคนิคจากนักโภชนาการ นักกำหนดอาหารตัวจริง ที่เป็นอาจารย์ให้เราตอนฝึกงานค่ะ

พี่เป้ : โภชนาการและการกำหนดอาหารมีความสำคัญยังไงคะ ทำไมถึงต้องเรียน
พี่แยม : ในปัจจุบันอาหารและโภชนาการกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ คนสมัยนี้หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สิ่งที่เราเรียนก็คือ “กินอย่างไรให้ห่างไกลโรค” เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี และป้องกันโรคโดยไม่ต้องรอให้เกิดโรคก่อนค่ะ เราเรียนเรื่องอาหารที่เน้นไปทางสุขภาพ การกำหนดอาหารให้แก่บุคคลทั่วไป ผู้ป่วยโรคต่างๆ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เรียกได้ว่าใครมีปัญหาด้านภาวะโภชนาการหรือต้องการปรึกษาด้านอาหารและโภชนาการ เราสามารถให้คำแนะนำและรับปรึกษาได้เลยค่ะ

 









 



พี่เป้ : ลองพูดถึงวิชาที่ชอบเรียนหน่อยสิคะ
พี่แยม : จริงๆ แล้วมีหลายวิชา แต่ขอแนะนำ 2 วิชานี้ค่ะ วิชาเวชศาสตร์ชุมชนสำหรับวิทยาศาสตร์สุขภาพ
จะได้รู้ทั้งแนวคิดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะของคนในชุมชนและได้ลงมือปฏิบัติจริงเลยค่ะ คือจะมีการฝึกปฏิบัติงานในชุมชน ที่กำหนดให้ร่วมกับเพื่อนๆ สาขาเทคนิคการแพทย์และสาขากายภาพบำบัดค่ะ(คณะเดียวกันนี่แหละ) โดยจะมีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจตามบ้าน จัดซุ้มให้ความรู้และบริการตรวจสุขภาพฟรี เป็นการซักซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นนักโภชนาการและนักกำหนดอาหารในอนาคตค่ะ ^^
อีกวิชาก็คือ วิชาผลิตภัณฑ์อาหารและเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ขอบอกว่าอินเทรนด์มากๆ ค่ะ ยุคนี้สมัยนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือที่มีชื่อเล่นว่าอาหารเสริม บางคนอาจจะกินมากมายหลายชนิดจนเกินความต้องการ หรือบางคนอาจขาดสารอาหารแต่ไม่ได้กินเพิ่มเติม
การเรียนวิชานี้จะทำให้รู้ว่า เราควรกินอย่างไรค่ะ!!

พี่เป้ : แล้วหากจบไปแล้ว จะสามารถทำงานอะไรได้บ้างคะ
พี่แยม :เมื่อจบหลักสูตรนี้แล้วเราจะสามารถ ทำงานได้หลายอย่างเลย เช่น จัดเมนูอาหารสุขภาพได้
ดูแลโภชนาการผู้ป่วยในโรงพยาบาล ทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ทำงานด้านผลิตภัณฑ์อาหารนม อาหารทารก อาหารทางการแพทย์ ทำงานในศูนย์สุขภาพต่างๆ
ทำงานในบริษัทผลิตอาหาร หน่วยงานที่ให้บริการอาหารต่างๆ หรือเข้าทำงานในกองโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุข กองอาหารของ อย. หรือหน่วยงานดูแลมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศก็สามารถทำได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคลค่ะ

พี่เป้ : แล้วได้ทำกิจกรรมอะไรของคณะและมหาวิทยาลัยบ้างคะ
พี่แยม : ตอนปี1 เข้ามาใหม่ๆ ก็แข่งกีฬาเฟรชชี่ เป็นนักมวยค่ะ เรียกว่าไม่มีใครกล้ามามีเรื่องกับเราเลยทีเดียว 555+
และที่ผ่านมาก็ทำค่ายนะคะ ค่ายเพื่อนกาวน์สำหรับน้องๆ ม.ปลายที่สนใจคณะนี้ ซึ่งน้องๆ คนไหนที่ยังข้องใจว่า เอ๊ะ...คณะนี้เค้าเรียนอะไรกัน มาค่ายนี้ก็จะได้รับคำตอบกลับไปค่ะ

 ส่วนอีกค่ายหนึ่งที่ประทับใจมาก ค่ายอาสาพัฒนาชนบทซึ่งเป็นค่ายที่พวกเราชาวสหเวชฯ ได้ไปช่วยซ่อมแซมอาคาร สถานที่ ทาสีเครื่องเล่นบริจาคหนังสือ และของเล่นให้น้องๆ ค่ะ ที่สำคัญเรายังได้ออกหน่วยให้คำแนะนำด้านโภชนาการ
ร่วมกับเพื่อนๆ ในคณะอีกด้วยค่ะ นอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังเป็นการสร้างรอยยิ้มให้น้องๆ ที่ด้อยโอกาสด้วยค่ะ และอีกงานที่ไม่เคยพลาด คือ การแสดง!! จะขึ้นเวทีทุกครั้งที่มีการแสดงค่ะ ร้องบ้าง เต้นบ้าง สร้างสีสันให้งานเลี้ยงภายในคณะค่ะ ^^

พี่เป้ : สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจคณะสหเวชศาสตร์ด้วยค่ะ
พี่แยม : ขอให้น้องๆ ทำความรู้จักกับตัวเองให้ดีก่อนค่ะ ว่ารักอะไร ชอบอะไร ศึกษาหาข้อมูลในคณะหรือสาขาที่สนใจ
ว่าตรงกับที่เราคิดไว้หรือไม่ และเลือกในสิ่งที่ชอบและสนใจจริงๆ เพื่อเวลาที่เข้ามาเรียนแล้วจะได้ไม่รู้สึกผิดหวัง
อยากให้น้องๆ เข้ามาเรียนแล้วมีความสุขไปกับมัน ไม่ใช่เรียนไปอย่างไร้จุดมุ่งหมายเพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับการเรียนที่นี่ถึง 4 ปี ควรมีความพร้อมอยู่เสมอ ทั้งต้องท่องหนังสือและทำงานและอยากจะฝากว่า อย่าลืมแบ่งเวลาให้กับการทำกิจกรรมด้วย เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายเวลาเรียนมาเครียดๆ และยังเป็นการสานสัมพันธ์ ทำให้เรามีเพื่อนมากมายด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดี สาธุ!!

 

 

   รุ่นพี่ คนที่ 3      
พลวัฒน์ จันทร์ผิว (พี่แบงค์) คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ชั้นปีที่ 2

 
พี่เป้ : อยากให้ช่วยแนะนำตัวเองแก่น้องๆ หน่อยค่ะ
พี่แบงค์ :ชื่อนายพลวัฒน์ จันทร์ผิว คณะสหเวชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปีที่ 2

พี่เป้ : ทำไมถึงสนใจเรียนด้านสหเวชศาสตร์ล่ะคะ
พี่แบงค์ : ก่อนอื่นผมก็ขอเล่านะครับที่จริงแล้ว สาขาที่ผมเรียนอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์ ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนางานทางด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะตั้งคณะแพทยศาสตร์เพื่อให้คณะแพทยศาสตร์เท่าเทียมกับมหาลัยอื่นๆ ซึ่งวิทยาศาสตร์การแพทย์ตั้งขึ้นมาได้ 10 ปี จึงย้ายสังกัดมาเป็นคณะสหเวชศาสตร์ เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มาช่วยสนับสนุนทางด้านการแพทย์ให้เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน เหตุที่ชอบในสาขาวิชานี้ อยากเป็นหมอครับแต่สอบไม่ติดครับ จึงเปลี่ยนมาเอาดีทางดีทางด้านนี้ครับแต่ก็มีรายวิชาที่เรียนเหมือนกัน นั่งเรียนด้วยกันเหมือนกับได้เรียนหมอจริงๆ ครับ

พี่เป้ : ตอนสอบเข้ามาในคณะนี้ เตรียมตัวยังไงบ้างคะ
พี่แบงค์ : ตอนสอบเข้าผมมาในสังกัดคณะวิทย์ครับ มาในรอบโครงการช้างเผือกครับ โครงการช้างเผือกรับเฉพาะคณะวิทยาศาสตร์ครับ ตอนนี้เข้าเปลี่ยนมาใช้รับคะแนน GAT PAT แล้ว เพราะของสหเวชศาสตร์ก็ไม่ได้อยู่คณะในวิทยาศาสตร์แล้ว

พี่เป้ : แล้วสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่นี้เรียนอะไรบ้างคะ
พี่แบงค์ : เป็นนักวิจัยทางด้านการแพทย์ และเป็นผู้สนันสนุนทางด้านการแพทย์ มีความสำคัญในทางด้านการแพทย์ คือปัจจุบันหมอยังไม่เพียงพอต่อความต้องการประเทศ รักษาผู้ป่วยก็แทบที่จะไม่มีเวลาทำแล้ว ดังนั้นสาขาวิชานี้จะช่วยพัฒนาทางการแพทย์คือค้นคว้าเกี่ยวกับยา พัฒนาอุปกรณ์ทางด้านการแพทย์






 

พี่เป้ : หากจบจากด้านนี้ สามารถทำงานอะไรได้บ้างคะ
พี่แบงค์ : ทำงานวิจัยพัฒนาทางการแพทย์ ผู้ช่วยนิติเวช ทำงานโรงพยาบาลในแผนกพยาธิและแผนกต่างๆ
ผู้ช่วยเทคนิคการแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด ขายเครื่องมือแพทย์ ทำงานเกี่ยวกับความสวยความงาม ครูในสายวิทยาศาสตร์

พี่เป้ :มีความภาคภูมิใจต่อคณะและมหาวิทยาลัยบูรพายังไงบ้างคะ
พี่แบงค์ : คณะสหเวชศาสตร์เป็นคณะน้องใหม่ แต่พวกเราชาวสหเวชศาสตร์ก็มีความรักและความสามัคคีในหมู่คณะ สร้างผลงานหลายรางวัลในงานประกวดต่างของกิจกรรมทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น ส่วนสถาบันมีชื่อติดของมหาลัยที่มีคุณภาพครับ มีคุณภาพแบบในหาดูในเด็กดีครับ(อ่านแต่เรื่องดีๆ นะครับ)และรู้สึกว่าน้องจะเลือกม.บูรกันเยอะนะครับปีนี้ ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่เหงาแน่ครับ คณะนี้ถึงจะเป็นคณะน้องใหม่แต่ก็ยืนได้มา 10 ปี แล้วครับ สนใจคณะนี้ก็เข้ามาดูที่ www.buu.ac.th นะครับ

                                    

       

        เป็นไงบ้างคะกับรุ่นพี่จากรั้วจุฬาฯ และรั้วบูรพา ที่มาเผยเบื้องลึกการเรียนขนาดนี้ คงทำให้น้องๆ เห็นภาพบรรยากาศของคณะนี้กันมากขึ้นนะคะ แต่ยังไงก็ตาม สถาบันที่เปิดสอนคณะนี้ไม่ได้มีแค่ 2 สถาบันเท่านั้นนะคะ ยังมีอีกหลายสถาบันที่เปิดสอนเลยล่ะ^^ ส่วนสัปดาห์หน้า พี่เป้ จะกลับมาพร้อมกับรุ่นพี่ที่เรียนจบจากคณะนี้และกำลังทำงานตามความฝันของตัวเองกันอยู่
จะเป็นยังไงต้องคอยติดตามนะ

เด็กดีดอทคอม :: 3 ประเทศที่มีสงกรานต์เหมือนเมืองไทย; tags: holi, tomatina, สี, อินเดีย, โปแลนด์, สเปน, เทศกาล, ประเพณี, สงกรานต์

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

58 ความคิดเห็น

วาย-วาย10069 Member 16 มิ.ย. 53 14:16 น. 1
ไม่เคยได้ยินชื่อคณะนี้มาก่อนเลย

เท่าที่อ่านเกี่ยวกับการรักษาเเละยาสินะ

เเล้วหมอเกี่ยวด้วยหรือเปล่า

ขอพื้นที่โฆษณาหน่อยนะ นิยายเราเอง


จูบร้าย นายปีศาจ10069(yaoi)


ถ้าสนใจยังไงก็เข้าไปอ่านได้นะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
laongzai 16 มิ.ย. 53 18:48 น. 4
ไม่ใช่แพทย์ทางเลือกนะค่ะ ออกแนวเป็นวิทยาศาสตร์การแพทย์มากกว่า ได้วิทยาศาสตร์บัณฑิต ค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พี่แยม 16 มิ.ย. 53 18:52 น. 6
ที่จุฬาลงกรณ์ฯนะคะ

คณะนี้จะมี 3 สาขาค่ะ คือ โภชนาการและการกำหนดอาหาร เทคนิคการแพทย์ และกายภาพบำบัด

เป็นการรวม 3สาขานี้เข้าด้วยกัน เราจะได้เลือกสาขาตั้งแต่ตอนเข้ามาเลยค่ะ ^______^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Kam_yuii 16 มิ.ย. 53 20:14 น. 16
น้องแยมตัวเป็นๆน่าร๊ากสุโค่ ยย!!
ป.ล.สหเวชเป็นวิชาชีพที่น่าสนใจแร๊ะที่สำคัญสาวๆน่ารักเย๊อะแย๊ะ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
BANK 16 มิ.ย. 53 20:24 น. 19
เป็นสาขาหนึ่ง Paramedicine คะจบมาได้ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณทิต
มีเปิดอยู่หลากหลายสถาบัน ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ว่ามากกว่าสิบสถาบันแน่นอน
มีหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการแพทย์(สหเวชศาสตร์) กายภาพบำบัด
รังสีเทคนิค หัวใจและทรวงอก สาขาโภชนาการและการกำหนดอาหาร คะ (ไม่รู้ว่าหมดรึยังนะ)
ถ้าสนใจก็ศึกษาให้ดีนะคะ จะได้วางแผนอนาคตได้ถูกต้องคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด