คณะจิตวิทยา Issue 003 week3, july 2010
 

คณะจิตวิทยา 
ตอนที่ 3/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากศิษย์เก่าคณะจิตวิทยา 





    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกันกับ พี่เป้ และคณะในฝันเช่นเคย และเดือนนี้เรายังคงอยู่กันที่คณะจิตวิทยา โดยสำหรับสัปดาห์นี้ พี่เป้ มาพร้อมกับรุ่นพี่ที่จบจากคณะนี้ซึ่งพร้อมจะมาเปิดใจ ถึงชีวิตการทำงานค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่า จบด้านจิตวิทยาคงเป็นแค่นักจิตวิทยาได้เพียงอย่างเดียว แต่คิดผิดมากๆ เลยค่ะ เพราะจบจากคณะนี้สามารถทำงานได้กว้างมาก เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าพี่ๆ เค้าทำงานอะไรบ้าง



 



รุ่นพ์คนที่ 1 :
วสุมล บุณยเกียรติ (พี่แต๋ม) :
นักวิเคราะห์โครงการประจำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ


พี่เป้:
ก่อนอื่นอยากให้ช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ 
พี่แต๋ม: ชื่อวสุมล บุณยเกียรติค่ะ ชื่อเล่นแต๋ม จบจากคณะศิลปศาสตร์ เอกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนี้ทำงานเป็นนักวิเคราะห์โครงการอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ค่ะ
 
พี่เป้: ทำไมพี่แต๋มถึงเลือกเรียนเอกจิตวิทยาล่ะคะ
พี่แต๋ม:ตอนปี 2 เคยเข้าไป sit in วิชาจิตวิทยา แล้วรู้สึกว่าวิชามันน่าสนใจแล้วก็เรียนสนุกมาก อาจจะเป็นเพราะอาจารย์สอนดีด้วย แล้ววิชาที่ไป sit in ก็เป็นวิชาที่สอนเกี่ยวกับพวกการสื่อสาร ว่าคนแต่ละคนก็จะมีการสื่อสารที่ไม่เหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นนั่งฟังแล้วประทับใจมาก เหมือนเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วคนเรามันมีหลายแบบแล้วก็หลากหลายมากๆ เลยรู้สึกว่าเราอยากรู้จัก อยากเข้าใจศาสตร์ด้านนี้มากขึ้นเลยตัดสินใจเรียนสาขาจิตวิทยา 
 
พี่เป้: แล้วงานนักวิเคราะห์โครงการที่ทำอยู่นั้น หน้าที่ของงานมีอะไรบ้างคะ
พี่แต๋ม:  หลักๆเลยก็จะทำหน้าที่ประสานงาน คอยดูให้โครงการที่แล็ปทำอยู่มันเดินไปตามกำหนด ติดต่อกับอาจารย์หรือนักวิจัยภายนอกให้ลองเข้ามาใช้เทคโนโลยีที่แล็ปทำโครงการอยู่ค่ะ



 
 


พี่เป้: แล้วพี่แต๋มได้ใช้ความรู้ด้านจิตวิทยามาใช้ในงานยังไงบ้างคะ

พี่แต๋ม:  ที่ได้ใช้มากๆคือการใช้กับตัวเองนะ คืออย่างตอนที่เรียนเราก็จะรู้ว่าพฤติกรรมของคน มันหลากหลายมากมาย พฤติกรรมแต่ละอย่างก็จะส่งผลให้เกิด feedback กับพฤติกรรมนั้นๆ คนก็จะเรียนรู้แล้วก็เลือกที่จะแสดงพฤติกรรมตามสถานการณ์ที่ต่างกันไป พอเรามาทำงานจริงๆ สิ่งที่ตัวเองเอามาใช้คือ เข้าใจตัวเองว่าเราควรจะทำตัวยังไงเวลาอยู่กับแต่ละคน แล้วก็ไม่ไปตัดสินคนอื่น เพราะว่าบางทีเค้าอาจจะไปเจออะไรมาที่ทำให้เค้าต้องแสดงพฤติกรรมต่างๆ ใส่เรา
0
พี่เป้: แล้วพี่แต๋มคิดว่า จิตวิทยามีความจำเป็นในการทำงานมากน้อยแค่ไหนคะ
พี่แต๋ม:สำคัญนะ อย่างวิชาที่เรียนส่วนใหญ่ เราจะเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนก็ตาม สิ่งที่เป็นหัวใจหลักของจิตวิทยาก็คือการเรียนรู้พฤติกรรม เพื่อที่จะได้เข้าใจ สามารถทำนายพฤติกรรมที่จะเกิดขึ้น แล้วนำไปปรับให้เราสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ ตอนที่เราเรียนก็อาจจะเรียนส่วนที่มันเป็นทฤษฎี เห็นภาพว่าอะไรเป็นเหตุ แล้วมันจะก่อให้เกิดผลอะไร พอเวลาที่เรามาทำงานจริงๆ มันเหมือนได้เอาที่เรียนๆ มาลองใช้จริง

พี่เป้:
ปัญหาที่พบในการทำงานเป็นนักวิเคราะห์โครงการคืออะไร
พี่แต๋ม:  ความยากง่ายของงาน พี่เชื่อว่าส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดจากการทำงานน่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับคน เราอาจจะมีวัฒนธรรมองค์กร เป้าหมายขององค์กรหรืองาน ที่ทำให้เรามีวิธีการทำงาน มีความคิดเห็นคล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วแต่ละคนก็มีพื้นฐานหรือมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ก็เลยทำให้ในส่วนปลีกย่อยของวิธีการทำงานหรือความคิดเห็นมันต่างกัน ตรงนี้มันจะทำให้เกิดปัญหาได้ อีกอย่างคือเรื่องการสื่อสาร อย่างที่บอกไปว่าแต่ละคนมีความแตกต่างและมีความหลากหลายในตัวเอง วิธีการสื่อสารหรือการทำความเข้าใจของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน สิ่งที่จะต้องทำก็คือพยายามทำความเข้าใจแล้วก็คอย recheck ว่าสิ่งที่เค้าสื่อสารมา เราเข้าใจว่าอย่างนี้แล้วมันถูกต้องตรงกันไหม
 
พี่เป้: สุดท้ายนี้อยากให้พี่แต๋มฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนด้านจิตวิทยาด้วยค่ะ
พี่แต๋ม: อย่างแรก จิตวิทยามันไม่ใช่สาขาวิชาแห่งการเดาใจที่จะเราเห็นหน้ากันห้านาที แล้วก็จะสามารถบอกได้ว่าเราเป็นคนยังไง แต่มันคือการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนเพื่อที่จะได้เข้าใจ
ทำนายพฤติกรรม แล้วก็สามารถควบคุมพฤติกรรมต่างๆได้
แล้วจิตวิทยาก็เป็นสาขาที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้กับอีกหลากหลายสาขามาก ถ้ามหาวิทยาลัยอนุญาตให้เราเรียนวิชานอกสาขาได้ พี่แนะนำให้ลองไปลงเรียนดู อย่างเช่น เศรษฐศาสตร์, สังคมวิทยา มานุษยวิทยา, นิติศาสตร์ หรือ บัญชี เป็นต้น มันจะยิ่งทำให้เราได้เห็นภาพว่าในแต่สาขาเค้าเอาจิตวิทยาไปใช้ยังไงบ้าง

อย่างที่สอง..การเตรียมตัวเป็นเรื่องคัญ อยากให้ลองศึกษาข้อมูลดูว่าในเมืองไทยมีกี่ที่ที่เปิดสอนจิตวิทยา แล้วแต่ละมหาวิทยาลัยมีสาขาไหนเปิดสอนบ้าง อยากให้น้องๆเลือกเรียนเพราะว่าอยากรู้อยากเรียนจริงๆ เพราะมันจะทำให้ตอนที่เราเรียนมันจะไม่รู้สึกว่าการเรียนนั้นเป็นภาระ แล้วเราจะสามารถเอาความรู้ความสนใจเราไปหางานได้ต่อไปเอง

อย่างที่สาม..เมื่อเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งที่แนะนำให้ทำเลยก็คือให้ลองหาดูว่าเราสนใจด้านไหน แล้วลองหาชุมนุมหรือชมรมเพื่อเข้าไปทำกิจกรรม พี่ว่าการทำกิจกรรมระหว่างที่เราเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย มันจะช่วยสอนให้เราเห็นภาพจำลองของการทำงานว่าพอเรียนจบไปแล้ว
เราจะเจอกับอะไรบ้าง
รุ่นพี่คนที่ 2 : ดวงกมล ทองอยู่ (พี่โอ๋) :
นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาจิตวิทยาชุมชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 

พี่เป้: อยากให้ช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ

พี่โอ๋: พี่โอ๋นะคะ ดวงกมล ทองอยู่ จบปริญญาตรีจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกจิตวิทยาการปรึกษาและแนะแนวกับภาษาไทย ตอนที่พี่เรียนคณะจิตวิทยาที่จุฬาฯ ยังไม่มีนะคะ คณะจิตวิทยาแยกจากครุศาสตร์ ตอนที่พี่อยู่ปี 4 ตอนนี้พี่เรียนปริญญาโทเทอมสุดท้ายอยู่ที่ ภาควิชาจิตวิทยาชุมชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ
 

พี่เป้: ทำไมพี่โอ๋ถึงเลือกเรียนด้านจิตวิทยาคะ

พี่โอ๋: พี่เลือกเรียนเอกจิตวิทยาโดยไม่ลังเลเลย เพราะพี่อยากจะรู้จักและทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ ซึ่งพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากและพี่คิดว่าจิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่ใกล้ตัวสามารถนำมาประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลา
 

พี่เป้: ได้ยินมาว่าพี่โอ๋ทำงานมาแล้วหลายอย่าง อยากให้ช่วยเล่าหน่อยค่ะว่าทำอะไรมาบ้าง

พี่โอ๋: พี่ทำงานมาค่อนข้างจะหลากหลาย หลังจากเรียนจบพี่สอบคัดเลือกไปเป็นครูอาสา สอนภาษาไทยเด็กไทยที่อเมริกา เป็นโครงการ 1 ปี พี่ได้ประจำที่วัดไทย Los Angeles พอหมดโครงการพี่เรียนภาษาอังกฤษต่ออีก 1 ปี ที่ California State University of Los Angeles เพราะตอนนั้นภาษาอังกฤษพี่แย่มาก ระหว่างเรียนก็ทำงานเป็นนักข่าวที่หนังสือพิมพ์ไทยแอลเอ ทำ Full Time คือพอเลิกเรียนเสร็จก็ไปทำงานต่อ เสาร์ อาทิตย์ทำเต็มวัน ใจจริงอยากเรียนต่อโท แต่ติดตรงที่ไม่มีเงิน พอเรียนภาษาจบเลยกลับเมืองไทยดีกว่า มาทำงานที่แรกคือ ที่บริษัท Asia Books ทำด้าน Customer Service ทำอยู่แค่ 8 เดือนเผอิญพี่สอบแอร์โฮสเตส ของ Jalways ได้ พี่ก็เป็นแอร์อยู่ 3 ปีครึ่ง พอดีสามีพี่ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษก็เลยลาออกตามสามีไป

   ระหว่างอยู่ที่อังกฤษ พี่ทำงาน Full Time ที่แมคโดนัลด์ ทำทุกอย่างตั้งแต่รับออเดอร์ยันขัดห้องน้ำ พอครบกำหนด 2 ปีก็กลับมาเมืองไทย คราวนี้มาทำงาน NGO ที่มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน CCF ทำอยู่
3 ปีค่ะ

   ถามว่าชอบงานไหนที่สุด คงตอบยากเพราะทุกงานมีข้อดีข้อเสีย ถ้าถามถึงรายได้ ต้องตอนเป็นแอร์แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าถามถึงความสนุก พี่ชอบตอนเป็นนักข่าว เพราะได้ทำอะไรสร้างสรรค์ แปลกใหม่ตลอด ถ้าถามถึงความสบายใจ คงเป็นที่ แมคโดนัลด์ ตอนอยู่ที่อังกฤษเพราะเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าดีมาก ถ้าถามถึงความอิ่มใจ คงเป็นที่ CCF เพราะรู้สึกว่าเราได้ทำงานที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส แต่ถ้าถามว่าตัวเองเหมาะกับงานอะไรมากที่สุด คิดว่าตนเองเหมาะกับการเป็นครูมาก
ที่สุดค่ะ

 

พี่เป้: แล้วแต่ละงาน ได้ใช้จิตวิทยาในการทำงานยังไงบ้างคะ

พี่โอ๋:  เอาง่ายๆเลย คืองานทุกงานที่พี่ทำมาถึงแม้จะแตกต่างกันในเนื้องานแต่ทุกงานต้องทำงานกับ “คน” ซึ่งการที่เรามีพื้นฐานจิตวิทยามามันช่วยให้เราเข้าใจคนมากขึ้น รวมถึงเข้าใจตัวเองมากขึ้นทำให้เรารู้จักการปรับตัวเพื่อทำงานร่วมกับคนอื่น แต่มันไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้เรียนจิตวิทยาจะไม่มีตรงนี้นะคะ เพราะต้นทุนแต่ละคนแตกต่างกัน คนที่ครอบครัวอบรมมาให้รู้จักเข้าใจผู้อื่น เขาก็อาจจะมีคุณสมบัติตรงนี้โดยไม่ต้องเรียนอยู่แล้ว แต่พี่วัดจากตัวเองก่อนที่จะเรียนกับหลังจากเรียนแล้ว พี่เห็นว่าตัวพี่เองพัฒนาขึ้น เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และรู้จักปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นมากขึ้น คุณสมบัติตรงนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุดในการทำงาน เพราะความรู้ในงานฝึกฝนกันได้ในเวลาไม่นาน แต่ทัศนคติในการทำงาน การอยู่ร่วมกับคนอื่น เป็นสิ่งที่ต้องค่อยๆสั่งสม ซึ่งคนเรียนจิตวิทยามาส่วนใหญ่จะได้เปรียบตรงนี้

 

 
 






 

พี่เป้: เค้าว่ากันว่า คนที่เรียนจิตวิทยาจะสามารถมองคนได้ทะลุถึงความคิดข้างในจริงรึเปล่าคะ

พี่โอ๋: ไม่จริงค่ะ พี่ว่าอันนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัวมากกว่า เพียงแต่คนที่เรียนจิตวิทยาจะได้เรียนทฤษฎีต่างๆที่พูดถึงสาเหตุของพฤติกรรมมนุษย์ ทำให้เรารู้มากขึ้นว่าทำไมคนนั้นถึงเป็นแบบนั้น แบบนี้ แต่ก็เป็นการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎีโดยดูจากการแสดงออกภายนอก คงไม่สามารถรู้ว่าลึกๆจริงๆแล้วเขาคิดอะไรกันแน่ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าคนที่เรียนมาก็จะรู้จักที่จะสังเกตคนอื่นและพยายามทำความเข้าใจคนอื่นมากกว่าคนที่ไม่ได้เรียน แต่ก็ไม่เสมอไปอีกแหละค่ะ

 

พี่เป้: แล้วคนที่เหมาะจะเรียนจิตวิทยา ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้างคะ

พี่โอ๋: ต้องสนใจที่อยากจะรู้จักและทำความเข้าใจในพฤติกรรมมนุษย์ เปิดใจกว้าง ยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคล แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วค่ะ

 
พี่เป้: แล้วหากจบจากคณะนี้ สามารถทำงานอะไรได้บ้างคะ

พี่โอ๋:  ถ้าตรงๆเลยคือเป็นนักจิตวิทยา ซึ่งปัจจุบันก็มีตามหน่วยงานราชการต่างๆ เป็นอาจารย์แนะแนวในโรงเรียน ถ้าในหน่วยงานเอกชนก็สามารถทำงานในส่วนของฝ่ายบุคคลได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนจบจิตวิทยาสามารถนำความรู้ด้านนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานได้ทุกประเภทที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับคน

 
พี่เป้: สุดท้ายอยากให้พี่โอ๋ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนจิตวิทยา
 พี่โอ๋: น้องๆที่สนใจจะเรียนด้านนี้นะคะ ที่จริงในการเข้าเรียนก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก ขอให้มี “ใจ” ที่อยากจะเรียนรู้ เพราะจิตวิทยาเป็นวิชาที่ใกล้ตัว เรียนแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าสามารถนำมาใช้กับตนเองและคนรอบข้างได้ บางทีอาจจะดูเหมือนต้องท่องทฤษฎีเยอะไปหน่อย แต่ถ้าเราทำความเข้าใจกับมันก็ไม่ยากค่ะ อีกเรื่องที่อยากฝากน้องๆคือ ในขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยอยากให้แบ่งเวลาไปทำกิจกรรมนอกหลักสูตรด้วย เช่น สโมสรนักศึกษา ออกค่าย ชมรมต่างๆ เพราะน้องๆจะได้เรียนรู้การทำงานร่วมกัน ได้ประสบการณ์ชีวิตดีๆมากมาย ที่หาไม่ได้ในตำรา แล้วเวลา 4 ปีในมหาวิทยาลัยเป็นเวลาที่สั้นมากเมื่อเทียบกับเวลาทั้งชีวิตของเรา อยากจะให้น้องๆใช้มันให้คุ้มค่าและมีประโยชน์ที่สุดค่ะ 
 
     
 
 
    
               นั่นก็คือพี่ๆ ทั้งสองคนที่เผยชีวิตการทำงานกันอย่างหมดเปลือก รู้อย่างนี้แล้วก็เห็นได้ว่าจบจิตวิทยาสามารถทำงานได้หลากหลายจริงๆนะคะ เพราะฉะนั้นใครกลัวเรียนด้านนี้แล้วตกงาน เลิกคิดเลยค่ะ ! ส่วนสัปดาห์หน้าคณะในฝันจะกลับมาพร้อมกับการคลายคำถามข้อข้องใจ ใครมีคำถามอะไรสงสัยก็ฝากไว้ได้เลยนะ

 



พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Jackmajor Member 1 ส.ค. 53 15:16 น. 18
สวัสดีครับ..
ตอนนี้ผมเรียนจิตวิทยาอยู่ครับ.....
ขณะนี้ผมกำลังศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์  สาขาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว  มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ครับ....
(จบไปก็เป็นครูแนะแนวนั่นเอง)

อยากจะบอกน้องๆที่สนใจว่า  จิตวิทยาเรียนสนุกมาก..........
จะเป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์..ว่าเขาแสดงพฤติกรรมแบบนี้ออกมา  มีสาเหตุมาจากอะไร..? (ประมาณนี้)
หากน้องๆสนใจจิตวิทยา... และอยากเป็นครูเชิญมาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ได้นะครับ
ที่นี่เรามีคณาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถเยอะมาก..เพราะสาขาจิตวิทยาที่นี่เปิดเป็นสาขาต้นๆของมหาวิทยาลัยเลยนะครับ
จึงมั่นใจในคุณภาพการศึกษา ของสาขาจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ได้เลยครับ....
ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคน 


( คนดีสร้างชาติไทย  ราชภัฏเชียงใหม่สร้างคนดี )
0
กำลังโหลด

39 ความคิดเห็น

Mim 22 ก.ค. 53 10:43 น. 1
อยากเรียนจิตวิทยามากๆเลยค่ะ
ตอนนี้ก็อยู่ม.5 ก็เริ่มอ่านหนังสือแล้ว
จิตวิทยา คณะในฝันจริงๆเลยค่ะ
เหนื่อยมากเลยกว่าจะหาเส้นทางให้ตัวเองเจอ
^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
สงสัย 22 ก.ค. 53 20:00 น. 4
เรียนปริญญาตรีบริหาร หรือว่าจิตวิทยา ก่อนดีคะ
ถ้าจะเรียนตรีบริหาร แต่โทจิตวิทยาได้รึเปล่า?
1
teh 30 เม.ย. 57 00:24 น. 4-1
จิตวิทยาสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิต เพราะไม่มีอะไรในชีวิตที่ไม่ใช้จิตวิทยาค่ะ น้องสามารถเป็นได้ตั้งแต่นักข่าวยันนักธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสายอาชีพ ก็สามารถทำได้ ไม่มีอะไรในชีวิตที่ไม่ใช้จิตวิทยา / แนะนำเอาไว้ต่อโทจะดีกว่า เพราะว่าป.ตรี ยังไม่มีความเชี่ยวชาญพอที่จะไป deal กับจิตใจของมนุษย์ที่ลึกซึ้งเหลือเกิน ป.โท ป.เอก จะเป็นการฝึกฝน นำไปใช้ ไม่ว่าในสาขาใด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฝึกการนำหลักการ แนวคิดไปใช้ให้เกิดความเชี่ยวชาญ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
::Purple.Blood:: Member 23 ก.ค. 53 20:58 น. 10
อยากเรียน >O<

พอมาอ่านก็ได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย ^__^


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2553 / 20:55
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2553 / 21:13
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2553 / 21:17
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
-0 ParkP:( Melove Member 31 ก.ค. 53 22:13 น. 17
อยากเรียนจิตวิทยาเหมือนกันค่ะ อยากรู้ อยากศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ รู้สึกว่ามันน่าสนใจดี แต่ถามครูแนะแนวแล้วเขาบอกในเมืองไทยไม่ค่อยบูมเหมือนเมืองนอกอ่ะค่ะ ตัดสินใจยากจัง!!
0
กำลังโหลด
Jackmajor Member 1 ส.ค. 53 15:16 น. 18
สวัสดีครับ..
ตอนนี้ผมเรียนจิตวิทยาอยู่ครับ.....
ขณะนี้ผมกำลังศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์  สาขาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว  มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ครับ....
(จบไปก็เป็นครูแนะแนวนั่นเอง)

อยากจะบอกน้องๆที่สนใจว่า  จิตวิทยาเรียนสนุกมาก..........
จะเป็นวิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์..ว่าเขาแสดงพฤติกรรมแบบนี้ออกมา  มีสาเหตุมาจากอะไร..? (ประมาณนี้)
หากน้องๆสนใจจิตวิทยา... และอยากเป็นครูเชิญมาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ได้นะครับ
ที่นี่เรามีคณาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถเยอะมาก..เพราะสาขาจิตวิทยาที่นี่เปิดเป็นสาขาต้นๆของมหาวิทยาลัยเลยนะครับ
จึงมั่นใจในคุณภาพการศึกษา ของสาขาจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ได้เลยครับ....
ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคน 


( คนดีสร้างชาติไทย  ราชภัฏเชียงใหม่สร้างคนดี )
0
กำลังโหลด
POPPY_AUTOMATIC-ART Member 1 ส.ค. 53 19:31 น. 19
 อยากเรียนจิตวิทยาแต่มีแต่คนบอกว่าหางานยากจริงหรือป่าวค่ะ เเล้วจบมามีงานลองรับเลยว่ายังไงเเล้วจบมาเป็นอะไรได้บ้างค่ะ ?
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด