ธุรกิจการบิน Issue 003 week3, September 2010
 
คณะธุรกิจการบิน
ตอนที่ 3/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากศิษย์เก่าคณะธุรกิจการบิน
        สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... มาเจอกับ พี่เป้ และคณะในฝันกันเช่นเคย ซึ่งเดือนนี้เรายังคงอยู่กันที่คณะธุรกิจการบิน วันนี้ พี่เป้ ไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับรุ่นพี่สองคนที่เรียนจบจากด้านการบิน และตอนนี้ก็กำลังทำงานตามเส้นทางที่เรียนมาอยู่ เราไปคุยกับพี่ๆ เค้ากันเลยดีกว่าค่ะ ^^
 
นริศ อิสลาม (พี่เกมส์) :
ฝ่ายการโดยสาร บริษัท A&P ประจำสายการบิน Indian Airlines และ Royal Nepal Airlines
 
พี่เป้: ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวเองแก่น้องๆ หน่อยค่ะ
พี่เกมส์: สวัสดีครับผม ชื่อนายนริศ อิสลาม ชื่อเล่นเกมส์ จบจากคณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แขนงวิชาธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต งานที่ทำตอนนี้เป็นฝ่ายการโดยสาร บริษัท A&P ประจำสายการบิน Indian Airlines และ Royal Nepal Airlines
 
พี่เป้: ทำไมถึงเลือกเรียนด้านการบินที่สวนดุสิตคะ
พี่เกมส์: เคยสอบถามจากรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว และศึกษาดูครับว่ารายวิชาที่ได้เรียนตรงกับที่เราจะนำไปใช้หรือเปล่า อีกอย่างนึงครับ จากที่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ทุกคนที่กำลังเรียนอยู่หรือจบจากที่นี่ บุคลิกภาพดีทุกคนครับ เพราะผมคิดว่าผมต้องจบแล้วมีงานทำแน่ๆ ผมจึงเลือกที่จะเรียนที่นี่ครับ แล้วก็เป็นจริงๆ ครับ เรียนยังไม่ทันจบเลย ก็มีงานทำแล้ว ถือว่าโชคดีมากๆ
 
พี่เป้: แล้วงานที่ทำตอนนี้คืออะไร มีหน้าที่ของงานอะไรบ้างคะ
พี่เกมส์: ทำอยู่ฝ่ายการโดยสาร บริษัท A&P ประจำสายการบิน Indian Airlines และ Royal Nepal Airlines สนามบินสุวรรณภูมิ หน้าที่การงานหลักๆ ก็จะมีเก็บ Excess Baggage (กระเป๋าที่น้ำหนักเกิน) & Re-Booking , Purser Contact คอยติดต่อกับ Purser ในแต่ละ Flight ว่ายอดผู้โดยสารปิดไปเท่าไหร่ ดูแลความเรียบร้อยความสะอาดและอาหารว่ายอดอาหารที่นำขึ้นมาบนเครื่องตรงกับจำนวนผู้โดยสารหรือไม่
 
พี่เป้: ว่าแต่ตอนสมัครเข้ามาทำงานต้องผ่านขั้นตอนยังไงบ้างคะ
พี่เกมส์: ก่อนที่จะมาสมัครที่นี่ ผมและเพื่อนๆ อีกหลายๆ คน ได้ฝึกงานอยู่แผนก Ground customer services ที่บริษัทการบินไทยจำกัด มหาชนครับ ซึ่งทางผู้บริหารของการบินไทยเห็นความสามารถในการทำงาน ก็เลยแนะนำให้มาทำที่บริษัท A&P ซึ่งเป็นบริษัทที่การบินไทยว่าจ้างให้มาช่วยงานด้าน Ground service ซึ่งทำให้กับ Indian Airlines อยู่ตอนนี้ครับ การสมัครนั้นไม่อยากครับ เพียงน้องๆ มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ และต้องมีผลสอบคะแนน TOEIC 500 คะแนนขึ้นไป การสอบนั้นก็จะมีแต่การสอบสัมภาษณ์ครับ อย่างของผมเนี่ยจะต้องสัมภาษณ์ 2 รอบด้วยกัน คือรอบแรกกับบริษัท A&P และอีกรอบนั้นกับเจ้าหน้าที่สายการบินไทย ซึ่งได้สัมภาษณ์กับผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล แสดงว่าเค้ามีความเข้มงวดในเรื่องคุณภาพในการรับพนักงานพอสมควรเลยครับ เพราะถือว่าเราต้องทำงานในนามของบริษัทการบินไทยซึ่งต้องได้มาตรฐานระดับโลกเลยทีเดียว แต่ย้ำนะครับว่าสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เค้าจะดูว่าเราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีแค่ไหน สามารถที่จะสื่อสารกับผู้โดยสารในสนามบินสุวรรณภูมิได้หรือไม่ เพราะมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษ การสัมภาษณ์นั้นก็จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อคนครับ กรรมการก็จะดูจาก Resume ที่เราส่งไป อย่างเช่น ให้แนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ให้อ่านบทความภาษาอังกฤษและแปล พูดจุดแข็ง – จุดอ่อนของตัวเอง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ เป็นต้น
 

 
 
 
พี่เป้: ได้ยินมาเยอะว่าคนที่ทำงานกราวด์เนี่ย สวัสดิการดีไม่แพ้คนที่เป็นแอร์หรือสจ๊วตเลย จริงมั้ยคะ
พี่เกมส์: เอาจริงๆ นะครับ สำหรับความคิดของผมแล้วเนี่ย หรืออาจจะมีข้อมูลอื่นๆ อีกซึ่งผมก็อาจจะไม่ทราบจริงๆ ถ้าพูดถึงสวัสดิการของกราวด์กับแอร์หรือสจ๊วต เหมือนกันเลยด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับได้บรรจุเป็นพนักงานจริงๆ ของสายการบินนั้นๆ น่ะนะครับ เช่นการได้ตั๋วพนักงานในการเดินทางด้วยสายการบิน สวัสดิการประกันสังคม เพียงแต่ฐานเงินเดือนของ แอร์-สจ๊วตจะสูงกว่าเยอะพอสมควร เพราะว่าการทำงานบนเครื่องนั้นมีความเสียงสูง ทั้งปัญหาทางสุขภาพร่างกาย ที่ต้องอยู่บนที่สูง หมื่นๆ ฟิต ทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอลงได้ง่ายครับและอาจจะมีค่าขนมนิดหน่อยสำหรับการเดินทางไปในที่ไกลๆ เช่น ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา เหมือนเป็นเบี้ยเลี้ยงเวลาเราเดินทางไปต่างจังหวัดนั่นแหล่ะครับ
 
พี่เป้: ปัญหาที่เจอบ่อยๆ เวลาทำงานมีอะไรบ้างคะ
พี่เกมส์: ปัญหามีให้เจอทุกวันครับ สำหรับการทำงานด้านบริการกับสายการบิน เพราะทุกๆ วัน เราจะต้องเจอผู้โดยสารไม่ซ้ำหน้ากันเลยในแต่ละวัน หลายคน หลายอารมณ์ หลายปัญหา มากน้อยสลับกันไป เช่น ความล่าช้าของเครื่องบินทั้งขาเข้า – ขาออก ประเทศไทย ผู้โดยสารที่จะต้องทำ VISA ก่อนเข้าประเทศไทย ผู้โดยสารที่ตกเครื่อง หรือผู้โดยสารที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตนได้รับจากการใช้บริการของสารการบิน แล้วยิ่งสายการบินของอินเดีย ไม่ต้องพูดถึง มีให้ปวดหัวทุกวันเลยครับ ฮ่า ฮ่า แต่เห็นแบบนี้ก็อย่าเพิ่งเครียดกันนะครับ เพราะถึงจะเจอปัญหาไม่ซ้ำในแต่ละวัน แต่สำหรับผมแล้ว งานแบบนี้ท้าทายดี แล้วก็สนุกไปอีกแบบนึงครับ อ้อ! แล้วเวลาทำงาน จะเดินเยอะมาก เดินมันเข้าไป วันละหลายๆ กิโลเมตร เพราะสนามบินใหญ่มากกกกกก
 
พี่เป้: สรุปแล้วโดยรวม คนที่จะทำงานด้านกราวด์ควรต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้างคะ
พี่เกมส์: ขอเป็นคุณสมบัติหลักๆ เลยนะกันเนอะ เพราะว่างานทางด้าน Ground Services เนี่ยมันมีหลากหลายมาก ก็จะต้องเจาะจงไปอีกว่าจะไปในด้านไหน ก็เช่น Operation / Weight and balance / Redcap ,Passenger Service / Counter Check-in, Reservation / Ticketing ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต้องผ่านการเรียนรู้และเทรนด์มาเป็นอย่างดีครับ กว่าจะรู้ลึกซึ้งได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน จึงไม่แปลกครับ ที่คนเรียนด้านนี้มาจะได้เปรียบกว่าน้องๆ ที่เรียนจบมาจากคณะอื่นๆ เพราะมีพื้นฐานด้านสายการบินก็ถือว่าทำงานได้รวดเร็วและได้เปรียบกว่านั่นเอง แต่ที่สำคัญที่สุดคือภาษาอังกฤษครับ น้องๆ สามารถเตรียมตัวไปสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นข้อสอบมาตรฐานระดับสากลในการวัดทักษะภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ โดยคะแนน TOEIC เริ่มจาก 10 คะแนนถึง 990 คะแนน และมีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปีครับ ก็คือสามารถใช้ยื่นสมัครงานได้หลายครั้งนั่นเอง และอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือ บุคลิกภาพต้องดี สังเกตได้จากการที่ใครเคยไปสนามบิน พนักงานที่นั่นทั้งสวย ทั้งหล่อกันทุกคน การเดิน การนั่งดูมีความมั่นใจ เป็นเพราะบุคลิกภาพดีนั่นเองครับ
 
พี่เป้: สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนด้านการบินหน่อยค่ะ
พี่เกมส์: สิ่งที่อยากจะฝากถึงน้องๆ ที่มีความสนใจและรักในงานบริการ เน้นเลยนะครับ ว่าน้องต้องชอบจริงๆ เพราะภายนอก คนอื่นอาจจะมองดูว่างานด้านสายการบินดูสบาย ดูดี ก็แค่ภายนอกเท่านั้น ถ้าลองมาสัมผัสข้างในสนามบินดูแล้ว จะรู้ครับ ว่าต้องมีความอดทนแค่ไหน การที่ผู้โดยสารมา โวยวายใส่หน้าด้วยความไม่พอใจ ใช่ว่าเราจะสวนกลับไปได้ เราจะต้องน้อมรับแต่โดยดี ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้ให้ได้ ไม่แสดงอาการโต้ตอบ เพราะฉะนั้น จึงเน้นว่าต้องรักในงานด้านบริการ เพราะถ้าชอบงานแบบนี้จริงๆ แล้วเราก็จะทำงานมีความสุขแน่นอนครับ อีกอย่างการทำงานด้านนี้ เวลาการทำงานก็ไม่เหมือนแบบ Office Time ที่เข้างาน 08.00-17.00 มีหลากหลายเวลา น้องๆ ต้องสามารถเข้าเป็นกะได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะสนามบินเปิดตลอด 24 ชม.ครับ และไม่มีวันปิด ยังไงก็ขอให้น้องๆ ทุกคนประสบความสำเร็จกับสิ่งที่น้องๆ ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนะครับ ฝึกฝนภาษาอังกฤษให้มากๆ ด้วยนะครับ
 
ธารทิพย์ เจริญสุข (พี่เอ็ม) : เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Controller) บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
 
พี่เป้: ช่วยแนะนำตัวแก่น้องๆ ที่กำลังอ่านหน่อยค่ะ
พี่เอ็ม: ธารทิพย์ เจริญสุข ชื่อเล่นเอ็ม จบจากสถาบันการบินพลเรือน คณะเทคโนโลยีการบินบัณฑิต สาขาการจัดการจราจรทางอากาศค่ะ
 
พี่เป้: ทำไมตอนนั้นถึงเลือกเรียนด้านการบินนี้ล่ะค่ะ
พี่เอ็ม: ก่อนจบ ม.ปลาย ได้เลือกดูคณะที่ชอบ เพราะยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนทางด้านไหน พอดีมีรุ่นพี่ที่โรงเรียน กำลังเรียนอยู่ที่สถาบันการบินพลเรือน เลยโทรไปขอคำแนะนำเพราะไม่เคยรู้เรื่องทางด้านการบินเลย อีกอย่างคุณพ่อบอกว่างานด้านควบคุมการบินก็น่าสนใจนะ เลยลองสมัครสอบค่ะ เพราะเป็นการสอบตรง ไม่ตรงกับ Entrance เลย เผื่อเราจะได้มีที่เลือกค่ะ
 
พี่เป้: แล้วตอนนี้ทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไรคะ
พี่เอ็ม: ตอนนี้ทำงานกับบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด อยู่ในขั้นตอนการสอบเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศค่ะ เนื่องจากต้องมีใบอนุญาตเราถึงจะทำการควบคุมจราจรทางอากาศได้ค่ะ ตำแหน่งที่ทำก็คือเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Controller) เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแล กำหนดทิศทาง ความเร็ว เพดานบินของเครื่องบิน ซึ่งนักบินต้องปฏิบัติตาม ตั้งแต่บินขึ้นจากท่าอากาศยานต้นทาง หรือเริ่มเข้าเขตรับผิดชอบ (เข้าเขตประเทศ) กระทั่งลงจอดที่ท่าอากาศยานปลายทาง หรือพ้นเขตที่รับผิดชอบ (พ้นเขตประเทศ) อย่างปลอดภัย น้องๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.aerothai.co.th
 
 
 
 
พี่เป้: แล้วถ้าสนใจอยากทำงานด้านนี้ ต้องมีคุณสมบัติหรือเก่งอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ
พี่เอ็ม: ก่อนอื่นเลยต้องถามตัวเองก่อนว่า ชอบทำงานเป็นกะหรือป่าว เพราะงานส่วนใหญ่ด้านการบิน จะทำงานเป็นกะค่ะ อีกอย่างต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะเครื่องบินแต่ละลำมีราคาสูงที่ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้หากเกิดความผิดพลาด รวมถึงการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสาร คุณสมบัติอีกอย่างที่สำคัญคือ ความสนใจด้านภาษาค่ะ เพราะการสื่อสารส่วนใหญ่ต้องเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านภาคพื้นหรืองานด้านการควบคุมจราจรทางอากาศ
 
พี่เป้: แล้วถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะเรียนหรือทำงานด้านการบินได้มั้ยคะ
พี่เอ็ม: ภาษาอังกฤษสำคัญมากทางด้านการบินค่ะ เพราะในการทำงานเราต้องเจอคนหลายเชื้อชาติ หลายสำเนียง หากสื่อสารไม่เข้าใจก็จะทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ส่วนใครภาษาดีก็จะได้เปรียบ ยิ่งรู้หลายภาษายิ่งง่ายในการทำงานค่ะ แต่ถ้าใครไม่เก่ง เพียงแค่มีความสนใจ ขยัน เราก็ไม่แพ้ใครแน่นอน อย่างงานที่เอ็มทำอยู่ตอนนี้ ก็มีการสอบ Level 4 สำหรับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และก็นักบินให้เป็นมาตราฐานเดียวกันทั่วโลกค่ะ
 
พี่เป้: ปัญหาที่เจอบ่อยๆ ในการทำงานมีอะไรบ้างคะ
พี่เอ็ม: ปัญหาที่เอ็มเจอเองเลย จะเป็นเกี่ยวกับสภาพอากาศค่ะ เพราะงานที่เอ็มทำในปัจจุบันจะเป็นการควบคุมจราจรทางอากาศบริเวณสนามบินค่ะ เราต้องใช้สายตาในการจัดระยะต่อระยะเคียงของเครื่องบินแต่ละลำ ถ้าสภาพอากาศไม่ดี เราก็จะมองเห็นเครื่องบินลำบาก การทำงานก็จะยากขึ้นค่ะ
 
พี่เป้: ได้ยินว่างานด้านนี้เงินเดือนดีมากๆ จริงหรือเปล่าคะ
พี่เอ็ม: เนื่องจากงานด้านการบิน เป็นงานที่ใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทาง ต้องมีความรับผิดชอบสูง มีความยากในการทำงาน ค่าตอบแทนเลยสูงตามความสามารถค่ะ อย่างงานที่เอ็มทำ หลายคนก็จะบอกว่ารายได้ดี แต่เอ็มก็ต้องมีการพัฒนาตนเองตลอดเวลา ต้องอ่านหนังสือตลอด เพราะต้องมีการทดสอบ ทบทวนความรู้ ความสามารถตลอดเวลา เพื่อให้เป็นไปตามมาตราฐานที่บริษัทกำหนดไว้ค่ะ บางครั้งยังรู้สึกว่าอ่านหนังสือเยอะกว่าตอนที่เรียนอีกค่ะ
 
พี่เป้: สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนการบินค่ะ
พี่เอ็ม: สำหรับน้องๆที่สนใจด้านการบินนะค่ะ สมัยนี้มีหลายสถาบันการศึกษาได้เปิดหลักสูตรด้านการบินเยอะค่ะ อยากให้น้องลองศึกษาหลักสูตรดูก่อน แล้วเลือกว่าตัวเองเหมาะสมกับที่ไหนมากกว่ากัน แล้วก็เตรียมตัวเรื่องภาษาไว้มากๆ ด้วยค่ะ

 

         เป็นยังไงกันบ้างคะกับรุ่นพี่คนเก่งทั้งสองคน บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดเลย และอย่างที่พี่เกมส์และพี่เอ็มบอกว่า ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากๆ สำหรับคนที่คิดจะเรียนหรือทำงานด้านนี้ ดังนั้นน้องๆ คนไหนที่เล็งว่าจะเรียนการบิน ขอให้ฝึกภาษากันแต่เนิ่นๆ นะคะ ^^


เด็กดีดอทคอม :: 3 คำถามน่าสงสัยของ
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

44 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เด็กฝึกงาน aerothai 16 ก.ย. 53 10:09 น. 7
จริงๆจบคณะอะไรก็เข้าได้นะค่ะตอนนี้

แต่สิ่งที่สำคัญต้องภาษาค่ะ

เปิดรับสมัครทุกปี สมัครแล้วไม่ได้เป็นเลยนะ

ต้องผ่านการทดสอบและฝึกอบรมก่อน ถ้าผ่านถึงจะได้เป็น
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ซิ้ลกี้ลูน่าจัง Member 16 ก.ย. 53 19:17 น. 9

อยากเป็น ATC ค่ะ
พ่อก็ทำงานเป็น ATC เห็นพ่อทำงานตั้งแต่ยังเล็กๆเลย(ที่จริงบนหอเค้าห้ามเด็กเข้า แต่เราใช้เส้น 55+)
บางครั้งพ่อต้องไปนอนค้างที่หอ(จำไม่ได้ว่าเต็มมันคือหออะไร หอบังคับการบินรึเปล่าไม่รู้ - -*)
แต่ว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษกับนักบินตลอดเลย แบบตัวอักษรแต่ละตัวจะเรียกเป็นคำๆ (จำได้สองคำ A=Alpha R=Romeo 55+) ภาษาอังกฤษนี่แม่นสุดๆ แล้วบนหอก็สบายด้วย แอรืเย็น ไหมเห็นเวลายังไม่มีเครื่องมา พ่อกับเพื่อนตั้งวงโม้กันประจำ 5 555+
ATC เป็นอาชีพในฝันตั้งแต่เด็กเลยค่ะ จะเป็นให้ได้ ฮิๆ ^^"

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Deez^ 30 ก.ย. 53 18:05 น. 15
อยากได้เมล์พี่เกมส์ครับ!!


ตอนนี้ผมสอบผ่านธุรกิจการบิน สวนดุสิต หัวหิน แล้วว..

รอขึ้นไปเรียนปรับพื้นฐานด้านภาษาครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Chr!s 27 พ.ย. 53 21:05 น. 18
เรากำลังเรียนที่สถาบันการบินพลเรือนอยู่ดีมากเลยย
ตอนแรกจะเรียนที่สวนดุสิตเหมือนกันแต่มีคนแนะนำว่าที่นี่ดีกว่า
ก็เลยเลือกที่สถาบันการบินพลเรือน เราได้เรียนรู้เรื่องการบินจริงๆค่ะ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด