สวัสดีครับ.. เริ่มเป็นรูป เป็นร่างขึ้นมาแล้วนะครับ สำหรับ "รับตรงกลาง" ที่จะนำมาใช้ครั้งแรกในปี 2555 โดยล่าสุดทางคณะทำงานได้เปิดเผยความคืบหน้ามาว่า "ได้กำหนดช่วงเวลาในการสอบ และประกาศผลแล้ว" รายละเอียดเป็นอย่างไร ไปฟังจากคำสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้กันเลยครับ
นายพงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ม.เชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาแอดมิชชั่นฟอรั่มเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึง แนวทางการจัดสอบรับตรงส่วนกลางร่วมกัน ปีการศึกษา 2555 และมีมติให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดสอบรับตรงส่วนกลางร่วมกันในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ม.ค.2555 ใน 7 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษาวิชาละ 100 คะแนน ส่วนผลการสอบสามารถใช้ได้เพียงปีเดียวเท่านั้น หลังสอบทางสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) จะเป็นผู้ประมวลผลคะแนน และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง 1 แห่งเท่านั้น และหากนักเรียนไม่ยอมสละสิทธิ์ตามเวลาที่กำหนดก็จะตัดสิทธิ์การรับตรงทุกแห่ง โดย สอท.จะประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ในวันที่ 15 มี.ค.2555 จากนั้นผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็สามารถใช้คะแนน GAT PAT เลือกคณะในแอดมิชชั่นกลางต่อไป >> ปฏิทินแอดมิชชั่น และรับตรงปี 55 (แบบคร่าวๆ) - ต.ค.54 - สอบ GAT PAT ครั้งที่ 1 (แอดมิชชั่นกลาง) ลาเต้ลิขิต : ความคืบหน้ารับตรงกลางของแอดมิชชั่นปี 55 จะเป็นยังไง รอติดตามได้ที่เว็บ Dek-D แห่งนี้ได้เลยคร้าบบ ^_^ พี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจากไทยโพสต์ |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
776 ความคิดเห็น
รับตรง ก็ควรให้มหาลัยฯเปิดสอบเองก็ถูกต้องแล้ว
รับกลาง ก็แอดมิชชั่นเดิมนั้นแหละดีแล้ว
ระบบการศึกษาไทยควรจะมีความเสถียรบ้าง
แล้ว แต่ละหน่วยงานทั้งรับตรง รับกลาง ก็ไปแก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ได้มาตรฐาน
หากแอดมิชชั่นไม่ได้มาตรฐานก็แสดงว่า สทศ เป็นหน่วยงานไม่ได้คุณภาพ
เพราะปัจจุบัน ก็มีการสอบกลางจำนวนมากอยู่แล้ว คือ
1.สอบ O-net
2.สอบ Gat-Patครั้งที่ 1
3.สอบ Gat-Patครั้งที่ 2
4.สอบ Gat-Patครั้งที่ 3(มีข่าวยกเลิก)
5.สอบ Gat-Patครั้งที่ 4(มีข่าวยกเลิก)
6.ยื่นแอดมิชชั่นกลาง
คราวนี้หากมีการสอบตรงกลางอีก ต่อไปก็มี
สอบตรงกลาง1,
สอบตรงกลาง2,
สอบตรงกลาง3
น่าสงสารเด็กนักเรียนไทย
ผู้ใหญ่สร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น
ว่ารุ่นนี้หนักแล้วนะ
รุ่นน้องหนักกว่าอีก
เหอะๆ
ระบบการศึกษาไทยช่างน่าปวดหมอง
สงสารน้องๆๆๆปีหน้ามากๆๆๆคับ
ปล. เปี่ยนมากี่รอบแล้ว~~~~~ มีรัยดีขึ้นมั้ยคับ
ต้องสอบเจ็ดวิชาแบบนั้นหรอค่ะ??
WTF !?
ขอให้โชคดีนะน้องๆปี55
รู้สึกจะประมาณนี้ คณะอื่นก็ ใจเย็นๆ ตามข่าวหน่อยละกัน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 มีนาคม 2554 / 20:52
ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาแอดมิสชั่นส์ฟอรั่ม ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานแอดมิชชั่นฟอรั่มฯ ว่าที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการจัดรับตรงส่วนกลางร่วมกันของสถาบันอุดม ศึกษาที่เป็นสมาชิกทปอ. เพื่อแก้ปัญหาเด็กวิ่งรอกรับตรง โดยที่ประชุมมีมติให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จัดสอบสอบวิชาสำหรับรับตรงส่วนกลางร่วมกันในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค. จำนวน 7 วิชาได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษาวิชาละ 100 คะแนน และผลการสอบสามารถใช้สำหรับในการรับตรงส่วนกลางร่วมกันฯได้เพียงปีเดียวเท่า นั้น ขณะที่หากมหาวิทยาลัยใดจะรับตรงเองในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.โดยใช้คะแนนการทดสอบ ความถนัดทั่วไปหรือแกต และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการหรือแพต ก็สามารถทำได้ เพราะการรับนักศึกษาถือว่าเป็นสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยตามกฎหมาย
หลังจากสอบเรียบร้อยแล้วนักเรียนจะต้องนำคะแนนไปยื่นเพื่อให้มหาวิทยาลัยนำ ผลคะแนนมาประมวลคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จากนั้นหาวิทยาลัยจะส่งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกมายังสมาคมอธิการบดีแห่ง ประเทศไทย (สอท.)ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานหรือเคลียริ่งเฮาส์ และประกาศชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ซึ่งนักเรียนจะต้องไปสละสิทธิ์และเลือกเพียง 1 แห่งเท่านั้น และหากนักเรียนไม่ยอมสละสิทธิ์ตามเวลาที่กำหนดก็จะตัดสิทธิ์การรับตรงทุก แห่ง โดยสอท.จะประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ในวันที่ 15 มี.ค. 2555 ส่วนผู้ที่ยังไม่มีที่เรียนก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการแอดมิชชั่นกลางต่อไป อย่างไรก็ตามตนจะนำผลการประชุมทั้งหมดเสนอต่อทปอ.ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ หากทปอ.เห็นด้วยกับมติดังกล่าวก็จะทำหนังสือไปถึงมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนให้เข้าร่วมรับตรงส่วนกลางร่วมกันของทปอ.ต่อไป
ยังมีความหวังไหมอ่า รึว่าหมดลงแล้ว
ไม่อยากทักท้วงอะไรมาก ยังไงเราคงไปเปลี่ยนแปลงความคิดเค้าไม่ได้ง่ายๆ
มันก็ดีตรงที่การรับตรงแต่ละที่ใช้ความยากง่ายเท่ากัน ไม่มีคำว่าที่นู่นง่ายที่นี่ยาก