ตามติดชีวิตคนเรียน "ธรณีวิทยา" ทั้งเก่งทั้งลุย

         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เราก็ยังอยู่กันที่ คณะวิทยาศาสตร์ สาขาธรณีวิทยา (หรือธรณีศาสตร์) .... วันนี้ ไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่ Born to Be มาเพื่อสิ่งนี้ !! และกำลังใช้ชีวิตนักศึกษามันส์ๆ อยู่กับการเรียนธรณีวิทยา อยากรู้ว่าจะสนุกแค่ไหน ต้องออกภาคสนามบ่อยมั้ย ก็ไปอ่านได้เลยค่ะ

สวัสดีก่อน ก่อนอื่นขอให้แนะนำตัวเองแก่น้องๆ ที่กำลังอ่านหน่อยค่ะ
        สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวอนุตรธิดา เวชประสิทธิ์ค่ะ ชื่อเล่นชื่ออะตอม จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะนี้กำลังเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (หรือมีตัวย่อสั้นๆ ว่า ST) ภาควิชาธรณีศาสตร์ ค่ะ

เป็นมายังไงถึงเลือกเรียนด้านธรณีศาสตร์นี้ล่ะคะ 
        สำหรับสาเหตุหรือเหตุจูงใจที่ทำให้เลือกเรียนธรณีของอะตอมก็คือ เสน่ห์ของสาขานี้ที่เป็นสาขาที่ต้องใช้จินตนาการและความรู้ควบคู่กันไปอย่างเท่าๆ กัน ซึ่งธรณีศาสตร์นี้เป็นความรู้ที่มีมานานแล้วก็จริง แต่ก็ยังเป็นวิชาที่ท้าทายสำหรับคนที่ไม่ชอบการหยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนทฤษฎีและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามจินตนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลกเรา และที่สำคัญเหมาะกับคนที่ชอบการผจญภัยไปในพื้นที่ต่างๆ พูดง่ายๆว่าถ้าน้องคนไหนชอบท่องเที่ยวกับชอบการจินตนาการแบบที่ต้องใช้องค์ความรู้ในการคิดก็เดินเข้ามาในสาขานี้ได้เลย เหมาะสมกับน้องๆ และไม่ผิดหวังแน่นอน

เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังมึนๆ งงๆ หรือไม่เข้าใจภาพของธรณีศาสตร์ ว่าตลอดระยะเวลา 4 ปีต้องเรียนอะไรบ้าง อยากให้ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ
        ธรณีศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมหิดลนี้ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เรียนเหมือนหลักสูตรธรณีวิทยาทุกอย่าง(กว้างกว่าด้วยซ้ำ) สามารถทำงานทางธรณีวิทยาได้ทุกประเภทเพียงแต่ว่าชื่อจะต่างไปเท่านั้นเอง ส่วนวิชาที่ต้องเรียนนั้นที่มหาวิทยาลัยมหิดลนี้พูดคร่าวๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเรียนเกี่ยวกับ หิน ดิน แร่ การกำเนิดหินแต่ละชนิด การเกิดแร่แต่ละชนิดการกำเนิดโลกและทฤษฎีที่บอกความเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งหลายแหล่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิทยาเกี่ยวกับน้ำบนโลกนี้ ธรณีวิทยาทั่วไปของประเทศไทยและของโลก บรรพชีวินวิทยา(พวกซากดึกดำบรรพ์) การลำดับชั้นหินต่างๆ และศาสตร์ที่น่าจะเป็นที่ต้องการของปัจจุบันนี้ที่สุดคงจะเป็นธรณีวิทยาโครงสร้าง การแปรสัณฐานทางธรณีวิทยา และธรณีพิบัติภัยซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดภัยพิบัติของโลกทั้งหลายแหล่ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวหรือสึนามิ ซึ่งเราจะต้องเรียนอย่างลึกซึ้งถึงสาเหตุการเกิด ลักษณะการเกิด และรายละเอียดต่างๆ จากหลักฐานที่เรามีอยู่ ซึ่งนักธรณีวิทยาต้องอธิบายความเป็นมารายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตให้ได้ เป็นไปตามหัวใจสำคัญของธรณีวิทยาที่กล่าวไว้ว่า “The Present is the key to The Past” หรือ “ปัจจุบันเป็นกุญแจที่ไขสู่อดีต” นั่นเอง

โอ้โห ฟังดูน่าเรียนสุดๆ เลย แล้วอย่างนี้อะตอมชอบวิชาอะไรมากที่สุดเหรอคะ
        วิชาที่ชอบที่สุดในตอนนี้ก็คือ "วิชาธรณีวิทยาภาคสนาม" ค่ะ เป็นวิชาที่เรานักศึกษาธรณีศาสตร์ชั้นปีที่สองทุกคนต้องออกภาคสนามไปในหลายๆ จังหวัดในภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมระยะเวลาแล้ว 15 วัน เพื่อเก็บข้อมูลธรณีวิทยาในที่ต่างๆ ที่มีความเฉพาะตัวในประเทศไทย รวมถึงให้นักศึกษาธรณีเห็นตัวอย่างจริงๆ ในสถานที่จริงๆ ของหิน ดิน แร่ โครงสร้างทางธรณี ซากดึกดำบรรพ์ที่มีในประเทศไทย

        ส่วนเหตุผลหลักที่ทำให้ชอบวิชานี้ก็คือการได้ลองใช้ความรู้ของเราที่เรียนในห้องเรียนมาพยายามอธิบายความเป็นมาของสถานที่และลักษณะที่เราเห็นจริงๆ ในภาคสนามด้วยตาของเราเอง ไม่ใช่รูปถ่ายหรือวีดีโอในห้องเลคเชอร์ ฝึกให้เราต้องคิดตลอดเวลาที่เจอตัวอย่างใหม่ๆ ในสถานที่ใหม่ๆทั้ง 15 วัน ทำให้เราได้เปิดหูเปิดตาให้กว้างไกลไม่ใช่อยู่แต่เฉพาะในห้องเรียนของเรา

        นอกจากนั้นการที่เราต้องย้ายสถานที่ทุกๆ วันโดยต้องรวมอยู่กับเพื่อนๆ และอาจารย์โดยไม่มีผู้ปกครอง(หรือเรียกได้ว่าต้องเอาตัวรอดของเราใน15 วันโดยไม่มีพ่อแม่ดูแล) นั้นก็ยังทำให้เราได้ฝึกทักษะการใช้ชีวิตในสังคมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับผิดชอบต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของตัวเอง (ยกตัวอย่างเช่น ต้องดูแลของๆ ตัวเองและอุปกรณ์ทางธรณีวิทยาที่แต่ละคนต้องรับผิดชอบและการหาอาหารกินเองในตอนเย็นของทุกวันที่อาจารย์จะปล่อยอิสระ) และการร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ อาจารย์ หรือแม้แต่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่เราได้ไปพบเจอในจังหวัดต่างๆ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ที่เราต้องรู้จักเปิดใจและอยู่ร่วมกับพวกเค้าให้ได้อย่างมีความสุขให้ได้และพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งควบคู่กันไปกับการหาความรู้ในภาคสนามนั่นเอง

แล้วนอกจากที่ต้องไปออกภาคสนาม 15 วันแล้ว การเรียนธรณีศาสตร์ต้องมีไปออกสนามอีกบ่อยมั้ยคะ
        มีค่ะ มีเรื่อยๆ ตามแต่ว่าอาจารย์เค้าจะจัดมาให้ซึ่งสถานที่ที่ไปนั้น ก็มีทั้งในมหาวิทยาลัย ในจังหวัด ต่างจังหวัด (แต่ต่างประเทศนี้ยังไม่มีนะคะ งบไม่พอ ^^) ซึ่งก็จะจัดตามความเหมาะสมของวิชาที่กำลังศึกษาอยู่ ยกตัวอย่างเช่น เรียนวิชาบรรพชีวินวิทยาอยู่ อาจารย์ก็จะพาไปเห็นฟอสซิลจริงๆ ในหินที่อยู่ในสถานที่จริงๆ ในจังหวัดของเราที่ใกล้มหาวิทยาลัยอย่างนี้อยู่เสมอ นอกจากนั้นในภาคสนามอาจารย์ยังปลูกฝังให้พวกเรานักศึกษาธรณีวิทยารู้จักสังเกตและคิดอยู่ตลอดเวลา เจออะไรที่น่าสนใจก็รู้จักหยุดและคิดหาคำอธิบายให้ได้เพราะรอบตัวเราก็มีหิน ดิน แร่ทั้งนั้น ซึ่งการฝึกคิดจะทำให้เราพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และมีความโดดเด่นกว่าผู้อื่นนั่นเอง

แล้วในสถานการณ์แบบนี้ ที่เดี๋ยวมีแผ่นดินไหว มีสึนามิ การเรียนธรณีศาสตร์มีประโยชน์ยังไงบ้างคะ
        สำหรับเหตุการณ์ความผิดปกติที่ผ่านมา ธรณีศาสตร์ของเราก็สามารถเอาไปอธิบายการเกิดยพิบัติเหล่านี้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีสาเหตุอะไร มีผลกระทบต่ออะไร มีความเสี่ยงต่อการเกิดใกล้ๆ กับประเทศเรามั้ย ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะสามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงได้จากหลักฐานอะไร และถ้าจะเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดผลกระทบที่น้อยที่สุด โดยวิเคราะห์จากหลักฐานวิทยาศาสตร์และสัญญาณทางธรรมชาติที่นักธรณีวิทยาสามารถจับและแปลความหมายได้ ซึ่งทางธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลนี้ ทางอาจารย์หัวหน้าภาควิชาธรณีศาสตร์ของเรา ดร.ปริญญา พุทธาภิบาล ก็ได้ให้ความรู้และเขียนบทความเกี่ยวกับธรณีพิบัติภัยให้กับทางหนังสือพิมพ์ต่างๆ บ่อย ซึ่งตัวท่านถือว่าเป็นนักธรณีวิทยาชั้นแนวหน้าของไทยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอีกด้วยค่ะ

แล้วคนที่เหมาะจะเรียนธรณีศาสตร์ ควรมีบุคลิกหรือนิสัยยังไง
        คนที่จะเหมาะในการเรียนทางนี้ได้ดีก็คือคนที่สามารถใช้ความรู้ควบคู่กับจินตนาการให้ได้อย่างดีเยี่ยม ต้องเป็นคนที่พร้อมลุยและผจญภัยไปได้ทุกๆ ที่ เป็นคนสนุกสนาน มีไหวพริบ เป็นคนช่างคิดช่างถาม กล้าหาญกล้าแสดงออก เป็นคนมีเหตุผลและเคารพในเหตุผลของผู้อื่น มีสุขภาพที่แข็งแรงและจิตใจที่สมบูรณ์ เพราะเราต้องลุยไปในที่ต่างๆ เสมอ

        นอกจากนั้นถ้าอยากจะเรียนให้ดี ก็ต้องรู้จักมองข้อมูลต่างๆ ให้เป็นสามมิติและจินตนาการ
ความเป็นมาของข้อมูลให้ได้ก็จะเรียนได้ดี สำหรับน้องๆ ที่ตาบอดสี พี่ขอแนะนำว่าไม่สมควรเรียนธรณีศาสตร์เพราะน้องจะไม่สามารถแปลความหมายของข้อมูลที่ต้องดูสีได้เลย อย่างเช่นการส่องกล้องดูแร่ น้องจะแยกไม่ออกต้องเรียนโดยใช้ความพยายามหนักกว่าคนอื่นๆ พี่จึงขอเตือนน้องไว้ก่อน และขออภัยน้องๆ ด้วยค่ะ

แล้วคนจะเรียนธรณีศาสตร์ ควรเก่งวิชาไหนเป็นพิเศษมั้ยคะ
        ไม่จำเป็นค่ะ เพราะมันเป็นศาสตร์ที่ไม่ต้องเก่งวิชาใดวิชาหนึ่ง (แต่ควรจะได้ภาษาอังกฤษด้วยนะ จะได้ได้เปรียบคนอื่นมากกว่า) เพราะธรณีศาสตร์ก็เป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์แขนงหนึ่งเหมือนกัน เทียบเท่ากับพวกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ นี่แหละค่ะ และขอเพียงน้องมีจินตนาการก็สามารถเรียนไปได้ด้วยดีค่ะ เพราะความรู้จะเป็นความรู้ใหม่หมดเลยซึ่งพี่ก็ไม่ได้เรียนมาก่อน (หรือเรียนมาน้อยมากเมื่อเทียบกับที่เรียนอยู่) และนับหนึ่งใหม่พร้อมๆ กับเพื่อนๆ เหมือนกัน

แล้วรุ่นพี่ส่วนมากที่จบไป เค้าทำงานอะไรกันบ้างเหรอคะ
        หลายแขนงมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านที่ป๊อบปูล่าที่สุดอย่างอุตสาหกรรมปิโตรเลียม, กรมทรัพยากรธรณี, นักธรณีฟิสิกส์, กรมน้ำบาดาล, กรมชลประทาน, อุตสาหกรรมเหมืองแร่ และกำลังศึกษาต่อก็มีค่ะ

พูดถึงคณะบ้างดีกว่า อะตอมมีความประทับใจต่อคณะและภาควิชายังไงบ้าง
        ที่ภาควิชาที่มหาวิทยาลัยมหิดลจะมีความพิเศษกว่าที่อื่นมากๆ เลยค่ะ ที่อะตอมสัมผัสได้อย่างแรกสุดก็คือ ความอบอุ่นที่สังคมของเรามีให้กันไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง หรืออาจารย์ อาจจะเป็นเพราะเรามีจำนวนน้อยและเป็นสังคมเล็กๆ จึงทำให้เรารักและสนิทกันมากกว่าที่เคยสัมผัสมากจากมหาวิทยาลัยอื่นจากคำบอกเล่าหรือสัมผัสเอง (เคยอยู่สังคมมหาวิทยาลัยเพราะเป็นโรงเรียนสาธิตในเครือมหาวิทยาลัยมาก่อน) อธิบายไม่ถูกแต่มันมีความพิเศษกว่าที่อื่นจริงๆ พี่อยากให้น้องๆ มาสัมผัสเองมากๆ

        นอกจากนั้นที่นี่ก็ยังเรียนอย่างเข้มข้นควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมที่เต็มที่ร่วมกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำให้เราอยู่ในสังคมอย่างกล้าแสดงออก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมหาวิทยาลัยได้ ทำให้อะตอมพัฒนาตัวเองจากคนที่ไม่กล้าแสดงออกกลายเป็นกล้าแสดงออกทั้งความคิดและการกระทำ และคิดทำเพื่อผู้อื่นในสังคมมากขึ้นอีกด้วย

แล้วอนาคตหลังเรียนจบ อะตอมตั้งใจอยากทำอะไรคะ
         มีอยู่หลายทางเลือกเหมือนกันที่สนใจค่ะ แต่ที่แน่ๆ สำหรับอะตอม อันที่อยากจะทำให้ได้ที่สุดในตอนนี้ก็คือการจบปริญญาเอกให้ได้และใช้ทุนที่ได้รับจากรัฐบาล (ปัจจุบันเป็นนักเรียนทุน พสวท. ของกระทรวงวิทย์ค่ะ) โดยการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยรับใช้ประเทศชาติก่อนให้หมด แล้วค่อยคิดต่อไปว่าจะทำต่อหรือจะเบนไปทางไหนแล้วแต่โอกาสอีกทีหนึ่งค่ะ

สุดท้ายแล้ว ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนธรณีศาสตร์หน่อยค่ะ
         น้องๆ ที่สนใจที่จะเรียนทางด้านนี้จริงๆ พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ พยายามเข้ามาให้ได้ล่ะ ขยันอ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดเข้าไว้ ที่สำคัญเคล็ดลับที่จะทำให้เราสามารถพิชิตการสอบเข้าและทุกสิ่งทุกอย่างก็คือความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ ต้องทำให้ได้ และบอกกับตัวเองไว้เสมอว่า ไม่ท้อ ไม่เหนื่อย ชั้นทำได้ แล้วน้องก็จะทำได้ ซึ่งน้องที่พิชิตมหกรรมการสอบเข้าได้( ขอเรียกว่าเป็นมหกรรมเลยนะเพราะมันยิ่งใหญ่มากกกกกกกก แทบตายเลยล่ะ พี่เคยผ่านมาก่อน ^^) พี่ก็ขอต้อนรับเข้าสู่หลักสูตรธรณีศาสตร์ของพี่ที่มหาวิทยาลัยมหิดลแห่งนี้ แล้วมาเป็นพี่น้องธรณีกันค่ะ สู้ๆ!^^

          โอ้โห เห็นจากรูปนี่ก็เลยว่าท่าทางจะมันส์ได้อีก ออกสนามกันอย่างนี้ ใครชอบความลุยและสนใจเรื่องโลกก็ถือว่าเหมาะมากๆ เลยล่ะค่ะ ดังนั้นในช่วงที่น้องๆ กำลังลุ้นผลแอดมิชชั่นกันอย่างนี้ ใครที่เลือกธรณีวิทยาหรือธรณีศาสตร์เอาไว้ ก็ขอเอาใจช่วยเต็มที่เลยนะคะ !! ส่วนสัปดาห์หน้า ถ้าใครอยากรู้ว่าคนจบคณะนี้สามารถทำงานอะไรได้บ้าง ก็รอติดตามได้เลยค่ะ ^^