|
|
" สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... มาเจอกับ พี่เป้ และคณะในฝันกันเช่นเคยนะคะ ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมกันแล้ว และยังอยู่กับคณะดุริยางคศาสตร์-นาฏศิลป์ วันนี้ ตอบ เลยรวบรวมเอาคำถามน่าสนใจเกี่ยวกับคณะนี้มาฝากค่ะ "
|
|
ถาม : จะเรียนด้านดุริยางคศาสตร์ จำเป็นต้องมีเครื่องดนตรีเป็นของตัวเองมั้ย
|
|
ตอบ: ไม่จำเป็นแต่ควรจะต้องมีค่ะ เพราะถึงเวลาสอบปฏิบัติ ทางคณะจะมีเครื่องดนตรีเตรียมไว้ให้ แต่ลองนึกสิคะว่าถ้าเรากลับบ้านมาและได้ซ้อมอยู่เรื่อยๆ ก็จะทำให้เราเก่งกว่าคนอื่นแน่นอน ดังนั้นการมีเครื่องดนตรีไว้ฝึกซ้อมที่บ้าน ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจำเป็นมากๆ ค่ะ
|
|
ถาม : การสอบเข้าคณะนี้สอบด้วยวิธีใด
|
ตอบ: ขอพูดถึงคณะศิลปกรรมศาสตร์ของ 2 สถาบันดังละกันนะคะ นั่นก็คือจุฬาฯ และมศว โดยของจุฬานั้น การสอบเข้าคณะนี้จะต้องใช้วิชาความถนัด ซึ่งทางจุฬาฯ จัดสอบเอง โดยจะสอบประมาณเดือนกรกฎาคม น้องๆ ก็จะต้องไปสมัครสอบพวกทฤษฎีดนตรีและปฏิบัติดนตรี และเมื่อคะแนนออกมา น้องๆ ก็จะต้องเอาคะแนนพวกนี้ไปยื่นรับตรงจุฬาฯ 4 อันดับตอนเดือนธันวาคมค่ะ ส่วนของมศวนั้น จะจัดสอบตรงประมาณเดือนกันยายนและจะประกาศผลสอบประมาณเดือนธันวาคมค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ถาม : อยากเรียนด้านนี้ จำเป็นต้องสวยมั้ย
|
|
่ตอบ: ขอเปลี่ยนคำว่าสวยเป็นคำว่าบุคลิกดีดีกว่าค่ะ โดยเฉพาะน้องๆ ที่สนใจเรียนในสาขารำไทยและบัลเลต์ การมีบุคลิกและรูปร่างดีนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะการเรียนในสาขานาฏศิลป์เป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยความงดงามอ่อนช้อยของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายนั่นเองค่ะ ซึ่งในส่วนนี้ อาจารย์ท่านจะสกรีนกันตั้งแต่รอบสอบปฏิบัติแล้วค่ะ
|
|
ถาม : จะเข้าคณะนี้ ต้องเรียนจบแผนการเรียนไหนมา
|
ตอบ: แผนการเรียนไหนก็ได้ ไม่จำกัดค่ะ
|
|
|
|
นั่นก็คือ 4 คำถามน่าสงสัยของคนอยากเข้าไปเรียนในคณะนี้นะคะ ดังนั้นใครใฝ่ฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งของด้านดนตรีและนาฏศิลป์ล่ะก็ อย่าลืมเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ^^ ส่วนเดือนหน้าคณะในฝันจะกลับมาพร้อมกับคณะของคนชอบเล่นของสูงหรือคณะธุรกิจการบินนั่นเอง จะเป็นยังไงต้องติดตามนะฯ
|
|
|
|
13 ความคิดเห็น
ว่าแต่ จบมาแล้วทำงานอะไรอ่าคะ?
ตื่นเต้นๆ ผลสอบทฤษฎีจะออกแล้ว >w<
เอาเป็นว่า สู้ๆ ^0^
**ถึง คห.1
ก็เป็นนักดนตรีอาชีพก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็เป็นครูสอน
แต่งเพลงให้ค่ายเพลงก็เงินดีนะ *-*
หรือถ้าคณะที่มีสาขาเอกเฉพาะ อย่าง..เทคโนโลยีดนตรี(ของ มหิดล) ก็สามารถทำงานเบื้องหลังในวงการเพลงก็ได้ค่ะ
อยู่ที่เราจะเลือกค่ะ
และถึงแม้ยังไม่จบก็ทำงานได้ อย่างพี่ตอนนี้เรียนดนตรีอยู่ปีหนึ่ง
เอกไวโอลินก็รับงานสอนดนตรีเด็กๆพื้นฐานเลยก็ 150-200 บาทต่อชั่วโมง
แล้วยังรับงานเล่นตามงานเลี้ยง โรงเเรม เปิดตัวสินค้ห้าตามห้างก็ได้เป็นพันน่ะ
แต่ถึงอย่างไรที่เรียนก็เพราะชอบ แต่ที่ทำงานเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเอง
เพื่อที่เวลาเราแสดงดนตรีในที่สาธารณะเราจะรู้จักแก้ปัญหาเวลาฉุกเฉินและด้วยได้ค่า
อุปกรณ์ต่างๆมันแพงแล้วต้องเสียอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเรียนดนตรีแนะนำเลยว่าต้อง
มีเครื่องเป็นของตัวเองเพราะเครื่องภาคส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสมบูรณ์ซึ่งมีผลต่อการเรียน
และการซ้อมนะจ๊ะ แล้วก็อย่าคิดว่าเรียนดนตรีง่ายๆชิวๆน๊ะจะ อยากกว่าที่คิดไว้เยอะ
เพราะไหนจะต้องซ้อมเครื่องมือเอก โสตทักษะ วิชาในภาค วิชานอกภาค และปีหนึ่ง
ก็ต้องเรียนเปียโนพื้นฐานทุกคน...555++ขอบอกเลยว่ามึน อะไรมันช่างเยอะแยะอย่างนี้
แถมขับร้องประสานเสียงด้วย โอ้พระเจ้าสุดๆๆๆ
ผมคิดว่าสมควรจะมีเครื่องเป็นของตัวเองครับ
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใดๆก็ตาม
ยกเว้นพวก Percussion แค่นั้นแหละ เพราะมีหลายชิ้น และราคาค่อนข้างแพง
ส่วนจำเป็นต้องสวยหรือไม่
ตอบตามตรง น่าจะดูแลตัวเองนิดนึง
เพราะสาขาดังกล่าวนี้เป็นลักษณะที่จำเป็นต้องมีการ Performance อยู่เรื่อยๆ
เป็นคนบนเวที เป็นนักแสดง ฉะนั้นถ้าโทรมเกินก็ไม่ค่อยจะดูดีซักเท่าไหร่
ต้องมีบุคลิกภาพที่ดีพอสมควรครับ
แค่ขอให้ใจรัก
โดยเฉพาะตอน มัธยม จับกลุ่มเล่นดนตรีกับเพื่อน มันส์สุดยอด ขอบอก
แต่พอ มหาลัย แล้วรู้สึกว่า ไม่มีเวลาพอที่จะเล่นเลย
แต่ผมก็เป็นคนนึงนะ ที่มองไม่ออกว่าถ้าจบสายดุริยางค์ มาจะทำงานอะไรดี
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 1 กันยายน 2553 / 00:29
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 9 ตุลาคม 2553 / 00:14
แต่ก็เล่นได้งูๆปลาๆ แถมไม่จริงจัง+ไม่มีเป็นเครื่องของตัวเอง(มีแต่กีตาร์)
กลัวเข้าแล้วจะไม่ไหวเอาน่ะซิ...
ก่อนที่เราจะไปสมัครสอบอ่ะค่ะ เราต้องไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีหรือเปล่าค่ะ แล้วทฤษฎีการดนตรีเกี่ยวกับอะไรหรอค่ะ??